ที่ทำงานผมมีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพขึ้น โดยมอบหมายให้ บลจ. ที่เป็นสีเหลืองเป็นผู้บริหารกองทุนดังกล่าวนะครับ
ที่นี้วันหนึ่งผมได้ฟังรายการวิทยุ ซึ่งทางนายกสมาคมได้มาเป็นแขกรับเชิญให้พูดถึงเรื่องเศรษฐกิจนะครับ ซึ่งตัวคนพูดเองก็เป็นนายกของสมาคมดังกล่าวด้วย คือ สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ไม่แน่ใจว่าในนี้มีใครทราบหรือไม่ว่ามีสมาคมดังกล่าวแล้ว เคยถามเพื่อนๆ หลายคนที่ทำงาน HR ก็บอกว่าไม่เคยได้ยิน ป๊าด! เป็นซะงั้น รายละเอียดของสมาคมดังกล่าวนะครับ www.aop.or.th)
ผมเลยคิดว่าที่ทำงานผมน่าจะสมัครสมาชิกของสมาคมดังกล่าว เพื่อจะได้รับทราบข่าวสาร เรื่องราว ความคืบหน้าต่างๆ update ล่าสุด รวมถึงหนังสือเชิญเพื่อเข้าร่วมประชุม การอบรมหรือสัมมนาต่างๆ ซึ่งการสมัครสมาชิกก็ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายมากมายนัก ค่าแรกเข้า 3,000 บาท และค่าสมาชิกปีละ 1,000 บาท (จริงๆ แล้วค่าสมาชิกปีละ 1000 บาทที่ทำงานผม แต่สำหรับที่อื่นอาจจะมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ของกองทุนนะครับ) ซึ่งผมเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับที่ทำงานของผม เลยทำเรื่องเสนอไปที่ผู้จัดการ HR นะครับ ผลปรากฎว่า............
ครังแรก HR คุยกับ Account แล้ว ปรากฎว่าต้องผ่านผู้ใหญ่ก่อน ดังนั้นผมเลยรอ ผู้ใหญ่ให้คำตอบมาว่า ไม่เห็นความจำเป็นอะไรเลยที่จะต้องไปสมัครสมาชิก เพราะยังไงข้อมูล ข่าวสารเราก็ได้รับจาก บลจ. อยู่แล้ว และอีกออย่างที่ทำงานนี้ก็ไม่มีคนที่เชี่ยวชาญ หรือมีความรู้เรื่อง Provident Fund ไม่รู้จะไปเป็นสมาชิกของสมาคมทำไม ได้ยินคำตอบนี้จากผู้ใหญ่ฟังแล้ว เงิบครับ
เหตุผลที่บอกว่า ได้รับข้อมูลข่าวสารจาก บลจ. อยู่แล้ว คือ ผมบอกได้เลยว่า ทุกวันนี้ได้รับแต่รายงานประจำเดือนของกองทุนต่างๆที่ Provident Fund ได้ไปลงทุนเท่านั้นนะครับ ส่วนข่าวคราวอื่นๆ แทบจะไม่ได้รับเลยครับ (ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ บลจ. ไม่ส่งมาให้หรือว่าที่ทำงานของผมไม่ตามงานเองนะครับ) นอกจากนี้ข้อมูล ข่าวสารที่ทาง บลจ. ส่งมาให้นั้น จะไม่ได้เป็นเชิงวิชาการหรือว่าเจาะลึกมากนัก ซึ่งแตกต่างจากข่าวสารหรือความรู้ที่ทางสมาคมฯ ส่งมาให้ ซึ่งเป็นความรู้ในทางวิชาการและเชิงลึกมากขึ้น
ส่วนเหตุผลที่บอกว่าที่ทำงานนี้ไม่มีคนที่ความรู้ความชำนาญหรือเชี่ยวชาญ เลยไม่รู้จะไปเป็นสมาชิกทำไม (เพราะการเป็นสมาชิกของสมาคมฯ นั้นเรามีสิทธิที่จะได้รับการคัดเลือกให้เป็นกรรมการบริหารของสมาคมด้วย) ก็เพราะไม่มีความรู้ความสามารถนี้ละครับ ผมเลยอยากให้ทางที่ทำงานปั้นคนขึ้นมาเพื่อดูแลจัดการเรื่องนี้โดยเฉพาะเลย ดังนั้นเลยคิดว่าที่ทำงานควรจะได้มีการส่งคนไปทำการ training เกี่ยวกับเรื่องนี้ และกลับมา educate ให้กับพนักงานต่างๆในที่ทำงานนะครับ เรียกว่าได้ทั้งตัวคนถูกส่งไป training และองค์กรด้วย
