บทนำ
ณ อุทยานป่าxxx มีการสำรวจของคณะนักวิจัยสัตว์ป่าที่กำลังตามหาสิ่งมีชีวิตลึกลับในป่าร้อนชื้นแห่งนี้จากเงินสนับสนุนของมหาวิทยาลัยxxx โดยมีหลักฐานเพียงแค่สมุดจดบันทึกการเดินทางของคนที่เคยเอาชีวิตรอดจากสัตว์ลึบนี้มาได้เท่านั้น
:ศาสตราจารย์ครับ ศาตราจารย์มั่นใจแล้วเหรอครับว่าเราไม่ได้กำลังหลงทางทางกันอยู่น่ะครับ? เสียงของผู้ช่วยศาสตราจารย์ถามด้วย น้ำเสียงที่กังวลว่าตัวเองกำลังติดอยู่ในป่าที่ไม่รู้ทางออก :ผมมั่นใจว่าเรากำลังเดินทางไปยังจุดหมายของเราและผมมั่นใจว่าสิ่งที่เขียนอยู่ในสมุดเล่มนี้เป็นเรื่องจริง ผมมั่นใจ ศาสตราจาย์ตอบกลับไปด้วยเสียงที่มีความมั่นใจอยู่ในตัวเองสูงมาก แต่ถึงกระนั้นคณะสำรวจกลับยังแคลงใจอยู่ว่าศาสตราจารย์กำลังพูดให้กำลังใจตัวเองหรือพูดให้กำลังใจพวกเขากันแน่ เพราะว่าเส้นทางที่เดินผ่านมามีแต่อันตรายและยังไม่มีวี่แววของสัตว์ลึกลับที่พวกเขากำลังตามหาอยู่เลย
:ช้ันทนไม่ไหวแล้ว!! เสียงของหนึ่งในคณะสำรวจดังขึ้น!! นี่มันก็สองเดือนแล้วที่เรากำลังตามหาสัตว์ลึกลับบ้าบออะไรของแกกันอยู่ ชั้นทนอยู่ที่บ้าๆนี่ต่อไปไม่ไหวแล้ว ชั้นขอออกจากคณะสำรวจบ้านี่ ชั้นจะกลับบ้าน!! คำพูดเหล่านั้นเป็นผลมาจากการที่เขาดินทางอยู่ในป่าตลอดสองเดือนอย่างหนื่อนล้า
:นี่เพื่อนใจเย็นหน่อยสิถ้าหากเราหาเจ้าสัตว์บ้านั่นเจอคิดถึงเงินที่เราจะได้สิเพื่อน มันมากเกินจะใช้ได้ทั้งชาติเลยนะเพื่อน เพื่อนของเขาหว่านล้อมให้เขาใจเย็นลงโดยหวังให้การเดินทางเป็นไปด้วยดี :แล้วแต่แกสิวะชั้นไม่ทนมันแล้วชั้นจะออกจากป่าน้ี้...!!!
ทันใดนั้นเสียงของบางสิ่ง กำลังเดินเข้ามาอย่างช้าๆแต่แฝงไปด้วยความสยดสยอง ไม่เพียงแต่เสียงความวุ่นวายจากคณะสำรวจหยุดลงแม้แต่ลมยังหยุดพัด เสียงจากสัตว์น้อยใหญ่หายไป ทุกอย่างเงียบงันเหลือเพียงแต่เสียงฝีเท้าที่กำลังย่างสามขุมเข้ามาอย่างช้าๆ จากอากาศแสนอบอ้าวของป่าร้อนชื้นกลับกลายเป็นความหนายเย็นยะเยือกโดยไม่มีสาเหตุ ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะหายใจทุกคนกำลังจ้องไปทางต้นเสียงเพียงหนึ่งเดียว
:ศาสตราจารย์ครับเราเจอมันแล้วใช่ไหมครับ เสียงกระซิบจากผู้ช่วยของเขาดังขึ้น ทันใดนั้นเสีบงฝีเท้าของผู้มาเยือนหายไป เหลือไว้แต่เพียงความเงียบที่แท้จริง ผ่านไประยะหนึ่งทุกๆอย่างค่อยๆกลับเป็นเหมือนเดิมเสียงของกบเริ่มดังระงมไปทั่ว เสียงจั๊กจั่นร้องหาคู่ดังออกไปทุกที่ เสียงใบไม้พริ้วไหวตามแรงลมเหมือนปกติอย่างที่ควรจะเป็น ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติยกเว้นสีหน้าของสาสตราจารย์
:โถ่พวกแกคิดมากเป็นเองรึป่าวมันอาจจะเป็นเสียงจิ่งจอกหรือกระต่ายก็ได้
