จากภาวะเศรษฐกิจส่วนตัวรุมเร้าจนมีบ้านต้องขายบ้าน มีรถต้องขายรถ เพื่อลดภาระหนี้ให้เบาบางลง บ้านแตกสาแหรกขาดแต่กำลังใจยังดีเยี่ยมด้วยการสนับสนุนช่วยเหลือจากคนรอบข้างตามแต่ที่คนช่วยเหลือเขาเห็นสมควร
หลังจากโอนขายบ้านไปเรียบร้อย เจ้าของคนใหม่ให้เวลาไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งตอนนี้ก็ผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์แล้วครับ ก็คิดไม่ตกเรื่องที่อยู่ของผม
ลูก-เมียไม่มีปัญหา ไปอยู่บ้านแม่ยาย (ซึ่งจริง ๆ บ้านหลังนี้เป็นของพี่เขย เค้าอยู่กันมานานแล้วตั้งแต่ลูกอายุได้ครึ่งขวบ ตอนที่บ้านยังอยู่ วันธรรมดาลูกเมียอยู่กะยาย ส่วนเสาร์บ่าย ๆ ถึงจันทร์เช้าจะอยู่บ้านเรา) โดยตอนนี้คงเป็นการอยู่ทุกวันไปจนกว่าเราจะมีกำลังซื้อบ้านใหม่ได้ ซึ่งส่วนตัวผมกับแฟนตั้งใจจะทำมันให้ได้ภายใน 1 ปีนี้ บ้านหลังนี้อยู่แถว ๆ ถ.กัลปพฤกษ์
ทีนี้ผมมีปัญหาเรื่องที่อยู่ ซึ่งหลังจากการขายบ้านเงินส่วนต่างถูกนำไปใช้หนี้หมดและไม่มีเงินเหลือมากมายอะไร ต้องตัดสินใจระหว่างไปเช่าหอพัก อพาร์ทเม้นท์ หรือคอนโด แถวนั้นเพื่อจะอยู่ใกล้ลูกเมีย มีเวลาไปนั่งเล่นบ้านยายได้ แต่ตกค่ำต้องกลับรังไปซุกหัวนอน เสาร์-อาทิตย์ก็เหมือนกัน
กับส่วนตัวมีบ้านหลังนึงอยู่คลองสี่ ติดว่าที่ผ่านมาเจอน้ำท่วมยังไม่ได้ไปซ่อมแซมอะไร (จริง ๆ แค่ทำความสะอาดก็อยู่ได้เลย) มีเฟอร์บางส่วนที่พอซุกหัวนอนได้ ฟูก หมอน มุ้ง มีมาจากบ้านหลังเก่า ข้างล่างก็ปล่อยโล่ง ๆ ไป และที่สำคัญคือบ้านหลังนี้ถูกยึดอยู่กรมบังคับคดี เปิดประมูลขายอยู่เรื่อย ๆ
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน แฟนไม่บังคับเรื่องต้องไปหาลูกทุกวัน แค่อยากให้ทำยังไงก็ได้ ที่จะฟื้นฐานะตัวเองให้เร็วที่สุด จะได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง 1-2 ปีนี้เค้าทนได้ แต่ขอเวลาเสาร์-อาทิตย์ พยายามมาหาลูกเป็นเป็นปกติ
คำนวณคร่าว ๆ ว่าถ้าเช่าหอพักอยู่ หรือคอนโด ก็ต้องมีเงินเริ่มต้นประมาณสองหมื่น ส่วนไปทำบ้านก็น่าจะใช้เงินราว ๆ นี้ไม่หนีกัน ส่วนค่าใช้จ่ายรายเดือน ถ้าเช่าหอพัก หรือคอนโดน ค่าเช่า น้ำ ไฟ รวมกันน่าจะราว ๆ 7,000 - 10,000 บาท ถ้าไปบ้านตัวเองไม่มีค่าเช่า แต่ต้องลุ้นเอาว่าจะขายทอดตลาดได้เมื่อไหร่ ถ้าโชคดีฟื้นฐานะได้ทัน บ้านหลังนี้คงจะขอปรับโครงสร้างหนี้ หรืออาจจะคุยกับทางหน่วยงานที่ยึดอยู่ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง
เรื่องการเดินทางไม่ใช่ปัญหา รถคันที่ใช้อยุ่ติดแก๊ส ชีวิตทำงานในกทม. ก็ไม่ได้เข้าออฟฟิศเหมือนคนทั่วไป เน้นหนักมากคืองานวิ่งขาย ปิดจ๊อบได้รับเงินค่าคอมมิชชั่นไป จะว่าไปก็คือเซลล์อิสระ หรือฟรีแลนซ์ ขายงานได้จ๊อบนึงค่าคอมก็น่าจะราว ๆ 1-2 หมื่น ไม่มีเงินเดือน ไม่มีค่าเดินทาง และระหว่างนี้ตั้งใจจะหาอะไรทำที่ยั่งยืนกว่า แต่ก็ต้องเก็บเงินพอสมควร
