ท่านที่เคารพรักครับ ความจริงในโลกใบนี้ มีบุคคลชนิดหนึ่ง ที่มีบุคลิกลักษณะพิเศษ นั่นคือไม่ว่าพวกมันจะพยายามป้ายดินโคลนใส่ท่านมากเท่าใด ท่านกลับยิ่งสดใสแวววาวมากขึ้นเท่านั้น
ไม่ว่าพวกมันจะพยายามโค่นทำลายท่านให้ล้มลงเพียงใด ท่านกลับยิ่งมั่นคงหนักแน่นยืนหยัดได้เท่านั้น
ท่านไม่ได้พ่ายแพ้หรือล้มลง ตามที่พวกมันต้องการเลย
บุคคลอย่างนี้ เวลาหนึ่งของกาลเวลาข้างหน้า อาจจะมีคนกล่าวขานกันด้วยความภาคภูมิใจว่า นี่คือผู้นำประเทศที่ประชาชนรักมากที่สุด มิหนำซ้ำประชาชนอาจจะรักมากกว่าพี่ชายของท่านด้วยซ้ำไป
เรื่องราวบุคคลที่เรากำลังกล่าวถึงก็คือ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ท่านหนึ่ง ท่านนายกฯ ท่านผู้นำประเทศ ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ความจริงในโลกใบนี้ มีบุคคลชนิดหนึ่ง ที่มีบุคลิกลักษณะพิเศษ นั่นคือไม่ว่าพวกมันจะพยายามตีสีหน้าเย่อหยิ่งจองหอง วางท่าอวดอ้าง
โอ่อ่าลำพองว่าตัวมันเอง เป็นคนดี มีคุณธรรมมากเท่าใด
ประชาชนกลับดูออกว่ามันเสแสร้ง เป็นได้เพียงวิญญูชนจอมปลอม ที่มือถือสาก ปากถือศีลมากเท่านั้น
ไม่ว่ามันจะพยายามปกปิดกลบเกลื่อน ร่องรอยความบัดซะรบที่พวกมันร่วมหัวกันก่อขึ้นมากเพียงใด
ประชาชนกลับรู้เช่น เห็นชาติ เห็นลึกถึงลิ้นไก่ ตับไต ไส้พุง มันมากขึ้นเท่านั้น ว่าสุดแสนจะโสมม กักขฬะ
บุคคลอย่างนี้ เวลาหนึ่งของกาลเวลาข้างหน้า อาจจะมีประชาชน โห่ร้อง ฉลองลั่น เมื่อพวกมันมีอันเป็นไป พบกับความวิบัติ
ตามกฏแห่งกรรมของพระศาสนา
เรื่องราวบุคคล ที่เรากำลังกล่าวถึง ก็คือเหล่าประดาบุรุษเช่น เปรม มาร์ค สุเทพ พวกที่ยกหางตัวมันเองว่าเป็นคนดี
สี่เสาศรีเสนียดสวนลุม ทั้งหลายแหล่
ท่านที่เคารพรักครับ เรื่องราวในโลกยุทธจักร คล้ายกระดานหมากกระดานหนึ่ง
ที่พลิกแพลงผันแปรสุดหยั่งคาด หากพูดตามสำนวนท่านโกวเล้ง ก็ต้องพูดว่า
เดินหมากผิดเพียงตาเดียว พ่ายแพ้ทั้งกระดาน
เห็นว่าคล้ายจะชนะ กลับแพ้ เห็นว่าคล้ายจะพ่ายแพ้ แต่กลับชนะ
เวลานี้เมื่อมีนายกฯคือคุณนิวัฒน์ธำรงเดินออกมาปุ๊บ หมาก สตง . ก็โดนเดินออกมาปั๊บทันควันเหมือนกัน
