อยากปรึกษาเพื่อนๆ ถึงแนวทางในการตัดสินใจครับ ว่าจะเลือกทางเดินชีวิตต่อไปอย่างไรดี
ผมกับเธอคบกันมา 3 ปี แล้วแต่งงานกันครับ ตอนนี้ก็เกือบ 2 ปี ผมเป็นผู้ชายที่หน้าตากลางๆ มีเชื้อจีนนิดหน่อย ออกตี๋ๆ เลยได้เรื่องผิวขาว แต่ตาไม่ตี่นะครับ ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี แต่อาศัยขยันทำงานพิเศษระหว่างเรียน เข็นตนเองจนจบมหาวิทยาลัยมาได้ด้วยเกียรตินิยมอันดับสอง จบมาทำงานที่แรกได้ 1 ปี 3 เดือนก็ย้าย เพราะสอบติดรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง
ซึ่งที่ทำงานที่สองนี้ผมได้พบกับแฟนผม พบกันครั้งแรก ผมก็ว่าเธอน่ารักดี แต่ไม่กล้าจีบ เพราะเจียมตัวเอง แต่เธอประทับใจในตัวผมเนื่องจาก ผมเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น เวลาใครทำอะไรไม่ได้ มักชอบเสนอหน้าไปช่วยคนอื่นอยู่บ่อยๆ หลังจากพบกันไม่นาน เธอก็บอกว่าเธอชอบผม ผมก็ปฎิเสธไม่ลง ยอมคบกับเธอ ระหว่างคบกันเธอเป็นคนเอาแต่ใจ ซึ่งผมก็คิดในแง่ดีว่า คงเป็นปกติของผู้หญิง ก็พยายามทำให้เธอทุกอย่างตามที่เธอขอ
วันหนึ่ง ผมจะไปถามงานเธอที่โต๊ะ เห็นเธอคุย MSN กับใครไม่รู้ ซึ่งที่จริงจะไม่สนใจแล้ว แต่เห็นเธอรีบปิด เย็นวันนั้นผมจึงถือวิสาสะเปิดคอมเธอ เพื่อตั้งให้ MSN บันทึก History Chat แล้วตอนเย็นของอีกวันจึงมาอ่าน พบว่าเธอคุยกับแฟนเก่าของเธอ การสนธนาเป็นการคุยกันแบบจู๋จี๋ กระหนุงกระหนิง เหมือนคนเป็นแฟนกันมานาน ผมนั่งอ่านไปร้องไห้ไป แล้ววันรุ่งขึ้น จึงเรียกเธอมาเคลียร์ว่าจะเอาไง เธอสัญญากับผมว่าจะไม่ทำอีก ผมเห็นว่าแค่คุยกัน ไม่ได้เลยเถิดอะไร จึงพอให้อภัยได้
หลังจากนั้นไม่นาน ผมทราบว่าแฟนเก่าของเธอทำผู้หญิงท้อง เลยต้องรับผิดชอบ โดยการแต่งงานด้วย (ซึ่งมารู้จากผู้หญิงที่ท้องทีหลังว่า แฟนเก่าบอกว่าแฟนผมนอกใจมาคบกับผม) หลังจากนั้น ผมก็สอบติดรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ซึ่งดีว่าที่เก่า เงินเดือนดีกว่า ผมจึงย้าย แฟนผมจึงเริ่มรบเร้าที่จะแต่งงานผมทักท้วงว่า ผมยังไม่พร้อม เงินยังไม่มี แต่ผมติดนิสัยทุ่มเทให้คนที่รักจนไม่ลืมหูลืมตา จนต้องไปกู้เงินมาแต่ง (ซี่งไม่ดีเอามากๆ) และทางบ้านผมก็ไม่เห็นด้วยแต่พ่อแม่ ท่านรักผม จึงยอมให้แต่ง
