สวัสดีครับ เพื่อนๆ สมาชิกชาวห้องศาสนา ไม่ได้ตั้งกระทู้ในห้องนี้มานานมากละ โดนรุมยำไปทีหนึ่ง กระเจิงกันเลยทีเดียว 555+
*******
วันนี้ จะมาเล่าประสบการณ์การปฏิบัติธรรมครั้งแรกในชีวิต ( ที่แบบจริง ๆ จัง ๆ ไม่ใช่ไปวัด ฟังเทศน์ นอนวัดแค่นั้น ) ในวัยที่ปาไป 34 ปีละ เลยแอบรู้สึกเสียดายนิด ๆ ที่เข้าวัดปฏิบัติช้าไป
เอาล่ะ เริ่มตั้งแต่ต้นเลยนะครับ
โดยพื้นเพ ผมเป็นคนในพื้นที่อยู่แล้ว และเคยไปวัดนี้บ่อยมาก คือไปทำสังฆทานน่ะครับ เพราะวัดนี้รับแต่ของ ไม่รับเงิน เลยศรัทธาวัดนี้เป็นพิเศษ และพอคุ้นเคยกับท่านเจ้าอาวาส และ อุบาสิกาที่ดูแลเรื่องปฏิบัติธรรมนิดหน่อย
ผมเข้าวัด วันแรกเลยก็ประมาณ 5 โมงเย็นวันพุธที่ผ่านมานี่เองครับ ( 7 พ.ค. ) เข้าไปท่านเจ้าอาวาสก็เข้ามาสอนการนั่งเจริญสติกายรู้ ใจรู้ ( แบบยกมือ ตามหลักของหลวงพ่อเทียนน่ะ่ครับ ) เสร็จก็เข้าไปก็ทันนั่งเจริญสติ ระลึกสติใจรู้ กายรู้ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 น. ก็นั่งไปเรื่อย ๆ เวลาประมาณ 19.30 น. ก็เข้าทำวัตรเย็น ถึง 21.00 น. ก็เข้านอนครับ วันนี้ สบาย ๆ ไม่มีอะไรมาก เข้านอน ก็ยังไม่ค่อยหลับ เพราะเปลี่ยนที่ด้วย และอากาศก็ร้อน ประมาณเกือบชั่วโมงได้ กว่าฝนจะตกจึงผลอยหลับไป
รุ่งเช้า 03.00 น. ( ตี 3 ) เสียงระฆังดังปลุกแล้ว ดังมากกกกกกกกกกกกกกกก ก็ตื่นมาล้างหน้าตา แปรงฟันก็เข้าศาลาทำวัตรเลยครับ ช่วงที่รอทำวัตรก็นั่งยกมือไปเรื่อย ๆ จนเริ่มทำวัตรเช้า จนถึงเวลาประมาณ 6 โมง ก็ เตรียมตัวรับอาหารเช้า แบบเบา ๆ
ทานเช้าเสร็จ ก็ทำความสะอาดวัด ( พื้นฐานการอยู่วัดนี่เนาะ ^^ ) ถึงประมาณ 7.30 น ท่านเจ้าอาวาสก็มาสอนการเดินจงกรม จากนั้น ท่านก็ให้เดินเองครับ ป๊าดดดดดดดดดดดดด ท่าน ๆ รู้มั้ย ผมเดินตั้งแต่ 07.30 ถึง 10.00 น. ถึงได้เลิกพัก ป๊าด แถมการเดินจงกรม ห้ามพัก ห้ามนั่งด้วย ตูดคุณไม่มีทางได้สัมผัสพื้นเลย ขอบอก ( ถ้าไม่แอบนะ 55 ) ครั้งแรกสำหรับการเดินแบบ มาราธอนแบบนี้ ช่วงแรก ๆ ก็เดินได้อยู่หรอกครับ นาน ๆ ไปนี่ชักเมื่อย เหนื่อย ล้า ทรมาณมาก ยิ่งสภาพจิตนี่ดูไมไ่ด้เลย สารพัดอารมณ์จริง ๆ แต่ท่านอาจารย์ และผู้ที่มาอยู่ก่อนก็บอกว่าเป็นธรรมดา ของวันแรก ๆ น่ะครับ โอยกว่าจะผ่านช่วงเช้าไปได้