ด้วยการประโคมข่าวรับผิดชอบเงินค่าใช้จ่ายเลือกตั้งจำนวนมหาศาล สำทับนายกฯตัวแทนด้วยว่า หากการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่เกิดผลสำเร็จ
ก็ต้องรับผิดชอบอีก ซึ่งใครๆก็รู้ว่า เพียงไปกดดันปิดหน่วยเลือกตั้งหน่วยเดียว การเลือกตั้งก็ล้มได้ทันที
หมากนี้ นิวัฒน์ธำรง เจอกำลังภายใน พิสูจน์วรยุทธนับแต่วินาทีแรกที่มารับตำแหน่ง ว่าหากกระสันอยากเลือกตั้งนัก
อาจจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายมหาศาล
แต่ฝ่ายยุทธศาสตร์การเมืองพยายามนำประเทศ เข้าสู่เส้นทางประชาธิปไตยให้ได้ สังเกตจาก นิวัฒน์ธำรงเรียกประชุม ครม. วันต่อมาทันที
หลังรับตำแหน่ง หวังมีพรฏ เลือกตั้งตามที่ได้หารือกับ กกต. ไว้เบื้องต้น หากมีการเลือกตั้งในวันที่ 20 ก.ค.ก็จะรักษาการประมาณ 2-3 เดือนเท่านั้น
จากนั้นพลังประชาชนจะเลือกตั้งอีกครั้ง ซึ่งการเดินหมากอย่างนี้ เป็นหมากมาตรฐาน ยังไงก็ชนะ
แต่ หมากการตีความอำนาจรักษาการแทนนายกฯก็โดนวางออกมาทันทีว่า ไม่มีอำนาจแทนนายกฯได้ในการทูลเกล้า
ซึ่งอีกฝ่ายยิ่งออกอาการเท่าไหร่
แสดงว่าฝ่ายเพื่อไทยก็ยังเป็นต่อ ไม่ได้เพลี่ยงพล้ำ เพราะยังมีนายกฯสำรองอีกมาก ล้วนแต่สุดยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งในปฐพีทั้งนั้น
หากจัดการนิวัฒน์ธำรง ยังมีพงศ์เทพ จาตุรนต์ ทางพรรคยังมีนายกฯเตรียมไว้อีกมากมายเป็นโหล สุดท้ายก็ยังมี ปลัดกระทรวงนิพัทธ์ บิ๊กแป๊ะ
ซึ่งนายกฯสำรองเหล่านี้ รูปมวย ทางมวย ทุกคนดูดีกว่ามาร์ค มวยจากค่ายอำมาตย์ เทียบน้ำหนักกัน ปอนด์ต่อปอนด์ ยังไงก็มีภาษีดีกว่า
ยกเว้นตาชั่งจะเอียง ( หมายถึงตาชั่งน้ำหนักมวยนะครับ ฮา )
เมื่อประชาธิปัตย์ไม่สามารถใช้งานได้ในการเลือกตั้ง ชื่อเสียงพรรคเน่า หัวหน้าพรรคมาร์คก็เหมือนผีดิบเดินได้ในหนัง ผีกัดอย่ากัดตอบ พรรคนี้หมดความหมายในสายตาอำมาตย์ เลี้ยงไว้ก็เปลืองข้าวสุก ไม่มีทางโตไปกว่านี้
แต่ความจริง ที่น่าสมเพชคือชะตากรรมของสุเทพ และมาร์ค มีคดีเต็มตัวง่ายต่อการบงการที่สุด เพื่อเชิดชักใย
จึงมีสภาพโดนชี้นิ้วสั่งให้ไปซ้าย ก็ไม่กล้าไปขวาโดยเด็ดขาด สภาพผอืดผอมที่ปรากฏจึงมีที่มา ว่าพรรคนี้เป็นพรรคของใคร
พรรคนี้เวลานี้ จึงลูกผี ลูกคน ตามลูกพี่อำมาตย์ อย่าลืมว่าแนวทางการเมือง ต่างจากแนวทางทำม็อบ
