ตุ๊ดเวียงพิงค์ จะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อน
ติดค้างเรื่องธรรมะไว้ วันนี้ขอคุยธรรมะง่ายๆ สไตล์ตุ๊ดเวียงพิงค์ ผิดถูกอย่างไรก็ขอคำชี้แนะด้วยนะครับ
ธรรมะคืออะไร จะรู้ธรรมะได้อย่างไร จะเข้าใจธรรมะจะต้องทำอย่างไร???
ผมเป็นปุถุชนคนหนึ่ง ไม่ได้มีความรู้มาก แต่ก็น้อมนำเอาธรรมะมาใช้ในการดำเนินชีวิต
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ หันทะทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว.. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า
..วะยะธัมมาสังขารา ..สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา..
อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ ท่านทั้งหลาย จงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด
..อะยัง ตะถาคะตัสสะ ปัจฉิมา วาจา ..นี่เป็นพระวาจาครั้งสุดท้าย ของเราตถาคต.. ”
อ่านข้อความข้อความนี้งงไหม บางคนอ่านแล้วงง บางคนอ่านไม่งง แต่ก็ไม่ได้พอใจที่จะอ่าน
บางคนเห็นแล้วก็กดกากบาทมุมขวามือข้างบนไปแล้ว พี่ตุ๊ดเวียงพิงค์เอาอะไรมาสอนหนูนี่ หนูงง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เด็กหญิงพลอย ศาสนาคริสต์ อยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร วันนี้พลอยตื่นสาย เพราะเมื่อคนนอนดึก
พลอยตื่นมา 6.30 น. พลอยรู้สึกโมโหมากที่แม่ไม่ยอมปลุก แต่พลอยก็นึกขึ้นได้ว่าที่พลอยตื่นสายก็เพราะเมื่อคืน
พลอยทำโครงงานวิทยาศาสตร์จนดึก แล้วก็ไม่ได้บอกแม่ให้ปลุก ดังนั้น พลอยผิดเอง ไม่ใช่ความผิดของแม่
เมื่อพลอยคิดได้เช่นนี้ สิ่งที่พลอยจะต้องทำตอนนี้คือ อาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบไปขึ้นรถเมล์ ไปโรงเรียนให้เร็วที่สุด
เมื่อพลอยถึงป้ายรถเมล์ พลอยนึกขึ้นได้ว่า ลืมโครงงานไว้ที่บ้าน พลอยจะทำอย่างไรดี ตอนนี้ 7.15 น. แล้ว
ทันใดนั้นพลอยเห็นรถเมล์ สาย 26 ที่รอมา 15 นาทีแล้ว พลอยต้องตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกทิ้งโครงงานแล้วขึ้นรถ
หรือกลับไปเอาโครงงานที่บ้าน แต่ไปโรงเรียนสาย และแล้วพลอยก็ตัดสินใจ วิ่งกลับไปเอาโครงการที่บ้าน
แล้วเลือกไปโรงเรียนสาย แม้จะถูกทำโทษก็ยังดีกว่า ไม่ได้พรีเซนท์โครงงานวิทย์ ซึ่งสำคัญกว่า
พลอยเข้าบ้านไปเอาโครงงาน โดนแม่ด่า พลอยก็หงุดหงิด พลอยไปขอเงินแม่เพิ่มเพราะจะต้องนั่งวินมอเตอร์ไซด์
ไม่งั้นพลอยไม่ทันเข้าแถวแน่ๆ แม่ให้เงินพลอย แล้วบ่นไปด้วย แม้พลอยรู้สึกเซ็งแต่พลอยก็เข้าใจเพราะพลอยสะเพร่าเอง
เมื่อพลอยไปถึงโรงเรียน เพื่อนๆ เข้าแถวกันหมดแล้ว ทันใดนั้นครูฝ่ายปกครองจับพลอยไปเข้าแถวกับเพื่อนหน้าเสาธง
เรียงหน้ากระดาน ประจานนักเรียนที่มาโรงเรียนสาย พลอยอายมากๆ แทบจะร้องไห้ พลอยก้มหน้าก้มตารอให้เวลามันผ่านไป
พลอยเข้าห้องเรียน เพื่อนชื่อใหม่ ซึ่งพลอยรู้ดีว่าไม่ค่อยชอบพลอยเดินเข้ามาทักทาย ด้วยทีท่าและหน้าตาเยาะเย้ย
