
ศาลพระพรหม ที่ โรงแรมเอราวัณ บริเวณ สี่แยกราชประสงค์ เชื่อว่าหลายๆคนในพันทิปน่าจะเคยไปสักการะบูชา ขอพร
หรือ แม้กระทั่งบนบานศาลกล่าว พอดีผมกำลังหาข้อมูลเพื่อที่จะไปแนะนำให้เพื่อนไต้หวัน 2 คนที่กำลังจะมาไทยคืนนี้
เค้ารีเควสให้เป็นไกด์พาเที่ยวในกรุงเทพให้หน่อย หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เค้ารีเควสมานั้น มีพระพรหมเอราวัณอยู่ด้วย
เด็กน้อยแบบผมจะเอาความรู้จากไหนมาเป็นไกด์ได้หล่ะครับ งานนี้ก็ต้องพึ่งพา "พี่กู" หละครับ google เท่านั้นช่วยคุณได้ !!!
ค้นไปค้นมาก็ไปได้ข้อมูลมา ดูๆไปก็มีประโยชน์แหะ ต้องบอกก่อนเลยว่าผมเสร่อมากกก ผมก็เคยไปไหว้ที่นั่นและครั้งที่แล้ว
ตอนไหว้ก็ไหว้แบบไม่รู้เรื่องรู้ราว ทำนองเหมือนบ้านนอกเข้ากรุง แหล่ๆคนข้างๆเอาเค้าทำไงเราเอามั่ง ทริคนี้ใช้ได้ผลบ่อยๆ
เวลาไปในที่ที่ไม่รู้จัก ตัดสินใจนั่งอ่านเข้าท่าแบบนี้เลยเอามาแชร์ให้เพื่อนๆพี่ๆ ลุง ป้า น้า อา ใน พันทิปอ่านหน่อย
ไม่รู้ว่าทุกท่านเคยอ่านหรือยังหรือเค้ามีติดป้ายไว้ที่ศาลแต่ผมไม่ได้สังเกตก็ไม่รู้ ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคร๊าบบบ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ประวัติ ความศรัทธา ความศักดิ์สิทธิ์!
วิกิพีเดีย ระบุเรื่องราวประวัติความเป็นมาว่า เมื่อ พ.ศ.2494 พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ กำหนดให้มีการก่อสร้างโรงแรมเอราวัณขึ้นบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เพื่อรองรับแขกต่างประเทศ ว่ากันว่าในช่วงแรกของการก่อสร้างเกิดอุบัติเหตุขึ้นมากมาย เมื่อการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ ปลายปี พ.ศ.2499 ทาง บริษัท สหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำกัด ผู้บริหารโรงแรมได้ติดต่อ พลเรือตรีหลวงสุวิชาน แพทย์ ร.น. นายแพทย์ใหญ่ กองทัพเรือ ผู้ทรงคุณวุฒิในเรื่องการนั่งทางใน เข้าดำเนินการหาฤกษ์วันเปิดโรงแรม
พลเรือตรีหลวงสุวิชานแพทย์ได้ท้วงติงว่า ในการก่อสร้างโรงแรมไม่ได้มีการทำพิธีบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบริเวณนั้นก่อน ฤกษ์ในการวางศิลาฤกษ์ของโรงแรมก็ไม่ถูกต้อง อีกทั้งชื่อของโรงแรม "เอราวัณ" นั้น เป็นชื่อของช้างทรงของพระอินทร์ ถือเป็นชื่อที่ศักดิ์สิทธิ์ จำเป็นต้องมีการบวงสรวงที่เหมาะสม วิธีการแก้ไขจะต้องขอพรจากพระพรหมเพื่อช่วยให้อุปสรรคหมดไป และจะต้องสร้างศาลพระพรหมขึ้นทันทีหลังจากการก่อสร้างโรงแรมแล้วเสร็จ และสร้างศาลพระภูมิขึ้นไว้ในโรงแรม