:ใช่ๆชั้นว่าต้องเป็นอย่างที่นายพูดนั่นแหละไม่มีทางที่มันจะออกมาตอนนี้หลอก แต่เมื่อกี้ชั้นเห็นนายทำหน้าเหมือนคนจะเป็นลมนี่
:ไม่ๆแกตังหากเล่า ทุกคนในคณะเริ่มผ่อนคลายและกำลังพูดคุยถึงเหตการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสนุกสนาน
:มันมาแล้ว!! มันกำลังเข้ามา เรา เราเจอมันแล้ว เราเจอมันแล้ว!! เสียงของศาสตราจารย์ดังขึ้นแทรกการสนทนาของคนในคณะ เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งที่ศาสตราจารย์กล่าวออกมาทุกคนก็กลับมาหน้าถอดสีด้วยความตื่นตระหนก!
:ศาสตราจารย์ครับคุณคิดมากเกินไปหรือป่าวไม่มีทางที่เจ้าสิ่งนั้นจะออกมาตอนนี้หรอกครับก็เพราะว่า...!!!
ยังไม่สิ้นเสียงของผู้ช่วยศาสตราจารย์จู่ๆหนึ่งในคณะสำรวจได้ส่งเสียงหวยหวนออกมาอย่างทุกทรมาน :หลีกทางสิ นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น!! ทุกคนแทบไม่อยากเชื่อในสายตาตัวเอง หนึ่งในคณะสำรวจที่ร้องหวยหวนได้ถูกตัดแขนออกทั้งสองข้างโดยเป็นบาดแผลฉกรรจ์ดูน่าสยดสยอง
:นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์สบถ
:นี่พวกเราต้องทำอะไรสักอย่างนะไม่งั้นเขาตายแน่ๆ หนึ่งในคณะสำรวจพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก
:ไม่เราจะทิ้งเขาไว้ที่นี่
:แต่ว่าเขาบาดเจ็บ
:ไม่งั้นก็ตายกันหมดนี่แหละ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พูดขึ้นด้วยอารมณ์หวาดผวา
ทันใดนั้นมีบางอย่างพุ่งลงมาจากต้นไม้! แล้วตะครุบหนึ่งในคณะสำรวจของพวกเขาร่างของเขาถูกฉีกออกเหมือนกลับกระดาษ เลือดสาดกระเส็นไปทั่วทำให้พื้นที่จุดนั้นย้อมไปด้วยเลือดสีแดงฉาน สิ่งมีชีวิตนั้นเงยหน้าขึ้นมามองพวกเขา มันสแยะยิ้มออกมาเหมือนว่ามันกำลังสนุกที่เห็นพวกเขาหวาดกลัว!!! ทำให้เห็นฟันที่โค้งงอแหลมคมและดวงตาแดงก่ำ
:วิ่ง!!!เสียงผู้ช่วยศาสตราจารย์ดังขึ้น ทุกคนไม่รอช้าออกตัววิ่งสุดชีวิตโดยไม่เหลียวหลังไปมอง พวกเขาวิ่งกันต่อไปโดยไม่สนว่าพวกเขาวิ่งมาไกลแค่ไหนและนานเท่าไร
ผ่านมาระยะหนึ่งพวกเขาตัดสินใจนั่งพักและปรึกษาหาหนทางออกกันแต่กกลับไม่ช่วยอะไรซ้ำยังแย่ลงกว่าเดิม :เราต้องตายแน่ๆเลยพวกนายก็เห็นมัน มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เราพอจะสู้ได้เลย
:ชั้นไม่น่ามาทำอะไรแบบนี้เลย
:ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยพวกเราด้วย ท่ามกลางความสับสน ความหวาดกลัว ความสิ้นหวัง มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังพอมีหวังอยู่และไม่ยอม
ถิ้งมันไปเหมือนคนอื่นๆ