"อีพลอย เมื่อคืนเมิงคงคุยกับผัวจนดึกสิท่า เลยมาโรงเรียนสาย ผัวเมิงหล่อไหม ขอดูรูปผัวเมิงหน่อย" ใหม่พูดแล้วหัวเราะ
พลอยโมโห แต่บอกใหม่ไปว่า เมื่อคืนเราทำโครงงานจนดึกเลยตื่นสาย พลอยไม่อยากทะเลาะกับใหม่เพราะเข้าใจใหม่ดี
ใหม่เป็นคนปากเสีย ชอบนินทา เมื่อเดือนก่อนใหม่โดนรุ่นพี่ ม.5 ดักตบที่หน้าโรงเรียน พลอยจึงเข้าใจว่าใหม่เป็นคนอย่างไร
เมื่อถึงชั่วโมงวิทยาศาสตร์ ต้องพรีเซนท์งานโดยเลือกจากตัวแทนกลุ่ม เพื่อนๆ ก็ต่างเกี่ยงกัน ไม่มีใครอยากออกไป
พลอยเข้าใจ เพราะพลอยก็ไม่อยากออกเป็นคนแรกเหมือนกัน เพื่อนๆ ก็คงมีความรู้สึกไม่ต่างจากพลอย แต่ก็คิดเสียว่า
เป็นการผลักให้ตัวเองได้กล้าแสดงออก พลอยจึงเป็นตัวแทนของกลุ่ม เป็นเป็นคนแรกของการนำเสนอผลงาน
พลอยนำเสนอได้ดีมาก ตอบคำถามครูได้ แต่ครูให้คะแนนแค่ 8 คะแนน พลอยก็ไม่ได้เสียใจ เพราะมันคือคะแนนมาตรฐาน
พักเที่ยงพลอยไปกินข้าวกับเพื่อนอีก 3 คน เป็น 4 คน แต่โรงอาหารไม่ว่าง เพราะเต็มไปด้วยของใช้ที่เอามาจองโต๊ะไว้
เหลือที่นั่ง 3 ที่ เพื่อน 3 คนนั่งกันหมดแล้ว พลอยซื้อข้าวช้าสุด พลอยไม่โกรธเพื่อน ไม่น้อยใจเพราะเข้าใจว่าตอนเที่ยง
หาที่นั่งลำบาก พลอยจึงไปขอนั่งกับเพื่อนอีกห้อง และทำความรู้จักกัน ทำให้พลอยได้เพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกหนึ่งคน
ตอนเย็นพลอยกลับบ้าน พลอยขึ้นรถเมล์ช้า ทำให้พลอยไม่มีที่นั่ง แม้คนที่นั่งจะเป็นผู้ชายไม่ยอมลุกให้แต่พลอยก็เข้าใจ
ว่าเวลาหลังเลิกงาน เขาอาจจะเหนื่อย จะล้าจากการทำงาน ก็ยืนไปรอให้คนลุกแล้วจึงเข้าไปนั่งต่อจากคนเดิม
พลอยถึงบ้าน จึงรีบทำการบ้านทันที เพราะไม่อยากนอนดึก เดี๋ยวไปโรงเรียนสายจะโดนทำโทษอีก
เมื่อพลอยทำการบ้านเสร็จ พลอยก็ดูหนังฟังเพลง อ่านพันทิป แชทกับเพื่อนตามประสาพลอย อย่างมีความสุข
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อาจารย์วิทยา จบปริญญาโทพุทธศาสตร์มหาบัณฑิต จากประเทศอินเดีย ก่อนหน้านี้อาจารย์วิทยาเคยจบเปรียญธรรม 9 ประโยค
อาจารย์เป็นผู้ที่มีความรู้ธรรมะ อ่านพระไตรปิฎกอย่างแตกฉาน ถามอะไรมารู้หมด อ่านภาษาบาลีสันสกฤต ได้ทุกคำ
เวลาว่างของอาจารย์ ก็จะเล่นเวปพันทิป หรือเวปศาสนา เพื่อสั่งสอนธรรมให้แก่ชาวโลก เนื่องจากตนเองเป็นผู้รู้ธรรม
วันหนึ่งมีคนตั้งกระทู้ในพันทิปว่า "อะไรคือสิ่งที่ไม่ควรพลาดในช่วงอายุ 30"
ความคิดเห็นที่ 1 ไปแดนซ์มั้ง เดี๋ยวแก่แล้วไม่ป๊อปน่ะ
ความคิดเห็นที่ 2 มีลูก มีเมียคับ
ความคิดเห็นที่ 3 นอกใจเมียครับ
ความคิดเห็นที่ 4 ต้องผ่านการเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม สักอย่าง เพราะต้องมีทั้งเวลา เงิน แรงเยอะๆ
ความคิดเห็นที่ 5 อาจารย์วิทยา ได้นำธรรมะอันสูงส่งที่ท่านรู้ธรรมมาตอบ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณคิดว่าเด็กหญิงพลอย กับอาจารย์วิทยา ใครรู้ธรรมะ และเข้าใจธรรมะมากกว่ากันครับ???????