รบกวนขอคำชี้แนะด้วยครับ
เลือกไปอยู่ที่ไหนดีครับระหว่างเช่าหอพัก คอนโด หรืออยู่บ้านตัวเอง
หลังจากโอนขายบ้านไปเรียบร้อย เจ้าของคนใหม่ให้เวลาไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งตอนนี้ก็ผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์แล้วครับ ก็คิดไม่ตกเรื่องที่อยู่ของผม
ลูก-เมียไม่มีปัญหา ไปอยู่บ้านแม่ยาย (ซึ่งจริง ๆ บ้านหลังนี้เป็นของพี่เขย เค้าอยู่กันมานานแล้วตั้งแต่ลูกอายุได้ครึ่งขวบ ตอนที่บ้านยังอยู่ วันธรรมดาลูกเมียอยู่กะยาย ส่วนเสาร์บ่าย ๆ ถึงจันทร์เช้าจะอยู่บ้านเรา) โดยตอนนี้คงเป็นการอยู่ทุกวันไปจนกว่าเราจะมีกำลังซื้อบ้านใหม่ได้ ซึ่งส่วนตัวผมกับแฟนตั้งใจจะทำมันให้ได้ภายใน 1 ปีนี้ บ้านหลังนี้อยู่แถว ๆ ถ.กัลปพฤกษ์
ทีนี้ผมมีปัญหาเรื่องที่อยู่ ซึ่งหลังจากการขายบ้านเงินส่วนต่างถูกนำไปใช้หนี้หมดและไม่มีเงินเหลือมากมายอะไร ต้องตัดสินใจระหว่างไปเช่าหอพัก อพาร์ทเม้นท์ หรือคอนโด แถวนั้นเพื่อจะอยู่ใกล้ลูกเมีย มีเวลาไปนั่งเล่นบ้านยายได้ แต่ตกค่ำต้องกลับรังไปซุกหัวนอน เสาร์-อาทิตย์ก็เหมือนกัน
กับส่วนตัวมีบ้านหลังนึงอยู่คลองสี่ ติดว่าที่ผ่านมาเจอน้ำท่วมยังไม่ได้ไปซ่อมแซมอะไร (จริง ๆ แค่ทำความสะอาดก็อยู่ได้เลย) มีเฟอร์บางส่วนที่พอซุกหัวนอนได้ ฟูก หมอน มุ้ง มีมาจากบ้านหลังเก่า ข้างล่างก็ปล่อยโล่ง ๆ ไป และที่สำคัญคือบ้านหลังนี้ถูกยึดอยู่กรมบังคับคดี เปิดประมูลขายอยู่เรื่อย ๆ
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน แฟนไม่บังคับเรื่องต้องไปหาลูกทุกวัน แค่อยากให้ทำยังไงก็ได้ ที่จะฟื้นฐานะตัวเองให้เร็วที่สุด จะได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง 1-2 ปีนี้เค้าทนได้ แต่ขอเวลาเสาร์-อาทิตย์ พยายามมาหาลูกเป็นเป็นปกติ
คำนวณคร่าว ๆ ว่าถ้าเช่าหอพักอยู่ หรือคอนโด ก็ต้องมีเงินเริ่มต้นประมาณสองหมื่น ส่วนไปทำบ้านก็น่าจะใช้เงินราว ๆ นี้ไม่หนีกัน ส่วนค่าใช้จ่ายรายเดือน ถ้าเช่าหอพัก หรือคอนโดน ค่าเช่า น้ำ ไฟ รวมกันน่าจะราว ๆ 7,000 - 10,000 บาท ถ้าไปบ้านตัวเองไม่มีค่าเช่า แต่ต้องลุ้นเอาว่าจะขายทอดตลาดได้เมื่อไหร่ ถ้าโชคดีฟื้นฐานะได้ทัน บ้านหลังนี้คงจะขอปรับโครงสร้างหนี้ หรืออาจจะคุยกับทางหน่วยงานที่ยึดอยู่ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง
เรื่องการเดินทางไม่ใช่ปัญหา รถคันที่ใช้อยุ่ติดแก๊ส ชีวิตทำงานในกทม. ก็ไม่ได้เข้าออฟฟิศเหมือนคนทั่วไป เน้นหนักมากคืองานวิ่งขาย ปิดจ๊อบได้รับเงินค่าคอมมิชชั่นไป จะว่าไปก็คือเซลล์อิสระ หรือฟรีแลนซ์ ขายงานได้จ๊อบนึงค่าคอมก็น่าจะราว ๆ 1-2 หมื่น ไม่มีเงินเดือน ไม่มีค่าเดินทาง และระหว่างนี้ตั้งใจจะหาอะไรทำที่ยั่งยืนกว่า แต่ก็ต้องเก็บเงินพอสมควร
รบกวนขอคำชี้แนะด้วยครับ