พรีเมียร์ลีกอังกฤษยังคงมนต์สเนห์อยู่เสมอมา แม้กระทั่งนัดสุดท้ายของฤดูกาล.........
ช่วงหัวค่ำของคืนวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ลงเตะพร้อมกันทุกคู่ เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงศึกนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2013-2014 ผู้คนมากมายต่างมีหนทางเป็นของตนเอง ผมในขณะนั้นซึ่งกลับจากการเตะฟุตบอล(ออกกำลังกาย) ผมขับรถมาหยุดที่บริเวณหน้าร้านขาย ดีวีดี ภาพยนต์ร้านหนึ่ง ซึ่งได้ทำการตลาดยุคดึกดำบรรพ์อยู่นั่นคือ การเอาที่วีจอแบนมาวางหน้าร้าน ประหนึ่งเอาไว้ดูเอง
ผู้คนจากหลากหลายสารทิศโผล่มามุงดูทีวีจอแบนไม่เกิน 21 นิ้วเจอนั้น ทุกคนต่างพกทรรศนะต่างๆนานา มาอวดโฉมแก่เพื่อนรวมวง บ้างก็ว่าแมน ซิตี้ เป็นแชมป์นแน่นอนแล้ว บ้างก็ว่าทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นต่อไปได้ เพียงช่วงไม่กี่อึดใจ ลานหน้าร้าน ซึ่งปกติมักจะเอาไว้จอดรองเท้าคู่งามของผู้เช่า-ซื้อดีวีดี ต่างเต็มความจุไปด้วยผู้คนเกือบครึ่งร้อย
ผมได้สติขึ้นมาว่าเวลานี้ผมไม่ควรอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว เพราะถ้ากลับช้ากว่านี้คงได้หูชาเป็นแน่แท้ จึงขอเอาตัวนุ่มๆของผมเบียดหาช่องอากาศเดินออกมาจากแหล่งนั้น เมื่อกลับถึงบ้านได้ ผมรีบเปิดคอมเครื่องรักของผม ฟุตบอลมีให้ดูมากมายหลายคู่ แต่ทว่าลิงค์

ดูไม่ได้สักคู่
เป้าหมายในการดูของผมคือ คู่ลิเวอร์พูล - นิวคาสเซิล โดยสิ่งที่มุ่งหวังก็คือ เผื่อจะเกิดปาฎิหารย์ หวังว่าจะได้เห็นการคว้าเเชมป์ในรอบกี่ปีก็ไม่รู้ ผมใช้เวลานานกว่าจะงมหาลิงค์ดูบอลในโลกไซเบอร์แห่งนี้จนเจอ
แต่กว่าจะเจอก็ปาเข้าไป 28 ครึ่งทางของครึ่งแรกแล้ว ซึ่งสิ่งที่พบเห็นนั่นมันน่าประหลาดใจอย่างยิ่ง 0-1 นิวคาสเซิลขึ้นน้ำ และในขณะนนั้นเอง นิวคาสเซิลมีโอกาสเป็น 0-2 จากจังหวังของ อเมโอบี ซึ่งหลุดเดี่ยวไปซัลโว ติดผู้รักษาประตู มิโยเล อย่างเหลือเชื่อ ครึ่งแรกเต็มไปด้วยความอึดอัดเเละบีบคั้นของแฟนบอลเจ้าบ้าน
กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ที่ 45 นาทีหลัง
แอนฟิลด์ยังเป้นสังเวียนที่น่ากลัวที่สุดสำหรับทีมเยือน เสียงเชียร์ปลุกเร้าเหล่าเดอะ ค๊อป ให้บุกถล่มอย่างไม่คิดชีวิต และในขณะนี้เองที่ผมคิดได้ว่าควรจะเก็บสถิติการยิงประตูจากจุดต่างๆให้แม่นยำ ผ่านไปกว่า 60 นาที ไม่มีวี่เเววที่ หงส์แดงจะเจาะเเนวรับของ นิวคาสเซิลได้ ผมเชื่อได้ว่าเวลานี้ เหล่าสาวกผู้จงรักภักดีต่อลิเวอร์พูลคงต่างหาคำพูดปลอบใจตัวเองได้เเล้ว