จากกรณีดังกล่าวจะเห็นได้ว่า อาจารย์วิทยาจบเปรียญธรรม 9 ประโยค และจบธรรมะมาโดยตรง แต่เด็กหญิงพลอย ม.2
อายุ 14 ปี วุฒิภาวะยังน้อย อีกไม่พอศาสนาคริสต์อีกต่างหาก ย่อมตอบได้เลยว่า อาจารย์วิทยา รู้หลักธรรมะมากกว่าแน่นอน
แต่ใครล่ะครับ ที่จะสามารถเข้าใจธรรมะได้มากกว่ากันครับ???
ธรรมะในความเข้าใจของผมนะครับ ธรรมะคือธรรมชาติครับ การเข้าใจธรรมะ ก็คือการเข้าใจธรรมชาตินั่นเองครับ
มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม จะต้องดำเนินชีวิตประจำวัน ต้องเจอกับเหตุการณ์ต่างๆ มากมายครับ การที่ใครสักคนจะเข้าถึงธรรมะ
นั่นหมายความว่า บุคคลนั้นจะต้องรู้จักธรรมชาติของคน และเข้าใจธรรมชาติของสิ่งรอบตัว และสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป
ในกรณีของเด็กหญิงพลอย แม้จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าธรรมะคืออะไร แต่เด็กหญิงพลอยสามารถดำเนินชีวิต อย่างราบรื่น
มีความสุข และเข้าใจ สภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี เข้าใจความเป็นธรรมชาติ ทั้งคน สัตว์ และสิ่งของ มีวิธีจัดการความคิด
แล้วสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แบบนี้ จะเรียกว่าเด็กหญิงพลอยเข้าใจธรรมชาติ ซึ่งเป็นธรรมะได้หรือไม่
ในกรณีของอาจารย์วิทยา คุณจะพบเจอได้ไม่ยากครับ คุณลองไปอ่านห้องศาสนาครับ ซึ่งก็ไม่ต่างจากห้องราชดำเนินครับ
จะมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง(แค่กลุ่มเล็ก) ซึ่งรู้ธรรมะอย่างมากครับ นำธรรมะของพระพุทธเจ้า มาตอบมาถกเถียงกันอย่างบ้าคลั่ง
เถียงเพื่อเอาชนะ คุณคิดว่าการตอบคำถามของอาจารย์วิทยา เป็นการตอบคำถามที่มีสาระหรือไม่??? แน่นอนครับ
พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ย่อมสูงสุด หาสิ่งใดมาเปรียบไม่ได้ ย่อมเป็นสิ่งที่มีสาระอย่างยิ่งครับ
แต่อย่างไรก็ตามครับ ผู้ตอบนำสิ่งเหล่านี้ มาตอบ ในบริบทสังคม ที่เขาคุยกันเล่นๆ เครียดๆ ไม่ได้มีความรู้พระธรรมมากนัก
คุณคิดว่าคำตอบนั้นจะมีสาระหรือไม่ครับ การนำคำตอบดังกล่าวมาตอบแบบนี้ แม้จะมีสาระ แต่ก็ไม่ถูกกาละเทศะ
คำตอบนั้น ใช้ไม่ได้ และหาได้มีสาระเลยแม้แต่น้อยครับ ผู้อ่านเห็นแล้วก็จะข้ามไป ไม่อ่านเลยด้วยซ้ำครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อุทาหรณ์สอนใจนี้ มันสะท้อนสิ่งที่มาจากตัวของผู้เขียน คือ ตุ๊ดเวียงพิงค์ ได้เป็นอย่างดีครับ
ผมเคยศึกษาธรรมะอย่างหนัก เข้าปฏิบัติธรรมทุกสำนัก ที่เขาบอกว่าดีและเจ๋ง อย่างบ้าคลั่งและยึดติด
ครั้งหนึ่ง เคยหลงติดดี คิดว่าตัวเองสูงส่ง และคอยจับผิดทุกคนที่ประพฤติตัวอย่างไม่ถูกต้อง ชีวิตเป็นทุกข์มาก
เมื่อเริ่มปฏิบัติมากขึ้น ทำให้ผมรู้ได้ทันทีครับว่า ชีวิตผมไป "เพ่งโทษ" ผู้อื่นมากเกินไปครับ เพราะทั้งชีวิต
ดำรงไปด้วยการจับผิดคนอื่น และยึดติดว่าตัวเองเป็นคนดี ถือศีลกินเจ ไม่กินเนื้อสัตว์อีกด้วย
เมื่อปี พ.ศ.2550 ได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง ครูอาจารย์สั่งสอนให้ คิดบวกให้มาก จะช่วยได้
ตั้งแต่นั้นมา ผมก็พยายามคิดบวก ทำให้ผมได้ปรับทัศนคติ ในการดำเนินชีวิต ได้อย่างไม่เป็นทุกข์ทีเดียวครับ
เมื่อ "คิดบวก" มากขึ้นเรื่อยๆ ความคิดบวกของผมก็ติดเป็นนิสัยแล้วครับ ทุกอย่างในโลกมันสวยไปหมดครับ