เมื่อมาเป็นแกนนำม็อบ เดินตากแดดหน้าดำ เป่านกหวีดไป ขอทานไป อ้างเรียกแขกเพื่อสร้างเงื่อนไขให้ทหารออกมาให้ได้อย่างนี้
สิ่งที่สุเทพทำ และสิ่งที่ลูกพรรคประชาธิปัตย์ทำ จึงยิ่งห่างไกลออกไปทุกที กับคำว่า นักการเมืองน้ำดี หมดคุณค่าราคาทันที เมื่อมีการเลือกตั้ง
ฝ่ายอำนาจเก่าไม่ยอมรับคำตัดสินของประชาชนด้วยการเลือกตั้ง ก็พออ่านออกว่า ไม่มีการเลือกตั้งแน่นอนสองสามปีนี้
เมื่อขุมกำลังอำนาจเก่าไม่เคยถูกฉโลกกับการเลือกตั้ง ฉนั้นองค์กรใดๆ ที่เรารู้ทันว่าคือลูกสมุนพวกนี้ จึงต้องพยายามขัดขวางไม่ให้มีการเลือกตั้ง
แม้หน้าฉากและลีลา อาจจะทำเป็นขมีขมันจะจัดการเลือกตั้งตามหน้าที่ แต่ก็เป็นเพียงลีลาไปวันๆเพื่อถ่วงเวลา
ฉนั้นเป้าหมายสุดท้ายก็มองกันออกว่า
รัฏฐาธิปัตย์ ต้องมาแน่ จากการฉีกรัฐธรรมนูญ โดยรัฐประหาร
นี่คือหมากที่รู้เขา รู้เราว่าเป็นหมากบังคับ ยังไงพวกมันก็ต้องเดินจนได้ และเป็นหมากเดียวที่พลิกสถานะการณ์ในสายตาของ ทั้งสองฝ่าย
หมากรัฐประหารนี้ มันคิดว่า มันชนะแน่นอน แต่หมากรัฐประหารนี้ ฝ่ายประชาธิปไตยกลับยิ่งจะชนะแบบตลบหลัง
สังเกตได้ว่า ทหารแตงโมและฝ่ายความมั่นคง ระมัดระวังตัว เก็บตัวเงียบเชียบกัน และแผนการที่เตรียมไว้ตอบโต้มากที่สุดคือ
เมื่อไหร่มันจะเดินหมากรัฐประหารนี้ สักทีวะ
ซึ่งทหารคนไหนกล้ารัฐประหารนาทีนี้ ก็เสียสติที่สุดแล้ว ไม่ว่าประยุทธ์ ฝ่ายบูรพาพยัคฆ์ หรือ ไพบูลย์ วงศ์เทวัญลูกป๋าคนล่าสุด
สุดท้ายพวกแอบวางแผนการร้าย ตามถนัดที่ทำมาเหมือนสมัยรัฐประหารปี 49 จึงกำลังติดกับดักเก่าของพวกมันเองแท้ๆ
นั่นคือ ไม่ว่าจะแอบอยู่ในรูเพียงใด สุดท้ายเมื่อแสงสว่างสัจจะแห่งความจริงของโลกสาดส่อง สุดท้ายก็อยู่ในรูไม่ได้อีกต่อไป
เพราะโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว
เรื่องราวในโลกยุทธจักร คล้ายกระดานหมากกระดานหนึ่ง
ที่พลิกแพลงผันแปรสุดหยั่งคาด หากพูดตามสำนวนท่านโกวเล้ง ก็ต้องพูดว่า
เดินหมากผิดเพียงตาเดียว พ่ายแพ้ทั้งกระดาน
เห็นว่าคล้ายจะชนะ กลับแพ้ เห็นว่าคล้ายจะพ่ายแพ้ แต่กลับชนะ
ขอให้มีความสุขมากๆครับ คุณยิ่งลักษณ์ ประชาชนพร้อมจะเคียงข้าง เป็นพลังให้กับท่าน