จึงได้มีการตั้งศาลพระพรหม ออกแบบตัวศาลโดยนายระวี ชมเสรี และ ม.ล.ปุ่ม มาลากุล องค์ท้าวมหาพรหมปั้นด้วยปูนปลาสเตอร์ปิดทอง ออกแบบและปั้นโดยนายจิตร พิมพ์โกวิท ช่างกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร และอัญเชิญพระพรหมมาประดิษฐานที่หน้าโรงแรมเอราวัณ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 ตามแผนงานครั้งแรก องค์ท้าวมหาพรหมจะเป็นโลหะหล่อสีทอง แต่เนื่องจากระยะเวลาจำกัดด้วยฤกษ์การเปิดโรงแรม จึงได้เปลี่ยนวัสดุเป็นปูนปั้นปิดทองแทน
ศาลท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ ถือเป็นศาลพระพรหมศาลแรกที่มีขนาดใหญ่ ในเวลาต่อมาเมื่อมีการสร้างศาลพระพรหมไว้บูชาในอาคารหรือสถานที่ขนาดใหญ่ จะยึดแบบการสร้างจากศาลท้าวมหาพรหมที่โรงแรมเอราวัณ เนื่องจากเป็นความเชื่อว่าจะช่วยปัดเป่าความขัดข้อง อุปสรรค และส่งเสริมโชคและความสำเร็จ
ปัจจุบัน ศาลท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ อยู่ในความดูแลของ "มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหม" ด้วยเหตุที่ท่านท้าวมหาพรหมถูกชายที่ไม่สมประกอบทุบในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2549 ซึ่งทำให้ตัวองค์แตก ดังนั้นจึงมีกำหนดการที่จะบูรณะพระองค์ขึ้นมาใหม่ พร้อมกับสร้างองค์ใหม่ด้วย แล้วเสร็จในปลายเดือนพฤษภาคมปีเดียวกัน ในระหว่างบูรณะ ทางการได้นำภาพท้าวมหาพรหมติดตั้งแทน มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ ได้ทำพิธีอัญเชิญองค์ท่านท้าวมหาพรหม ที่บูรณะเสร็จแล้วกลับมาประดิษฐานที่เทวาลัย ในวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ.2549 เวลา 11.39 น. ซึ่งเป็นเวลาที่องศาของดวงอาทิตย์ส่องตรงศาลพอดี โดยอัญเชิญเป็นขบวนจากกรมศิลปากรมาจนถึงศาลท้าวมหาพรหม
วิธีบูชา ความศรัทธา ความศัก์ดิสิทธิ์ !
เนื่องด้วยการบูชาพระพรหมมีวิธีการบูชา เพราะองค์พระพรหมท่านมี 4 พักตร์ 4 ทิศ ฉะนั้นการบูชาก็ ควรบูชาให้ครบทั้ง 4 พักตร์ 4 ทิศ วิธีการบูชาพระพรหม ซึ่งจะไหว้ธูป 9 ดอก เทียน 2 เล่ม และบูชา เฉพาะหน้าเดียว การไหว้แบบนี้ไม่ผิด แต่จะได้พรเพียงเรื่องเดียวจากท่าน การที่จะได้รับพรครบทุกประการ จำเป็นต้องมีวิธี วิธีการอย่างแรกต้องเตรียมของในการสักการะพระพรหมให้ครบ 4 ธาตุก่อน
