จนท.รฟท. ว่าผมเป็นขโมย ผมควรร้องเรียนหรือไม่

ก่อนอื่นเลยผมต้องบอกว่า ผมไม่ได้นั่งรถไฟไทยมานานมาก7-8ปี ขึ้นไป แต่ผมต้องไปกรุงเทพคับ เกิดคิดอาไรไม่รุ้อยากนั่งรถไฟ อยากให้ลูกลองชมวิวระหว่างทาง เปิดหูเปิดตา ลองสิ่งแปลกใหม่  สุดท้ายได้รถด่วนนครพิงค์  เชียงใหม่-กรุงเทพ ทั้งนั่งและนอนแถมได้กินข้าว รอบนี้ไป 3 คน พ่อ แม่ ลูกคับ ลูกสาวอายุ 6ขวบ  ผมขึ้นไปด้วยอาการ งงๆ  กับการหาที่ ผมซื้อ ตั๋วเตียงบนล่าง เพราะอยากเป็นสัดส่วน พนักงานตรวจตั๋ว คนส่งอาหาร ทุกคนบริการดีคับ ประทับใจ ทุกอย่างไปได้สวยเมื่อพนักงาน ปูเตียงเสร็จ พอจะนอน ไม่มีหมอนกับผ้าห่มสำหรับผมกับลูก มันมีชุดเดียว เรานอนเตียงล่าง บังเอิญมองไปทางฝั่งด้านข้างเป็นคนจีน เค้าเลือกนอนด้วยกัน แล้วเหลือผ้าห่ม ไว้1ผืน แต่ผมไม่กล้าหยิบตรงนั้นคับ แล้ว ทางข้างหลังผมเป็นเตียงที่ถูกปูแล้ว แต่ไม่มีคนขึ้น ผมเลยถือวิสาสะ อันนี้ขอยอมรับว่าผิดจริงๆ ที่ไปหยิบโดยไม่ได้บอก จนท. เพราะไม่รู้จริงๆ อันนี้ยอมรับเลย  สรุป ก้อหยิบผ้าห่มกับหมอนมา 1ชุดจากข้างหลัง แล้วก็นอนหลับกับลูกไป ปรากฎว่า อยุ่ดีๆมีพนักงาน เปิดผ้าเข้ามาคับ ถามว่ามีหมอนกี่อัน ผมเลยบอกว่าสองคับ เท่านั้นแหละคับ ผมโดนว่าเป็นชุดเลย ผมพยายามอธิบายว่าผมไม่รู้จริงๆผมขอโทษทั้ง จนท. ทั้ง ผู้โดยสารที่ขึ้นมาทีหลัง ผมขอโทดแล้วบอกว่าไม่รู้ ผมไม่คิดว่าจะมีผู้โดยสารขึ้นมาแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ฟังผมคับยังว่าผมเรื่อยๆ ผมก็ถามว่าผมจ่ายค่าตั๋วของเด็กไปแล้ว ไม่มีหมอนกับผ้าห่มให้หรือคับ ถ้าขอใหม่ได้ผมจะเอาของใหม่ให้ผู้โดยสารด้านหลัง เค้าตอบไม่มี ไม่ได้ เด็กไม่มีให้ อยากได้อาไรต้องขอ คุณทำให้เค้าต้องนอนหนุนแขนตัวเอง จะเอา ต้องแจ้ง ทำแบบนี้มันขโมย ซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้ว่าเค้าว่าอะไรผมบ้างมันตื้อไปหมด อาจจะพึ่งตื่น แล้วตกใจด้วย แต่ที่จำได้แม่นคือเค้าบอกผมเป็นขโมย นิสัยแบบนี้  สรุปเค้าโวยวายเสียงดังจน แฟนผมที่กินยานอนไปแล้วยังตื่น คนจีนนอนฝั่งตรงข้ามยังเปิดผ้ามาดู ผมเลย ถามว่าเอาผ้าห่มคนจีนที่ไม่ได้ใช้ไปให้ได้มั้ย จนท. ก็บอกไม่ได้ สรุปผมเลยเอาหมอนที่ผมนอน ไปให้ผู้โดยสารพร้อมกล่าวขอโทษ และผมเลยถามว่า คุณว่าผมเป็นขโมยเหรอคับ  เค้าก้อนิ่งไปสักพักแล้วเดินมาบอกว่ามันจบแล้วหละ พร้อมแตะไหล่ผม
อ๋อด่าผมโวยวายเสียงดังแล้วบอกว่าจบ  ลูกผมจะคิดยังไง ที่เห็นแบบนี้ แกเองก็ตกใจตื่นพ่อตัวเองโดนว่า โวยวายเสียงดัง   ผมปวดร้าวมากคับกับประสบการณ์ครั้งนี้   อย่างแรกคือเมื่อผมผิดผมขอโทด ผมร้องของหมอนผ้าห่มอันใหม่ให้ผู้โดยสาร จนท บอกไม่มี มันพอดีจำนวน อย่างต่อมา ว่าผมเป็นขโมย ซึ่งแรงเกินไปผมรับไม่ได้ ทั้งยังโวยวายเสียงดังเหมือนจะประจานผมให้คนอื่นรับรู้ อย่างสุดท้าย ผมขอโทด ทั้ง จนท. ทั้งผุ้โดยสาร แต่ไม่มีประโยชน์ จนท. ยังคงด่าผมว่าผมต่อไป และไม่รับฟังเหตุผลผม ขออีกอย่าง เค้าบอกผมทำของเสียหายต้องเสียค่าซักเพิ่มแต่การพูดไม่ได่ให้ความรู้สึกว่าจะเก็บเงินผมแต่ให้ความรู้สึกเหยีดหยามและเหมือนผมทำสิ่งของเสียหาย   ตอนนี้ผมอยู่บนรถไฟ ผมได้เบอร์ 1690 ผมจะโทรนะคับ หลังจากต้องแบ่งหมอนนอนกับลูก แต่เค้าก็เปิดม่านมาอีกครั้งพร้อมยื่นหมอนใบเดิมที่ผมยกให้ผู้โดยสารที่ผมไปเอาของเค้ามา ซึ่งผมก็กล่าวขอบคุณ   แต่เรื่องนี้มันติดใจผมนอนต่อไม่ได้ ลูกผมก็ไม่ยอมหลับต่อ ผมควรแจ้งร้องเรียน หรือไม่ ??? ช่วยบอกผมที

