
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ
วันนี้เราจะขอมาแบ่งปันประสบการณ์อันน้อยนิดของเราในการท่องเที่ยวใน นครวัด และเมืองเสียมราฐนะคะ
อันที่จริงก่อนหน้าที่จะไปเที่ยวเองในครั้งนี้ เราเคยไปเที่ยวนครวัดแบบทัวร์มาก่อนประมาณปี 2002
สมัยที่ยังต้องขอวีซ่าเข้าประเทศกัมพูชา นั่งรถทัวร์ไปตั้งหลายชั่วโมงค่ะ ฝุ่นดินแดงเต็มถนน
น้ำขังเป็นหย่อมๆกว่าจะถึง ลำบากมากกก ราคาทัวร์ประมาณ 6-7 พันบาท เราจำไม่ค่อยได้
แต่เราก็ประทับใจมากในครั้งแรกที่ได้ไป และไม่น่าเชื่อว่าครั้งนี้ที่เราไปเที่ยวเองแบบง่อยๆของเรา
ความประทับใจนั้นยังคงอยู่ไม่ได้หายไปกับกาลเวลาเลยค่ะ
เราขออุทิศกระทู้นี้ให้ผู้สนับสนุนใหญ่ในการท่องเที่ยวของเรา (ใช้คำนี้ได้รึเปล่านะ บุคคลนั้นยังไม่ตายนะคะ)
คือ คุณปลาทู (แฟนของเราเองค่ะ เขิงจุง...

อยากประกาศให้โลกรู้ว่าแม้ไม่สวยรวยเก่ง แต่ชั้นก็มีแฟน)
เอ๊ะ อย่างนี้ต้องเปลี่ยนเป็น SR รึเปล่าคะ เราไปฟรีไม่เสียตัว เอ๊ย ! เสียตังค์เลยซักบาท 5 5 5
เนื่องจากเราและแฟนชอบท่องเที่ยวค่ะ และคลังข้อมูลของเราก็อยู่ในห้องนี้เสมอๆ
เลยอยากขอบคุณเพื่อนๆที่คอยแชร์และอัพเดทข้อมูลต่างๆนะคะ
เราเข้ามาแล้วก็จากไป แฟนเราเลยอยากจะทำรีวิวเป็นการขอบคุณเพื่อนๆทุกคนในนี้
แม้ข้อมูลของเราไม่ค่อยจะมีประโยชน์หรือเนื้อหาสาระเท่าไหร่
แต่ก็ขอสร้างกระทู้รีวิวในห้องนี้ให้แฟนได้ภูมิใจหน่อยนะคะว่ามีรีวิวกะเค้าหมือนกัน
เห็นตั้งใจถ่ายภาพมาซะเหลือเกิน จะลงนู่นลงนี่ กองให้หลายร้อยรูป (เค้ารู้จัก เค้าเห็นมุมนี้กันหมดแล้วนะตัวเธอ)
แต่ก็ถือว่าเป็นอีกมุมมองหนึ่งจากเราละกันนะคะ
เริ่มจากค่าใช้จ่ายตั้งต้นได้แก่
ค่าตั๋วเครื่องบิน ดอนเมือง-เสียมราฐ-ดอนเมือง สายการบิน Airasia ราคา 4,486 บาท (ราคา 2,243 บาท/คน)
ตั๋วเครื่องบินราคานี้เราได้มาเป็นราคาเปิดตัวของเส้นทางนี้ค่ะ ราคาไม่ได้ถูกเหมือนเส้นทางอื่นๆแต่เราก็รับได้ค่ะ
เนื่องจากจำการเดินทางอันทรหดในสมัยเด็กได้เลยยอมจ่ายค่ะ
สำหรับที่พักมีให้เลือกมากมายเลยค่ะ เราพยายามเรื่องโรงแรมราคาประหยัดและดูแนวๆหน่อยค่ะ
ลองหาข้อมูลเช็คราคาจากหลายๆเวปแล้วไปลงตัวกับ Reflections Art Boutique Hotel โดยจองผ่าน Agoda ค่ะ
ราคานี้รวมอาหารเช้า และรถรับส่งจากโรงแรม-สนามบินแล้วค่ะ ราคา 1,840.14 บาท สำหรับ 2 คืน (คืนละไม่ถึงพันบาทเลย)
ค่าใช้จ่ายบางส่วนถูกจ่ายออกไปแล้ว ก็เหลือหาข้อมูลจากห้องบลูว่า เรื่องการเดินทาง และแผนการท่องเที่ยว
เราหาข้อมูลมาได้ว่าการเหมารถรับจ้างสำหรับไปเที่ยวนครวัด-นครธม อยู่ที่ราคาประมาณ 15-20$/วัน
และค่าเข้านครวัด ตั๋ว 1 วันราคา 20$/คน
