สาเหตุที่มาตั้งกระทู้วันนี้คือ สงสัยค่ะ ว่าตอนนี้ที่เราเครียดๆ นี่เป็นเพราะคิดมากเกินไปรึเปล่า หรือเป็นคนจุกจิกมากเกินไปกับแฟน ยังไงช่วยวิเคราะห์ให้เรารู้ตัวหน่อยนะคะ บางทีต้องมีคนคอยเตือนคอยสอนบ้างคงดีขึ้น กรุณาช่วยชี้แนะด้วยนะคะ

เราอายุน้อยกว่าแฟน 4 ปี คบกับแฟนมา 5 ปี และวางแผนกันว่าจะแต่งงานกันในเดือนสิงหานี้ ทางบ้านแฟนเราเรียกได้เลยว่าฐานะไม่ดี คือ บ้านก็เช่าเขาอยู่ รถยนต์ก็ไม่มีขับ รถมอไซค์ก็ผ่อนอยู่ ตอนนั้นที่เริ่มคบกันเราก็รู้ว่าที่บ้านเขาไม่มีสมบัติอะไร แต่เราคบด้วยใจ เพราะแฟนเราเป็นคนใจเย็น เป็นคนไม่เคยคิดร้ายใคร ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และรักครอบครัว ซึ่งผิดกับเราคือ จะเป็นคนใจร้อน และไม่ค่อยยอมคน แรกๆเริ่มคบกันเรายังเรียนไม่จบ เรียนอยู่ต่างจังหวัด กลับบ้านเดือนละสองครั้ง แฟนเราก็ยังติดโปรเจ็คอยู่ ก็คบกันไปไม่มีปัญหาอะไร พอเราเรียนจบบรรจุเป็นข้าราชการ ตอนนั้นแฟนเรายังว่างงานอยู่ เราเลยบอกให้หางานทำ เขาก็หางานทำ และได้งานทำที่ร้านออกแบบแห่งหนึ่ง ในปีเดียวกับที่เราเริ่มทำงาน และเราก็พยายามมองหางานที่มั่นคงกว่าให้แฟนไปเรื่อยๆ เพื่อแฟนเราจะได้มีเงินเก็บบ้าง ฐานะทางบ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แค่มีบ้านของตัวเองอยู่ และไม่มีหนี้ ส่วนที่ดิน อสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นก็ไม่มี พ่อเราก็ไม่ได้ทำงาน แม่เราเสียแล้วตั้งแต่ยังเด็ก เราจึงไม่ได้มองว่าแฟนจนกว่าแต่อย่างใด แต่เมื่อแฟนเราได้งานที่มั่นคงขึ้น เริ่มมีเงินเก็บในบัญชี ชีวิตก็เริ่มมีปัญหาขึ้น มีเจ้าหนี้ มาทวงเงินแม่แฟนที่บ้านหลายราย ค่าหวยใต้ดินบ้าง ค่าดอกเบี้ยรายวันบ้าง ซึ่งแม่แฟนนั้นทำอาชีพขายของในตลาดนัด และพ่อเขาไม่ได้ทำงานแล้ว ซึ่งตั้งแต่เขาทำงานก็ช่วยเหลือครอบครัวมาโดยตลอด ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าแก็ส ค่าข้าวสาร ค่าน้องไปโรงเรียน ค่าเทอมน้อง ค่าซื้อของลงทุนให้แม่ขาย แต่เมื่อมีเจ้าหนี้มาทวงแฟนเราก็ทยอยส่งหนี้ให้อีกหลายหมื่นบาท และย้ำกับแม่เขาว่าอย่าก่อหนี้อีก เรื่องหนี้ก็หายเงียบไประยะหนึ่ง ต่อมาน้องสาวเขาเกิดท้อง แต่ฝ่ายชายรับผิดชอบ แม่แฟนยังหาทางจะให้ทำแท้ง ทั้งๆที่เราห้าม แม่แฟนก็ไปยืมเงินเขามาอีกบอกเขาว่าจะเอาไปทำแท้ง ต่อมา หาที่จะทำแท้งไม่ได้ เลยไม่ได้ทำ แต่เงินก้อนนั้นก็หมดไป โดยเอาไปจ่ายอะไรไม่อาจทราบได้ และน้องสาวแฟนต้องแต่งงาน