คือ... ปีนี้เราเรียนปี 4 แล้ว ปีสุดท้ายในรั้วมหาลัย ปีหน้าต้องออกฝึกสอน คงไม่มีเวลาว่างมาเล่นไร้สาระอีก
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ชีวิตเรามีแค่บ้านกับมหาลัย แทบไม่เคยเที่ยวกับเพื่อนเลย ไปห้างเล็กๆใกล้ๆบ้านโดนแม่โทรด่า (ด่าจริงๆ) เรียกให้กลับบ้าน
ไม่เคยออกค่าย เพื่อนไปเที่ยวไหน ไม่เคยมีส่วนร่วม ไม่เคยมีกิจกรรมอะไรแบบที่คนอื่นทำเลย
เพราะพ่อแม่ไม่ชอบให้ออกจากบ้าน ชีวิตวัยรุ่นเป็นยังไง ?? เราไม่รู้จักหรอก
เราโตมากับคำพูดที่ว่า " ถึงมันจะถูกต้อง แต่ถ้ามันไม่ถูกใจคนรอบข้าง ก็ห้ามทำ " เราไม่เคยมีอิสระ ไม่มีประสบการณ์
พ่อแม่แทบไม่เคยปล่อยให้เข้าสังคมเลย สมัย ม.ปลาย คุยกับเพื่อนผู้ชายนอกบ้าน แค่เพื่อนจริงๆ พอพ่อรู้ กลายเป็นเรื่องใหญ่โตมาก
เราไม่เคยเลือกอะไรเองเลย...
เราเข้าใจในความหวังดี เข้าใจว่าห่วง แต่ความห่วง กลายเป็นปิดกั้นเราไปหมดทุกทาง
เราอยากไปงานหนังสือก็ไม่ให้ไป เราไม่เข้าใจ... เราชวนน้องสาวซึ่งชอบอ่านหนังสือเหมือนเราไปร้านหนังสือ
ซึ่งต้องนั่งรถเมล์ไป เราขอแม่ แม่เราก็ไม่ให้ไป พอเราดึงดันจะไป ก็ว่าเรา ว่าเราปีกกล้าขาแข็ง ทุกอย่างดูอันตรายในสายตาเขาไปหมด
พ่อแม่เราคิดว่า ถ้าทำกิจกรรมในมหาลัย ถ้าไปออกค่าย เที่ยวกับเพื่อน ดูหนังฟังเพลง จะทำให้การเรียนเสีย
เรากับน้องโดนแม่บังคับให้อ่านหนังสือตลอดเวลา เครียดมาก แม่เราก็ชอบด่า แก้วแตกใบเดียว ด่าเราไป 3 วัน ซึ่งเราไม่ได้ทำ
น้องเราเรียนเก่ง เกรดเฉลี่ยไม่เคยต่ำกว่า 3.5 ขึ้นลงบ้างไม่เกินนี้ ครั้งนึงเกรดตกลงมา 0.2 แม่ทั้งบ่นทั้งด่า
เราสงสารน้องมาก เราไม่อยากให้น้องเป็นแบบเรา เราเก็บกดมาก อึดอัด คิดอยากตายแทบทุกวัน
เรามีปัญหาเรื่องนี้มา 10 ปีได้แล้ว ไม่รู้จะทำยังไง แม่ชอบเอาเรื่องเล็กน้อยที่เราทำผิดไปเล่าให้ญาติๆฟัง
ละพวกเขาก็มาว่าเรา ทั้งที่เรื่องดีๆที่เราทำก็มี เราไม่ใช่ลูกอกตัญญูอะไรขนาดนั้น
แม่เราไม่เคยพูดให้ใครฟังเลย ทุกวันนี้ เวลาคุยดีๆกับแม่ เราโอเค แต่พอแม่เริ่มบ่นด่า ในเรามันอยากจะกรีดร้อง
อยากลงไปนอนดิ้นๆ กรี๊ดๆๆ เราทนฟังเสียแม่บ่น ด่าเสียงดังๆไม่ได้จริงๆ เรื้อรังแบบนี้มา 10 ปี เราทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากอดทน
เราคุยกับพ่อแม่ดีๆแล้ว เขาก็พูดทุกครั้งที่เราพยามคุยว่า " ถ้าอยากได้แบบพ่อแม่คนอื่นก็ไปเป็นลูกคนอื่น " เสียความรู้สึกไปเลยค่ะ
ขนาดแค่แฟนเราพาไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น พ่อแม่เรายังไม่ให้ไปเลยค่ะ เขาบอกว่าเสียเวลา ให้อ่านหนังสือ