ธาตุที่ว่ามีดิน น้ำ ลม ไฟ
1.ธาตุดิน คือ ดอกบัว 2.ธาตุน้ำ คือ น้ำสะอาด 3.ธาตุลม คือ ธูป 4.ธาตุไฟ คือ เทียน
การสักการะองค์พระพรหมเริ่มจากพักตร์แรกและเวียน
ขวามือของเรา ซ้ายมือของท่าน จนไปถึงหน้าสุดท้าย การขอพรทุกพักตร์จะมีความหมายต่างกัน
พักตร์แรก ใช้ธูป 16 ดอก เทียน 9 เล่ม ดอกบัว 9 ดอก น้ำ 1 ขวด
สำหรับความหมายพักตร์แรกให้ขอเกี่ยวกับเรื่องการงาน การเรียน สิ่งที่ต้องรับผิดชอบในชีวิต การสอบ ขอเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่งงานและความก้าวหน้าในชีวิต ขอเกี่ยวกับเรื่องพ่อ
พักตร์ที่สอง ใช้ธูป 36 ดอก เทียน 9 เล่ม ดอกบัว 9 ดอก น้ำ 1 ขวด พักตร์ที่สองขอเกี่ยวกับเรื่องอสังหาริมทรัพย์ สังหาริมทรัพย์ เรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ดิน บ้าน คอนโด รถยนต์ อยากมีหรืออยากได้ให้ขอหน้านี้ รวมทั้งหนี้สิน ที่มีคนยืมไปแล้วไม่คืน
พักตร์ที่สาม ใช้ธูป 39 ดอก เทียน 9 เล่ม ดอกบัว 9 ดอก น้ำ 1 ขวด พักตร์ที่สามให้ขอเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ คู่ชีวิต ครอบครัว ญาติพี่น้อง เรื่องเกี่ยวกับแม่ คู่สัญญา หุ้นส่วน ความมั่นคงของชีวิต
พักตร์ที่สี่ ใช้ธูป 19 ดอก เทียน 9 เล่ม ดอกบัว 9 ดอก น้ำ 1 ขวด พักตร์ที่สี่ขอเกี่ยวกับเรื่องโชคลาภ สิ่งที่ได้มาโดยบังเอิญ การขอกู้ยืมเงิน ขอออเดอร์สินค้า เรื่องของบุตร ใครยังไม่มีบุตรให้มาขอได้ ประสบผลสำเร็จ
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*--*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
อ่านไปอ่านไปแอบใช้ค่าใช้จ่ายเยอะในการซื้อดอกไม้ธูปเทียน สำหรับเด็กๆอย่างผมยังหาเงินไม่ได้ก็ขอทำเหมือนเดิมยกมือไหว้ ท่องบทสวด ขอพร
หวังว่าท่านพระพรหมคงไม่โกรธผมใช่ไหมครับ ^^
'พระพรหม' เอราวัณ สักการะแบบไหน ถึงจะถูกวิธีนะ
หรือ แม้กระทั่งบนบานศาลกล่าว พอดีผมกำลังหาข้อมูลเพื่อที่จะไปแนะนำให้เพื่อนไต้หวัน 2 คนที่กำลังจะมาไทยคืนนี้
เค้ารีเควสให้เป็นไกด์พาเที่ยวในกรุงเทพให้หน่อย หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เค้ารีเควสมานั้น มีพระพรหมเอราวัณอยู่ด้วย
เด็กน้อยแบบผมจะเอาความรู้จากไหนมาเป็นไกด์ได้หล่ะครับ งานนี้ก็ต้องพึ่งพา "พี่กู" หละครับ google เท่านั้นช่วยคุณได้ !!!