:นี่พวกนายอย่ามามัวท้อแท้สิ อย่างน้อยพวกเราก็ยังไม่ตายพวกเรายังพอมีหวัง เพราะว่าเรายังมีเหตุผลที่เรายังมีชีวิตอยู่เพราะเรายังมีคนที่คอยรอเราอยู่ที่บ้าน และเพราะว่าชั้นยังมาตายที่นี่ไม่ได้ พวกนายก็เหมือนกันชั้นจะไม่ยอมให้ใครในคณะต้องมาตายอีก ผู้ช่วยศาสตราจารย์พูดขึ้น เอาล่ะ! ถ้าใครไม่อยากตายก็วิ่งตามชั้นมา เราจะออกจากป่านรกนี่กัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ออกวิ่งนำทุกคนไป บรรดานักสำรวจไม่รอช้าวิ่งตามผู้ช่วยศาสตราจารย์ไปด้วยความหวังว่าตัวเองจะไม่เป็นเหยื่อของสัตว์ประหลาดที่ไล่ล่าพวกเขาอยู่ เหลือเพียงแต่ศาสตราจารย์ที่ยังคงอยู่
:ไม่ชั้นเจอแกแล้ว ชั้นจะไม่ปล่อยแกไปอีก ชั้นจะ จับแกให้ได้ ไม่ว่ายังไง และวิธีใด แก เป็น ของฉัน!!! เขาวิ่งออกไปตรงข้ามกลับคณะสำรวจของเขาเอง เขาวิ่งออกไปเพียงลำพัง ชั้นจะ จับแกให้ได้เจ้าสัตว์ประหลาด...
เริ่มปฐมบท ปริศนาป่าอาถรรพ์
จากใจผู้แต่ง
นิยายนี้เป็นเรื่องแรกที่ด้นสดออกมาและเขียนต่อเนื่องตลอด4ชั่วโมงดีไม่ดียังไงเชิญติเตียนได้นะครับและขออภัยหากมีคำที่เขียนผิดหรือคำทีไม่เหมาะสมนะครับขอบคุณครับ
ปริศนาป่าอาถรรพ์ ตอนที่ 0
ณ อุทยานป่าxxx มีการสำรวจของคณะนักวิจัยสัตว์ป่าที่กำลังตามหาสิ่งมีชีวิตลึกลับในป่าร้อนชื้นแห่งนี้จากเงินสนับสนุนของมหาวิทยาลัยxxx โดยมีหลักฐานเพียงแค่สมุดจดบันทึกการเดินทางของคนที่เคยเอาชีวิตรอดจากสัตว์ลึบนี้มาได้เท่านั้น
:ศาสตราจารย์ครับ ศาตราจารย์มั่นใจแล้วเหรอครับว่าเราไม่ได้กำลังหลงทางทางกันอยู่น่ะครับ? เสียงของผู้ช่วยศาสตราจารย์ถามด้วย น้ำเสียงที่กังวลว่าตัวเองกำลังติดอยู่ในป่าที่ไม่รู้ทางออก :ผมมั่นใจว่าเรากำลังเดินทางไปยังจุดหมายของเราและผมมั่นใจว่าสิ่งที่เขียนอยู่ในสมุดเล่มนี้เป็นเรื่องจริง ผมมั่นใจ ศาสตราจาย์ตอบกลับไปด้วยเสียงที่มีความมั่นใจอยู่ในตัวเองสูงมาก แต่ถึงกระนั้นคณะสำรวจกลับยังแคลงใจอยู่ว่าศาสตราจารย์กำลังพูดให้กำลังใจตัวเองหรือพูดให้กำลังใจพวกเขากันแน่ เพราะว่าเส้นทางที่เดินผ่านมามีแต่อันตรายและยังไม่มีวี่แววของสัตว์ลึกลับที่พวกเขากำลังตามหาอยู่เลย
:ช้ันทนไม่ไหวแล้ว!! เสียงของหนึ่งในคณะสำรวจดังขึ้น!! นี่มันก็สองเดือนแล้วที่เรากำลังตามหาสัตว์ลึกลับบ้าบออะไรของแกกันอยู่ ชั้นทนอยู่ที่บ้าๆนี่ต่อไปไม่ไหวแล้ว ชั้นขอออกจากคณะสำรวจบ้านี่ ชั้นจะกลับบ้าน!! คำพูดเหล่านั้นเป็นผลมาจากการที่เขาดินทางอยู่ในป่าตลอดสองเดือนอย่างหนื่อนล้า
:นี่เพื่อนใจเย็นหน่อยสิถ้าหากเราหาเจ้าสัตว์บ้านั่นเจอคิดถึงเงินที่เราจะได้สิเพื่อน มันมากเกินจะใช้ได้ทั้งชาติเลยนะเพื่อน เพื่อนของเขาหว่านล้อมให้เขาใจเย็นลงโดยหวังให้การเดินทางเป็นไปด้วยดี :แล้วแต่แกสิวะชั้นไม่ทนมันแล้วชั้นจะออกจากป่าน้ี้...!!!