ดูๆเรื่องค่าใช้จ่ายหลักๆก็มีเท่านี้เราเลยแลกเงินไปคนละประมาณ 100$ ค่ะ (ใช้ได้เหลือเฟือเลย)
อ้อ เราแพลนเส้นทางสำหรับนครวัดไปโดยดูรูปและอ่านเรื่องราวจากหนังสือเล่มนี้ค่ะ
ตัดสินใจง่ายดีว่าอันไหนน่าไป อันไหนไม่น่าไปก็ผ่านค่ะ
(แต่สรุปสุดท้ายไม่เป็นไปตามแพลนเลยเพราะมัวแต่เดินชิล เอ้อระเหย เสพหินกันอย่างเต็มพิกัด เลยไม่ค่อยได้ไปไหนเลย แหะ แหะ)
เรามาเริ่มการเดินทางกันเลยนะคะ พอถึงสนามบินก็ผ่าน ตม. ออกมาได้เลย
ตอนแรกเดินตามฝรั่งไปแบบงงๆค่ะ เพราะประชากรส่วนใหญ่ในเครื่องเป็นชาวต่างชาติ ลงมาก็เดินตามๆเค้าไป
ปรากฎว่า ฝรั่งไปต่อแถวขอวีซ่ากันค่ะ คนไทยยืนงงเล็กน้อยก่อนจะมีเจ้าหน้าที่มาบอกว่าคนไทยไป ตม. ได้เลยไม่ต้องมาต่อคิวตรงนี้
แอบภาคภูมิใจเล็กๆว่าข้าไม่ต้องใช้วีซ่าเหมือนพวกเองเว้ยเห้ย หุหุ
สนามบินที่นี่เป็นอาคารเล็กๆชั้นเดียวแต่ก็ดูทันสมัยอยู่นะคะ เข้าไปผ่าน ตม. รับกระเป๋า (เราไม่ได้โหลดค่ะ)
แล้วก็ออกมารอรถที่จะมารับด้านนอกได้เลยค่ะ
แต่ขอเราโชคร้ายเล็กน้อย เนื่องจากรอรถที่จะมารับนานมากค่ะ จนสงสัยว่าเค้าจำเวลาเราผิดรึเปล่า
โชคดีที่เปิดโรมมิ่งมา โทรไปโรงแรมซิ... ใช่เลยค่ะ จดเวลาเครื่องลงของเราผิด
ที่ว่าโชคร้ายเล็กน้อยก็เพราะว่า ยังมีคนเป็นแบบเราค่ะ ฝรั่งข้างๆมาคนเดียว ยืนรอนานเหมือนกัน
ขนาดรถเรามาแล้ว รถเค้ายังไม่มาเลยค่ะ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ควรคอนเฟิร์มเวลากับโรงแรมให้ดีก่อนนะคะ
ควรใช้การโทรคุยกับโรงแรมโดยตรงค่ะ เราใช้วิธีส่งเมล์ปรากฎว่าเค้าไม่ได้เปิดดู
อาจเป็นเพราะโรงแรมเล็กๆ การจัดการยังไม่ดีเท่าที่ควร
และรถที่มารับเรา แทนที่จะเอารถเข้ามารับเราในสนามบินนะคะ ดั้นเอารถไปจอดไว้ข้างนอก
พาเราลากกระเป๋าเดินไปซะอย่างนั้น แต่ก็ไม่ว่าอะไรค่ะ เพราะเหมือนว่าการที่เอารถเข้ามาต้องเสียค่าที่จอด
อาจเป็นต้นทุนที่เค้าไม่อยากเสีย เราก็หยวนๆค่ะ เพราะค่ารถค่าที่พักก็ถูกจะแย่ละเนอะ
แต่สำหรับเพื่อนๆที่ไม่ได้มีรถรับ-ส่งฟรีจากโรงแรม ที่สนามบินก็มีบริการนะคะ ราคาประมาณ 3$ ไปโซนในเมืองค่ะ
ไกลใช้ได้เลยนะคะ สำหรับการนั่งรถตุ๊กตุ๊ก (ไม่รู้ว่าคนทางนู้นเค้าเรียกอะไรนะคะ) เราว่าไม่แพงเลยค่ะ
พอมาถึงที่รถคนขับรถก็แนะนำตัวเลยค่ะ เป็น "ภาษาอังกฤษ" อย่างคล่องแคล่วปรืดปร๊าด
จนเราตกใจในทักษะภาษาของเค้า ซึ่งดูสวนทางกับหน้าตามาก ซึ่งเราก็เป็นคนไทยคนนึงที่ยังแอบไม่เชื่อว่า
เฮ้ย..ประเทศเพื่อนบ้านน่าจะด้อยกว่าเราน่า แต่ทริปนี้เปลี่ยนความคิดเราไปอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ
เราก็ถามเค้าไปเป็นภาษอังกฤษง่อยๆสไตล์เราบ้างว่าเค้าพูดภาษาไทยได้มั้ย ปรากฏว่าได้ค่ะ โอ้แม่เจ้า...
