ก่อนอื่นต้องออกตัวเลยว่า ใช้ผลิตภัณฑ์ของโซนี่หลายอย่างตั้งแต่วัยรุ่นและไม่ได้แอนตี้แบรนด์นี้แต่อย่างใด
แต่รับไม่ได้กับบริการแย่ ๆ จากศูนย์โซนี่ในห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่งในพิษณุโลก
อันเนื่องด้วย ผมเองได้ซื้อสมาร์ทโฟนของโซนี่รุ่นท็อปเมื่อปีที่แล้วมาได้แก่ SONY Xperia Z มาเมื่อวันที่ 5 เดือนเมษายน 2556 ซึ่งตัวผมเองชื่นชอบในลักษณะการออกแบบและวัสดุที่ดูสวยงามและดูมีราคา โดยมองข้ามเจ้าตลาดยี่ห้อ S และ I ไป อันเนื่องด้วย S การออกแบบและวัสดุดูซ้ำ ๆ เดิม ๆ และไม่สมกับราคา ส่วน I มีขนาดที่เล็กไป(ผมชอบขนาดจอที่ใหญ่) ณ ตอนนั้น Z จอขนาด 5 นิ้ว แม้จะมีเพียงสีขาวก็เอามา(ใจจริงต้องการสีดำ) ณ ตอนนั้นราคา 19,900 บาท ครับ
ปัญหาของโทรศัพท์มีดังนี้
1. ปัญหาแรกแอพเด้งหลายแอพมาก อันเนื่องมาจาก ROM ซึ่งปัญหานี้ผมไม่ซีเรียสมากแม้พนักงานจะแก้ไขให้ไม่ได้แต่ผมก็มีวิธีแก้ไขและใช้ได้ดี
2. ปัญหาต่อมาที่น่าหงุดหงิดคือ รับสัญญาณและ 3G ได้ไม่เต็มที่ คือแถบสัญญาณจะไม่เต็มจะขึ้นที่ประมาณ 50-60% และเน็ตก็รับ 3G ได้บางจุด โดยอาการเริ่มแรกจะเป็นนิด ๆ หน่อย ๆ เพียงแค่รำคาญไม่ทำให้เป็นปัญหาต่อการติดต่อสื่อสารมากนัก ตอนนั้นผมก็คิดว่าอาจจะเป็นที่ 3G ของเครือข่ายที่ใช้อยู่ด้วยเลยไม่ได้อะไรมาก
3. ต่อมาช่วงหลัง ๆ ปัญหานี้หนักข้อขึ้น คือ บางสถานที่ที่ผมไปก็แถบสัญญาณไม่ขึ้นเลย(กลายเป็นกากบาทสีแดง) แม้จะอยู่ในตัวเมืองหรือย่านใกล้ ๆ ตัวเมือง ในรถยนต์ ฯลฯ ยิ่งออกนอกเมืองไม่ต้องพูดถึง ใช้ได้แค่ Wifi เท่านั้น พอมีปัญหานี้ผมจึงไปติดต่อที่ศูนย์ AIS ก่อนเพื่อตรวจสอบเครือข่าย ว่าปกติดีไหม จนท. ของ AIS เลยเปลี่ยนซิมส์ให้แต่ปัญหาก็ยังดำเนินต่อไป ผมจึงคิดว่าน่าจะเป็นที่โทรศัพท์แล้วล่ะ เลยเอาเข้าไปปรึกษาที่ศูนย์ อีกอย่างคือ จุกปิดช่อง USB ซึ่งจะมีไว้ต่อคอมพิวเตอร์และชาร์จแบตบริเวณวงแหวยางสำหรับกันน้ำก็ขาด(ซึ่งบริเวณที่ต้องเปิด-ปิดบ่อยขนาดนี้ผมว่าวัสดุควรจะดีกว่านี้ นี่ใช้ไม่ถึงปีก็ชำรุดซะละ) ผมเลยตั้งใจจะเอาไปซ่อมด้วยเลยทีเดียว
ปัญหาการบริการลูกค้า
1. ผมนำมือถือเข้าไปยังศูนย์ SONY ที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ในพิษณุโลก วันที่ 5 เม.ย. 2557 โดยเอามือถือไป(ล้างข้อมูลเรียบร้อย)พร้อมไปประกัน พนง. รับเครื่องและแจ้งว่าถ้าเป็นปัญหาเรื่องการทำงานของเครื่องจะไม่ต้องเสียค่าบริการ(ถ้าตรวจเช็คจะประมาณ 2 สัปดาห์) แต่ถ้าเป็นอุปกรณ์ก็ต้องจ่ายค่าอุปกรณ์ด้วย(อันนี้อาจจะนานกว่านั้น) ซึ่งผมก็ทิ้งเบอร์ไว้ให้ พนง. โซนี่ โทรกลับ โดยตอนนั้นผมต้องจ่ายค่าส่ง EMS 60 บาท ซึ่งก็ไม่ได้คิดมากเพราะเงินมันไม่ได้เยอะ เลยจ่ายไป แล้ว พนง. บอกว่าจะส่งศูนย์ SONY เชียงใหม่ เพราะที่พิษณุโลกไม่มีช่างซ่อมโทรศัพท์