ทันใดนั้นเสียงของบางสิ่ง กำลังเดินเข้ามาอย่างช้าๆแต่แฝงไปด้วยความสยดสยอง ไม่เพียงแต่เสียงความวุ่นวายจากคณะสำรวจหยุดลงแม้แต่ลมยังหยุดพัด เสียงจากสัตว์น้อยใหญ่หายไป ทุกอย่างเงียบงันเหลือเพียงแต่เสียงฝีเท้าที่กำลังย่างสามขุมเข้ามาอย่างช้าๆ จากอากาศแสนอบอ้าวของป่าร้อนชื้นกลับกลายเป็นความหนายเย็นยะเยือกโดยไม่มีสาเหตุ ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะหายใจทุกคนกำลังจ้องไปทางต้นเสียงเพียงหนึ่งเดียว
:ศาสตราจารย์ครับเราเจอมันแล้วใช่ไหมครับ เสียงกระซิบจากผู้ช่วยของเขาดังขึ้น ทันใดนั้นเสีบงฝีเท้าของผู้มาเยือนหายไป เหลือไว้แต่เพียงความเงียบที่แท้จริง ผ่านไประยะหนึ่งทุกๆอย่างค่อยๆกลับเป็นเหมือนเดิมเสียงของกบเริ่มดังระงมไปทั่ว เสียงจั๊กจั่นร้องหาคู่ดังออกไปทุกที่ เสียงใบไม้พริ้วไหวตามแรงลมเหมือนปกติอย่างที่ควรจะเป็น ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติยกเว้นสีหน้าของสาสตราจารย์
:โถ่พวกแกคิดมากเป็นเองรึป่าวมันอาจจะเป็นเสียงจิ่งจอกหรือกระต่ายก็ได้
:ใช่ๆชั้นว่าต้องเป็นอย่างที่นายพูดนั่นแหละไม่มีทางที่มันจะออกมาตอนนี้หลอก แต่เมื่อกี้ชั้นเห็นนายทำหน้าเหมือนคนจะเป็นลมนี่
:ไม่ๆแกตังหากเล่า ทุกคนในคณะเริ่มผ่อนคลายและกำลังพูดคุยถึงเหตการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสนุกสนาน
:มันมาแล้ว!! มันกำลังเข้ามา เรา เราเจอมันแล้ว เราเจอมันแล้ว!! เสียงของศาสตราจารย์ดังขึ้นแทรกการสนทนาของคนในคณะ เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งที่ศาสตราจารย์กล่าวออกมาทุกคนก็กลับมาหน้าถอดสีด้วยความตื่นตระหนก!
:ศาสตราจารย์ครับคุณคิดมากเกินไปหรือป่าวไม่มีทางที่เจ้าสิ่งนั้นจะออกมาตอนนี้หรอกครับก็เพราะว่า...!!!