ทำให้ผมกลายเป็นคนโลกสวยอย่างไร้เหตุผลครับ บางสิ่งที่มันแย่ๆ แต่ผมก็คิดบวก ให้เป็นเรื่องราวที่ดีครับ
อย่างเช่น น้องสาวผมโดนชิงทรัพย์ ผมก็โลกสวยครับ คิดไปว่า โชคดีจังที่น้องสาวบาดเจ็บนิดเดียว ฟาดเคราะห์
ไม่เสียชีวิตก็ดีแล้ว เงินทองเป็นของนอกกาย เขาเป็นเจ้ากรรมนายเวร พ้นเคราะห์ดีแล้ว สาธุ สาธุ สาธุ
ประกอบกับการเล่นพันทิป ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเวปโลกสวย อย่างใครๆ เขาว่า ทำให้ผมเป็นนักสิทธมนุษยชน
ปกป้องทุกสิ่งทุกอย่าง คน สัตว์ สิ่งของ โอโซน ชั้นบรรยากาศ มนุษย์ต่างดาว ไปถึงระบบสุริยจักรวาล
จนกระทั่ง จุดเปลี่ยนของชีวิต เมื่อตุ๊ดเวียงพิงค์ ได้ไปเป็นทหารเกณฑ์ แล้วไปเจอเรื่องต่างๆ มากมาย
ภาค 1
http://pantip.com/topic/31890517
ภาค 2
http://pantip.com/topic/31909398
ภาค 3.1
http://pantip.com/topic/31942664
ภาค 3.2
http://pantip.com/topic/31967273
สิ่งเหล่านี้ ทำให้ผมได้ค้นพบตัวเองว่า การคิดบวก หรือการคิดลบ เป็นการปรุงแต่งทั้งนั้นครับ ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้คิดบวก หรือคิดลบ แต่พระพุทธเจ้าสอนให้มองโลกอย่างความเป็นจริงที่เกิดขึ้นโดยปราศจากการปรุงแต่ง
ทำให้ผมได้เรียนรู้ และเข้าใจธรรมะ ว่าเราจะต้องดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่น เราจะต้องเข้าใจธรรมชาติ และความเป็นไปของสังคม
บางคนเรียนจบสูง แต่ไม่สามารถดำเนินชีวิตร่วมกับคนอื่นได้ เคยสังเกตบ้างไหม "อะไรเอ่ยไม่เข้าพวก" (ตรูนี่แหละ!!)
คุณลองปรับทัศนคติของคุณ แล้วสังเกตทั้งตัวเองและผู้อื่นบ้าง ว่าเขาดำเนินชีวิตกันอย่างไร อะไรดีอะไรไม่ดี
เดี๋ยวก็จะมีมาเถียงอีก ว่าถ้าสังคมมันแย่ เขาทุจริตกัน แล้วเราไม่ทำ เราก็ไม่เข้าพวก ไม่เป็นธรรมชาติสิครับ
อันนี้ก็ปล่อยเถียงไปครับ ไม่ตอบโต้ เพราะผิดชอบชั่วดี ทุกคนก็รู้กันหมด จะหาเรื่องมาหักล้าง มาบลั๊ฟ ก็ไม่ว่าครับ
ก็สรุปสั้นๆนะครับ ธรรมะของผม คือ ธรรมชาติ และการเข้าใจธรรมชาติ สิ่งรอบตัวเรา และปรับตัวเรียนรู้เข้ากับธรรมชาติ
อย่างมีความสุข และประกอบด้วยสิ่งที่เป็นความดีและถูกต้อง ไม่ใด้หมายถึงรู้หลักธรรม นั่งบริกรรมพุทโธ ยุบหนอ พองหนอ
ทำหน้าเคร่งเครียด แล้วนำมาใช้ในชีวิตประจำวันไม่ได้ ซึ่งการทำงาน เราจะต้องมีสิ่งต่างๆ เข้ามามากมาย ทั้งความคิด และการการทำ
บางครั้งเราจะต้องทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน เราจะต้องรู้ตัวและมีสติ ในทุกอิริยาบท และรู้ทันความคิดเสมอ ถึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
ปล.นี่เป็นเพียงทัศนะ เพียงด้านเดียวที่ผู้เขียนได้พบเจอ แล้วนำมาสิ่งต่างๆ มาใช้ในการดำเนินชีวิตปัจจุบัน
หากไม่ถูกต้อง หรือขัดแย้งก็ยินดีรับฟัง ยินดีแลกเปลี่ยน จะโต้แย้งแบบมีเหตุผลหรือไม่ ก็ไม่คัดค้านเพราะเป็นบอร์ดสาธารณะ
ผู้เขียนสิงสถิตย์อยู่ในเวปนี้มานาน จนเข้าใจธรรมชาติของเวปโลกสวยแล้ว ว่ามันก็เป็นเช่นนี้แล สาธุ สาธุ สาธุ
เรื่องเล่าของตุ๊ดมนุษย์เงินเดือน คุยแลกเปลี่ยนธรรมะนักเรียนนักศึกษาและมนุษย์เงินเดือน
ติดค้างเรื่องธรรมะไว้ วันนี้ขอคุยธรรมะง่ายๆ สไตล์ตุ๊ดเวียงพิงค์ ผิดถูกอย่างไรก็ขอคำชี้แนะด้วยนะครับ
ธรรมะคืออะไร จะรู้ธรรมะได้อย่างไร จะเข้าใจธรรมะจะต้องทำอย่างไร???