ช่วงบ่าย พอทานอาหารเสร็จ ทานข้าวประมาณ 11 โมง ประมาณเที่ยงก็เริ่มต่ออีก คราวนี้มหาโหดกว่าเดิม เดินตั้งแต่ 12.00 น ถึง 17.00 น. ป๊าดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด น้ำปานะ ก็ให้ดื่มตอน 17.00 น.เลย เป็นอะไรที่แบบ สุด ๆ อ่ะ ไม่เคยเจอ ยิ่งตอนเจ็บนะ สุด ๆ อ่ะ ทั้งเจ็บ ปวด เมื่อย ง่วง รุมเร้าแท้ ๆ นาฬิกาก็ไม่มี รอคอยเวลาอย่างเ้ดียว ทรมานมาก แอบนั่งพักสักครู พระที่เดินอยู่ด้วยกันก็เข้ามาบอกว่า ถ้าเราเดินทนเจ็บมา 2 3 ชม.แล้วมาพัก ถ้าเราเริ่มเดินต่อ ความเจ็บมันจะเริ่มใหม่นะ ทางที่ดี เดินต่อไปดีกว่า ผมก็ เอาวะ เดินโลด ก็เดินจนรอดแหละครับ 55 แต่ก็สะบักสะบอมกันเลยทีเดียว อิอิอิ
อ่ะพอเลิกก็ดื่มน้ำปานะ อาบน้ำ เตรียมตัวนั่งยกมือกันต่อ ตอน 18.00 น. เหมือนเมื่อวาน แต่วันนี้ ง่วง + เพลียมาก นั่งไปหลับไป ยิ่งตอนทำวัตรเย็นนี่หลับแบบสุด ๆ อ่ะครับ ง่วงมากกก พอ 3 ทุ่มก็เลิก เข้านอน สาบานได้ ใช้เวลาไม่ถึงนาที ผมหลับเป็นตาย 55555555555555
******************
เช้าวันใหม่ เสียงระฆัง ตี 3 ป๊าดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เป็นเสียงที่ไม่อยากได้ยินที่สุด เมื่อวานตอน 5 โมง เป็นเสียงที่อยากได้ยินที่สุด 5555++
ก็ กิจวัตรประจำวันก็เหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยน เพียงแต่วันนี้ มีพระอาจารย์อีกรูปมาสอนผมเป็นการตัวต่อตัวเลย เพราะเห็นผมเหน่ือย เมื่อย ล้า ง่วงแบบสุด ๆ แกก็เข้าไซโคเลย ว่า กิเลสเรามันหนา ต้องกะเทาะออก ไอ่ที่เจ็บ ๆ น่ะ ไม่ต้องสนใจ กระหน่ำด้ำเซลมันไปให้ชินชา เดี๋ยวก็หายเจ็บเอง
ก็ทำตามคำพระท่านสอนครับ แต่วันที่ 2 ก็เริ่มดีขึ้นแล้ว เรื่องง่วงผมไม่ห่วงละ แต่เฉพาะเวลาเดินจงกรมเท่านั้นนะ 55 เพราะว่าถ้าเราง่วง เราก็ดึงจิตมาอยู่ที่ฝ่าเท้าซะ ให้หลุดจากภวังค์ ก็สดชื่นแล้วครับ
กิจกรรมก็ดำเนินไปเรื่อย จน 21.00 น. หลับเป็นตายเหมือนเดิมวันนี้ 555
***********************************************************************************
กิจกรรมต่าง ๆ ก็เหมือนเดิมจนครบเวลาที่ตั้งใจมาปฏบัติ หลังจากได้พูดคุยกับพระ และผู้มาปฏิบัตอธรรมที่วัดนี้ รู้เลย วัดนี้สุดยอดเรื่องการปฏิบัติมาก
ภูมิใจเล็ก ๆ ที่ผมผ่านมาได้ 555
ก็อยากเก็บความประทับใจ มาเล่าให้เพื่อน ๆ ในห้องศาสนาอ่านน่ะครับ ผิดถูกประการใด ชี้แนะได้นะครับ