2. ต่อมาผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ ผมก็โทรไปสอบถามที่ศูนย์บริการ SONY เชียงใหม่ แต่พนักงานที่นั่นกลับบอกว่า ไม่ได้รับเครื่องจากศูนย์พิษณุโลก ให้ลองโทรไปสอบถามที่ศูนย์พิษณุโลกดูว่าส่งที่ศูนย์ใหญ่ กทม หรือเปล่า เมื่อมโทรไปสอบถามศูนย์ที่ กทม มี พนง. ชาย รับสายพอผมสอบถาม ก็ให้ข้อมูลมาว่า ที่รับสัญญาณไม่ได้เพราะมีน้ำเข้าเครื่อง(ทั้ง ๆ ที่เคลมตัวเองว่าเป็นมือถือกันน้ำและฝุ่นได้ ไม่ลึก 1 เมตร เวลาไม่เกิน 30 นาทีแต่ผมก็ใช้ปกติเหมือนทั่ว ๆ ไป จะเปียกน้ำแค่ตอนผมเอาน้ำมาชุดผ้าเช็ดเท่านั้น เต็มที่ก็เปิดน้ำจากก๊อกน้ำล้างแต่ผมก็ปิดจุกทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แล้วน้ำมันเข้าไปได้ยังไง) แต่ พนง ท่านั้นก็บอกว่าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อม ซ่อมเสร็จแล้วจะส่งกลับ แต่ฝากจุก USB ที่ยางขาด เราต้องซื้อมาใส่เอง ซึ่ง พนง ก็แนะนำให้ซื้อจากเว็บขายอุปกรณ์ SONY ราคา 200 กว่าบาท ผมก็โอเคไม่เป็นไร ซื้อมาใส่เองได้เพื่อตัดปัญหา แต่ขอให้เขาซ่อมและส่งเครื่องมาให้ด่วนเพราะผมไม่มีโทรศัพท์ใช้
3. หลังจากนั้น ก็เงียบหายไปอีก ใกล้ ๆ สิ้นเดือน เมษายน ผมเลยโทรไปถามที่ศูนย์พิษณุโลกว่า โทรศัพท์ที่ส่งซ่อม ส่งกลับมาหรือยัง พนง ค้นข้อมูลแล้วตอบมาว่า
พนง “ของพี่ชำระค่าจุก USB หรือยังครับ” ผมก็งง เลยบอกไปว่า
ผม “ก็ พนง ที่ กทม ให้ข้อมูลว่าไม่มีของ ต้องให้เราสั่งเองทางเว็บ และผมก็สั่งมาแล้ว ของก็ส่งมาถึงแล้วด้วย รอแค่โทรศัพท์เท่านั้น”
พนง. “อ๋อครับ ๆ งั้นผมจะประสานให้ส่งของมาก่อนสิ้นเดือนเมษานะครับ”
ผม “โอเคครับ”
4. ผ่านไปประมาณสัปดาห์ใกล้ ๆ สิ้นเดือน ไม่เห็นวี่แววว่าจะมีการติดต่อมาแต่อย่างใด ผมเลยโทรไปถามอีกรอบ พนง. ก็ทำงานเช็คและบอกว่าของส่งมาแล้วแต่ยังไม่ถึง ผมก็โอเครอต่อไปอีกนิดคงไม่เป็นอะไรเพราะถ้าส่งมาแล้วเขาน่าจะส่งแบบ EMS คือ 1-2 วันน่าจะได้ แต่ปรากฏว่าสิ้นเดือนไปแล้ว ก็ยังไม่เห็นมีการติดต่อมาว่าคืบหน้าอย่างไรแล้วบ้าง
5. จนช่วงต้นเดือน ยายเพื่อนเสีย ผมก็ไปช่วยงานจนลืมเรื่องโทรศัพท์ มานึกได้หลังงานเผาศพยายเพื่อน ในวันที่ 5 พ.ค. ผมเลยโทรไปเช็คอีกทีที่ศูนย์พิษณุโลก ปรากฏว่า....