แต่แล้วไม่กี่นาทีต่อจากนั้น เหมือนเจอร์ราร์ดได้ยิน เขาปลุกความรู้สึกของสาวกขึ้นมาอีกครั้ง ความรู้สึกที่ยังมีหวัง ใช่เเล้วเขาเปิดฟรีคิกให้ แอกเกอร์แหย่ตีน สกิดบอลเข้าประตูไป
จากภาพที่เห็นด้านบนผมเห็บบันทึกตลอด 45 นาทีหลังของเกม ลิเวอร์พูล-นิวคาสเซิล
อีก 2 นาทีต่อมาหลังจากปะตูตีเสมอ เจอร์ราดยังคงจำความรู้สึกจังหวะแอสซิสลูกแรกได้ บรรจงเปิดงามๆเข้าไป แต่ทว่าคนเข้าฮอสไม่ใช่แอกเกอร์แต่เป็นสเตอร์ริดจ์ เหลือเชื่อ เป็นประตูขึ้นนำครับ 2-1
แค่เพียง 2 นาทีทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ณ เวลานี้ ควางหวังมันเอ่อล้นในหัวใจ ทุกคนหวังให้เกิดฟ้าผ่าที่ เอติฮัด สเดียม เวลาล่วงเลยมาถึง 90 นาทีของทุกสนาม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่มีพายุฝนหรือเเม้เเต่เมฆสีดำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าเเชมป์อย่างยิ่งใหญ่
ไม่มีอะไรต้องเสียใจ ผมเชื่อได้ว่าแฟนลิเวอร์พูลทุกท่านชื่นชมในความพยายามของนักเตะ แม้ไปไม่ถึงปลายทาง แต่ระหว่างทาง

โคตรมีความสุขที่สุดเลยว้ะ
ลองหัดเขียนดูครับ ผิดพลาดประการใด ติ-ชม เพื่อพัฒนาในโอกาสการเขียนครั้งต่อไปได้ครับ ขอบคุณครับ
45 นาทีหลังของเกม ลิเวอร์พูล ปะทะ นิวคาสเซิล
ช่วงหัวค่ำของคืนวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ลงเตะพร้อมกันทุกคู่ เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงศึกนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2013-2014 ผู้คนมากมายต่างมีหนทางเป็นของตนเอง ผมในขณะนั้นซึ่งกลับจากการเตะฟุตบอล(ออกกำลังกาย) ผมขับรถมาหยุดที่บริเวณหน้าร้านขาย ดีวีดี ภาพยนต์ร้านหนึ่ง ซึ่งได้ทำการตลาดยุคดึกดำบรรพ์อยู่นั่นคือ การเอาที่วีจอแบนมาวางหน้าร้าน ประหนึ่งเอาไว้ดูเอง
ผู้คนจากหลากหลายสารทิศโผล่มามุงดูทีวีจอแบนไม่เกิน 21 นิ้วเจอนั้น ทุกคนต่างพกทรรศนะต่างๆนานา มาอวดโฉมแก่เพื่อนรวมวง บ้างก็ว่าแมน ซิตี้ เป็นแชมป์นแน่นอนแล้ว บ้างก็ว่าทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นต่อไปได้ เพียงช่วงไม่กี่อึดใจ ลานหน้าร้าน ซึ่งปกติมักจะเอาไว้จอดรองเท้าคู่งามของผู้เช่า-ซื้อดีวีดี ต่างเต็มความจุไปด้วยผู้คนเกือบครึ่งร้อย