โกรธมากคับ
ตอนนี้ใจเย็นขึ้นแล้ว แต่ยังคงติดใจ นอนไม่หลับ จะฟ้องดีไม่ฟ้องดี พนักงานก็ดูมีอายุแล้ว แต่ยังขาดการบริการที่ดี และเป็นคนพูดเสียงดังอยู่แล้ว ผมเห็นแกพูดเสียงดังบ่อยๆ

ผมตั้งกระทู้ขณะอยู่ในรถไฟ ขออภัยถ้าผิดพลาด
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
ขออนุญาตตอบครับ

เท่าที่อ่านมา ผมเจอปัญหาที่เป็นหลักๆเลย 3 จุดครับ คือ

1. คุณไปหยิบเครื่องนอนของคนจีนโดยพลการ
2. คุณซื้อตั๋วเด็กนอนรวมมา
3. พนักงานปฏิบัติตัวไม่สุภาพ

ไล่ตามข้อก่อนนะครับ
1. เครื่องนอนบนรถไฟนั้นจะประกอบด้วยผ้า 3 ชิ้นคือ ผ้าห่ม ปลอกหมอน และผ้าปูรองนอน และเซ็ตไว้ตามจำนวนที่นั่งในชั้นคือ 40 ที่ (ไม่มีเกิน)รวมเที่ยวไปและเที่ยวกลับ 80 ชุด ซึ่งกรณีนี้ถ้าหายพนักงานต้องรับผิดชอบเป็นรายชิ้น (ชิ้นละประมาณ 300 มั้งถ้าจำไม่ผิด) นั่นคือสาเหตุว่าทำไมต้องเก็บเตียงก่อนถึงปลายทางค่อนข้างนาน ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่าคุณผิดเต็มๆที่ไปหยิบของเตียงอื่นโดยพลการ (ซึ่งมันจะต่อกับข้อ2)

2. ประเด็นที่ว่าทำไมลูกคุณถึงไม่ได้ผ้าห่มหมอนมุ้ง นั่นเป็นเพราะว่า การที่คุณซื้อตั๋ว "เด็กนอนรวม" (จากคีย์เวิร์ด นอนหนุนแขนเตียงเดียวกัน)
คำว่า เด็ก มีการซื้อตั๋วได้ 2 แบบ คือ
2.1 เด็ก - ราคา 50% ของค่าโดยสาร + ค่าธรรมเนียมรถด่วนพิเศษ + ค่าธรรมเนียมแอร์ + ค่าธรรมเนียมเตียง จะได้สิทธิ์ที่นอนในตู้ และมี record การสำรองที่นั่ง
2.2 เด็กนอนรวม - ราคา 50% ของค่าโดยสาร + ค่าธรรมเนียมรถด่วนพิเศษ เด็กจะไม่ได้สิทธิ์เตียงและการrecord ที่นั่ง เพราะเป็นการนอน "เตียงร่วมกับผู้ปกครอง" เรียกง่ายๆคือไม่เอาที่น่ะแหละครับ ซึ่งเด็กนอนรวมจะเป็นการซื้อตั๋วเพื่อคุ้มครองการเดินทางของเด็กเท่านั้น แต่มิได้คุ้มครองสวัสดิการอื่นๆ เพราะไม่มีที่นั่งเป็นของตนเอง