ผมเป็นปุถุชนคนหนึ่ง ไม่ได้มีความรู้มาก แต่ก็น้อมนำเอาธรรมะมาใช้ในการดำเนินชีวิต
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ หันทะทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว.. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า
..วะยะธัมมาสังขารา ..สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา..
อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ ท่านทั้งหลาย จงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด
..อะยัง ตะถาคะตัสสะ ปัจฉิมา วาจา ..นี่เป็นพระวาจาครั้งสุดท้าย ของเราตถาคต.. ”
อ่านข้อความข้อความนี้งงไหม บางคนอ่านแล้วงง บางคนอ่านไม่งง แต่ก็ไม่ได้พอใจที่จะอ่าน
บางคนเห็นแล้วก็กดกากบาทมุมขวามือข้างบนไปแล้ว พี่ตุ๊ดเวียงพิงค์เอาอะไรมาสอนหนูนี่ หนูงง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เด็กหญิงพลอย ศาสนาคริสต์ อยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร วันนี้พลอยตื่นสาย เพราะเมื่อคนนอนดึก
พลอยตื่นมา 6.30 น. พลอยรู้สึกโมโหมากที่แม่ไม่ยอมปลุก แต่พลอยก็นึกขึ้นได้ว่าที่พลอยตื่นสายก็เพราะเมื่อคืน
พลอยทำโครงงานวิทยาศาสตร์จนดึก แล้วก็ไม่ได้บอกแม่ให้ปลุก ดังนั้น พลอยผิดเอง ไม่ใช่ความผิดของแม่
เมื่อพลอยคิดได้เช่นนี้ สิ่งที่พลอยจะต้องทำตอนนี้คือ อาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบไปขึ้นรถเมล์ ไปโรงเรียนให้เร็วที่สุด
เมื่อพลอยถึงป้ายรถเมล์ พลอยนึกขึ้นได้ว่า ลืมโครงงานไว้ที่บ้าน พลอยจะทำอย่างไรดี ตอนนี้ 7.15 น. แล้ว
ทันใดนั้นพลอยเห็นรถเมล์ สาย 26 ที่รอมา 15 นาทีแล้ว พลอยต้องตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกทิ้งโครงงานแล้วขึ้นรถ
หรือกลับไปเอาโครงงานที่บ้าน แต่ไปโรงเรียนสาย และแล้วพลอยก็ตัดสินใจ วิ่งกลับไปเอาโครงการที่บ้าน
แล้วเลือกไปโรงเรียนสาย แม้จะถูกทำโทษก็ยังดีกว่า ไม่ได้พรีเซนท์โครงงานวิทย์ ซึ่งสำคัญกว่า
พลอยเข้าบ้านไปเอาโครงงาน โดนแม่ด่า พลอยก็หงุดหงิด พลอยไปขอเงินแม่เพิ่มเพราะจะต้องนั่งวินมอเตอร์ไซด์
ไม่งั้นพลอยไม่ทันเข้าแถวแน่ๆ แม่ให้เงินพลอย แล้วบ่นไปด้วย แม้พลอยรู้สึกเซ็งแต่พลอยก็เข้าใจเพราะพลอยสะเพร่าเอง
เมื่อพลอยไปถึงโรงเรียน เพื่อนๆ เข้าแถวกันหมดแล้ว ทันใดนั้นครูฝ่ายปกครองจับพลอยไปเข้าแถวกับเพื่อนหน้าเสาธง
เรียงหน้ากระดาน ประจานนักเรียนที่มาโรงเรียนสาย พลอยอายมากๆ แทบจะร้องไห้ พลอยก้มหน้าก้มตารอให้เวลามันผ่านไป
พลอยเข้าห้องเรียน เพื่อนชื่อใหม่ ซึ่งพลอยรู้ดีว่าไม่ค่อยชอบพลอยเดินเข้ามาทักทาย ด้วยทีท่าและหน้าตาเยาะเย้ย
"อีพลอย เมื่อคืนเมิงคงคุยกับผัวจนดึกสิท่า เลยมาโรงเรียนสาย ผัวเมิงหล่อไหม ขอดูรูปผัวเมิงหน่อย" ใหม่พูดแล้วหัวเราะ