ผม “รบกวนเช็คมือถือที่ส่งซ่อมให้หน่อยครับ(ผมก็ให้ข้อมูลไป บลา ๆๆ)”
พนง. “ของพี่ Z สีขาวใช่ไหมครับ”
ผม “ใช่ครับ ไม่ทราบว่าเครื่องส่งกลับมาหรือยังครับ ผมจะต้องรีบใช้”
พนง. “เช็คเครื่องแล้ว ช่างที่เชียงใหม่บอกว่าของพี่เครื่องโดนน้ำเข้า ทำให้สายแพเสีย ต้องเปลี่ยนสายแพในเครื่อง ค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000 บาทครับ”
ผม “อ้าว ไหนตอนแรกบอกว่าไม่เสียค่าใช้จ่ายไงครับ ที่ต้องจ่ายเองคือค่าจุก USB แล้วนี่คือยังไงครับ แล้ว ไม่ได้ส่งซ่อมที่ กทม เหรอครับ เพราะตอนแรก ศูนย์เชียงใหม่บอกว่าไม่ได้รับเครื่องไว้” คือตกลงมันประสานงานกันยังไง เดี๋ยวบอกส่ง กทม เดี๋ยวบอก แล้วทีนี้มาบอกส่งเชียงใหม่
พนง. อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ “คือตอนนี้เช็คแล้วอยู่ที่เชียงใหม่อ่ะครับ”
ผม “แล้วตอนมือถือรุ่นนี้บริษัทคุณเคลมว่า กันน้ำ กันฝุ่น แล้วทำไมน้ำถึงเข้าได้ล่ะครับ แล้วถ้าน้ำเข้าแบบนี้ ไม่มีนโยบายรับผิดชอบต่อผู้บริโภคเลยเหรอครับ แล้วยางรอบจุก USB ด้วย มันเป็นส่วนชาร์จแบตใช่ไหมครับก็ควรเลือกวัสดุที่มีคุณภาพมากกว่านี้มาใช้ด้วยสิครัน แบบนี้คือผมต้องจ่ายเงิน 2,000 บาทนี้ด้วยใช่ไหมกับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพแบบนี้น่ะครับ”
พนง. “คือผมเองก็เข้าใจลูกค้านะครับ แต่ทางเรารับซ่อมแต่เรื่องการทำงานไม่ครบคลุมถึงอุปกรณ์ในเครื่องอื่น ๆ น่ะครับ และช่างเขาก็ยืนยันค่าใช้จ่ายมาแบบนี้น่ะครับ”
ผม “คือผมเข้าใจนะครับ ว่าปัญหาเรื่องอุปกรณ์มันเกิดขึ้นได้กับทุกอย่างแหละ แต่ว่าพอเกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว ทางบริษัทมีนโยบายจะจัดการหรือช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาอย่างไร ผมว่ามือถือราคาตั้งเกือบ 20,000 บาท มันควรจะได้อะไรที่ดีมากกว่านี้ นี่ตั้งแต่ผมซื้อมาก็มีปัญหาเกือบตลอด ทั้งเรื่องแอพเด้ง พนง.ก็แก้ไขไม่ได้ มือถือรับสัญญาณไม่ดีบางช่วงขาดหายไปเลย โดยรวมแล้วผมไม่แฮปปี้เลยกับมือถือราคานี้กับสิ่งที่ได้มา หรือจะต้องให้ผมโทรไปยัง SONY Thai เลยไหมครับ”
พนง. “ไม่ต้องก็ได้ครับ ยังไงผมจะประสานเรื่องของลูกค้าไปยังศูนย์โซนี่ที่เชียงใหม่ให้นะครับ แล้วจะติดต่อกลับไปครับ”
ผม “ขอบคุณมากครับ ยังไงช่วยเร่งด่วนด้วยครับ เพราะผมจำเป็นต้องรีบใช้มือถือครับ”
6. ล่าสุดผมโทรไปเมื่อสักครู่นี้ พนง. บอกว่าทำเรื่องร้องเรียนไปให้ทางศูนย์เชียงใหม่แล้ว กำลังรอคำตอบครับ