หลังจากแต่งกัน ช่วงครึ่งปีแรกอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามันเหมือนทุกคู่ แต่ต่อมา มีภาระมากขึ้น รถที่ต้องผ่อนให้แฟนใช้ ส่วนผมนั่งรถที่ทำงาน มือถือใหม่ที่แฟนอยากได้ก็หาให้ บวกกับหนี้เก่าก็ต้องใช้ ผมเห้นว่าเริ่มจะไม่พอ จึงเริ่มกลับมาหางานทำเพิ่ม โดยการสอนพิเศษ รายได้ก็ดีในระดับนึง พอผ่อนรถกับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ แต่ต้องแลกมากับเวลาที่มีให้เธอ ซึ่งผมก็เคยถามเธอว่าอดทนได้มั้ย สัก 4-5 ปี ให้ผ่อนรถหมด ผมจะลดงานสอนลง จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น เธอก็ตอบตกลง ผมโหมสอนหนักมาก บางวันสอนตั้งแต่ 8:00-22:00 เลยก็มี แต่ก็แลกกับรายได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งผมกับเธอเริ่มมีปัญหาทะเลาะกันเป็นระยะ แต่ผมก็ง้อและคุยด้วยเหตุผลจนผ่านมาได้
จนเมื่อไม่นานมานี้ ภรรยาของแฟนเก่าของเธอไลน์มาหาผม ผมไม่รู้ว่าไปหามาจากไหน ภรรยาของแฟนเก่ารู้ว่าผมเป็นสามีของแฟนผม เธอบอกกับผมว่าขอปรึกษาเรื่องส่วนตัวหน่อย ผมเริ่มใจไม่ดีแล้ว เธอบอกว่าสามีของเธอกับแฟนผมยังติดต่อกันอยู่ เธอพยายามว่ากล่าวตักเตือนสามีของเธอหลายครั้งแล้ว แต่สามีของเธออ้างว่าเป็นพี่น้องกัน จนล่าสุด เธอไปค้นในคอมของสามีเธอ แล้วเจอรูปแฟนผมใส่ชุดชั้นใน ถ่ายกับกระจกห้องน้ำในบ้านผม ส่งไปให้สามีเธอ เธอบอกว่าเธอรับไม่ได้ ล้ำเส้นเกินพี่น้องแล้ว ซึ่งผมเองก็คิดเช่นเดียวกัน จังหวะนั้นผมหายใจเสียวหน้าอก เจ็บหน้าอก ไม่รู้ทำไม ร้องไห้ไม่ออก ทำไรไม่ถูก ได้แต่บอกตัวเองว่ารูปพวกนี้อาจจะถ่ายก่อนที่จะแต่งงานกับผมก็ได้ แต่หลังจากผมตรวจสอบรายละเอียดของรูปนั้น พบว่าถ่ายและส่งให้กันหลังจากแต่งงานกับผมได้ประมาณ 1 ปี ผมและภรรยาของแฟนเก่าจึงเริ่มสอบสวนคนของแต่ละฝ่าย แรกๆ ไม่ยอมรับเหมือนกันทั้งคู่ อ้างว่าไม่รู้ จำไม่ได้ แต่พอผมเอาหลักฐานให้ดู เธอเริ่มยอมรับออกมาเรื่อยๆ จุดนี้ผมมองว่าแฟนผมและแฟนเก่าของแฟนผมไม่ซื่อสัตย์ จงใจปกปิด ซึ่งได้ทำลายความเชื่อมั่น ความไว้ใจ ที่ผมมีให้เธอมาตลอด5 ปีที่คบกันมา และรู้เพิ่มเติมจากการสอบสวนอีกว่า เคยนัดเจอกัน กินข้าวกัน เวลาคุยกัน แฟนเก่าขอมีอะไรด้วย แต่แฟนผมเธอบอกว่าไม่ยอม(ซึ่งผมมารู้ทีหลังอีกว่าที่มันมาขอมีอะไรกับแฟนผม เพราะตอนนั้นภรรยามันท้องลูกคนที่สอง) ผมโมโหมาก จนทำอะไรไม่ถูก ไม่เคยคิดว่าต้องมาพอเจอเรื่องแบบนี้กับตัวเองซึ่งเรื่องนี้จะไปโทษมัน(แฟนเก่า)คนเดียวก็ไม่ถูก เพราะคนของผม(ภรรยาผม)ก็ไปเล่นด้วย ตอนนี้ยังไม่รู้ทำไง แฟนมาง้อ ผมบอกรออารมณ์ผมเย็นก่อนค่อยคุยกันอีกที แต่ในใจผมตอนนี้คิดแต่ว่า เลิก เลิก เลิก ไปแล้ว เพราะเสียใจกับสิ่งที่ผมทุ่มเทให้เธอไป