สวัสดีครับ
ประสบการณ์เข้าวัดปฏิบัติธรรมครั้งแรกในชีวิต กับวัด " แพร่แสงเทียน "
*******
วันนี้ จะมาเล่าประสบการณ์การปฏิบัติธรรมครั้งแรกในชีวิต ( ที่แบบจริง ๆ จัง ๆ ไม่ใช่ไปวัด ฟังเทศน์ นอนวัดแค่นั้น ) ในวัยที่ปาไป 34 ปีละ เลยแอบรู้สึกเสียดายนิด ๆ ที่เข้าวัดปฏิบัติช้าไป
เอาล่ะ เริ่มตั้งแต่ต้นเลยนะครับ
โดยพื้นเพ ผมเป็นคนในพื้นที่อยู่แล้ว และเคยไปวัดนี้บ่อยมาก คือไปทำสังฆทานน่ะครับ เพราะวัดนี้รับแต่ของ ไม่รับเงิน เลยศรัทธาวัดนี้เป็นพิเศษ และพอคุ้นเคยกับท่านเจ้าอาวาส และ อุบาสิกาที่ดูแลเรื่องปฏิบัติธรรมนิดหน่อย
ผมเข้าวัด วันแรกเลยก็ประมาณ 5 โมงเย็นวันพุธที่ผ่านมานี่เองครับ ( 7 พ.ค. ) เข้าไปท่านเจ้าอาวาสก็เข้ามาสอนการนั่งเจริญสติกายรู้ ใจรู้ ( แบบยกมือ ตามหลักของหลวงพ่อเทียนน่ะ่ครับ ) เสร็จก็เข้าไปก็ทันนั่งเจริญสติ ระลึกสติใจรู้ กายรู้ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 น. ก็นั่งไปเรื่อย ๆ เวลาประมาณ 19.30 น. ก็เข้าทำวัตรเย็น ถึง 21.00 น. ก็เข้านอนครับ วันนี้ สบาย ๆ ไม่มีอะไรมาก เข้านอน ก็ยังไม่ค่อยหลับ เพราะเปลี่ยนที่ด้วย และอากาศก็ร้อน ประมาณเกือบชั่วโมงได้ กว่าฝนจะตกจึงผลอยหลับไป
รุ่งเช้า 03.00 น. ( ตี 3 ) เสียงระฆังดังปลุกแล้ว ดังมากกกกกกกกกกกกกกกก ก็ตื่นมาล้างหน้าตา แปรงฟันก็เข้าศาลาทำวัตรเลยครับ ช่วงที่รอทำวัตรก็นั่งยกมือไปเรื่อย ๆ จนเริ่มทำวัตรเช้า จนถึงเวลาประมาณ 6 โมง ก็ เตรียมตัวรับอาหารเช้า แบบเบา ๆ
ทานเช้าเสร็จ ก็ทำความสะอาดวัด ( พื้นฐานการอยู่วัดนี่เนาะ ^^ ) ถึงประมาณ 7.30 น ท่านเจ้าอาวาสก็มาสอนการเดินจงกรม จากนั้น ท่านก็ให้เดินเองครับ ป๊าดดดดดดดดดดดดด ท่าน ๆ รู้มั้ย ผมเดินตั้งแต่ 07.30 ถึง 10.00 น. ถึงได้เลิกพัก ป๊าด แถมการเดินจงกรม ห้ามพัก ห้ามนั่งด้วย ตูดคุณไม่มีทางได้สัมผัสพื้นเลย ขอบอก ( ถ้าไม่แอบนะ 55 ) ครั้งแรกสำหรับการเดินแบบ มาราธอนแบบนี้ ช่วงแรก ๆ ก็เดินได้อยู่หรอกครับ นาน ๆ ไปนี่ชักเมื่อย เหนื่อย ล้า ทรมาณมาก ยิ่งสภาพจิตนี่ดูไมไ่ด้เลย สารพัดอารมณ์จริง ๆ แต่ท่านอาจารย์ และผู้ที่มาอยู่ก่อนก็บอกว่าเป็นธรรมดา ของวันแรก ๆ น่ะครับ โอยกว่าจะผ่านช่วงเช้าไปได้