ผมได้สติขึ้นมาว่าเวลานี้ผมไม่ควรอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว เพราะถ้ากลับช้ากว่านี้คงได้หูชาเป็นแน่แท้ จึงขอเอาตัวนุ่มๆของผมเบียดหาช่องอากาศเดินออกมาจากแหล่งนั้น เมื่อกลับถึงบ้านได้ ผมรีบเปิดคอมเครื่องรักของผม ฟุตบอลมีให้ดูมากมายหลายคู่ แต่ทว่าลิงค์
เป้าหมายในการดูของผมคือ คู่ลิเวอร์พูล - นิวคาสเซิล โดยสิ่งที่มุ่งหวังก็คือ เผื่อจะเกิดปาฎิหารย์ หวังว่าจะได้เห็นการคว้าเเชมป์ในรอบกี่ปีก็ไม่รู้ ผมใช้เวลานานกว่าจะงมหาลิงค์ดูบอลในโลกไซเบอร์แห่งนี้จนเจอ
แต่กว่าจะเจอก็ปาเข้าไป 28 ครึ่งทางของครึ่งแรกแล้ว ซึ่งสิ่งที่พบเห็นนั่นมันน่าประหลาดใจอย่างยิ่ง 0-1 นิวคาสเซิลขึ้นน้ำ และในขณะนนั้นเอง นิวคาสเซิลมีโอกาสเป็น 0-2 จากจังหวังของ อเมโอบี ซึ่งหลุดเดี่ยวไปซัลโว ติดผู้รักษาประตู มิโยเล อย่างเหลือเชื่อ ครึ่งแรกเต็มไปด้วยความอึดอัดเเละบีบคั้นของแฟนบอลเจ้าบ้าน
กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ที่ 45 นาทีหลัง
แอนฟิลด์ยังเป้นสังเวียนที่น่ากลัวที่สุดสำหรับทีมเยือน เสียงเชียร์ปลุกเร้าเหล่าเดอะ ค๊อป ให้บุกถล่มอย่างไม่คิดชีวิต และในขณะนี้เองที่ผมคิดได้ว่าควรจะเก็บสถิติการยิงประตูจากจุดต่างๆให้แม่นยำ ผ่านไปกว่า 60 นาที ไม่มีวี่เเววที่ หงส์แดงจะเจาะเเนวรับของ นิวคาสเซิลได้ ผมเชื่อได้ว่าเวลานี้ เหล่าสาวกผู้จงรักภักดีต่อลิเวอร์พูลคงต่างหาคำพูดปลอบใจตัวเองได้เเล้ว
แต่แล้วไม่กี่นาทีต่อจากนั้น เหมือนเจอร์ราร์ดได้ยิน เขาปลุกความรู้สึกของสาวกขึ้นมาอีกครั้ง ความรู้สึกที่ยังมีหวัง ใช่เเล้วเขาเปิดฟรีคิกให้ แอกเกอร์แหย่ตีน สกิดบอลเข้าประตูไป
จากภาพที่เห็นด้านบนผมเห็บบันทึกตลอด 45 นาทีหลังของเกม ลิเวอร์พูล-นิวคาสเซิล
อีก 2 นาทีต่อมาหลังจากปะตูตีเสมอ เจอร์ราดยังคงจำความรู้สึกจังหวะแอสซิสลูกแรกได้ บรรจงเปิดงามๆเข้าไป แต่ทว่าคนเข้าฮอสไม่ใช่แอกเกอร์แต่เป็นสเตอร์ริดจ์ เหลือเชื่อ เป็นประตูขึ้นนำครับ 2-1
แค่เพียง 2 นาทีทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ณ เวลานี้ ควางหวังมันเอ่อล้นในหัวใจ ทุกคนหวังให้เกิดฟ้าผ่าที่ เอติฮัด สเดียม เวลาล่วงเลยมาถึง 90 นาทีของทุกสนาม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่มีพายุฝนหรือเเม้เเต่เมฆสีดำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าเเชมป์อย่างยิ่งใหญ่
ลองหัดเขียนดูครับ ผิดพลาดประการใด ติ-ชม เพื่อพัฒนาในโอกาสการเขียนครั้งต่อไปได้ครับ ขอบคุณครับ