ตุ๊กตุ๊กทำเราช๊อคก๊อก 2 ค่ะ ปรากฎว่าคุยไปคุยมา เค้าไม่ใช่พนักงานของโรงแรมนะคะ เป็นคนรับจ้างขับรถตุ๊กตุ๊กค่ะ
เค้าสอบถามเราว่า เราแพลนการท่องเที่ยวมารึยัง มีแพลนอะไรบ้าง เราก็เล่าคร่าวๆว่า
วันนี้ (วันที่ 1) เราจะไปซื้อตั๋วเข้านครวัดสำหรับวันพรุ่งนี้ในช่วงเย็นวันนี้ค่ะ เนื่องจากนครวัดจะเปิดให้เข้าฟรีหลัง 4-5 โมงเย็นนี่แหละค่ะ
ซึ่งเราไม่ค่อยแน่ใจในเวลานัก เราจะไปชมพระอาทิตย์ตกที่พนมบาเค็งค่ะ แล้วจากนั้นจะไปทานอาหารเย็นที่ถนนคนเดิน
คนขับรถก็แนะนำเราว่า ถ้าจะไปพนมบาเคง เราควรไปเร็วหน่อยเพราะพนมบาเค็งปิดให้ขึ้นเวลาประมาณ 5 โมงเพราะกลัวว่าจะมืด
ระหว่างทางนักท่องเที่ยวอาจเป็นอันตรายได้ และกลับมาค่อยไปหาอะไรกินที่ถนนคนเดิน ไม่เหนื่อยมาก เค้าว่าโปรแกรมเราโอเค
แล้วเค้าก็ถามถึงโปรแกรมวันที่ 2 ของเราค่ะ (นี่นั่งคุยกันบนรถมาซักพักละนะคะ ยังไม่ได้ออกรถเลย)
เราก็บอกไปว่าเราอาจจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ นครวัด และไปเที่ยวปราสาทบริวารรอบๆ และปิดท้ายพระอาทิตย์ตกดินที่นครวัดอีกครั้ง
เค้าก็ถามเราถึงเส้นทาง ว่าไปโตนเลสาปรึเปล่า หรือพนมกุเลน/กบาลสเปียนมั้ย เราก็บอกว่าเราไม่อยากไปหลายที่ อยากอยู่แต่ละที่นานๆ
เค้าก็ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับเรา และคอยแนะนำสถานที่ต่างๆ เนื่องจากเราถือหนังสือเล่มข้างบนติดตัวไปด้วยค่ะ
เราแอบคิดในใจว่า.....สงสัยอยากจะล๊อบบี้ชั้นให้จ้างเธอรึเปล่ายะ ถามเยอะขนาดนี้ แนะนำนู่นนี่นั่น
เราเลยให้คุณแฟนถามไปว่า ค่าจ้างรถไปตามแพลนที่เราบอกไว้เนี่ย ราคาเท่าไหร่หรอ เค้าก็บอกมาคร่าวๆค่ะ
รอบใน (ไม่ดูพระอาทิตย์ขึ้น) นครวัด-นครธม ประมาณ 15$
รอบใน (ดูพระอาทิตย์ขึ้น) นครวัด-นครธม ประมาณ 20$
รอบนอก ออกไปไกลหน่อย ประมาณ 25$
โตนเลสาป-พนมกุเลน-กบาลสเปียน ประมาณ 25-30$
ครึ่งวันเย็นสำหรับวันแรกของเรา 10$ ค่ะ
ซึ่งราคานี้เป็นราคาที่เรารับได้เลยค่ะ เราเลยกะว่าจะจ้างคนขับรถคนนี้แหละ เลยสอบถามราคาเหมาๆไป
ปรากฎว่า...เค้าบอกให้เราไปแจ้งโรงแรมได้เลยค่ะ เดี๋ยวโรงแรมจะจัดหารถให้เอง... งงเลยค่ะพี่น้อง...
