เห็นวิธีการก็สะท้อนให้เห็นแนวคิดเลยว่าตัวหัวโจกนี่มันต้องเป็นพวกหลงยุค ปรับตัวตามโลกไม่ทันแน่ๆ
เห็นคุยอวดกันจังว่าเป็นกลุ่มคนมีการศึกษาสูง ทำไมคิดอะไรทำอะไรมันย้อนยุคกันอย่างนี้ก็ไม่รู้
อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
ก็แทนที่จะช่วยกันใช้ความรู้ความสามารถที่ไปร่ำเรียนมา ช่วยกันโน้มน้าวสร้างภาพลักษณ์ให้คนส่วนใหญ๋ศรัทธาสนับสนุน
ก็ดันไปร้องหาการรัฐประหารกันซะนี่
คิดจะทำสงครามมวลชนก็ขยันช่วยกันถีบมวลชนออกจากพวกตัวเองกันดีจริงๆ
ที่ขำที่สุดก็คืออยากจะประกาศศักดาอำนาจบารมีที่(คิดว่า)ตัวเองมี
ไปปิดไปบังคับทีวีให้ถ่ายทอดพวกตัวเอง นี่มันไอเดีย60ปีที่แล้วเลยนะ
ยุคนั้นน่ะคงใช่ ใครๆเค้าก็ต้องเปิดทีวีดูแล้วมันก็มีแค่4ช่อง
แต่ยุคนี้น่ะมีเป็นร้อยๆช่องตามปิดกันไหวเรอะ ปิดสถานีเค้าก็ออกไปทำรายการนอกสถานที่ได้ไม่ยากเย็น
ยึดได้หมดก็ใช่ว่าจะมีคนสนใจฟัง รำคาญเค้าก็เปลี่ยนช่องหนี ไม่ก็ไปเปิดเน็ตดูอย่างอื่น
ยิ่งเป็นเรื่องที่พล่ามมาค่อนปีซ้ำๆซากๆ คงมีใครสนใจอยากจะฟังกันอีกหรอกครับ
แล้วจะไปปิดฟรีทีวีทำหอยอะไรล่ะ??
ยุคนี้อยากจะให้โลกสนใจมันก็ต้องยึดสื่อทีวีระดับ บีบีซี ซีเอ็นเอ็นโน่นมันถึงจะเวิร์คครับ
ยึดยังไน่ะเหรอครับ? ก็ต้องทำให้สื่อนานาชาติเหล่านี้เป็นฝ่ายตน เสนอข่าวที่เป็นคุณกับฝ่ายตนให้ได้นั่นแหละ
แต่รู้สึกว่าพวกคุณน่ะช้ากว่าฝ่ายทักษิณหลายก้าวทีเดียว
ฝ่ายนั้นเค้าชิงพื้นที่ยึดกุมได้ทั่วไปหมดแล้ว
ก็กระแสโลกเค้าสนับสนุนประชาธิปไตยก็ดันไปทำตัวต่อต้านกันซ่ะนี่(ฉลาดจริงๆ)
ยึดอำนาจกันจริงๆก็สงสัยต้องอยู่กันอย่างเกาหลีเหนือโน่นแหละมั้ง คือไม่มีใครเค้าคบ
ยิ่งมีการกระทำฉลาดๆอย่างที่ไปคุกคามสื่อต่างชาติประจานตัวเองอย่างที่ทำกันน่ะนะ
มันเป็นการจำกัดพื้นที่ตัวเองอย่างไม่น่าให้อภัยเลย
พอเป็นข่าว ก็แทนที่จะแก้สถานะการณ์ช่วยกันจับตัวคนกระทำผิดมาลงโทษโชว์ให้สื่อนานาชาติเค้าเห็น เค้าเข้าใจ
ก็ดันช่วยกันปิดเงียบทำเฉยให้ท้ายกับการกระทำชั่วๆอย่างนี้
ก็คงเหลือวิธีเดียวที่จะชิงพื้นที่สื่อระดับโลกได้ก็คือ ต้องทำอย่างที่ไอ้พวกโบโก ฮารัมมันทำนั่นแหละ
เรียกร้องความสนใจได้ดีจริงๆนะจะบอกให้
อ้อ บรรดาผู้มีการศึกษาทั้งหลายอย่าปล่อยให้ผู้มีการศึกษาท่านนี้รำเชิบๆยึดทีวีอยู่อย่างเดียวดายนะครับ
ไปช่วยกันรำเป็นเพื่อนเค้าหน่อย