fell ครับกับคำตอบที่ทางผู้ใหญ่ให้มา ประเด็นที่ผมอยากสอบถามกับเพื่อนๆ ในนี้
1. มีใครได้เคยสมัครเป็นสมาชิกของสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดังกล่าวไหมนะครับ
2. และตามที่ผมเข้าใจ ข้อมูลที่มาจากฝั่ง บลจ. และข้อมูลที่มาจากฝั่งสมาคมฯ นั้น เป็นข้อมูลคนละส่วนกัน แต่เป็นเรื่องเดียวกัน (ไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจถูกไหมนะครับ ไม่ได้บอกว่า บลจ. ไม่ดีหรือไม่ถูกต้องนะครับ) แต่เคยสำรวจข้อมูลของทั้ง 2 ฝั่งแล้ว ต่างกันในบางด้านหรือบางมุมนะครับ แต่เวลาใช้ข้อมูลจะต้องใช้ข้อมูลของทั้ง 2 ด้านมาประกอบควบคู่กันนะครับ
3. อยากถามความเห็นว่า การที่หน่วยงานหรือองค์กรใดที่มีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้ว และได้มอบหมายให้ บลจ. นำเงินดังกล่าวไปบริหารแล้ว จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องไปเป็นสมาชิกของสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนะครับ (แต่ผมดูรายชื่อสมาชิกของสมาคมแล้ว มีทั้งหน่วยงานขนาดใหญ่และเล็ก ทั้งรัฐวิสาหกิจและเอกชนนะครับ) แต่โดยส่วนตัวผมว่าจำเป็นนะ ค่าสมาชิกก็ไม่ได้แพงเป็นหมื่นๆ หรือแสนต่อปี เพราะเป็นประโยชน์ไม่แต่เฉพาะลูกจ้างเท่านั้น แม้แต่นายจ้างเองก็เป็นประโยชน์ด้วย
ใครมีความเห็นว่าอย่างไรนะครับ อยากให้มา share กันนะครับ
ขอบคุณครับ
ขอถามเรื่องกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนะครับ
ที่นี้วันหนึ่งผมได้ฟังรายการวิทยุ ซึ่งทางนายกสมาคมได้มาเป็นแขกรับเชิญให้พูดถึงเรื่องเศรษฐกิจนะครับ ซึ่งตัวคนพูดเองก็เป็นนายกของสมาคมดังกล่าวด้วย คือ สมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ไม่แน่ใจว่าในนี้มีใครทราบหรือไม่ว่ามีสมาคมดังกล่าวแล้ว เคยถามเพื่อนๆ หลายคนที่ทำงาน HR ก็บอกว่าไม่เคยได้ยิน ป๊าด! เป็นซะงั้น รายละเอียดของสมาคมดังกล่าวนะครับ www.aop.or.th)
ผมเลยคิดว่าที่ทำงานผมน่าจะสมัครสมาชิกของสมาคมดังกล่าว เพื่อจะได้รับทราบข่าวสาร เรื่องราว ความคืบหน้าต่างๆ update ล่าสุด รวมถึงหนังสือเชิญเพื่อเข้าร่วมประชุม การอบรมหรือสัมมนาต่างๆ ซึ่งการสมัครสมาชิกก็ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายมากมายนัก ค่าแรกเข้า 3,000 บาท และค่าสมาชิกปีละ 1,000 บาท (จริงๆ แล้วค่าสมาชิกปีละ 1000 บาทที่ทำงานผม แต่สำหรับที่อื่นอาจจะมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ของกองทุนนะครับ) ซึ่งผมเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับที่ทำงานของผม เลยทำเรื่องเสนอไปที่ผู้จัดการ HR นะครับ ผลปรากฎว่า............