ตอนนี้ เวลาเราอยากไปไหน เราต้องโกหกที่บ้านตลอด แต่ก็ไม่เคยได้ไปไหนไกลๆ เรากลายเป็นคนขี้โกหกไปเลย
ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของเราในรั้วมหาลัยแล้ว เราอยากทำกิจกรรมแบบที่เพื่อนๆได้ทำ อยากให้พ่อแม่เข้าใจ
ว่าถึงจะทำกิจกรรม ก็ไม่ได้ทำให้การเรียนเสีย ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สนใจเรียน
เราควรพูดกับพ่อแม่เรายังไงดี ?? เราอธิบายมาเป็นร้อยรอบ ไม่เคยได้ผล ตั้งแต่ปี 1 จนตอนนี้ ปี 4 แล้ว
เราควรอธิบายยังไง หรือทำยังไงให้พ่อแม่เข้าใจดีคะ
ปล.คิดว่าคงมีหลายๆคนคิดว่าเราไม่เข้าใจว่าพ่อแม่ห่วง เราเข้าใจดีค่ะ แต่ห่วงมากเกินไปกลายเป็นปิดกั้น
ไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้จักคำว่าผิดพลาด ไม่รู้จักการแก้ปัญหา เพราะมีพ่อแม่คอยอุ้มอยู่ตลอด
ทุกวันนี้เราทำอะไรหลายๆอย่างเป็นเพราะแฟนค่ะ เช่นตอนนี้เราพึ่งทำกับข้าวเป็นเพราะแฟนคนนี้ แม่เราไม่เคยให้ทำ
เพราะคิดว่าเราทำไม่ได้ เขาบ่นเรา ด่าเรานะคะ แต่ไม่ให้เราทำ เป็นแบบนี้ทุกเรื่องจริงๆค่ะ
ปล2. ขอบคุณ คุณ กินผัดกระเพราแต่ไม่กินกระเพรา ที่เป็นแฟนที่น่ารัก และเข้าใจปัญหาของเค้ามาเสมอ
ขอบคุณที่เข้ามาเปิดกะลาแคบๆของเค้า ให้เค้าได้มองได้เห็นอะไรบ้าง ขอบคุณที่อยู่ข้างกันเสมอในวันที่เจอปัญหา
ขอบคุณที่เดินเข้ามาในชีวิตเค้านะ
[ปรึกษา] ปีสุดท้ายแล้ว จะต้องบอกพ่อแม่ ยังไงให้เขาเข้าใจเรา ??
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ชีวิตเรามีแค่บ้านกับมหาลัย แทบไม่เคยเที่ยวกับเพื่อนเลย ไปห้างเล็กๆใกล้ๆบ้านโดนแม่โทรด่า (ด่าจริงๆ) เรียกให้กลับบ้าน
ไม่เคยออกค่าย เพื่อนไปเที่ยวไหน ไม่เคยมีส่วนร่วม ไม่เคยมีกิจกรรมอะไรแบบที่คนอื่นทำเลย
เพราะพ่อแม่ไม่ชอบให้ออกจากบ้าน ชีวิตวัยรุ่นเป็นยังไง ?? เราไม่รู้จักหรอก
เราโตมากับคำพูดที่ว่า " ถึงมันจะถูกต้อง แต่ถ้ามันไม่ถูกใจคนรอบข้าง ก็ห้ามทำ " เราไม่เคยมีอิสระ ไม่มีประสบการณ์
พ่อแม่แทบไม่เคยปล่อยให้เข้าสังคมเลย สมัย ม.ปลาย คุยกับเพื่อนผู้ชายนอกบ้าน แค่เพื่อนจริงๆ พอพ่อรู้ กลายเป็นเรื่องใหญ่โตมาก
เราไม่เคยเลือกอะไรเองเลย... เราเข้าใจในความหวังดี เข้าใจว่าห่วง แต่ความห่วง กลายเป็นปิดกั้นเราไปหมดทุกทาง
เราอยากไปงานหนังสือก็ไม่ให้ไป เราไม่เข้าใจ... เราชวนน้องสาวซึ่งชอบอ่านหนังสือเหมือนเราไปร้านหนังสือ
ซึ่งต้องนั่งรถเมล์ไป เราขอแม่ แม่เราก็ไม่ให้ไป พอเราดึงดันจะไป ก็ว่าเรา ว่าเราปีกกล้าขาแข็ง ทุกอย่างดูอันตรายในสายตาเขาไปหมด
พ่อแม่เราคิดว่า ถ้าทำกิจกรรมในมหาลัย ถ้าไปออกค่าย เที่ยวกับเพื่อน ดูหนังฟังเพลง จะทำให้การเรียนเสีย