เราจึงให้แฟนดึงเงินที่เราเก็บด้วยกันให้ไปจัดเลี้ยงงานแต่งเล็กๆให้น้อง ต่อมาทราบว่าแม่แฟนก็ไปยืมคนอื่นมาเพิ่ม บอกเอาใช้จ่ายงานแต่ง ทั้งๆที่เราสองคนออกเงินให้แล้วทั้งหมด ทุกครั้งที่มีปัญหาเรื่องเงินเรื่องหนี้นี้ เราจะทะเลาะกับแฟน โดยที่เรามักจะโกรธแม่เขาที่ชอบสร้างหนี้สิน ทั้งๆที่ทุกวันนี้แฟนเรารับผิดชอบค่าใช้จ่ายภายในบ้าน และลงทุนให้แม่เขาขายของ เราเข้าใจที่เขารักแม่ รักครอบครัว แม่สร้างหนี้ก็ตามจ่าย แม่จะเอาอะไรก็ซื้อให้ แต่ที่เราทนไม่ไหว จนทำให้ทะเลาะกันบ่อยๆคือ เขาให้ๆๆจนบางทีตัวเองแทบไม่มีเงินเหลือ พอมาเที่ยวกับเราก็ให้เราจ่ายให้ คือ แบบว่า ที่จริงแล้ว เราคิดว่าแฟนเราน่าจะมีลิมิตบ้างกับการให้ จนลืมนึกถึงเรา ลืมนึกถึงตัวเอง ตอนนี้บอกเลยว่า ที่เขาแพลนจะแต่งงานกับเรา พ่อเราบอกจะให้สินสอดเท่าไหร่ก็ได้ เขาก็คิดว่าจะกู้เงินจากที่ทำงานมาแต่ง เพราะตอนนี้ เก็บเงินไรไม่ได้เลย ในบัญชีเป็นศูนย์ เมื่อเขามีเงิน อันดับแรกที่เขาจะจ่ายคือ ลงทุนซื้อของให้แม่ขาย ซึ่งเราก็ไม่อาจทราบได้ว่าทุกวันนี้เงินที่แม่เขาขายของได้นั้นหายไปไหน เพราะลงทุนให้ทุกสัปดาห์ ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่สำคัญๆ แฟนก็จ่ายให้เหมือนเดิม เรามองไม่เห็นทางเลยว่า ต่อไปถ้าเราแต่งงานกับแฟน แล้วเราจะอยู่อย่างไร ถ้าเรามีลูก แฟนเราเขาจะมีเงินช่วยส่งลูกเรียนไหม ค่าใช้จ่ายในบ้านเราสองคนใครเป็นคนออก  แม่เขาจะมายืมเงินเราไหม เรื่องให้แม่เขาเลิกขายของนั้นยากมาก เพราะเคยเจรจาหลายครั้งแล้ว ท่านบอกว่าเบื่อ ไม่อยากอยู่บ้าน ไม่ขายของจะเอาอะไรกิน พ่อแฟนก็ชอบแอบไปกินเหล้าบ่อยๆ แม่เขาก็เล่นหวยบ่อยๆ พอถูกหวยก็ไม่รู้เอาไปไหนหมด เพราะยังไงแฟนเราก็ยังให้เงินแม่เขาตลอด และก็ไม่มีเงินเก็บเหมือนเดิม ตอนนี้เราเครียดมาก เพราะใกล้ถึงงานแต่งแล้ว พอจะคุยกับแฟน แฟนก็มาแนวประมาณว่าเหนื่อย อย่าชวนทะเลาะ แล้วก็เลิกคุย เราจะให้เขาออกแบบการ์ดแต่งงาน เขาก็ลืมตลอด เราจะให้ไปจองโรงแรม เขาก็ไม่ว่าง พอพูดทีนึงก็นึกขึ้นจะทำทีนึง แต่ก็ไม่ทำสักที เรื่องชุดวันงาน ถ่ายพรีเวดดิ้งนั้นเรียบร้อยแล้ว เพราะเราเป็นคนจัดการค่าใช้จ่ายเอง เราควรจะเดินไปทางไหนดี เพราะดูแล้วไม่ว่าทางไหนใจก็เจ็บ เราไม่อยากเลิกกับแฟน เพราะต่างร่วมทุกข์สุขกันมาหลายปี รับนิสัยกันได้ ถ้าเลิกกันไปเราคงเสียใจไม่น้อย แต่ในอีกทางหนึ่ง เดินหน้าต่อไป วันนี้เราท้อใจเหลือเกิน มองไม่เห็นทาง อยากมีคนช่วยชี้ทางสว่างให้ค่ะ