หน้ามะม่วงกำลังสุก อะไรอะไรก็มะม่วง 2

ดูเหมือนว่าต้องได้มานั่งเขียนอีกรอบ ผมก็เริ่มเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องสละเวลาการงานส่วนตัวมานั่งคิดเขียนความรู้สึกส่วนตัวที่มีต่อสังคมประเทศไทยบ่อยมากขึ้น แทนที่ว่าเวลานี้จะเป็นเวลาทำการทำงานสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวกลับต้องมานั่งพิมพ์ความรู้สึกที่มันเริ่มถูกกดดัน ลิดรอนสิทธิตามระบอบประชาธิปไตยมากมายจนทนไม่ไหว และหลายๆ คนก็คงจะเป็นเหมือนกัน

    จริงหรือที่ต้องให้ความสำคัญกับคำว่าปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง

                คำว่าปฏิรูปมีความหมายที่ดีในตัวของมัน สรุปคือหมายถึงการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง สิ่งที่ไม่ดีให้ดีขึ้นกว่าเดิม คุณสุเทพชูประเด็นขจัดระบอบทักษิณ และปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ในการชุมนุม ฉะนั้นการปฏิรูปของคุณสุเทพก็น่าจะหมายถึงการปฏิรูปการเมืองที่พวกเขาอ้างว่าเป็นระบอบทักษิณ แต่ในความเป็นจริงแล้วนับตั้งแต่ตัวรัฐธรรมนูญเอง พระราชบัญญัติหลายๆ ฉบับ วิธีการเลือกตั้ง สส. สว. นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างๆ การมีอยู่ขององค์กรอิสระ การมีส่วนร่วมในการตรวจสอบของประชาชน ในปัจจุบันก็มีรากฐานมาจากรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2540 และก็ถูกปรับปรุง เปลี่ยนแปลงหรือจะพูดอีกศัพท์หนึ่งก็คือ “การปฏิรูป” โดยการรัฐประหารนั่นเอง ระบอบประชาธิปไตยของไทยก็ดีระดับหนึ่งอยู่แล้ว ระบบการตรวจสอบการทำงานของรัฐก็เข้มข้นอยู่แล้ว แล้วอะไรหละคือระบอบทักษิณที่คุณสุเทพอ้าง เวลาแกนนำคุณสุเทพขึ้นปราศรัยปากก็บอกขจัดระบอบทักษิณแต่ไม่เคยบอกว่าอะไรคือระบอบทักษิณ มีแต่กล่าวให้ร้ายฝ่ายตรงข้าม ด่าคนอื่นเสียๆหายๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ คำว่า “ควาย” ที่พวกสุเทพพูดแต่ละวันหากนับเป็นตัวคงเต็มพื้นที่ชุมนุม หรือคุณสุเทพหมายถึงการที่ประชาชนส่วนใหญ่เทคะแนนให้พรรคเพื่อไทยเวลามีการเลือกตั้งคือระบอบทักษิณหรือ หรือคุณสุเทพหมายถึงเลือกตั้งทีไรพรรคประชาธิปัตย์แพ้ทุกทีคือระบอบทักษิณหรือ ผมว่ามันไม่เกี่ยวกันนะ ฉะนั้นไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะอ้างว่าขจัดระบอบทักษิณ ปฏิรูป หากคุณสุเทพจะอ้างจุดมุ่งหมายการชุมนุมอย่างอื่นน่าจะเหมาะกว่า เช่นว่า ไม่เอาเลือกตั้ง เลือกตั้งทีไรฉันแพ้ทุกที ไม่เอาแล้ว จะปฏิวัติ ทหารไม่ปฏิวัติ เจ้านายใหญ่โตไม่ปฏิวัติ ฉันจะปฏิวัติเอง หรือบอกตรงๆ ไปเลยก็ได้ว่า ใครบ้างให้ปฏิวัติ แล้วจะได้จบๆ ไป คำศัพท์ดูดีต่างๆ อย่าเอามาใช้แทนคำว่า ปฏิวัติเลย……