ช่วงบ่าย พอทานอาหารเสร็จ ทานข้าวประมาณ 11 โมง ประมาณเที่ยงก็เริ่มต่ออีก คราวนี้มหาโหดกว่าเดิม เดินตั้งแต่ 12.00 น ถึง 17.00 น. ป๊าดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด น้ำปานะ ก็ให้ดื่มตอน 17.00 น.เลย เป็นอะไรที่แบบ สุด ๆ อ่ะ ไม่เคยเจอ ยิ่งตอนเจ็บนะ สุด ๆ อ่ะ ทั้งเจ็บ ปวด เมื่อย ง่วง รุมเร้าแท้ ๆ นาฬิกาก็ไม่มี รอคอยเวลาอย่างเ้ดียว ทรมานมาก แอบนั่งพักสักครู พระที่เดินอยู่ด้วยกันก็เข้ามาบอกว่า ถ้าเราเดินทนเจ็บมา 2 3 ชม.แล้วมาพัก ถ้าเราเริ่มเดินต่อ ความเจ็บมันจะเริ่มใหม่นะ ทางที่ดี เดินต่อไปดีกว่า ผมก็ เอาวะ เดินโลด ก็เดินจนรอดแหละครับ 55 แต่ก็สะบักสะบอมกันเลยทีเดียว อิอิอิ
อ่ะพอเลิกก็ดื่มน้ำปานะ อาบน้ำ เตรียมตัวนั่งยกมือกันต่อ ตอน 18.00 น. เหมือนเมื่อวาน แต่วันนี้ ง่วง + เพลียมาก นั่งไปหลับไป ยิ่งตอนทำวัตรเย็นนี่หลับแบบสุด ๆ อ่ะครับ ง่วงมากกก พอ 3 ทุ่มก็เลิก เข้านอน สาบานได้ ใช้เวลาไม่ถึงนาที ผมหลับเป็นตาย 55555555555555
******************
เช้าวันใหม่ เสียงระฆัง ตี 3 ป๊าดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เป็นเสียงที่ไม่อยากได้ยินที่สุด เมื่อวานตอน 5 โมง เป็นเสียงที่อยากได้ยินที่สุด 5555++
ก็ กิจวัตรประจำวันก็เหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยน เพียงแต่วันนี้ มีพระอาจารย์อีกรูปมาสอนผมเป็นการตัวต่อตัวเลย เพราะเห็นผมเหน่ือย เมื่อย ล้า ง่วงแบบสุด ๆ แกก็เข้าไซโคเลย ว่า กิเลสเรามันหนา ต้องกะเทาะออก ไอ่ที่เจ็บ ๆ น่ะ ไม่ต้องสนใจ กระหน่ำด้ำเซลมันไปให้ชินชา เดี๋ยวก็หายเจ็บเอง
ก็ทำตามคำพระท่านสอนครับ แต่วันที่ 2 ก็เริ่มดีขึ้นแล้ว เรื่องง่วงผมไม่ห่วงละ แต่เฉพาะเวลาเดินจงกรมเท่านั้นนะ 55 เพราะว่าถ้าเราง่วง เราก็ดึงจิตมาอยู่ที่ฝ่าเท้าซะ ให้หลุดจากภวังค์ ก็สดชื่นแล้วครับ
กิจกรรมก็ดำเนินไปเรื่อย จน 21.00 น. หลับเป็นตายเหมือนเดิมวันนี้ 555
***********************************************************************************
กิจกรรมต่าง ๆ ก็เหมือนเดิมจนครบเวลาที่ตั้งใจมาปฏบัติ หลังจากได้พูดคุยกับพระ และผู้มาปฏิบัตอธรรมที่วัดนี้ รู้เลย วัดนี้สุดยอดเรื่องการปฏิบัติมาก
ภูมิใจเล็ก ๆ ที่ผมผ่านมาได้ 555
ก็อยากเก็บความประทับใจ มาเล่าให้เพื่อน ๆ ในห้องศาสนาอ่านน่ะครับ ผิดถูกประการใด ชี้แนะได้นะครับ
สวัสดีครับ