ไอ้ที่คุยมาตั้งนานนี่คืออะไร ไม่ได้จะจั่วให้ชั้นจ้างเธอรึ
ซึ่งแฟนเรากะเราแล้วมองหน้ากันแบบ งง งง และสรุปสุดท้ายที่ว่า
เราคงไม่ชินกับคำว่า "น้ำใจ"
ซึ่งเค้าแค่อยากจะแนะนำเราในฐานะเจ้าบ้านค่ะ ไม่ได้ต้องการอะไรจากเราเลย
จากนั้นเค้าก็ออกรถไปเช็คอินที่โรงแรมค่ะ พาเรานั่งรถโกรกลงไปสักพักก็ถึง ที่นู่นฝุ่นเยอะนะคะ
ถนนยังคงเป็นดินแดงอยู่ เพื่อนๆควรพกหน้ากากอนามัยไปด้วยนะคะ กันฝุ่นค่ะ
ขนาดผมเรายังแดงเลย แล้วปอดจะรอดเรอะคะ
เดี๋ยวขอติดไว้ก่อนนะคะ จะมารีวิวต่อ ขอพักรับประทานอาหารเย็นแว๊บนึง
อุ้ยตาย!!! คุณเขมมาละ นั่งพิมพ์ซะเพลิน
[CR] นครวัด 3D/2N บินลงเสียมราฐ เที่ยวเองไม่ยาก ค่าใช้จ่ายเบาเบา
วันนี้เราจะขอมาแบ่งปันประสบการณ์อันน้อยนิดของเราในการท่องเที่ยวใน นครวัด และเมืองเสียมราฐนะคะ
อันที่จริงก่อนหน้าที่จะไปเที่ยวเองในครั้งนี้ เราเคยไปเที่ยวนครวัดแบบทัวร์มาก่อนประมาณปี 2002
สมัยที่ยังต้องขอวีซ่าเข้าประเทศกัมพูชา นั่งรถทัวร์ไปตั้งหลายชั่วโมงค่ะ ฝุ่นดินแดงเต็มถนน
น้ำขังเป็นหย่อมๆกว่าจะถึง ลำบากมากกก ราคาทัวร์ประมาณ 6-7 พันบาท เราจำไม่ค่อยได้
แต่เราก็ประทับใจมากในครั้งแรกที่ได้ไป และไม่น่าเชื่อว่าครั้งนี้ที่เราไปเที่ยวเองแบบง่อยๆของเรา
ความประทับใจนั้นยังคงอยู่ไม่ได้หายไปกับกาลเวลาเลยค่ะ
เราขออุทิศกระทู้นี้ให้ผู้สนับสนุนใหญ่ในการท่องเที่ยวของเรา (ใช้คำนี้ได้รึเปล่านะ บุคคลนั้นยังไม่ตายนะคะ)
คือ คุณปลาทู (แฟนของเราเองค่ะ เขิงจุง...
