"..คนที่ยึดมั่นความเห็นของตนมาก ไม่โอนอ่อนผ่อนตามใคร มักสร้างความยุ่งยากให้กับผู้ที่อยู่ร่วมกันไม่มากก็น้อย.."
- คณะไม่ประสาน
คนที่มาวัดป่าในวันสำคัญทางศาสนามักชื่นชมการสวดมนต์แปลเป็นอย่างยิ่ง
เพราะเนื้อหาของบทสวดไพเราะและมีความหมายลึกซึ้ง ยิ่งเวลาที่คนจำนวนมาก
สวดอย่างพร้อมเพรียงกัน เสียงจะดังกระหึ่ม ฟังดูจับใจยิ่งนัก แต่ใครเลยจะรู้ว่า
ในยามที่พระสวดกันเองไม่กี่รูปนั้น จะฟังดูทุลักทุเลเพียงใด
ครั้งหนึ่งเคยจำพรรษาในวัดที่มีพระเพียงห้ารูป แต่ละรูปมีเสียงต่างกันไปคนละคีย์
พระใหม่รูปหนึ่งเสียงสูงกว่าใคร แถมยังสวดเสียงดังด้วย คณะสวดมนต์จึงสับสนอลหม่าน
ไม่รู้จะตามใครดี หลังจากที่ทนสวดได้ไม่ถึงสัปดาห์ ท่านอาจารย์ก็แก้ปัญหานี้ด้วยการ
ให้ผลัดกันเป็นผู้นำคนละวัน
คราวนี้แต่ละคนได้ตระหนักว่าผู้นำสวดต้องลำบากเพียงใด เสียงสวดมนต์จึงค่อย ๆ ปรับ
ให้เข้ากันมากขึ้น สถานการณ์นี้บีบบังคับให้เรียนรู้ไปโดยปริยาย
ผู้โชคดีคือคนที่มีโทนเสียงอยู่ในระดับกลาง ๆ สามารถปรับให้เข้ากับใครก็ได้
ไม่ว่าผู้นำจะสวดเร็วหรือช้า จะสวดด้วยสำเนียงญี่ปุ่น ไทย อีสาน หรือฝรั่ง
ก็ปรับสำเนียงให้กลมกลืนได้ หรือเวลาที่ต้องนำสวด คนส่วนใหญ่ก็สวดตามไปได้ไม่ลำบาก
เคล็ดลับสำคัญในเรื่องนี้อยู่ที่การเงี่ยหูฟังแล้วปรับเสียงให้คล้อยตามเสียงส่วนใหญ่
ฟังดูเหมือนไม่ยาก แต่เชื่อหรือไม่ว่า หาคนที่ยินดีปรับเสียงตัวเองได้น้อยมาก
การสวดมนต์ในบางคราวจึงเหมือนการผจญภัยอีกลักษณะหนึ่ง เพราะไม่รู้เลยว่า
จะต้องประสานเสียงกับคีย์ใดบ้าง และจะสวดไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่
การรู้จักยืดหยุ่นต่อสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้สะท้อนท่าทีการปรับตัวในชุมชนด้วย
คนที่ยึดมั่นความเห็นของตนมาก ไม่โอนอ่อนผ่อนตามใคร มักสร้างความยุ่งยาก
ให้กับผู้ที่อยู่ร่วมกันไม่มากก็น้อย
การใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับอุดมคติของพระป่าคือการทำตัวให้เหมือนธาตุน้ำ
ยามอยู่ในภาชนะรูปทรงใดก็กลมกลืนไปกับรูปทรงนั้น แต่ไม่สูญเสียความเป็นตัว
ของตัวเอง และที่สำคัญคือ เมื่อไปอยู่ที่ไหนก็สร้างความผาสุกร่มเย็นในที่นั้น
คืนก่อน ผู้นำสวดคนใหม่เริ่มหน้าที่เป็นวันแรก เพียงท่านขึ้นต้นเสียงอย่างมั่นใจเต็มที่
พระเณรทั้งศาลาก็มีอันต้องนิ่งอึ้งไปตาม ๆ กัน และแล้ว...เสียงหัวเราะก็ดังก้องมาจาก
ท่านอาจารย์ซึ่งอยู่หัวแถว แล้วไล่ตามมาเป็นระลอกจนกระทั่งปลายแถว การสวดมนต์
ในคืนนี้จึงชะงักเสียแต่ยังไม่เริ่ม
ได้ยินเสียงหลวงตาที่นั่งอยู่ด้านข้างกระซิบบอกผู้นำมือใหม่ว่า “ลดเสียงลงสักครึ่งคีย์เถิด...พ่อคุณ”
หมายเหตุ
บทความนี้เขียนขึ้นระหว่างจำพรรษาที่วัดจิตตวิเวก ประเทศอังกฤษ และเคยตีพิมพ์ในคอลัมน์ My Secret นิตยสารซีเคร็ต
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.296193720498876.74854.276033052514943&type=1