ครังแรก HR คุยกับ Account แล้ว ปรากฎว่าต้องผ่านผู้ใหญ่ก่อน ดังนั้นผมเลยรอ ผู้ใหญ่ให้คำตอบมาว่า ไม่เห็นความจำเป็นอะไรเลยที่จะต้องไปสมัครสมาชิก เพราะยังไงข้อมูล ข่าวสารเราก็ได้รับจาก บลจ. อยู่แล้ว และอีกออย่างที่ทำงานนี้ก็ไม่มีคนที่เชี่ยวชาญ หรือมีความรู้เรื่อง Provident Fund ไม่รู้จะไปเป็นสมาชิกของสมาคมทำไม ได้ยินคำตอบนี้จากผู้ใหญ่ฟังแล้ว เงิบครับ
เหตุผลที่บอกว่า ได้รับข้อมูลข่าวสารจาก บลจ. อยู่แล้ว คือ ผมบอกได้เลยว่า ทุกวันนี้ได้รับแต่รายงานประจำเดือนของกองทุนต่างๆที่ Provident Fund ได้ไปลงทุนเท่านั้นนะครับ ส่วนข่าวคราวอื่นๆ แทบจะไม่ได้รับเลยครับ (ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ บลจ. ไม่ส่งมาให้หรือว่าที่ทำงานของผมไม่ตามงานเองนะครับ) นอกจากนี้ข้อมูล ข่าวสารที่ทาง บลจ. ส่งมาให้นั้น จะไม่ได้เป็นเชิงวิชาการหรือว่าเจาะลึกมากนัก ซึ่งแตกต่างจากข่าวสารหรือความรู้ที่ทางสมาคมฯ ส่งมาให้ ซึ่งเป็นความรู้ในทางวิชาการและเชิงลึกมากขึ้น
ส่วนเหตุผลที่บอกว่าที่ทำงานนี้ไม่มีคนที่ความรู้ความชำนาญหรือเชี่ยวชาญ เลยไม่รู้จะไปเป็นสมาชิกทำไม (เพราะการเป็นสมาชิกของสมาคมฯ นั้นเรามีสิทธิที่จะได้รับการคัดเลือกให้เป็นกรรมการบริหารของสมาคมด้วย) ก็เพราะไม่มีความรู้ความสามารถนี้ละครับ ผมเลยอยากให้ทางที่ทำงานปั้นคนขึ้นมาเพื่อดูแลจัดการเรื่องนี้โดยเฉพาะเลย ดังนั้นเลยคิดว่าที่ทำงานควรจะได้มีการส่งคนไปทำการ training เกี่ยวกับเรื่องนี้ และกลับมา educate ให้กับพนักงานต่างๆในที่ทำงานนะครับ เรียกว่าได้ทั้งตัวคนถูกส่งไป training และองค์กรด้วย
fell ครับกับคำตอบที่ทางผู้ใหญ่ให้มา ประเด็นที่ผมอยากสอบถามกับเพื่อนๆ ในนี้
1. มีใครได้เคยสมัครเป็นสมาชิกของสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดังกล่าวไหมนะครับ
2. และตามที่ผมเข้าใจ ข้อมูลที่มาจากฝั่ง บลจ. และข้อมูลที่มาจากฝั่งสมาคมฯ นั้น เป็นข้อมูลคนละส่วนกัน แต่เป็นเรื่องเดียวกัน (ไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจถูกไหมนะครับ ไม่ได้บอกว่า บลจ. ไม่ดีหรือไม่ถูกต้องนะครับ) แต่เคยสำรวจข้อมูลของทั้ง 2 ฝั่งแล้ว ต่างกันในบางด้านหรือบางมุมนะครับ แต่เวลาใช้ข้อมูลจะต้องใช้ข้อมูลของทั้ง 2 ด้านมาประกอบควบคู่กันนะครับ
3. อยากถามความเห็นว่า การที่หน่วยงานหรือองค์กรใดที่มีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้ว และได้มอบหมายให้ บลจ. นำเงินดังกล่าวไปบริหารแล้ว จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องไปเป็นสมาชิกของสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนะครับ (แต่ผมดูรายชื่อสมาชิกของสมาคมแล้ว มีทั้งหน่วยงานขนาดใหญ่และเล็ก ทั้งรัฐวิสาหกิจและเอกชนนะครับ) แต่โดยส่วนตัวผมว่าจำเป็นนะ ค่าสมาชิกก็ไม่ได้แพงเป็นหมื่นๆ หรือแสนต่อปี เพราะเป็นประโยชน์ไม่แต่เฉพาะลูกจ้างเท่านั้น แม้แต่นายจ้างเองก็เป็นประโยชน์ด้วย
ใครมีความเห็นว่าอย่างไรนะครับ อยากให้มา share กันนะครับ
ขอบคุณครับ