ท่านคือนายกฯที่มีประชาชนรักมากที่สุดครับ
ยิ่งลักษณ์ ยิ้มเย้ยยุทธจักร ตอน ความอ่อนโยน คือ ดาบเล่มหนึ่ง ( 8 ) เปรมอยู่รู ปูอยู่ตึก
ไม่ว่าพวกมันจะพยายามโค่นทำลายท่านให้ล้มลงเพียงใด ท่านกลับยิ่งมั่นคงหนักแน่นยืนหยัดได้เท่านั้น
ท่านไม่ได้พ่ายแพ้หรือล้มลง ตามที่พวกมันต้องการเลย
บุคคลอย่างนี้ เวลาหนึ่งของกาลเวลาข้างหน้า อาจจะมีคนกล่าวขานกันด้วยความภาคภูมิใจว่า นี่คือผู้นำประเทศที่ประชาชนรักมากที่สุด มิหนำซ้ำประชาชนอาจจะรักมากกว่าพี่ชายของท่านด้วยซ้ำไป
เรื่องราวบุคคลที่เรากำลังกล่าวถึงก็คือ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ท่านหนึ่ง ท่านนายกฯ ท่านผู้นำประเทศ ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ความจริงในโลกใบนี้ มีบุคคลชนิดหนึ่ง ที่มีบุคลิกลักษณะพิเศษ นั่นคือไม่ว่าพวกมันจะพยายามตีสีหน้าเย่อหยิ่งจองหอง วางท่าอวดอ้าง
โอ่อ่าลำพองว่าตัวมันเอง เป็นคนดี มีคุณธรรมมากเท่าใด
ประชาชนกลับดูออกว่ามันเสแสร้ง เป็นได้เพียงวิญญูชนจอมปลอม ที่มือถือสาก ปากถือศีลมากเท่านั้น
ไม่ว่ามันจะพยายามปกปิดกลบเกลื่อน ร่องรอยความบัดซะรบที่พวกมันร่วมหัวกันก่อขึ้นมากเพียงใด
ประชาชนกลับรู้เช่น เห็นชาติ เห็นลึกถึงลิ้นไก่ ตับไต ไส้พุง มันมากขึ้นเท่านั้น ว่าสุดแสนจะโสมม กักขฬะ
บุคคลอย่างนี้ เวลาหนึ่งของกาลเวลาข้างหน้า อาจจะมีประชาชน โห่ร้อง ฉลองลั่น เมื่อพวกมันมีอันเป็นไป พบกับความวิบัติ
ตามกฏแห่งกรรมของพระศาสนา
เรื่องราวบุคคล ที่เรากำลังกล่าวถึง ก็คือเหล่าประดาบุรุษเช่น เปรม มาร์ค สุเทพ พวกที่ยกหางตัวมันเองว่าเป็นคนดี
สี่เสาศรีเสนียดสวนลุม ทั้งหลายแหล่
ท่านที่เคารพรักครับ เรื่องราวในโลกยุทธจักร คล้ายกระดานหมากกระดานหนึ่ง
ที่พลิกแพลงผันแปรสุดหยั่งคาด หากพูดตามสำนวนท่านโกวเล้ง ก็ต้องพูดว่า
เดินหมากผิดเพียงตาเดียว พ่ายแพ้ทั้งกระดาน
เห็นว่าคล้ายจะชนะ กลับแพ้ เห็นว่าคล้ายจะพ่ายแพ้ แต่กลับชนะ
เวลานี้เมื่อมีนายกฯคือคุณนิวัฒน์ธำรงเดินออกมาปุ๊บ หมาก สตง . ก็โดนเดินออกมาปั๊บทันควันเหมือนกัน
ด้วยการประโคมข่าวรับผิดชอบเงินค่าใช้จ่ายเลือกตั้งจำนวนมหาศาล สำทับนายกฯตัวแทนด้วยว่า หากการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่เกิดผลสำเร็จ
