ความรู้สึกของคนที่ร่วมสู้มาตั้งแต่หลังรัฐประหารปี49

เนื่องจากผมเขียนไม่เก่ง ยาวหน่อย อ่านแล้วอาจจะงงหรือสงสัยก็ถามมาได้

ขอเล่าเกริ่นประวัติส่วนตัวเล็กน้อย ผมติดตามการเมืองมาตั้งแต่สมัยพันธมิตรปี48 พอมีรัฐประหาร19กย49 ก็เข้าไปร่วมชุมนุมกลุ่ม19กย(บก.ลายจุด) ในธรรมศาสตร์ ต่อมาก็กลุ่มตนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ลากยาวจนมาถึง แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก) หลังจากเลือกตั้งปี50 เราได้เป็นรัฐบาล ผมก็เว้นวรรคไม่ได้ร่วมกิจกรรมเท่าใดนั้น ปลายปี51ก็ได้ร่วมงานกับทางพรรคเพื่อไทย ในตอนที่แซม ยุรนันท์ ลงสมัครผู้ว่ากทม. ถ้าจำเหตุการณ์ช่วงนั้นกันได้ก็คือหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค.พลังประชาชนและเป็นตอนที่กำลังจะเลือกนายกคนใหม่ ซึ่งผลก็ปรากฏว่าเราแพ้เพราะเนวินแยกกลุ่มออกไปและรวมถึงพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ไปร่วมกับพรรคปชป.เพราะสนั่นได้รับโทรศัพท์ลึกลับ เหตุนี้จึงนำไปสู่เหตุการณ์ปี52,53 ในปี52ผมไม่ได้ออกไปร่วมชุนนุมเท่าใดนัก แต่ปี53เป็นการชุมนุมที่ผมจะไม่ลืมไปตลอดชีวิต

เหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้น ทั้งที่เห็นเองและเห็นผ่านทีวีและอินเตอร์เน็ต เบื้องหลังของเหตุการณ์ต่างๆที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยทราบ รวมถึงการสืบหาหลักฐานว่าทหารคนไหนยิงประชาชน ซึ่งหลักฐานที่รวบรวมได้ในขนาดนั้นสามารถสืบได้ถึงตัวทหารผู้ยิง วสันต์ ภู่ทอง และ สยาม วัฒนนุกูล ที่ถูกยิงเสียชีวิตหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ถ้าจำกันได้หลักฐานที่ว่านี้ก็คือ คลิป2คลิป คลิปแรกคือคลิปที่วสันต์ ภู่ทองถูกยิง เมื่อได้ดูจากไฟล์ต้นฉบับจะเห็นได้ว่า สยาม วัฒนนุกูล ที่อยู่ข้างๆก็ถูกยิง ล้มในเวลาแทบจะพร้อมกัน คลิปที่2คลิปที่ถ่ายจากมุมทหาร ซึ่งจากทั้ง2คลิปนี้ สามารถสาวถึงทหารผู้ยิงในจังหวะนี้ได้เลย ผมก็ได้รวบรวมหลักฐานเท่าที่หาได้ทั้งหมดมอบให้กับหลายคนไป แต่ไม่มีความคืบหน้าเท่าใดนัก ต่อมาศาลได้สั่งฟ้องคดีการตายของทั้ง2คน โดยไม่ทราบผุ้ยิง  ผมยังจำน้ำตาของญาติผู้ตายที่ร้องไห้ต่อหน้าผมได้ ผมผิคหวัง รู้สึกว่าหลักฐานที่รวบรวมไปให้ทั้งหมดไม่ได้นำมาใช้เลย คงเพราะผมตามเรื่องนี้จนถึงช่วงปลายปี53ไม่เห็นความคืบหน้าจึงลามือไป บวกกับไม่เชื่อมั่นในศาล

เรื่องของพายัพพาคนบุกเข้าไป โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  เนื่องจากมีทหารอยู่ข้างใน  หลังเกิดเหตุ ผมสอบถามผู้ที่เป็นคนแจ้งไปที่เวทีเรื่องทหารในรพ. ก็ได้ความว่า "เห็นทหารอยู่ในรพ.จึงแจ้งไปที่หลังเวทีตั้งแต่2-3วันก่อน แจ้งแล้วก็เงียบ" นี่เป็นตัวอย่างความผิคพลาดของการประสานงานและการตัดสินใจอย่างรุนแรงถ้าผมเป็นพายัพผมจะส่งคนไปสอดแนมในรพ.สัก2-3คนก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ ใครเคยร่วมงานหลังเวทีจะรู้ว่ามันมั่วขนาดไหน ถึงแม้แกนนำบางท่านอาจจะบอกว่าไม่สามารถชี้นิ้วสั่งประชาชนที่อาสามาทำงานได้ก็ตาม

พวกเรามักจะรู้และคาดการณ์เหตุการณ์ข้างหน้าได้แม่นยำ อย่างเช่นตอนนี้เราคาดไว้ว่า ศาลรธน.จะต้องปลดยิ่งลักษณ์ กรณีถวิล เปลี่ยนศรี และ วุฒิสภา จะเอานายกคนกลาง ขึ้นทูลเกล้า เหตุการณ์เกิดขึ้นตามที่พวกเราคาดไว้ สิ่งที่พวกเราทำอยู่ตอนนี้ล่ะ? ชุมนุมที่ถ.อักษะ วันที่10พค. ซึ่งไม่สามารถขัดขวางเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้เลย แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราเลือกทำอีกอย่าง เช่นคาดอยู่แล้วว่าจะเกิดแบบนี้ รู้แล้วว่าศาลรธน.จะรีบปลดยิ่งลักษณ์ ก็ควรจะตัดสินใจหาทางสกัดแผนการณ์ของศัตรู ถึงแม้จะขวางศาล.รธน ไม่ได้ แต่เราน่าจะขวางการเลือกประธานวุฒิสภาได้ เหตุการณ์ในวันนี้ควรเป็นพวกเราไปชุมนุมที่รัฐสภาแต่กลับเป็นเทพเทือก แม้บางคนมองว่าเสี่ยงสูงที่ต้องปะทะกับคปท. แต่ในความเสี่ยงสูงนี้ถ้าบริหารดีๆก็มีผลตอบแทนคุ้มค่าให้แน่นอน

จุดเด่นของพวกเราคือรู้เยอะ รู้มาก บางคนรู้มากเกิน และคาดเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ค่อนข้างแม่นยำ
จุดอ่อนคือมักสกัดแผนศัตรูไม่ได้

ตั้งแต่ปี49 ชัยชนะบนท้องถนนของพวกเราใน10ปีที่ผ่านมามีน้อยมาก เหตุการณ์ที่พวกเราทำให้ศัตรูพลาดท่า ดูเหมือนจะมีเหตุเดียวคือ มือปืนป๊อปคอร์น  ที่เราสามารถล่อพวกมันออกมาได้ เหตุการณ์นี้อยากให้ทุกคนศึกษากันดีๆ  อยากได้ชัยชนะบนท้องถนนต้องปรับกลยุทธ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่