ค้นไปค้นมาก็ไปได้ข้อมูลมา ดูๆไปก็มีประโยชน์แหะ ต้องบอกก่อนเลยว่าผมเสร่อมากกก ผมก็เคยไปไหว้ที่นั่นและครั้งที่แล้ว
ตอนไหว้ก็ไหว้แบบไม่รู้เรื่องรู้ราว ทำนองเหมือนบ้านนอกเข้ากรุง แหล่ๆคนข้างๆเอาเค้าทำไงเราเอามั่ง ทริคนี้ใช้ได้ผลบ่อยๆ
เวลาไปในที่ที่ไม่รู้จัก ตัดสินใจนั่งอ่านเข้าท่าแบบนี้เลยเอามาแชร์ให้เพื่อนๆพี่ๆ ลุง ป้า น้า อา ใน พันทิปอ่านหน่อย
ไม่รู้ว่าทุกท่านเคยอ่านหรือยังหรือเค้ามีติดป้ายไว้ที่ศาลแต่ผมไม่ได้สังเกตก็ไม่รู้ ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคร๊าบบบ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วิกิพีเดีย ระบุเรื่องราวประวัติความเป็นมาว่า เมื่อ พ.ศ.2494 พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ กำหนดให้มีการก่อสร้างโรงแรมเอราวัณขึ้นบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เพื่อรองรับแขกต่างประเทศ ว่ากันว่าในช่วงแรกของการก่อสร้างเกิดอุบัติเหตุขึ้นมากมาย เมื่อการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ ปลายปี พ.ศ.2499 ทาง บริษัท สหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำกัด ผู้บริหารโรงแรมได้ติดต่อ พลเรือตรีหลวงสุวิชาน แพทย์ ร.น. นายแพทย์ใหญ่ กองทัพเรือ ผู้ทรงคุณวุฒิในเรื่องการนั่งทางใน เข้าดำเนินการหาฤกษ์วันเปิดโรงแรม
พลเรือตรีหลวงสุวิชานแพทย์ได้ท้วงติงว่า ในการก่อสร้างโรงแรมไม่ได้มีการทำพิธีบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบริเวณนั้นก่อน ฤกษ์ในการวางศิลาฤกษ์ของโรงแรมก็ไม่ถูกต้อง อีกทั้งชื่อของโรงแรม "เอราวัณ" นั้น เป็นชื่อของช้างทรงของพระอินทร์ ถือเป็นชื่อที่ศักดิ์สิทธิ์ จำเป็นต้องมีการบวงสรวงที่เหมาะสม วิธีการแก้ไขจะต้องขอพรจากพระพรหมเพื่อช่วยให้อุปสรรคหมดไป และจะต้องสร้างศาลพระพรหมขึ้นทันทีหลังจากการก่อสร้างโรงแรมแล้วเสร็จ และสร้างศาลพระภูมิขึ้นไว้ในโรงแรม
จึงได้มีการตั้งศาลพระพรหม ออกแบบตัวศาลโดยนายระวี ชมเสรี และ ม.ล.ปุ่ม มาลากุล องค์ท้าวมหาพรหมปั้นด้วยปูนปลาสเตอร์ปิดทอง ออกแบบและปั้นโดยนายจิตร พิมพ์โกวิท ช่างกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร และอัญเชิญพระพรหมมาประดิษฐานที่หน้าโรงแรมเอราวัณ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 ตามแผนงานครั้งแรก องค์ท้าวมหาพรหมจะเป็นโลหะหล่อสีทอง แต่เนื่องจากระยะเวลาจำกัดด้วยฤกษ์การเปิดโรงแรม จึงได้เปลี่ยนวัสดุเป็นปูนปั้นปิดทองแทน
ศาลท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ ถือเป็นศาลพระพรหมศาลแรกที่มีขนาดใหญ่ ในเวลาต่อมาเมื่อมีการสร้างศาลพระพรหมไว้บูชาในอาคารหรือสถานที่ขนาดใหญ่ จะยึดแบบการสร้างจากศาลท้าวมหาพรหมที่โรงแรมเอราวัณ เนื่องจากเป็นความเชื่อว่าจะช่วยปัดเป่าความขัดข้อง อุปสรรค และส่งเสริมโชคและความสำเร็จ