จะประสานกันได้ ต้องยอมปรับตัวเอง
- คณะไม่ประสาน
คนที่มาวัดป่าในวันสำคัญทางศาสนามักชื่นชมการสวดมนต์แปลเป็นอย่างยิ่ง
เพราะเนื้อหาของบทสวดไพเราะและมีความหมายลึกซึ้ง ยิ่งเวลาที่คนจำนวนมาก
สวดอย่างพร้อมเพรียงกัน เสียงจะดังกระหึ่ม ฟังดูจับใจยิ่งนัก แต่ใครเลยจะรู้ว่า
ในยามที่พระสวดกันเองไม่กี่รูปนั้น จะฟังดูทุลักทุเลเพียงใด
ครั้งหนึ่งเคยจำพรรษาในวัดที่มีพระเพียงห้ารูป แต่ละรูปมีเสียงต่างกันไปคนละคีย์
พระใหม่รูปหนึ่งเสียงสูงกว่าใคร แถมยังสวดเสียงดังด้วย คณะสวดมนต์จึงสับสนอลหม่าน
ไม่รู้จะตามใครดี หลังจากที่ทนสวดได้ไม่ถึงสัปดาห์ ท่านอาจารย์ก็แก้ปัญหานี้ด้วยการ
ให้ผลัดกันเป็นผู้นำคนละวัน
คราวนี้แต่ละคนได้ตระหนักว่าผู้นำสวดต้องลำบากเพียงใด เสียงสวดมนต์จึงค่อย ๆ ปรับ
ให้เข้ากันมากขึ้น สถานการณ์นี้บีบบังคับให้เรียนรู้ไปโดยปริยาย
ผู้โชคดีคือคนที่มีโทนเสียงอยู่ในระดับกลาง ๆ สามารถปรับให้เข้ากับใครก็ได้
ไม่ว่าผู้นำจะสวดเร็วหรือช้า จะสวดด้วยสำเนียงญี่ปุ่น ไทย อีสาน หรือฝรั่ง
ก็ปรับสำเนียงให้กลมกลืนได้ หรือเวลาที่ต้องนำสวด คนส่วนใหญ่ก็สวดตามไปได้ไม่ลำบาก
เคล็ดลับสำคัญในเรื่องนี้อยู่ที่การเงี่ยหูฟังแล้วปรับเสียงให้คล้อยตามเสียงส่วนใหญ่
ฟังดูเหมือนไม่ยาก แต่เชื่อหรือไม่ว่า หาคนที่ยินดีปรับเสียงตัวเองได้น้อยมาก
การสวดมนต์ในบางคราวจึงเหมือนการผจญภัยอีกลักษณะหนึ่ง เพราะไม่รู้เลยว่า
จะต้องประสานเสียงกับคีย์ใดบ้าง และจะสวดไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่
การรู้จักยืดหยุ่นต่อสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้สะท้อนท่าทีการปรับตัวในชุมชนด้วย
คนที่ยึดมั่นความเห็นของตนมาก ไม่โอนอ่อนผ่อนตามใคร มักสร้างความยุ่งยาก
ให้กับผู้ที่อยู่ร่วมกันไม่มากก็น้อย
การใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับอุดมคติของพระป่าคือการทำตัวให้เหมือนธาตุน้ำ
ยามอยู่ในภาชนะรูปทรงใดก็กลมกลืนไปกับรูปทรงนั้น แต่ไม่สูญเสียความเป็นตัว
ของตัวเอง และที่สำคัญคือ เมื่อไปอยู่ที่ไหนก็สร้างความผาสุกร่มเย็นในที่นั้น
คืนก่อน ผู้นำสวดคนใหม่เริ่มหน้าที่เป็นวันแรก เพียงท่านขึ้นต้นเสียงอย่างมั่นใจเต็มที่
พระเณรทั้งศาลาก็มีอันต้องนิ่งอึ้งไปตาม ๆ กัน และแล้ว...เสียงหัวเราะก็ดังก้องมาจาก
ท่านอาจารย์ซึ่งอยู่หัวแถว แล้วไล่ตามมาเป็นระลอกจนกระทั่งปลายแถว การสวดมนต์
ในคืนนี้จึงชะงักเสียแต่ยังไม่เริ่ม
ได้ยินเสียงหลวงตาที่นั่งอยู่ด้านข้างกระซิบบอกผู้นำมือใหม่ว่า “ลดเสียงลงสักครึ่งคีย์เถิด...พ่อคุณ”
หมายเหตุ
บทความนี้เขียนขึ้นระหว่างจำพรรษาที่วัดจิตตวิเวก ประเทศอังกฤษ และเคยตีพิมพ์ในคอลัมน์ My Secret นิตยสารซีเคร็ต
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.296193720498876.74854.276033052514943&type=1