เอ๊ะ อย่างนี้ต้องเปลี่ยนเป็น SR รึเปล่าคะ เราไปฟรีไม่เสียตัว เอ๊ย ! เสียตังค์เลยซักบาท 5 5 5
เนื่องจากเราและแฟนชอบท่องเที่ยวค่ะ และคลังข้อมูลของเราก็อยู่ในห้องนี้เสมอๆ
เลยอยากขอบคุณเพื่อนๆที่คอยแชร์และอัพเดทข้อมูลต่างๆนะคะ
เราเข้ามาแล้วก็จากไป แฟนเราเลยอยากจะทำรีวิวเป็นการขอบคุณเพื่อนๆทุกคนในนี้
แม้ข้อมูลของเราไม่ค่อยจะมีประโยชน์หรือเนื้อหาสาระเท่าไหร่
แต่ก็ขอสร้างกระทู้รีวิวในห้องนี้ให้แฟนได้ภูมิใจหน่อยนะคะว่ามีรีวิวกะเค้าหมือนกัน
เห็นตั้งใจถ่ายภาพมาซะเหลือเกิน จะลงนู่นลงนี่ กองให้หลายร้อยรูป (เค้ารู้จัก เค้าเห็นมุมนี้กันหมดแล้วนะตัวเธอ)
แต่ก็ถือว่าเป็นอีกมุมมองหนึ่งจากเราละกันนะคะ
เริ่มจากค่าใช้จ่ายตั้งต้นได้แก่
ค่าตั๋วเครื่องบิน ดอนเมือง-เสียมราฐ-ดอนเมือง สายการบิน Airasia ราคา 4,486 บาท (ราคา 2,243 บาท/คน)
ตั๋วเครื่องบินราคานี้เราได้มาเป็นราคาเปิดตัวของเส้นทางนี้ค่ะ ราคาไม่ได้ถูกเหมือนเส้นทางอื่นๆแต่เราก็รับได้ค่ะ
เนื่องจากจำการเดินทางอันทรหดในสมัยเด็กได้เลยยอมจ่ายค่ะ
สำหรับที่พักมีให้เลือกมากมายเลยค่ะ เราพยายามเรื่องโรงแรมราคาประหยัดและดูแนวๆหน่อยค่ะ
ลองหาข้อมูลเช็คราคาจากหลายๆเวปแล้วไปลงตัวกับ Reflections Art Boutique Hotel โดยจองผ่าน Agoda ค่ะ
ราคานี้รวมอาหารเช้า และรถรับส่งจากโรงแรม-สนามบินแล้วค่ะ ราคา 1,840.14 บาท สำหรับ 2 คืน (คืนละไม่ถึงพันบาทเลย)
ค่าใช้จ่ายบางส่วนถูกจ่ายออกไปแล้ว ก็เหลือหาข้อมูลจากห้องบลูว่า เรื่องการเดินทาง และแผนการท่องเที่ยว
เราหาข้อมูลมาได้ว่าการเหมารถรับจ้างสำหรับไปเที่ยวนครวัด-นครธม อยู่ที่ราคาประมาณ 15-20$/วัน
และค่าเข้านครวัด ตั๋ว 1 วันราคา 20$/คน
ดูๆเรื่องค่าใช้จ่ายหลักๆก็มีเท่านี้เราเลยแลกเงินไปคนละประมาณ 100$ ค่ะ (ใช้ได้เหลือเฟือเลย)
อ้อ เราแพลนเส้นทางสำหรับนครวัดไปโดยดูรูปและอ่านเรื่องราวจากหนังสือเล่มนี้ค่ะ
ตัดสินใจง่ายดีว่าอันไหนน่าไป อันไหนไม่น่าไปก็ผ่านค่ะ
(แต่สรุปสุดท้ายไม่เป็นไปตามแพลนเลยเพราะมัวแต่เดินชิล เอ้อระเหย เสพหินกันอย่างเต็มพิกัด เลยไม่ค่อยได้ไปไหนเลย แหะ แหะ)
เรามาเริ่มการเดินทางกันเลยนะคะ พอถึงสนามบินก็ผ่าน ตม. ออกมาได้เลย
