หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้ถูกร้อง
ขึ้นเบิกความต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยการปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยหลักการใหญ่ ยึดหลักการพิจารณา
เพราะตาม พ.ร.บ บริหารราชการแผ่นดิน และ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน 51 ตามที่ ก.พ.ได้กำหนดและ
ตามพ.ร.บ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอ้างว่า เป็นอำนาจของ พล.ต.อ. โกวิทย์ วัฒนะ รองนายกฯ รวมทั้ง
นางกฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมกับยืนยันว่า ไม่ได้ทำไปเพื่อประโยชน์ของ
พล.ต.อ. เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์
<
<
<
“การเสนอชื่อพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ไม่ได้คำนึงถึงเครือญาติแต่อย่างใด แต่คำนึงถึงามเหมาะสม ผลงานและ
ผลประโยชน์โดยรวมของประเทศ ซึ่งคณะกรรมการก.ต.ช.ก็มีมติเอกฉันท์เห็นชอบ และขณะนั้นพล.ต.อ.วิเชียร ก็
ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการสมช.และอยู่ในคณะกรรมการก.ต.ช.ที่เข้าร่วมประชุมด้วยก็ลงมติเห็นชอบ ทั้งนี้แม้ว่า
ดิฉันจะเป็นประธานในการเสนอตำแหน่งผล.ตร.ก็ตาม แต่ถ้าคณะกรรมการก.ต.ช.ไม่เห็นชอบก็สามารถกระทำได้
เช่น รัฐบาลในอดีตที่ผ่านมาในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มีการเสนอแต่งตั้ง พล.ต.อ.ปทีบ ตันประเสริฐ แต่
คณะกรรมการกตช.ก็ไม่เห็นชอบตามเสียงส่วนใหญ่ และตัวอย่างในการใช้ดุลพินิจที่นึกถึงประโยชน์ส่วนรวมทเป็น
หลัก เช่น ที่ดิฉันได้เห็นชอบตำแหน่งเสนาธิการทหารบกของกระทรวงกลาโหม คือ พล.อ.อักษรา เกิดผล ซึ่ง
เป็นบุตรชายพล.อ.สายหยุด เกิดผล ซึ่งเป็นที่ทราบกับว่าพล.อ.สายหยุดมีความเห็นทางการการเมืองไม่ตรงกับ
รัฐบาล”น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวชี้แจง
ข้อสังเกตคือ นาย จรัญ ภักดีธนากุล ไม่ได้ร่วมซักข้อเท็จจริงจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่อย่างใด
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1399366751&grpid=01&catid=&su
ตามอ่านกันเต็มๆ จาก link
ฟังชัด ๆ 4 ตุลาการศาลรธน. ซักจุดอ่อน "ยิ่งลักษณ์" และลองดูว่า นายกฯตอบได้หรือไม่ ? ข่าว มติชนออนไลน์
ขึ้นเบิกความต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยการปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยหลักการใหญ่ ยึดหลักการพิจารณา
เพราะตาม พ.ร.บ บริหารราชการแผ่นดิน และ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน 51 ตามที่ ก.พ.ได้กำหนดและ
ตามพ.ร.บ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอ้างว่า เป็นอำนาจของ พล.ต.อ. โกวิทย์ วัฒนะ รองนายกฯ รวมทั้ง
นางกฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมกับยืนยันว่า ไม่ได้ทำไปเพื่อประโยชน์ของ
พล.ต.อ. เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์
<
<
<
“การเสนอชื่อพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ไม่ได้คำนึงถึงเครือญาติแต่อย่างใด แต่คำนึงถึงามเหมาะสม ผลงานและ
ผลประโยชน์โดยรวมของประเทศ ซึ่งคณะกรรมการก.ต.ช.ก็มีมติเอกฉันท์เห็นชอบ และขณะนั้นพล.ต.อ.วิเชียร ก็
ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการสมช.และอยู่ในคณะกรรมการก.ต.ช.ที่เข้าร่วมประชุมด้วยก็ลงมติเห็นชอบ ทั้งนี้แม้ว่า
ดิฉันจะเป็นประธานในการเสนอตำแหน่งผล.ตร.ก็ตาม แต่ถ้าคณะกรรมการก.ต.ช.ไม่เห็นชอบก็สามารถกระทำได้
เช่น รัฐบาลในอดีตที่ผ่านมาในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มีการเสนอแต่งตั้ง พล.ต.อ.ปทีบ ตันประเสริฐ แต่
คณะกรรมการกตช.ก็ไม่เห็นชอบตามเสียงส่วนใหญ่ และตัวอย่างในการใช้ดุลพินิจที่นึกถึงประโยชน์ส่วนรวมทเป็น
หลัก เช่น ที่ดิฉันได้เห็นชอบตำแหน่งเสนาธิการทหารบกของกระทรวงกลาโหม คือ พล.อ.อักษรา เกิดผล ซึ่ง
เป็นบุตรชายพล.อ.สายหยุด เกิดผล ซึ่งเป็นที่ทราบกับว่าพล.อ.สายหยุดมีความเห็นทางการการเมืองไม่ตรงกับ
รัฐบาล”น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวชี้แจง
ข้อสังเกตคือ นาย จรัญ ภักดีธนากุล ไม่ได้ร่วมซักข้อเท็จจริงจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่อย่างใด
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1399366751&grpid=01&catid=&su
ตามอ่านกันเต็มๆ จาก link