ก็ต้องรับผิดชอบอีก ซึ่งใครๆก็รู้ว่า เพียงไปกดดันปิดหน่วยเลือกตั้งหน่วยเดียว การเลือกตั้งก็ล้มได้ทันที
หมากนี้ นิวัฒน์ธำรง เจอกำลังภายใน พิสูจน์วรยุทธนับแต่วินาทีแรกที่มารับตำแหน่ง ว่าหากกระสันอยากเลือกตั้งนัก
อาจจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายมหาศาล
แต่ฝ่ายยุทธศาสตร์การเมืองพยายามนำประเทศ เข้าสู่เส้นทางประชาธิปไตยให้ได้ สังเกตจาก นิวัฒน์ธำรงเรียกประชุม ครม. วันต่อมาทันที
หลังรับตำแหน่ง หวังมีพรฏ เลือกตั้งตามที่ได้หารือกับ กกต. ไว้เบื้องต้น หากมีการเลือกตั้งในวันที่ 20 ก.ค.ก็จะรักษาการประมาณ 2-3 เดือนเท่านั้น
จากนั้นพลังประชาชนจะเลือกตั้งอีกครั้ง ซึ่งการเดินหมากอย่างนี้ เป็นหมากมาตรฐาน ยังไงก็ชนะ
แต่ หมากการตีความอำนาจรักษาการแทนนายกฯก็โดนวางออกมาทันทีว่า ไม่มีอำนาจแทนนายกฯได้ในการทูลเกล้า
ซึ่งอีกฝ่ายยิ่งออกอาการเท่าไหร่
แสดงว่าฝ่ายเพื่อไทยก็ยังเป็นต่อ ไม่ได้เพลี่ยงพล้ำ เพราะยังมีนายกฯสำรองอีกมาก ล้วนแต่สุดยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งในปฐพีทั้งนั้น
หากจัดการนิวัฒน์ธำรง ยังมีพงศ์เทพ จาตุรนต์ ทางพรรคยังมีนายกฯเตรียมไว้อีกมากมายเป็นโหล สุดท้ายก็ยังมี ปลัดกระทรวงนิพัทธ์ บิ๊กแป๊ะ
ซึ่งนายกฯสำรองเหล่านี้ รูปมวย ทางมวย ทุกคนดูดีกว่ามาร์ค มวยจากค่ายอำมาตย์ เทียบน้ำหนักกัน ปอนด์ต่อปอนด์ ยังไงก็มีภาษีดีกว่า
ยกเว้นตาชั่งจะเอียง ( หมายถึงตาชั่งน้ำหนักมวยนะครับ ฮา )
เมื่อประชาธิปัตย์ไม่สามารถใช้งานได้ในการเลือกตั้ง ชื่อเสียงพรรคเน่า หัวหน้าพรรคมาร์คก็เหมือนผีดิบเดินได้ในหนัง ผีกัดอย่ากัดตอบ พรรคนี้หมดความหมายในสายตาอำมาตย์ เลี้ยงไว้ก็เปลืองข้าวสุก ไม่มีทางโตไปกว่านี้
แต่ความจริง ที่น่าสมเพชคือชะตากรรมของสุเทพ และมาร์ค มีคดีเต็มตัวง่ายต่อการบงการที่สุด เพื่อเชิดชักใย
จึงมีสภาพโดนชี้นิ้วสั่งให้ไปซ้าย ก็ไม่กล้าไปขวาโดยเด็ดขาด สภาพผอืดผอมที่ปรากฏจึงมีที่มา ว่าพรรคนี้เป็นพรรคของใคร
พรรคนี้เวลานี้ จึงลูกผี ลูกคน ตามลูกพี่อำมาตย์ อย่าลืมว่าแนวทางการเมือง ต่างจากแนวทางทำม็อบ