    แล้วอะไร คือสิ่งที่ควรปฏิรูป

                  สิ่งที่ควรปฏิรูปในปัจจุบันในความคิดของผมคือ อุดมการณ์ของนักการเมืองของไทยนี้แหละ หลวงพ่อท่านหนึ่งท่านได้แสดงธรรมไว้ว่า อันดับแรกคนเราแสวงหาอาหาร จากนั้นก็ ที่อยู่ การงาน ครอบครัว เงินทอง ชื่อเสียง และอำนาจตามลำดับ ผมว่าอุดมการณ์ของนักการเมืองของไทยส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นอำนาจซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการ จะสังเกตเห็นได้ว่าข้อขัดแย้งที่เขานำมาต่อสู้ทางการเมืองส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นเรื่องการแก่งแย่งการมีอำนาจเหนือกว่าฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง เพื่อไทยบอก ต่อต้านอำมาตย์ ประชาธิปัตย์บอกต่อต้านทักษิณ  เมื่อได้อำนาจก็รักษาอำนาจนั้นไว้ด้วยวิธีการที่ชั่วร้ายต่างๆ ปัญหาบ้านเมืองส่วนใหญ่มันไม่ได้เกิดเพราะมวลมหาประชาชน มวลชนเสื้อแดงหรอก มันเกิดจากอุดมการณ์ของพวกนักการเมืองชั่วๆ ของเขานั่นเอง อุดมการณ์ของนักการเมืองที่ดี ต้องโดยประชาชน เพื่อประชาชน เห็นความเท่าเทียมกันของหนึ่งสิทธิ์หนึ่งเสียง เคารพสิทธิพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตยของทุกคนไม่เลือกยากดีมีจน

    นายก ที่จะมาจากการแต่งตั้งของบรรดาคุณสุเทพ ศาลต่างๆ องค์กรต่างๆ เป็นนายกคนกลางจริงหรือ

                 นายกรัฐมนตรีที่มีที่มาอย่างอื่นนอกเหนือจากการเลือกตั้งไม่มีทางเป็นกลางได้อย่างแน่นอน เพราะมันจะเป็นแค่ตัวแทนของนายกของฝ่ายที่สามารถแต่งตั้งเขาได้เท่านั้น แม้ว่านายกคนนั้นจะดีเลิศสักเพียงใดในสายตาของเขา แต่มันจะไม่มีวันได้รับการยอมรับจากฝ่ายตรงกันข้ามอย่างแน่นอน เขาจะเรียกนายกเทือกตั้ง นายกศาลตั้ง นายก…..ตั้ง อยู่ร่ำไป แม้สุเทพ, ศาล กปปส หรือตัวคุณ บอกว่ามันสามารถแต่งตั้งได้โดยไม่ขัดรัฐธรรมนูญ แต่มันจะไม่เป็นกลางอย่างแน่นอน
                 นายกคนกลางตัวจริงคือนายกที่เอาชนะใจของคนส่วนใหญ่ของคนไทยที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้นที่จะเป็นนายกคนกลางตัวจริงเสียงจริง

    ระบอบทักษิณคืออะไร มีอยู่จริงใช่ไหม

              ความจริงคนส่วนใหญ่ก้าวข้ามเรื่องที่ กปปส นำมาเป็นเหตุของการปฏิรูปกันหมดแล้ว อย่าเอาอดีตมาเป็นข้ออ้างในการนำพาประเทศถอยหลังอีกเลย ครั้งหนึ่งสมัยหนึ่งนายกเป็นทักษิณได้มีนโยบายประชานิยม ผมไม่เห็นด้วย ไม่ชอบนโยบายทักษิณ เพราะคิดว่านโยบายทักษิณเป็นนโยบายที่ผิดธรรมชาติ รวดเร็วเกินไป สุดโต่งเกินไป ทุนนิยมเกินไป และเห็นด้วยกับนโยบายประชาธิปัตย์ และแล้วก็เป็นไปตามที่ผมคาดไว้ คือสร้างความแตกแยกให้กับประชาชนที่ตั้งรับความเจริญไม่ทัน สรรเสริญประชานิยม และแน่นอนกว่าจะรู้ตัวก็ต้องใช้เวลา จะเห็นว่าความนิยมของพรรคเพื่อไทยถอยลงจากการเลือกตั้งครั้งต่อๆ มา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทักษิณบริหารประเทศโดยระบอบทักษิณ เพราะเขามาจากการเลือกตั้ง เขาได้รับความไว้วางใจจากคนส่วนใหญ่ของประเทศ และตอนนั้นประชาธิปัตย์เป็น ฝ่ายค้านในสมัยนั้นด้วย หากเป็นระบอบทักษิณจริง แน่หละคุณสุเทพก็ตกเป็นทาสของระบอบทักษิณด้วย ฉะนั้นแล้ว ไม่เป็นความจริงอะไรเลย ที่บอกว่ากำลังล้มระบอบทักษิณ หรือหากเลือกตั้งครั้งหน้าหลังจากขจัดระบอบทักษิณได้แล้วปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียงข้างมากอีก ก็จะอ้างว่ามีระบอบทักษิณขึ้นมาใหม่อีกไหม หรือจะไม่ให้มีการเลือกตั้งอีกเลยหลังการปฏิรูปของคุณ