แฟนนอกใจครับ เสียใจมาก ขอคำปรึกษาครับ
ผมกับเธอคบกันมา 3 ปี แล้วแต่งงานกันครับ ตอนนี้ก็เกือบ 2 ปี ผมเป็นผู้ชายที่หน้าตากลางๆ มีเชื้อจีนนิดหน่อย ออกตี๋ๆ เลยได้เรื่องผิวขาว แต่ตาไม่ตี่นะครับ ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี แต่อาศัยขยันทำงานพิเศษระหว่างเรียน เข็นตนเองจนจบมหาวิทยาลัยมาได้ด้วยเกียรตินิยมอันดับสอง จบมาทำงานที่แรกได้ 1 ปี 3 เดือนก็ย้าย เพราะสอบติดรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง
ซึ่งที่ทำงานที่สองนี้ผมได้พบกับแฟนผม พบกันครั้งแรก ผมก็ว่าเธอน่ารักดี แต่ไม่กล้าจีบ เพราะเจียมตัวเอง แต่เธอประทับใจในตัวผมเนื่องจาก ผมเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น เวลาใครทำอะไรไม่ได้ มักชอบเสนอหน้าไปช่วยคนอื่นอยู่บ่อยๆ หลังจากพบกันไม่นาน เธอก็บอกว่าเธอชอบผม ผมก็ปฎิเสธไม่ลง ยอมคบกับเธอ ระหว่างคบกันเธอเป็นคนเอาแต่ใจ ซึ่งผมก็คิดในแง่ดีว่า คงเป็นปกติของผู้หญิง ก็พยายามทำให้เธอทุกอย่างตามที่เธอขอ
วันหนึ่ง ผมจะไปถามงานเธอที่โต๊ะ เห็นเธอคุย MSN กับใครไม่รู้ ซึ่งที่จริงจะไม่สนใจแล้ว แต่เห็นเธอรีบปิด เย็นวันนั้นผมจึงถือวิสาสะเปิดคอมเธอ เพื่อตั้งให้ MSN บันทึก History Chat แล้วตอนเย็นของอีกวันจึงมาอ่าน พบว่าเธอคุยกับแฟนเก่าของเธอ การสนธนาเป็นการคุยกันแบบจู๋จี๋ กระหนุงกระหนิง เหมือนคนเป็นแฟนกันมานาน ผมนั่งอ่านไปร้องไห้ไป แล้ววันรุ่งขึ้น จึงเรียกเธอมาเคลียร์ว่าจะเอาไง เธอสัญญากับผมว่าจะไม่ทำอีก ผมเห็นว่าแค่คุยกัน ไม่ได้เลยเถิดอะไร จึงพอให้อภัยได้
หลังจากนั้นไม่นาน ผมทราบว่าแฟนเก่าของเธอทำผู้หญิงท้อง เลยต้องรับผิดชอบ โดยการแต่งงานด้วย (ซึ่งมารู้จากผู้หญิงที่ท้องทีหลังว่า แฟนเก่าบอกว่าแฟนผมนอกใจมาคบกับผม) หลังจากนั้น ผมก็สอบติดรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ซึ่งดีว่าที่เก่า เงินเดือนดีกว่า ผมจึงย้าย แฟนผมจึงเริ่มรบเร้าที่จะแต่งงานผมทักท้วงว่า ผมยังไม่พร้อม เงินยังไม่มี แต่ผมติดนิสัยทุ่มเทให้คนที่รักจนไม่ลืมหูลืมตา จนต้องไปกู้เงินมาแต่ง (ซี่งไม่ดีเอามากๆ) และทางบ้านผมก็ไม่เห็นด้วยแต่พ่อแม่ ท่านรักผม จึงยอมให้แต่ง