เมื่อมาเป็นแกนนำม็อบ เดินตากแดดหน้าดำ เป่านกหวีดไป ขอทานไป อ้างเรียกแขกเพื่อสร้างเงื่อนไขให้ทหารออกมาให้ได้อย่างนี้
สิ่งที่สุเทพทำ และสิ่งที่ลูกพรรคประชาธิปัตย์ทำ จึงยิ่งห่างไกลออกไปทุกที กับคำว่า นักการเมืองน้ำดี หมดคุณค่าราคาทันที เมื่อมีการเลือกตั้ง
ฝ่ายอำนาจเก่าไม่ยอมรับคำตัดสินของประชาชนด้วยการเลือกตั้ง ก็พออ่านออกว่า ไม่มีการเลือกตั้งแน่นอนสองสามปีนี้
เมื่อขุมกำลังอำนาจเก่าไม่เคยถูกฉโลกกับการเลือกตั้ง ฉนั้นองค์กรใดๆ ที่เรารู้ทันว่าคือลูกสมุนพวกนี้ จึงต้องพยายามขัดขวางไม่ให้มีการเลือกตั้ง
แม้หน้าฉากและลีลา อาจจะทำเป็นขมีขมันจะจัดการเลือกตั้งตามหน้าที่ แต่ก็เป็นเพียงลีลาไปวันๆเพื่อถ่วงเวลา
ฉนั้นเป้าหมายสุดท้ายก็มองกันออกว่า
รัฏฐาธิปัตย์ ต้องมาแน่ จากการฉีกรัฐธรรมนูญ โดยรัฐประหาร
นี่คือหมากที่รู้เขา รู้เราว่าเป็นหมากบังคับ ยังไงพวกมันก็ต้องเดินจนได้ และเป็นหมากเดียวที่พลิกสถานะการณ์ในสายตาของ ทั้งสองฝ่าย
หมากรัฐประหารนี้ มันคิดว่า มันชนะแน่นอน แต่หมากรัฐประหารนี้ ฝ่ายประชาธิปไตยกลับยิ่งจะชนะแบบตลบหลัง
สังเกตได้ว่า ทหารแตงโมและฝ่ายความมั่นคง ระมัดระวังตัว เก็บตัวเงียบเชียบกัน และแผนการที่เตรียมไว้ตอบโต้มากที่สุดคือ
เมื่อไหร่มันจะเดินหมากรัฐประหารนี้ สักทีวะ
ซึ่งทหารคนไหนกล้ารัฐประหารนาทีนี้ ก็เสียสติที่สุดแล้ว ไม่ว่าประยุทธ์ ฝ่ายบูรพาพยัคฆ์ หรือ ไพบูลย์ วงศ์เทวัญลูกป๋าคนล่าสุด
สุดท้ายพวกแอบวางแผนการร้าย ตามถนัดที่ทำมาเหมือนสมัยรัฐประหารปี 49 จึงกำลังติดกับดักเก่าของพวกมันเองแท้ๆ
นั่นคือ ไม่ว่าจะแอบอยู่ในรูเพียงใด สุดท้ายเมื่อแสงสว่างสัจจะแห่งความจริงของโลกสาดส่อง สุดท้ายก็อยู่ในรูไม่ได้อีกต่อไป
เพราะโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว
เรื่องราวในโลกยุทธจักร คล้ายกระดานหมากกระดานหนึ่ง
ที่พลิกแพลงผันแปรสุดหยั่งคาด หากพูดตามสำนวนท่านโกวเล้ง ก็ต้องพูดว่า
เดินหมากผิดเพียงตาเดียว พ่ายแพ้ทั้งกระดาน
เห็นว่าคล้ายจะชนะ กลับแพ้ เห็นว่าคล้ายจะพ่ายแพ้ แต่กลับชนะ
ขอให้มีความสุขมากๆครับ คุณยิ่งลักษณ์ ประชาชนพร้อมจะเคียงข้าง เป็นพลังให้กับท่าน
ท่านคือนายกฯที่มีประชาชนรักมากที่สุดครับ