3. พนักงานปฏิบัติงานไม่สุภาพ อันนี้ต้องขอพูดก่อนเลยว่า มันก็คงผิดทั้ง 2 ฝั่ง เพราะส่วนหนึ่งมันเกิดจากการที่คุณโวยวายด้วย สองคือทางเขาก็เกรงว่าของหายเขาต้องรับผิดชอบในส่วนที่ไม่ใช่ความผิดเขาด้วย แต่ถ้ามันไม่จบด้วยอะไรก็ตาม คือเราก็ไม่ได้อยู่บนรถไฟแต่มีอะไรที่มันเกิดขึ้นโดยที่คุณไม่ได้พิมพ์ลงมาหรือเปล่าเราก็ไม่รู้นะครับ (เลยไม่ขอพูดส่วนนี้)
แต่ถ้าให้ผมมองอีกในแง่ของการบริการ พนักงานก็ผิดครับ ผิดที่ใช้พฤติกรรมไม่เหมาะสมด้วย และวาจาไม่เหมาะสมด้วย แต่ถ้างั้นสามารถยื่นเรื่องเสนอแนะ (ผมไม่อยากให้ใช้คำว่าร้องเรียน เพราะมันเกิดต้นเหตุมาจากความผิดเล็กๆของคุณก่อน) ในเวปไซต์การรถไฟได้เลย หรือ ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง ติดต่อนายสถานีเพื่อรับแบบฟอร์มเสนอแนะ/ร้องเรียนได้ครับ

ท้ายนี้ ผมอยากจะฝากผู้ใช้บริการหลายๆท่าน ในฐานะผู้ใช้บริการบ่อยๆคนหนึ่ง หากท่านจะร้องเรียนอะไรก็ตามแต่ บางทีเราเป็นผู้รับบริการ เราอย่ายึดติดกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้าจนเกินงาม คำนี้มันมีให้พนักงานเซอร์วิสเราดีที่สุด ไม่ใช่ไปกร่างกับเขาเพราะคำนี้ เพราะเท่าที่อ่านหลายๆกระทู้มา คอมเม้นพูดถึงรถไฟจะอารมณ์มาก และที่ร้ายที่สุดคือ "จำเรื่องราวผิดๆ หรือ คิดเองเออเองพร้อมตัดสินรถไฟไปแล้วว่าเค้าไม่ดี เค้าผิด เค้าเลว โดยที่เราไม่ได้รู้ข้อเท็จจริงเลย" (แอบเห็นเม้นนึงแล้วรู้สึกไม่ดีนะ) หรือแม้กระทั่งการเสียหน้าเพราะตัวเองตอนแรกโวยวาย แต่พอไปๆมาๆความผิดมันเริ่มจากตัวเองก็พยายามหาเรื่องอื่นต่อเพื่อไม่ให้เสียหน้า ผมว่ามันไม่ถูกไม่ควรครับ (อันนี้ผมไม่ได้ว่า จกขท.นะครับ แต่พูดถึงเคสร้องเรียนอื่นๆทั่วไปครับ)

ก็อยากให้ จขกท.นั่งรถไฟต่อไปอีกหลายๆครั้งน่ะครับ แค่จำเรื่องนี้ไว้เป็น case study หากลุกสาวโตกว่านี้ก็ให้นอนเตียงแยกไปเลย เพราะส่วนมากแล้วเด็กนอนรวม จะใช้กับเด็กทารก หรือเด็กเล็กที่ดูแลตัวเองไม่ได้ต้องอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองน่ะครับ
หรือ หลังไมค์มาถามได้ครับเรื่องรถไฟ ยินดีตอบครับผม
ขอบคุณครับ

ปล.ขออภัยหาก paragraph สุดท้ายอาจทำให้ผู้อ่านภายหลังเกิดการหน้าชาจากที่เคยทำบ้าง แต่เราอยากให้ท่านลองลดทิฐิในการจะร้องเรียนจะร้องเรียนลงครับ ใจเย็นๆและค่อยคิดทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมดก่อน แล้วจะเจอเหตุ,ผล,ข้อเท็จจริงของความโมโหนั้น และขอยืนยันว่าถึงจะเช้า แต่ข้าพเจ้ายังมีสติในการพิมพ์ทุกประการ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่