ตอนแรกเดินตามฝรั่งไปแบบงงๆค่ะ เพราะประชากรส่วนใหญ่ในเครื่องเป็นชาวต่างชาติ ลงมาก็เดินตามๆเค้าไป
ปรากฎว่า ฝรั่งไปต่อแถวขอวีซ่ากันค่ะ คนไทยยืนงงเล็กน้อยก่อนจะมีเจ้าหน้าที่มาบอกว่าคนไทยไป ตม. ได้เลยไม่ต้องมาต่อคิวตรงนี้
แอบภาคภูมิใจเล็กๆว่าข้าไม่ต้องใช้วีซ่าเหมือนพวกเองเว้ยเห้ย หุหุ
สนามบินที่นี่เป็นอาคารเล็กๆชั้นเดียวแต่ก็ดูทันสมัยอยู่นะคะ เข้าไปผ่าน ตม. รับกระเป๋า (เราไม่ได้โหลดค่ะ)
แล้วก็ออกมารอรถที่จะมารับด้านนอกได้เลยค่ะ
แต่ขอเราโชคร้ายเล็กน้อย เนื่องจากรอรถที่จะมารับนานมากค่ะ จนสงสัยว่าเค้าจำเวลาเราผิดรึเปล่า
โชคดีที่เปิดโรมมิ่งมา โทรไปโรงแรมซิ... ใช่เลยค่ะ จดเวลาเครื่องลงของเราผิด
ที่ว่าโชคร้ายเล็กน้อยก็เพราะว่า ยังมีคนเป็นแบบเราค่ะ ฝรั่งข้างๆมาคนเดียว ยืนรอนานเหมือนกัน
ขนาดรถเรามาแล้ว รถเค้ายังไม่มาเลยค่ะ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ควรคอนเฟิร์มเวลากับโรงแรมให้ดีก่อนนะคะ
ควรใช้การโทรคุยกับโรงแรมโดยตรงค่ะ เราใช้วิธีส่งเมล์ปรากฎว่าเค้าไม่ได้เปิดดู
อาจเป็นเพราะโรงแรมเล็กๆ การจัดการยังไม่ดีเท่าที่ควร
และรถที่มารับเรา แทนที่จะเอารถเข้ามารับเราในสนามบินนะคะ ดั้นเอารถไปจอดไว้ข้างนอก
พาเราลากกระเป๋าเดินไปซะอย่างนั้น แต่ก็ไม่ว่าอะไรค่ะ เพราะเหมือนว่าการที่เอารถเข้ามาต้องเสียค่าที่จอด
อาจเป็นต้นทุนที่เค้าไม่อยากเสีย เราก็หยวนๆค่ะ เพราะค่ารถค่าที่พักก็ถูกจะแย่ละเนอะ
แต่สำหรับเพื่อนๆที่ไม่ได้มีรถรับ-ส่งฟรีจากโรงแรม ที่สนามบินก็มีบริการนะคะ ราคาประมาณ 3$ ไปโซนในเมืองค่ะ
ไกลใช้ได้เลยนะคะ สำหรับการนั่งรถตุ๊กตุ๊ก (ไม่รู้ว่าคนทางนู้นเค้าเรียกอะไรนะคะ) เราว่าไม่แพงเลยค่ะ
พอมาถึงที่รถคนขับรถก็แนะนำตัวเลยค่ะ เป็น "ภาษาอังกฤษ" อย่างคล่องแคล่วปรืดปร๊าด
จนเราตกใจในทักษะภาษาของเค้า ซึ่งดูสวนทางกับหน้าตามาก ซึ่งเราก็เป็นคนไทยคนนึงที่ยังแอบไม่เชื่อว่า
เฮ้ย..ประเทศเพื่อนบ้านน่าจะด้อยกว่าเราน่า แต่ทริปนี้เปลี่ยนความคิดเราไปอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ
เราก็ถามเค้าไปเป็นภาษอังกฤษง่อยๆสไตล์เราบ้างว่าเค้าพูดภาษาไทยได้มั้ย ปรากฏว่าได้ค่ะ โอ้แม่เจ้า...