เรากับน้องโดนแม่บังคับให้อ่านหนังสือตลอดเวลา เครียดมาก แม่เราก็ชอบด่า แก้วแตกใบเดียว ด่าเราไป 3 วัน ซึ่งเราไม่ได้ทำ
น้องเราเรียนเก่ง เกรดเฉลี่ยไม่เคยต่ำกว่า 3.5 ขึ้นลงบ้างไม่เกินนี้ ครั้งนึงเกรดตกลงมา 0.2 แม่ทั้งบ่นทั้งด่า
เราสงสารน้องมาก เราไม่อยากให้น้องเป็นแบบเรา เราเก็บกดมาก อึดอัด คิดอยากตายแทบทุกวัน
เรามีปัญหาเรื่องนี้มา 10 ปีได้แล้ว ไม่รู้จะทำยังไง แม่ชอบเอาเรื่องเล็กน้อยที่เราทำผิดไปเล่าให้ญาติๆฟัง
ละพวกเขาก็มาว่าเรา ทั้งที่เรื่องดีๆที่เราทำก็มี เราไม่ใช่ลูกอกตัญญูอะไรขนาดนั้น
แม่เราไม่เคยพูดให้ใครฟังเลย ทุกวันนี้ เวลาคุยดีๆกับแม่ เราโอเค แต่พอแม่เริ่มบ่นด่า ในเรามันอยากจะกรีดร้อง
อยากลงไปนอนดิ้นๆ กรี๊ดๆๆ เราทนฟังเสียแม่บ่น ด่าเสียงดังๆไม่ได้จริงๆ เรื้อรังแบบนี้มา 10 ปี เราทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากอดทน
เราคุยกับพ่อแม่ดีๆแล้ว เขาก็พูดทุกครั้งที่เราพยามคุยว่า " ถ้าอยากได้แบบพ่อแม่คนอื่นก็ไปเป็นลูกคนอื่น " เสียความรู้สึกไปเลยค่ะ
ขนาดแค่แฟนเราพาไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น พ่อแม่เรายังไม่ให้ไปเลยค่ะ เขาบอกว่าเสียเวลา ให้อ่านหนังสือ
ตอนนี้ เวลาเราอยากไปไหน เราต้องโกหกที่บ้านตลอด แต่ก็ไม่เคยได้ไปไหนไกลๆ เรากลายเป็นคนขี้โกหกไปเลย
ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของเราในรั้วมหาลัยแล้ว เราอยากทำกิจกรรมแบบที่เพื่อนๆได้ทำ อยากให้พ่อแม่เข้าใจ
ว่าถึงจะทำกิจกรรม ก็ไม่ได้ทำให้การเรียนเสีย ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สนใจเรียน
เราควรพูดกับพ่อแม่เรายังไงดี ?? เราอธิบายมาเป็นร้อยรอบ ไม่เคยได้ผล ตั้งแต่ปี 1 จนตอนนี้ ปี 4 แล้ว
เราควรอธิบายยังไง หรือทำยังไงให้พ่อแม่เข้าใจดีคะ
ปล.คิดว่าคงมีหลายๆคนคิดว่าเราไม่เข้าใจว่าพ่อแม่ห่วง เราเข้าใจดีค่ะ แต่ห่วงมากเกินไปกลายเป็นปิดกั้น
ไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้จักคำว่าผิดพลาด ไม่รู้จักการแก้ปัญหา เพราะมีพ่อแม่คอยอุ้มอยู่ตลอด
ทุกวันนี้เราทำอะไรหลายๆอย่างเป็นเพราะแฟนค่ะ เช่นตอนนี้เราพึ่งทำกับข้าวเป็นเพราะแฟนคนนี้ แม่เราไม่เคยให้ทำ
เพราะคิดว่าเราทำไม่ได้ เขาบ่นเรา ด่าเรานะคะ แต่ไม่ให้เราทำ เป็นแบบนี้ทุกเรื่องจริงๆค่ะ
ปล2. ขอบคุณ คุณ กินผัดกระเพราแต่ไม่กินกระเพรา ที่เป็นแฟนที่น่ารัก และเข้าใจปัญหาของเค้ามาเสมอ
ขอบคุณที่เข้ามาเปิดกะลาแคบๆของเค้า ให้เค้าได้มองได้เห็นอะไรบ้าง ขอบคุณที่อยู่ข้างกันเสมอในวันที่เจอปัญหา
ขอบคุณที่เดินเข้ามาในชีวิตเค้านะ