พลอยโมโห แต่บอกใหม่ไปว่า เมื่อคืนเราทำโครงงานจนดึกเลยตื่นสาย พลอยไม่อยากทะเลาะกับใหม่เพราะเข้าใจใหม่ดี
ใหม่เป็นคนปากเสีย ชอบนินทา เมื่อเดือนก่อนใหม่โดนรุ่นพี่ ม.5 ดักตบที่หน้าโรงเรียน พลอยจึงเข้าใจว่าใหม่เป็นคนอย่างไร
เมื่อถึงชั่วโมงวิทยาศาสตร์ ต้องพรีเซนท์งานโดยเลือกจากตัวแทนกลุ่ม เพื่อนๆ ก็ต่างเกี่ยงกัน ไม่มีใครอยากออกไป
พลอยเข้าใจ เพราะพลอยก็ไม่อยากออกเป็นคนแรกเหมือนกัน เพื่อนๆ ก็คงมีความรู้สึกไม่ต่างจากพลอย แต่ก็คิดเสียว่า
เป็นการผลักให้ตัวเองได้กล้าแสดงออก พลอยจึงเป็นตัวแทนของกลุ่ม เป็นเป็นคนแรกของการนำเสนอผลงาน
พลอยนำเสนอได้ดีมาก ตอบคำถามครูได้ แต่ครูให้คะแนนแค่ 8 คะแนน พลอยก็ไม่ได้เสียใจ เพราะมันคือคะแนนมาตรฐาน
พักเที่ยงพลอยไปกินข้าวกับเพื่อนอีก 3 คน เป็น 4 คน แต่โรงอาหารไม่ว่าง เพราะเต็มไปด้วยของใช้ที่เอามาจองโต๊ะไว้
เหลือที่นั่ง 3 ที่ เพื่อน 3 คนนั่งกันหมดแล้ว พลอยซื้อข้าวช้าสุด พลอยไม่โกรธเพื่อน ไม่น้อยใจเพราะเข้าใจว่าตอนเที่ยง
หาที่นั่งลำบาก พลอยจึงไปขอนั่งกับเพื่อนอีกห้อง และทำความรู้จักกัน ทำให้พลอยได้เพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกหนึ่งคน
ตอนเย็นพลอยกลับบ้าน พลอยขึ้นรถเมล์ช้า ทำให้พลอยไม่มีที่นั่ง แม้คนที่นั่งจะเป็นผู้ชายไม่ยอมลุกให้แต่พลอยก็เข้าใจ
ว่าเวลาหลังเลิกงาน เขาอาจจะเหนื่อย จะล้าจากการทำงาน ก็ยืนไปรอให้คนลุกแล้วจึงเข้าไปนั่งต่อจากคนเดิม
พลอยถึงบ้าน จึงรีบทำการบ้านทันที เพราะไม่อยากนอนดึก เดี๋ยวไปโรงเรียนสายจะโดนทำโทษอีก
เมื่อพลอยทำการบ้านเสร็จ พลอยก็ดูหนังฟังเพลง อ่านพันทิป แชทกับเพื่อนตามประสาพลอย อย่างมีความสุข
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อาจารย์วิทยา จบปริญญาโทพุทธศาสตร์มหาบัณฑิต จากประเทศอินเดีย ก่อนหน้านี้อาจารย์วิทยาเคยจบเปรียญธรรม 9 ประโยค
อาจารย์เป็นผู้ที่มีความรู้ธรรมะ อ่านพระไตรปิฎกอย่างแตกฉาน ถามอะไรมารู้หมด อ่านภาษาบาลีสันสกฤต ได้ทุกคำ
เวลาว่างของอาจารย์ ก็จะเล่นเวปพันทิป หรือเวปศาสนา เพื่อสั่งสอนธรรมให้แก่ชาวโลก เนื่องจากตนเองเป็นผู้รู้ธรรม
วันหนึ่งมีคนตั้งกระทู้ในพันทิปว่า "อะไรคือสิ่งที่ไม่ควรพลาดในช่วงอายุ 30"
ความคิดเห็นที่ 1 ไปแดนซ์มั้ง เดี๋ยวแก่แล้วไม่ป๊อปน่ะ
ความคิดเห็นที่ 2 มีลูก มีเมียคับ
ความคิดเห็นที่ 3 นอกใจเมียครับ
ความคิดเห็นที่ 4 ต้องผ่านการเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม สักอย่าง เพราะต้องมีทั้งเวลา เงิน แรงเยอะๆ
ความคิดเห็นที่ 5 อาจารย์วิทยา ได้นำธรรมะอันสูงส่งที่ท่านรู้ธรรมมาตอบ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณคิดว่าเด็กหญิงพลอย กับอาจารย์วิทยา ใครรู้ธรรมะ และเข้าใจธรรมะมากกว่ากันครับ???????