ปัจจุบัน ศาลท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ อยู่ในความดูแลของ "มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหม" ด้วยเหตุที่ท่านท้าวมหาพรหมถูกชายที่ไม่สมประกอบทุบในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2549 ซึ่งทำให้ตัวองค์แตก ดังนั้นจึงมีกำหนดการที่จะบูรณะพระองค์ขึ้นมาใหม่ พร้อมกับสร้างองค์ใหม่ด้วย แล้วเสร็จในปลายเดือนพฤษภาคมปีเดียวกัน ในระหว่างบูรณะ ทางการได้นำภาพท้าวมหาพรหมติดตั้งแทน มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ ได้ทำพิธีอัญเชิญองค์ท่านท้าวมหาพรหม ที่บูรณะเสร็จแล้วกลับมาประดิษฐานที่เทวาลัย ในวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ.2549 เวลา 11.39 น. ซึ่งเป็นเวลาที่องศาของดวงอาทิตย์ส่องตรงศาลพอดี โดยอัญเชิญเป็นขบวนจากกรมศิลปากรมาจนถึงศาลท้าวมหาพรหม
เนื่องด้วยการบูชาพระพรหมมีวิธีการบูชา เพราะองค์พระพรหมท่านมี 4 พักตร์ 4 ทิศ ฉะนั้นการบูชาก็ ควรบูชาให้ครบทั้ง 4 พักตร์ 4 ทิศ วิธีการบูชาพระพรหม ซึ่งจะไหว้ธูป 9 ดอก เทียน 2 เล่ม และบูชา เฉพาะหน้าเดียว การไหว้แบบนี้ไม่ผิด แต่จะได้พรเพียงเรื่องเดียวจากท่าน การที่จะได้รับพรครบทุกประการ จำเป็นต้องมีวิธี วิธีการอย่างแรกต้องเตรียมของในการสักการะพระพรหมให้ครบ 4 ธาตุก่อน
1.ธาตุดิน คือ ดอกบัว 2.ธาตุน้ำ คือ น้ำสะอาด 3.ธาตุลม คือ ธูป 4.ธาตุไฟ คือ เทียน
การสักการะองค์พระพรหมเริ่มจากพักตร์แรกและเวียนขวามือของเรา ซ้ายมือของท่าน จนไปถึงหน้าสุดท้าย การขอพรทุกพักตร์จะมีความหมายต่างกัน
พักตร์แรก ใช้ธูป 16 ดอก เทียน 9 เล่ม ดอกบัว 9 ดอก น้ำ 1 ขวด
สำหรับความหมายพักตร์แรกให้ขอเกี่ยวกับเรื่องการงาน การเรียน สิ่งที่ต้องรับผิดชอบในชีวิต การสอบ ขอเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่งงานและความก้าวหน้าในชีวิต ขอเกี่ยวกับเรื่องพ่อ
พักตร์ที่สอง ใช้ธูป 36 ดอก เทียน 9 เล่ม ดอกบัว 9 ดอก น้ำ 1 ขวด พักตร์ที่สองขอเกี่ยวกับเรื่องอสังหาริมทรัพย์ สังหาริมทรัพย์ เรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ดิน บ้าน คอนโด รถยนต์ อยากมีหรืออยากได้ให้ขอหน้านี้ รวมทั้งหนี้สิน ที่มีคนยืมไปแล้วไม่คืน
พักตร์ที่สาม ใช้ธูป 39 ดอก เทียน 9 เล่ม ดอกบัว 9 ดอก น้ำ 1 ขวด พักตร์ที่สามให้ขอเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ คู่ชีวิต ครอบครัว ญาติพี่น้อง เรื่องเกี่ยวกับแม่ คู่สัญญา หุ้นส่วน ความมั่นคงของชีวิต
พักตร์ที่สี่ ใช้ธูป 19 ดอก เทียน 9 เล่ม ดอกบัว 9 ดอก น้ำ 1 ขวด พักตร์ที่สี่ขอเกี่ยวกับเรื่องโชคลาภ สิ่งที่ได้มาโดยบังเอิญ การขอกู้ยืมเงิน ขอออเดอร์สินค้า เรื่องของบุตร ใครยังไม่มีบุตรให้มาขอได้ ประสบผลสำเร็จ
อ่านไปอ่านไปแอบใช้ค่าใช้จ่ายเยอะในการซื้อดอกไม้ธูปเทียน สำหรับเด็กๆอย่างผมยังหาเงินไม่ได้ก็ขอทำเหมือนเดิมยกมือไหว้ ท่องบทสวด ขอพร
หวังว่าท่านพระพรหมคงไม่โกรธผมใช่ไหมครับ ^^