ตุ๊กตุ๊กทำเราช๊อคก๊อก 2 ค่ะ ปรากฎว่าคุยไปคุยมา เค้าไม่ใช่พนักงานของโรงแรมนะคะ เป็นคนรับจ้างขับรถตุ๊กตุ๊กค่ะ
เค้าสอบถามเราว่า เราแพลนการท่องเที่ยวมารึยัง มีแพลนอะไรบ้าง เราก็เล่าคร่าวๆว่า
วันนี้ (วันที่ 1) เราจะไปซื้อตั๋วเข้านครวัดสำหรับวันพรุ่งนี้ในช่วงเย็นวันนี้ค่ะ เนื่องจากนครวัดจะเปิดให้เข้าฟรีหลัง 4-5 โมงเย็นนี่แหละค่ะ
ซึ่งเราไม่ค่อยแน่ใจในเวลานัก เราจะไปชมพระอาทิตย์ตกที่พนมบาเค็งค่ะ แล้วจากนั้นจะไปทานอาหารเย็นที่ถนนคนเดิน
คนขับรถก็แนะนำเราว่า ถ้าจะไปพนมบาเคง เราควรไปเร็วหน่อยเพราะพนมบาเค็งปิดให้ขึ้นเวลาประมาณ 5 โมงเพราะกลัวว่าจะมืด
ระหว่างทางนักท่องเที่ยวอาจเป็นอันตรายได้ และกลับมาค่อยไปหาอะไรกินที่ถนนคนเดิน ไม่เหนื่อยมาก เค้าว่าโปรแกรมเราโอเค
แล้วเค้าก็ถามถึงโปรแกรมวันที่ 2 ของเราค่ะ (นี่นั่งคุยกันบนรถมาซักพักละนะคะ ยังไม่ได้ออกรถเลย)
เราก็บอกไปว่าเราอาจจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ นครวัด และไปเที่ยวปราสาทบริวารรอบๆ และปิดท้ายพระอาทิตย์ตกดินที่นครวัดอีกครั้ง
เค้าก็ถามเราถึงเส้นทาง ว่าไปโตนเลสาปรึเปล่า หรือพนมกุเลน/กบาลสเปียนมั้ย เราก็บอกว่าเราไม่อยากไปหลายที่ อยากอยู่แต่ละที่นานๆ
เค้าก็ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับเรา และคอยแนะนำสถานที่ต่างๆ เนื่องจากเราถือหนังสือเล่มข้างบนติดตัวไปด้วยค่ะ
เราแอบคิดในใจว่า.....สงสัยอยากจะล๊อบบี้ชั้นให้จ้างเธอรึเปล่ายะ ถามเยอะขนาดนี้ แนะนำนู่นนี่นั่น
เราเลยให้คุณแฟนถามไปว่า ค่าจ้างรถไปตามแพลนที่เราบอกไว้เนี่ย ราคาเท่าไหร่หรอ เค้าก็บอกมาคร่าวๆค่ะ
รอบใน (ไม่ดูพระอาทิตย์ขึ้น) นครวัด-นครธม ประมาณ 15$
รอบใน (ดูพระอาทิตย์ขึ้น) นครวัด-นครธม ประมาณ 20$
รอบนอก ออกไปไกลหน่อย ประมาณ 25$
โตนเลสาป-พนมกุเลน-กบาลสเปียน ประมาณ 25-30$
ครึ่งวันเย็นสำหรับวันแรกของเรา 10$ ค่ะ
ซึ่งราคานี้เป็นราคาที่เรารับได้เลยค่ะ เราเลยกะว่าจะจ้างคนขับรถคนนี้แหละ เลยสอบถามราคาเหมาๆไป
ปรากฎว่า...เค้าบอกให้เราไปแจ้งโรงแรมได้เลยค่ะ เดี๋ยวโรงแรมจะจัดหารถให้เอง... งงเลยค่ะพี่น้อง...
ไอ้ที่คุยมาตั้งนานนี่คืออะไร ไม่ได้จะจั่วให้ชั้นจ้างเธอรึ
ซึ่งแฟนเรากะเราแล้วมองหน้ากันแบบ งง งง และสรุปสุดท้ายที่ว่า เราคงไม่ชินกับคำว่า "น้ำใจ"
ซึ่งเค้าแค่อยากจะแนะนำเราในฐานะเจ้าบ้านค่ะ ไม่ได้ต้องการอะไรจากเราเลย
จากนั้นเค้าก็ออกรถไปเช็คอินที่โรงแรมค่ะ พาเรานั่งรถโกรกลงไปสักพักก็ถึง ที่นู่นฝุ่นเยอะนะคะ
ถนนยังคงเป็นดินแดงอยู่ เพื่อนๆควรพกหน้ากากอนามัยไปด้วยนะคะ กันฝุ่นค่ะ
ขนาดผมเรายังแดงเลย แล้วปอดจะรอดเรอะคะ
เดี๋ยวขอติดไว้ก่อนนะคะ จะมารีวิวต่อ ขอพักรับประทานอาหารเย็นแว๊บนึง
อุ้ยตาย!!! คุณเขมมาละ นั่งพิมพ์ซะเพลิน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น