รัฐประหารยุคนี้มันต้องยึดระดับบีบีซี ซีเอ็นเอ็นโน่นแหละครับไม่ใช่ช่องดูละคร
เห็นคุยอวดกันจังว่าเป็นกลุ่มคนมีการศึกษาสูง ทำไมคิดอะไรทำอะไรมันย้อนยุคกันอย่างนี้ก็ไม่รู้
อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
ก็แทนที่จะช่วยกันใช้ความรู้ความสามารถที่ไปร่ำเรียนมา ช่วยกันโน้มน้าวสร้างภาพลักษณ์ให้คนส่วนใหญ๋ศรัทธาสนับสนุน
ก็ดันไปร้องหาการรัฐประหารกันซะนี่
คิดจะทำสงครามมวลชนก็ขยันช่วยกันถีบมวลชนออกจากพวกตัวเองกันดีจริงๆ
ที่ขำที่สุดก็คืออยากจะประกาศศักดาอำนาจบารมีที่(คิดว่า)ตัวเองมี
ไปปิดไปบังคับทีวีให้ถ่ายทอดพวกตัวเอง นี่มันไอเดีย60ปีที่แล้วเลยนะ
ยุคนั้นน่ะคงใช่ ใครๆเค้าก็ต้องเปิดทีวีดูแล้วมันก็มีแค่4ช่อง
แต่ยุคนี้น่ะมีเป็นร้อยๆช่องตามปิดกันไหวเรอะ ปิดสถานีเค้าก็ออกไปทำรายการนอกสถานที่ได้ไม่ยากเย็น
ยึดได้หมดก็ใช่ว่าจะมีคนสนใจฟัง รำคาญเค้าก็เปลี่ยนช่องหนี ไม่ก็ไปเปิดเน็ตดูอย่างอื่น
ยิ่งเป็นเรื่องที่พล่ามมาค่อนปีซ้ำๆซากๆ คงมีใครสนใจอยากจะฟังกันอีกหรอกครับ
แล้วจะไปปิดฟรีทีวีทำหอยอะไรล่ะ??
ยุคนี้อยากจะให้โลกสนใจมันก็ต้องยึดสื่อทีวีระดับ บีบีซี ซีเอ็นเอ็นโน่นมันถึงจะเวิร์คครับ
ยึดยังไน่ะเหรอครับ? ก็ต้องทำให้สื่อนานาชาติเหล่านี้เป็นฝ่ายตน เสนอข่าวที่เป็นคุณกับฝ่ายตนให้ได้นั่นแหละ
แต่รู้สึกว่าพวกคุณน่ะช้ากว่าฝ่ายทักษิณหลายก้าวทีเดียว
ฝ่ายนั้นเค้าชิงพื้นที่ยึดกุมได้ทั่วไปหมดแล้ว
ก็กระแสโลกเค้าสนับสนุนประชาธิปไตยก็ดันไปทำตัวต่อต้านกันซ่ะนี่(ฉลาดจริงๆ)
ยึดอำนาจกันจริงๆก็สงสัยต้องอยู่กันอย่างเกาหลีเหนือโน่นแหละมั้ง คือไม่มีใครเค้าคบ
ยิ่งมีการกระทำฉลาดๆอย่างที่ไปคุกคามสื่อต่างชาติประจานตัวเองอย่างที่ทำกันน่ะนะ
มันเป็นการจำกัดพื้นที่ตัวเองอย่างไม่น่าให้อภัยเลย
พอเป็นข่าว ก็แทนที่จะแก้สถานะการณ์ช่วยกันจับตัวคนกระทำผิดมาลงโทษโชว์ให้สื่อนานาชาติเค้าเห็น เค้าเข้าใจ
ก็ดันช่วยกันปิดเงียบทำเฉยให้ท้ายกับการกระทำชั่วๆอย่างนี้
ก็คงเหลือวิธีเดียวที่จะชิงพื้นที่สื่อระดับโลกได้ก็คือ ต้องทำอย่างที่ไอ้พวกโบโก ฮารัมมันทำนั่นแหละ
เรียกร้องความสนใจได้ดีจริงๆนะจะบอกให้
อ้อ บรรดาผู้มีการศึกษาทั้งหลายอย่าปล่อยให้ผู้มีการศึกษาท่านนี้รำเชิบๆยึดทีวีอยู่อย่างเดียวดายนะครับ
ไปช่วยกันรำเป็นเพื่อนเค้าหน่อย