หลังจากแต่งกัน ช่วงครึ่งปีแรกอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามันเหมือนทุกคู่ แต่ต่อมา มีภาระมากขึ้น รถที่ต้องผ่อนให้แฟนใช้ ส่วนผมนั่งรถที่ทำงาน มือถือใหม่ที่แฟนอยากได้ก็หาให้ บวกกับหนี้เก่าก็ต้องใช้ ผมเห้นว่าเริ่มจะไม่พอ จึงเริ่มกลับมาหางานทำเพิ่ม โดยการสอนพิเศษ รายได้ก็ดีในระดับนึง พอผ่อนรถกับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ แต่ต้องแลกมากับเวลาที่มีให้เธอ ซึ่งผมก็เคยถามเธอว่าอดทนได้มั้ย สัก 4-5 ปี ให้ผ่อนรถหมด ผมจะลดงานสอนลง จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น เธอก็ตอบตกลง ผมโหมสอนหนักมาก บางวันสอนตั้งแต่ 8:00-22:00 เลยก็มี แต่ก็แลกกับรายได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งผมกับเธอเริ่มมีปัญหาทะเลาะกันเป็นระยะ แต่ผมก็ง้อและคุยด้วยเหตุผลจนผ่านมาได้
จนเมื่อไม่นานมานี้ ภรรยาของแฟนเก่าของเธอไลน์มาหาผม ผมไม่รู้ว่าไปหามาจากไหน ภรรยาของแฟนเก่ารู้ว่าผมเป็นสามีของแฟนผม เธอบอกกับผมว่าขอปรึกษาเรื่องส่วนตัวหน่อย ผมเริ่มใจไม่ดีแล้ว เธอบอกว่าสามีของเธอกับแฟนผมยังติดต่อกันอยู่ เธอพยายามว่ากล่าวตักเตือนสามีของเธอหลายครั้งแล้ว แต่สามีของเธออ้างว่าเป็นพี่น้องกัน จนล่าสุด เธอไปค้นในคอมของสามีเธอ แล้วเจอรูปแฟนผมใส่ชุดชั้นใน ถ่ายกับกระจกห้องน้ำในบ้านผม ส่งไปให้สามีเธอ เธอบอกว่าเธอรับไม่ได้ ล้ำเส้นเกินพี่น้องแล้ว ซึ่งผมเองก็คิดเช่นเดียวกัน จังหวะนั้นผมหายใจเสียวหน้าอก เจ็บหน้าอก ไม่รู้ทำไม ร้องไห้ไม่ออก ทำไรไม่ถูก ได้แต่บอกตัวเองว่ารูปพวกนี้อาจจะถ่ายก่อนที่จะแต่งงานกับผมก็ได้ แต่หลังจากผมตรวจสอบรายละเอียดของรูปนั้น พบว่าถ่ายและส่งให้กันหลังจากแต่งงานกับผมได้ประมาณ 1 ปี ผมและภรรยาของแฟนเก่าจึงเริ่มสอบสวนคนของแต่ละฝ่าย แรกๆ ไม่ยอมรับเหมือนกันทั้งคู่ อ้างว่าไม่รู้ จำไม่ได้ แต่พอผมเอาหลักฐานให้ดู เธอเริ่มยอมรับออกมาเรื่อยๆ จุดนี้ผมมองว่าแฟนผมและแฟนเก่าของแฟนผมไม่ซื่อสัตย์ จงใจปกปิด ซึ่งได้ทำลายความเชื่อมั่น ความไว้ใจ ที่ผมมีให้เธอมาตลอด5 ปีที่คบกันมา และรู้เพิ่มเติมจากการสอบสวนอีกว่า เคยนัดเจอกัน กินข้าวกัน เวลาคุยกัน แฟนเก่าขอมีอะไรด้วย แต่แฟนผมเธอบอกว่าไม่ยอม(ซึ่งผมมารู้ทีหลังอีกว่าที่มันมาขอมีอะไรกับแฟนผม เพราะตอนนั้นภรรยามันท้องลูกคนที่สอง) ผมโมโหมาก จนทำอะไรไม่ถูก ไม่เคยคิดว่าต้องมาพอเจอเรื่องแบบนี้กับตัวเองซึ่งเรื่องนี้จะไปโทษมัน(แฟนเก่า)คนเดียวก็ไม่ถูก เพราะคนของผม(ภรรยาผม)ก็ไปเล่นด้วย ตอนนี้ยังไม่รู้ทำไง แฟนมาง้อ ผมบอกรออารมณ์ผมเย็นก่อนค่อยคุยกันอีกที แต่ในใจผมตอนนี้คิดแต่ว่า เลิก เลิก เลิก ไปแล้ว เพราะเสียใจกับสิ่งที่ผมทุ่มเทให้เธอไป