***ที่ผมเขียนมาไม่ได้ตั้งใจจะโจมตีสินค้า SONY เพราะมีหลายตัวที่ผมก็ใช้อยู่ แต่เป็นเรื่องบริการหลังการขายมากกว่าที่ดูไม่มีประสิทธิภาพและไม่มีระบบระเบียบเลย ถ้าช่วงไหนอ่านไม่รู้เรื่องก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ คือเหตุการณ์ตั้งแต่เรื่องมันก็นานพอดูเลยอาจจะเก็บรายละเอียดได้ไม่หมดครับ
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกท่านที่อ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายครับ(ไม่เดือดร้อนจริง ๆ ผมคงไม่มาโพสท์แบบนี้อ่ะครับ)***
รู้สึกไม่ประทับใจกับบริการของศูนย์ SONY ในห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่งในพิษณุโลก
แต่รับไม่ได้กับบริการแย่ ๆ จากศูนย์โซนี่ในห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่งในพิษณุโลก
อันเนื่องด้วย ผมเองได้ซื้อสมาร์ทโฟนของโซนี่รุ่นท็อปเมื่อปีที่แล้วมาได้แก่ SONY Xperia Z มาเมื่อวันที่ 5 เดือนเมษายน 2556 ซึ่งตัวผมเองชื่นชอบในลักษณะการออกแบบและวัสดุที่ดูสวยงามและดูมีราคา โดยมองข้ามเจ้าตลาดยี่ห้อ S และ I ไป อันเนื่องด้วย S การออกแบบและวัสดุดูซ้ำ ๆ เดิม ๆ และไม่สมกับราคา ส่วน I มีขนาดที่เล็กไป(ผมชอบขนาดจอที่ใหญ่) ณ ตอนนั้น Z จอขนาด 5 นิ้ว แม้จะมีเพียงสีขาวก็เอามา(ใจจริงต้องการสีดำ) ณ ตอนนั้นราคา 19,900 บาท ครับ
ปัญหาของโทรศัพท์มีดังนี้
1. ปัญหาแรกแอพเด้งหลายแอพมาก อันเนื่องมาจาก ROM ซึ่งปัญหานี้ผมไม่ซีเรียสมากแม้พนักงานจะแก้ไขให้ไม่ได้แต่ผมก็มีวิธีแก้ไขและใช้ได้ดี
2. ปัญหาต่อมาที่น่าหงุดหงิดคือ รับสัญญาณและ 3G ได้ไม่เต็มที่ คือแถบสัญญาณจะไม่เต็มจะขึ้นที่ประมาณ 50-60% และเน็ตก็รับ 3G ได้บางจุด โดยอาการเริ่มแรกจะเป็นนิด ๆ หน่อย ๆ เพียงแค่รำคาญไม่ทำให้เป็นปัญหาต่อการติดต่อสื่อสารมากนัก ตอนนั้นผมก็คิดว่าอาจจะเป็นที่ 3G ของเครือข่ายที่ใช้อยู่ด้วยเลยไม่ได้อะไรมาก
3. ต่อมาช่วงหลัง ๆ ปัญหานี้หนักข้อขึ้น คือ บางสถานที่ที่ผมไปก็แถบสัญญาณไม่ขึ้นเลย(กลายเป็นกากบาทสีแดง) แม้จะอยู่ในตัวเมืองหรือย่านใกล้ ๆ ตัวเมือง ในรถยนต์ ฯลฯ ยิ่งออกนอกเมืองไม่ต้องพูดถึง ใช้ได้แค่ Wifi เท่านั้น พอมีปัญหานี้ผมจึงไปติดต่อที่ศูนย์ AIS ก่อนเพื่อตรวจสอบเครือข่าย ว่าปกติดีไหม จนท. ของ AIS เลยเปลี่ยนซิมส์ให้แต่ปัญหาก็ยังดำเนินต่อไป ผมจึงคิดว่าน่าจะเป็นที่โทรศัพท์แล้วล่ะ เลยเอาเข้าไปปรึกษาที่ศูนย์ อีกอย่างคือ จุกปิดช่อง USB ซึ่งจะมีไว้ต่อคอมพิวเตอร์และชาร์จแบตบริเวณวงแหวยางสำหรับกันน้ำก็ขาด(ซึ่งบริเวณที่ต้องเปิด-ปิดบ่อยขนาดนี้ผมว่าวัสดุควรจะดีกว่านี้ นี่ใช้ไม่ถึงปีก็ชำรุดซะละ) ผมเลยตั้งใจจะเอาไปซ่อมด้วยเลยทีเดียว
ปัญหาการบริการลูกค้า