    เลือกตั้งคือทางออกได้หรือ

                การใช้สิทธิ์เลือกตั้งคือการให้ความเสมอภาคเท่าเทียมกันของมนุษย์ หนึ่งสิทธิ์หนึ่งเสียงมีค่าเท่ากัน จะว่าไปแล้วคนจนจะมีความเสมอภาคคนรวยได้ก็แค่การใช้สิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งเพียงอย่างเดียวนี้แหละ โรงพยาบาลดีตั้งอยู่ในเมือง โรงเรียนดีๆ มหาลัยดังๆ ตั้งอยู่ในเมือง สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลายล้วนอยู่ในเมือง และก็ใช่คนรวยส่วนใหญ่อยู่ในเมือง มีคุณภาพชีวิตที่เพียบพร้อมไปด้วยโภคทรัพย์สมบัติ คนจนอยู่ห่างไกล อยู่ตามไร่นา ไร่สวน ทางเข้าบ้านเป็นถนนลูกรัง อยู่ไกลโรงพยาบาล เจ็บป่วยมาก็ลำบาก อยู่ไกลโรงเรียนดีๆ การศึกษาไม่ได้มาตรฐาน นี่คือสิ่งที่แตกต่าง ที่ไม่เท่าเทียมกันของคนรวย คนจน คนจบดอก คนจบ ป.4 แต่ความเสมอภาคตามระบอบประชาธิปไตย 1 เสียง = 1 เสียง แน่นอน
               อาจจะคิดได้ว่าทำไมเลือกตั้งครั้งใดเพื่อไทยถึงชนะทุกครั้ง ประชาชนไม่เป็นกลางหรือเลือกข้างพรรคการเมืองหรือ จริงๆ แล้วต้องดูที่สาเหตุว่าทำไมเพื่อไทยถึงมีชัยชนะทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ผมอาจไล่นโยบายของพรรคเพื่อไทยไม่ได้เพราะผมไม่ใช่คนเสื้อแดง แต่ผมสามารถตอบได้อย่างมั่นใจว่าคนที่เลือกพรรคเพื่อไทยมาอย่างน้อยก็ต้องเคยเลือกพรรคอื่นมาอย่างแน่นอน แต่เพราะนโยบายที่เข้าถึงประชาชนคนส่วนใหญ่ มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค เข้ากับคนจนเป๊ะ คนจนในไทยมีเกือบ 20 ล้านคน แล้วทำไมเขาจะไม่เลือก แต่ผมไม่ได้หมายความว่าเป็นนโยบายที่ดีนะแค่มันตรงกับความต้องการของคนส่วนใหญ่เท่านั้น หากคุณคิดว่าประชาชนไม่เป็นกลาง ประชาชนเลือกข้าง คุณกำลังดูถูก เหยียดหยาม มนุษย์ด้วยกันเอง

           ฉะนั้นหากเห็นว่าประเทศไทยยังเป็นประชาธิปไตยอยู่ให้เลือกตั้งคือทางออกได้เลย เป็นธรรมที่สุด เสมอภาคที่สุด ยุติธรรมที่สุด เป็นกลางที่สุด ปัญหาที่จะตามมาน้อยที่สุด

             สุดท้ายการชุมนุมทางการเมืองเรียกร้องประชาธิปไตยแบบเถื่อนๆ ของไทยที่มีอยู่เป็นประจำในรอบทุก 5 ปี จะเป็นตัวบ่อนทำลายความสงบสุขสร้างความแตกแยกทางความคิดของคนไทยนั่นเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่