The Rush จักรยานอาสา หรือ ความห่าม กรณีขี่จักรยานข้ามสะพานภูมิพล
-------------------------------------------------
คิดอยู่นานเลยครับว่าจะลงเรื่องนี้ดีหรือเปล่า ในคลิปนี้มีทั้งบวกทั้งลบ แต่ผมเชื่อว่าเมื่อเรามอง
หลายเรื่องในทางบวก เราจะเห็นคุณค่าและได้เรียนรู้ในสิ่งนั้นเสมอ
.
The Rush คือ ชื่อที่ผมตั้งให้ชายคนหนึ่ง ที่จากการติดตามเรื่องราวของเขามาหลายปี ผมมองเห็น
สิ่งหนึ่งในตัวเขา นั่นคือความไม่เห็นแก่ตัว แต่ในมุมกลับกันหลายเรื่องที่เขาแสดงออกมากลับคือ
ความห่าม ก็อีกนั่นแหละในความห่ามที่เขาแสดงออก บางเรื่องก็เป็นการรักษาสิทธิ์ของ
คนบนหลังอานที่หลายๆคนไม่กล้าทำแม้แต่ตัวผมเอง
.
รัชตะ ธาดาจรูญพาณิชย์ หรือ The Rush ที่ผมตั้งชื่อให้ ชายหนุ่มวัย 38 ปี เพิ่งแต่งงาน
ไปเมื่อ 20 มีนาคม นี้เอง ถึงรัชจะเป็นคนห่ามแต่รัชก็มีใจอาสา เมื่อมีโอกาสในวันว่างเขา
จะสะพายสูบพร้อมเครื่องมือ ขี่จักรยานคอยช่วยเหลือกลุ่มปั่นที่เป็นมือใหม่หรือมือเก่าที่
ต้องการความช่วยเหลือ หลายอย่างจากการพูดคุย รัชต่างมีเหตุผลในการกระทำ
เหมือนที่ลุงเนตรบอกว่า ความจำเป็นในแต่ละวันของคนเราไม่เหมือนกัน
.
ไม่ใช่รัชคนเดียวที่ขี่จักรยานขึ้นและข้ามสะพานภูมิพล หลายคนรู้ว่ามีคนจำนวนไม่น้อย
ขี่ขึ้นสะพานภูมิพล เพื่อฝึกซ้อมและออกกำลังกาย แต่เหตุผลของรัชที่คุยกันนอกรอบคือ
การย่นระยะทาง ลดค่าใช้จ่ายในการข้ามเรือ เขาขี่จักรยานจากย่านพระสมุทรเจดีย์เพื่อ
มาทำงานติดรถส่งของย่านคลองเตย หลังเลิกงานด้วยความเมื่อยล้าเขาบอกว่า
อยากถึงบ้านเร็วๆด้วยเส้นทางลัด
.
แต่ด้วยความอ่อนไหวในสังคมจักรยานที่คิดกันเอาเองว่า คนมาขี่จักรยานต้องเป็นคนดี
คนมาขี่จักรยานต้องสุภาพ คนมาขี่จักรยานต้องโน้นนั่นนี่ บลาๆๆ ช่างมโนไปต่างๆ
จริงๆคนมาขี่จักรยานเมื่อวานอาจจะเป็นตำรวจ เป็นโจร เป็นนักเลงหัวไม้ เป็นคนยาจก
เป็นเศรษฐี และก็คือคนคนเดียวกับเมื่อวานนั่นแหละ การมาขี่จักรยานไม่ได้ทำให้
อะไรวิเศษขึ้นได้ในฉับพลันหรอก อย่างไรก็ตามลองชมคลิปแล้วมองหลายๆมุมดูนะครับ
รัชอาจจะทำไม่ถูกต้องด้วยการควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่รัชก็รับปากและขอโทษในสิ่งที่
ทำผิดไป หากสิ่งไหนไม่ดีเราช่วยกันตักเตือนหรือพูดคุยกันผมว่าผลออกมาทางที่ดี
แน่นอนครับ เชิญชม The Rush ครับ

**หลังเอนด์เครดิตยังมีอีกหน่อยนะครับ**
The Rush จักรยานอาสา หรือ ความห่าม กรณีขี่จักรยานข้ามสะพานภูมิพล
-------------------------------------------------
คิดอยู่นานเลยครับว่าจะลงเรื่องนี้ดีหรือเปล่า ในคลิปนี้มีทั้งบวกทั้งลบ แต่ผมเชื่อว่าเมื่อเรามอง
หลายเรื่องในทางบวก เราจะเห็นคุณค่าและได้เรียนรู้ในสิ่งนั้นเสมอ
.