ยังไม่สิ้นเสียงของผู้ช่วยศาสตราจารย์จู่ๆหนึ่งในคณะสำรวจได้ส่งเสียงหวยหวนออกมาอย่างทุกทรมาน :หลีกทางสิ นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น!! ทุกคนแทบไม่อยากเชื่อในสายตาตัวเอง หนึ่งในคณะสำรวจที่ร้องหวยหวนได้ถูกตัดแขนออกทั้งสองข้างโดยเป็นบาดแผลฉกรรจ์ดูน่าสยดสยอง
:นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์สบถ
:นี่พวกเราต้องทำอะไรสักอย่างนะไม่งั้นเขาตายแน่ๆ หนึ่งในคณะสำรวจพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก
:ไม่เราจะทิ้งเขาไว้ที่นี่
:แต่ว่าเขาบาดเจ็บ
:ไม่งั้นก็ตายกันหมดนี่แหละ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พูดขึ้นด้วยอารมณ์หวาดผวา
ทันใดนั้นมีบางอย่างพุ่งลงมาจากต้นไม้! แล้วตะครุบหนึ่งในคณะสำรวจของพวกเขาร่างของเขาถูกฉีกออกเหมือนกลับกระดาษ เลือดสาดกระเส็นไปทั่วทำให้พื้นที่จุดนั้นย้อมไปด้วยเลือดสีแดงฉาน สิ่งมีชีวิตนั้นเงยหน้าขึ้นมามองพวกเขา มันสแยะยิ้มออกมาเหมือนว่ามันกำลังสนุกที่เห็นพวกเขาหวาดกลัว!!! ทำให้เห็นฟันที่โค้งงอแหลมคมและดวงตาแดงก่ำ
:วิ่ง!!!เสียงผู้ช่วยศาสตราจารย์ดังขึ้น ทุกคนไม่รอช้าออกตัววิ่งสุดชีวิตโดยไม่เหลียวหลังไปมอง พวกเขาวิ่งกันต่อไปโดยไม่สนว่าพวกเขาวิ่งมาไกลแค่ไหนและนานเท่าไร
ผ่านมาระยะหนึ่งพวกเขาตัดสินใจนั่งพักและปรึกษาหาหนทางออกกันแต่กกลับไม่ช่วยอะไรซ้ำยังแย่ลงกว่าเดิม :เราต้องตายแน่ๆเลยพวกนายก็เห็นมัน มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เราพอจะสู้ได้เลย
:ชั้นไม่น่ามาทำอะไรแบบนี้เลย
:ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยพวกเราด้วย ท่ามกลางความสับสน ความหวาดกลัว ความสิ้นหวัง มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังพอมีหวังอยู่และไม่ยอม
ถิ้งมันไปเหมือนคนอื่นๆ
:นี่พวกนายอย่ามามัวท้อแท้สิ อย่างน้อยพวกเราก็ยังไม่ตายพวกเรายังพอมีหวัง เพราะว่าเรายังมีเหตุผลที่เรายังมีชีวิตอยู่เพราะเรายังมีคนที่คอยรอเราอยู่ที่บ้าน และเพราะว่าชั้นยังมาตายที่นี่ไม่ได้ พวกนายก็เหมือนกันชั้นจะไม่ยอมให้ใครในคณะต้องมาตายอีก ผู้ช่วยศาสตราจารย์พูดขึ้น เอาล่ะ! ถ้าใครไม่อยากตายก็วิ่งตามชั้นมา เราจะออกจากป่านรกนี่กัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ออกวิ่งนำทุกคนไป บรรดานักสำรวจไม่รอช้าวิ่งตามผู้ช่วยศาสตราจารย์ไปด้วยความหวังว่าตัวเองจะไม่เป็นเหยื่อของสัตว์ประหลาดที่ไล่ล่าพวกเขาอยู่ เหลือเพียงแต่ศาสตราจารย์ที่ยังคงอยู่
:ไม่ชั้นเจอแกแล้ว ชั้นจะไม่ปล่อยแกไปอีก ชั้นจะ จับแกให้ได้ ไม่ว่ายังไง และวิธีใด แก เป็น ของฉัน!!! เขาวิ่งออกไปตรงข้ามกลับคณะสำรวจของเขาเอง เขาวิ่งออกไปเพียงลำพัง ชั้นจะ จับแกให้ได้เจ้าสัตว์ประหลาด...
เริ่มปฐมบท ปริศนาป่าอาถรรพ์
จากใจผู้แต่ง
นิยายนี้เป็นเรื่องแรกที่ด้นสดออกมาและเขียนต่อเนื่องตลอด4ชั่วโมงดีไม่ดียังไงเชิญติเตียนได้นะครับและขออภัยหากมีคำที่เขียนผิดหรือคำทีไม่เหมาะสมนะครับขอบคุณครับ