1. ผมนำมือถือเข้าไปยังศูนย์ SONY ที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ในพิษณุโลก วันที่ 5 เม.ย. 2557 โดยเอามือถือไป(ล้างข้อมูลเรียบร้อย)พร้อมไปประกัน พนง. รับเครื่องและแจ้งว่าถ้าเป็นปัญหาเรื่องการทำงานของเครื่องจะไม่ต้องเสียค่าบริการ(ถ้าตรวจเช็คจะประมาณ 2 สัปดาห์) แต่ถ้าเป็นอุปกรณ์ก็ต้องจ่ายค่าอุปกรณ์ด้วย(อันนี้อาจจะนานกว่านั้น) ซึ่งผมก็ทิ้งเบอร์ไว้ให้ พนง. โซนี่ โทรกลับ โดยตอนนั้นผมต้องจ่ายค่าส่ง EMS 60 บาท ซึ่งก็ไม่ได้คิดมากเพราะเงินมันไม่ได้เยอะ เลยจ่ายไป แล้ว พนง. บอกว่าจะส่งศูนย์ SONY เชียงใหม่ เพราะที่พิษณุโลกไม่มีช่างซ่อมโทรศัพท์
2. ต่อมาผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ ผมก็โทรไปสอบถามที่ศูนย์บริการ SONY เชียงใหม่ แต่พนักงานที่นั่นกลับบอกว่า ไม่ได้รับเครื่องจากศูนย์พิษณุโลก ให้ลองโทรไปสอบถามที่ศูนย์พิษณุโลกดูว่าส่งที่ศูนย์ใหญ่ กทม หรือเปล่า เมื่อมโทรไปสอบถามศูนย์ที่ กทม มี พนง. ชาย รับสายพอผมสอบถาม ก็ให้ข้อมูลมาว่า ที่รับสัญญาณไม่ได้เพราะมีน้ำเข้าเครื่อง(ทั้ง ๆ ที่เคลมตัวเองว่าเป็นมือถือกันน้ำและฝุ่นได้ ไม่ลึก 1 เมตร เวลาไม่เกิน 30 นาทีแต่ผมก็ใช้ปกติเหมือนทั่ว ๆ ไป จะเปียกน้ำแค่ตอนผมเอาน้ำมาชุดผ้าเช็ดเท่านั้น เต็มที่ก็เปิดน้ำจากก๊อกน้ำล้างแต่ผมก็ปิดจุกทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แล้วน้ำมันเข้าไปได้ยังไง) แต่ พนง ท่านั้นก็บอกว่าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อม ซ่อมเสร็จแล้วจะส่งกลับ แต่ฝากจุก USB ที่ยางขาด เราต้องซื้อมาใส่เอง ซึ่ง พนง ก็แนะนำให้ซื้อจากเว็บขายอุปกรณ์ SONY ราคา 200 กว่าบาท ผมก็โอเคไม่เป็นไร ซื้อมาใส่เองได้เพื่อตัดปัญหา แต่ขอให้เขาซ่อมและส่งเครื่องมาให้ด่วนเพราะผมไม่มีโทรศัพท์ใช้
3. หลังจากนั้น ก็เงียบหายไปอีก ใกล้ ๆ สิ้นเดือน เมษายน ผมเลยโทรไปถามที่ศูนย์พิษณุโลกว่า โทรศัพท์ที่ส่งซ่อม ส่งกลับมาหรือยัง พนง ค้นข้อมูลแล้วตอบมาว่า
พนง “ของพี่ชำระค่าจุก USB หรือยังครับ” ผมก็งง เลยบอกไปว่า
ผม “ก็ พนง ที่ กทม ให้ข้อมูลว่าไม่มีของ ต้องให้เราสั่งเองทางเว็บ และผมก็สั่งมาแล้ว ของก็ส่งมาถึงแล้วด้วย รอแค่โทรศัพท์เท่านั้น”
พนง. “อ๋อครับ ๆ งั้นผมจะประสานให้ส่งของมาก่อนสิ้นเดือนเมษานะครับ”
ผม “โอเคครับ”
4. ผ่านไปประมาณสัปดาห์ใกล้ ๆ สิ้นเดือน ไม่เห็นวี่แววว่าจะมีการติดต่อมาแต่อย่างใด ผมเลยโทรไปถามอีกรอบ พนง. ก็ทำงานเช็คและบอกว่าของส่งมาแล้วแต่ยังไม่ถึง ผมก็โอเครอต่อไปอีกนิดคงไม่เป็นอะไรเพราะถ้าส่งมาแล้วเขาน่าจะส่งแบบ EMS คือ 1-2 วันน่าจะได้ แต่ปรากฏว่าสิ้นเดือนไปแล้ว ก็ยังไม่เห็นมีการติดต่อมาว่าคืบหน้าอย่างไรแล้วบ้าง
5. จนช่วงต้นเดือน ยายเพื่อนเสีย ผมก็ไปช่วยงานจนลืมเรื่องโทรศัพท์ มานึกได้หลังงานเผาศพยายเพื่อน ในวันที่ 5 พ.ค. ผมเลยโทรไปเช็คอีกทีที่ศูนย์พิษณุโลก ปรากฏว่า....