The Rush คือ ชื่อที่ผมตั้งให้ชายคนหนึ่ง ที่จากการติดตามเรื่องราวของเขามาหลายปี ผมมองเห็น
สิ่งหนึ่งในตัวเขา นั่นคือความไม่เห็นแก่ตัว แต่ในมุมกลับกันหลายเรื่องที่เขาแสดงออกมากลับคือ
ความห่าม ก็อีกนั่นแหละในความห่ามที่เขาแสดงออก บางเรื่องก็เป็นการรักษาสิทธิ์ของ
คนบนหลังอานที่หลายๆคนไม่กล้าทำแม้แต่ตัวผมเอง
.
รัชตะ ธาดาจรูญพาณิชย์ หรือ The Rush ที่ผมตั้งชื่อให้ ชายหนุ่มวัย 38 ปี เพิ่งแต่งงาน
ไปเมื่อ 20 มีนาคม นี้เอง ถึงรัชจะเป็นคนห่ามแต่รัชก็มีใจอาสา เมื่อมีโอกาสในวันว่างเขา
จะสะพายสูบพร้อมเครื่องมือ ขี่จักรยานคอยช่วยเหลือกลุ่มปั่นที่เป็นมือใหม่หรือมือเก่าที่
ต้องการความช่วยเหลือ หลายอย่างจากการพูดคุย รัชต่างมีเหตุผลในการกระทำ
เหมือนที่ลุงเนตรบอกว่า ความจำเป็นในแต่ละวันของคนเราไม่เหมือนกัน
.
ไม่ใช่รัชคนเดียวที่ขี่จักรยานขึ้นและข้ามสะพานภูมิพล หลายคนรู้ว่ามีคนจำนวนไม่น้อย
ขี่ขึ้นสะพานภูมิพล เพื่อฝึกซ้อมและออกกำลังกาย แต่เหตุผลของรัชที่คุยกันนอกรอบคือ
การย่นระยะทาง ลดค่าใช้จ่ายในการข้ามเรือ เขาขี่จักรยานจากย่านพระสมุทรเจดีย์เพื่อ
มาทำงานติดรถส่งของย่านคลองเตย หลังเลิกงานด้วยความเมื่อยล้าเขาบอกว่า
อยากถึงบ้านเร็วๆด้วยเส้นทางลัด
.
แต่ด้วยความอ่อนไหวในสังคมจักรยานที่คิดกันเอาเองว่า คนมาขี่จักรยานต้องเป็นคนดี
คนมาขี่จักรยานต้องสุภาพ คนมาขี่จักรยานต้องโน้นนั่นนี่ บลาๆๆ ช่างมโนไปต่างๆ
จริงๆคนมาขี่จักรยานเมื่อวานอาจจะเป็นตำรวจ เป็นโจร เป็นนักเลงหัวไม้ เป็นคนยาจก
เป็นเศรษฐี และก็คือคนคนเดียวกับเมื่อวานนั่นแหละ การมาขี่จักรยานไม่ได้ทำให้
อะไรวิเศษขึ้นได้ในฉับพลันหรอก อย่างไรก็ตามลองชมคลิปแล้วมองหลายๆมุมดูนะครับ
รัชอาจจะทำไม่ถูกต้องด้วยการควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่รัชก็รับปากและขอโทษในสิ่งที่
ทำผิดไป หากสิ่งไหนไม่ดีเราช่วยกันตักเตือนหรือพูดคุยกันผมว่าผลออกมาทางที่ดี
แน่นอนครับ เชิญชม The Rush ครับ
**หลังเอนด์เครดิตยังมีอีกหน่อยนะครับ**