จากกรณีดังกล่าวจะเห็นได้ว่า อาจารย์วิทยาจบเปรียญธรรม 9 ประโยค และจบธรรมะมาโดยตรง แต่เด็กหญิงพลอย ม.2
อายุ 14 ปี วุฒิภาวะยังน้อย อีกไม่พอศาสนาคริสต์อีกต่างหาก ย่อมตอบได้เลยว่า อาจารย์วิทยา รู้หลักธรรมะมากกว่าแน่นอน
แต่ใครล่ะครับ ที่จะสามารถเข้าใจธรรมะได้มากกว่ากันครับ???
ธรรมะในความเข้าใจของผมนะครับ ธรรมะคือธรรมชาติครับ การเข้าใจธรรมะ ก็คือการเข้าใจธรรมชาตินั่นเองครับ
มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม จะต้องดำเนินชีวิตประจำวัน ต้องเจอกับเหตุการณ์ต่างๆ มากมายครับ การที่ใครสักคนจะเข้าถึงธรรมะ
นั่นหมายความว่า บุคคลนั้นจะต้องรู้จักธรรมชาติของคน และเข้าใจธรรมชาติของสิ่งรอบตัว และสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป
ในกรณีของเด็กหญิงพลอย แม้จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าธรรมะคืออะไร แต่เด็กหญิงพลอยสามารถดำเนินชีวิต อย่างราบรื่น
มีความสุข และเข้าใจ สภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี เข้าใจความเป็นธรรมชาติ ทั้งคน สัตว์ และสิ่งของ มีวิธีจัดการความคิด
แล้วสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แบบนี้ จะเรียกว่าเด็กหญิงพลอยเข้าใจธรรมชาติ ซึ่งเป็นธรรมะได้หรือไม่
ในกรณีของอาจารย์วิทยา คุณจะพบเจอได้ไม่ยากครับ คุณลองไปอ่านห้องศาสนาครับ ซึ่งก็ไม่ต่างจากห้องราชดำเนินครับ
จะมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง(แค่กลุ่มเล็ก) ซึ่งรู้ธรรมะอย่างมากครับ นำธรรมะของพระพุทธเจ้า มาตอบมาถกเถียงกันอย่างบ้าคลั่ง
เถียงเพื่อเอาชนะ คุณคิดว่าการตอบคำถามของอาจารย์วิทยา เป็นการตอบคำถามที่มีสาระหรือไม่??? แน่นอนครับ
พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ย่อมสูงสุด หาสิ่งใดมาเปรียบไม่ได้ ย่อมเป็นสิ่งที่มีสาระอย่างยิ่งครับ
แต่อย่างไรก็ตามครับ ผู้ตอบนำสิ่งเหล่านี้ มาตอบ ในบริบทสังคม ที่เขาคุยกันเล่นๆ เครียดๆ ไม่ได้มีความรู้พระธรรมมากนัก
คุณคิดว่าคำตอบนั้นจะมีสาระหรือไม่ครับ การนำคำตอบดังกล่าวมาตอบแบบนี้ แม้จะมีสาระ แต่ก็ไม่ถูกกาละเทศะ
คำตอบนั้น ใช้ไม่ได้ และหาได้มีสาระเลยแม้แต่น้อยครับ ผู้อ่านเห็นแล้วก็จะข้ามไป ไม่อ่านเลยด้วยซ้ำครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อุทาหรณ์สอนใจนี้ มันสะท้อนสิ่งที่มาจากตัวของผู้เขียน คือ ตุ๊ดเวียงพิงค์ ได้เป็นอย่างดีครับ
ผมเคยศึกษาธรรมะอย่างหนัก เข้าปฏิบัติธรรมทุกสำนัก ที่เขาบอกว่าดีและเจ๋ง อย่างบ้าคลั่งและยึดติด
ครั้งหนึ่ง เคยหลงติดดี คิดว่าตัวเองสูงส่ง และคอยจับผิดทุกคนที่ประพฤติตัวอย่างไม่ถูกต้อง ชีวิตเป็นทุกข์มาก
เมื่อเริ่มปฏิบัติมากขึ้น ทำให้ผมรู้ได้ทันทีครับว่า ชีวิตผมไป "เพ่งโทษ" ผู้อื่นมากเกินไปครับ เพราะทั้งชีวิต
ดำรงไปด้วยการจับผิดคนอื่น และยึดติดว่าตัวเองเป็นคนดี ถือศีลกินเจ ไม่กินเนื้อสัตว์อีกด้วย
เมื่อปี พ.ศ.2550 ได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง ครูอาจารย์สั่งสอนให้ คิดบวกให้มาก จะช่วยได้
ตั้งแต่นั้นมา ผมก็พยายามคิดบวก ทำให้ผมได้ปรับทัศนคติ ในการดำเนินชีวิต ได้อย่างไม่เป็นทุกข์ทีเดียวครับ
เมื่อ "คิดบวก" มากขึ้นเรื่อยๆ ความคิดบวกของผมก็ติดเป็นนิสัยแล้วครับ ทุกอย่างในโลกมันสวยไปหมดครับ
ทำให้ผมกลายเป็นคนโลกสวยอย่างไร้เหตุผลครับ บางสิ่งที่มันแย่ๆ แต่ผมก็คิดบวก ให้เป็นเรื่องราวที่ดีครับ
อย่างเช่น น้องสาวผมโดนชิงทรัพย์ ผมก็โลกสวยครับ คิดไปว่า โชคดีจังที่น้องสาวบาดเจ็บนิดเดียว ฟาดเคราะห์
ไม่เสียชีวิตก็ดีแล้ว เงินทองเป็นของนอกกาย เขาเป็นเจ้ากรรมนายเวร พ้นเคราะห์ดีแล้ว สาธุ สาธุ สาธุ
ประกอบกับการเล่นพันทิป ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเวปโลกสวย อย่างใครๆ เขาว่า ทำให้ผมเป็นนักสิทธมนุษยชน
ปกป้องทุกสิ่งทุกอย่าง คน สัตว์ สิ่งของ โอโซน ชั้นบรรยากาศ มนุษย์ต่างดาว ไปถึงระบบสุริยจักรวาล
จนกระทั่ง จุดเปลี่ยนของชีวิต เมื่อตุ๊ดเวียงพิงค์ ได้ไปเป็นทหารเกณฑ์ แล้วไปเจอเรื่องต่างๆ มากมาย
ภาค 1 http://pantip.com/topic/31890517
ภาค 2 http://pantip.com/topic/31909398
ภาค 3.1 http://pantip.com/topic/31942664
ภาค 3.2 http://pantip.com/topic/31967273
สิ่งเหล่านี้ ทำให้ผมได้ค้นพบตัวเองว่า การคิดบวก หรือการคิดลบ เป็นการปรุงแต่งทั้งนั้นครับ ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้คิดบวก หรือคิดลบ แต่พระพุทธเจ้าสอนให้มองโลกอย่างความเป็นจริงที่เกิดขึ้นโดยปราศจากการปรุงแต่ง
ทำให้ผมได้เรียนรู้ และเข้าใจธรรมะ ว่าเราจะต้องดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่น เราจะต้องเข้าใจธรรมชาติ และความเป็นไปของสังคม
บางคนเรียนจบสูง แต่ไม่สามารถดำเนินชีวิตร่วมกับคนอื่นได้ เคยสังเกตบ้างไหม "อะไรเอ่ยไม่เข้าพวก" (ตรูนี่แหละ!!)
คุณลองปรับทัศนคติของคุณ แล้วสังเกตทั้งตัวเองและผู้อื่นบ้าง ว่าเขาดำเนินชีวิตกันอย่างไร อะไรดีอะไรไม่ดี
เดี๋ยวก็จะมีมาเถียงอีก ว่าถ้าสังคมมันแย่ เขาทุจริตกัน แล้วเราไม่ทำ เราก็ไม่เข้าพวก ไม่เป็นธรรมชาติสิครับ
อันนี้ก็ปล่อยเถียงไปครับ ไม่ตอบโต้ เพราะผิดชอบชั่วดี ทุกคนก็รู้กันหมด จะหาเรื่องมาหักล้าง มาบลั๊ฟ ก็ไม่ว่าครับ
ก็สรุปสั้นๆนะครับ ธรรมะของผม คือ ธรรมชาติ และการเข้าใจธรรมชาติ สิ่งรอบตัวเรา และปรับตัวเรียนรู้เข้ากับธรรมชาติ
อย่างมีความสุข และประกอบด้วยสิ่งที่เป็นความดีและถูกต้อง ไม่ใด้หมายถึงรู้หลักธรรม นั่งบริกรรมพุทโธ ยุบหนอ พองหนอ
ทำหน้าเคร่งเครียด แล้วนำมาใช้ในชีวิตประจำวันไม่ได้ ซึ่งการทำงาน เราจะต้องมีสิ่งต่างๆ เข้ามามากมาย ทั้งความคิด และการการทำ
บางครั้งเราจะต้องทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน เราจะต้องรู้ตัวและมีสติ ในทุกอิริยาบท และรู้ทันความคิดเสมอ ถึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
ปล.นี่เป็นเพียงทัศนะ เพียงด้านเดียวที่ผู้เขียนได้พบเจอ แล้วนำมาสิ่งต่างๆ มาใช้ในการดำเนินชีวิตปัจจุบัน
หากไม่ถูกต้อง หรือขัดแย้งก็ยินดีรับฟัง ยินดีแลกเปลี่ยน จะโต้แย้งแบบมีเหตุผลหรือไม่ ก็ไม่คัดค้านเพราะเป็นบอร์ดสาธารณะ
ผู้เขียนสิงสถิตย์อยู่ในเวปนี้มานาน จนเข้าใจธรรมชาติของเวปโลกสวยแล้ว ว่ามันก็เป็นเช่นนี้แล สาธุ สาธุ สาธุ