ผม “รบกวนเช็คมือถือที่ส่งซ่อมให้หน่อยครับ(ผมก็ให้ข้อมูลไป บลา ๆๆ)”
พนง. “ของพี่ Z สีขาวใช่ไหมครับ”
ผม “ใช่ครับ ไม่ทราบว่าเครื่องส่งกลับมาหรือยังครับ ผมจะต้องรีบใช้”
พนง. “เช็คเครื่องแล้ว ช่างที่เชียงใหม่บอกว่าของพี่เครื่องโดนน้ำเข้า ทำให้สายแพเสีย ต้องเปลี่ยนสายแพในเครื่อง ค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000 บาทครับ”
ผม “อ้าว ไหนตอนแรกบอกว่าไม่เสียค่าใช้จ่ายไงครับ ที่ต้องจ่ายเองคือค่าจุก USB แล้วนี่คือยังไงครับ แล้ว ไม่ได้ส่งซ่อมที่ กทม เหรอครับ เพราะตอนแรก ศูนย์เชียงใหม่บอกว่าไม่ได้รับเครื่องไว้” คือตกลงมันประสานงานกันยังไง เดี๋ยวบอกส่ง กทม เดี๋ยวบอก แล้วทีนี้มาบอกส่งเชียงใหม่
พนง. อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ “คือตอนนี้เช็คแล้วอยู่ที่เชียงใหม่อ่ะครับ”
ผม “แล้วตอนมือถือรุ่นนี้บริษัทคุณเคลมว่า กันน้ำ กันฝุ่น แล้วทำไมน้ำถึงเข้าได้ล่ะครับ แล้วถ้าน้ำเข้าแบบนี้ ไม่มีนโยบายรับผิดชอบต่อผู้บริโภคเลยเหรอครับ แล้วยางรอบจุก USB ด้วย มันเป็นส่วนชาร์จแบตใช่ไหมครับก็ควรเลือกวัสดุที่มีคุณภาพมากกว่านี้มาใช้ด้วยสิครัน แบบนี้คือผมต้องจ่ายเงิน 2,000 บาทนี้ด้วยใช่ไหมกับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพแบบนี้น่ะครับ”
พนง. “คือผมเองก็เข้าใจลูกค้านะครับ แต่ทางเรารับซ่อมแต่เรื่องการทำงานไม่ครบคลุมถึงอุปกรณ์ในเครื่องอื่น ๆ น่ะครับ และช่างเขาก็ยืนยันค่าใช้จ่ายมาแบบนี้น่ะครับ”
ผม “คือผมเข้าใจนะครับ ว่าปัญหาเรื่องอุปกรณ์มันเกิดขึ้นได้กับทุกอย่างแหละ แต่ว่าพอเกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว ทางบริษัทมีนโยบายจะจัดการหรือช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาอย่างไร ผมว่ามือถือราคาตั้งเกือบ 20,000 บาท มันควรจะได้อะไรที่ดีมากกว่านี้ นี่ตั้งแต่ผมซื้อมาก็มีปัญหาเกือบตลอด ทั้งเรื่องแอพเด้ง พนง.ก็แก้ไขไม่ได้ มือถือรับสัญญาณไม่ดีบางช่วงขาดหายไปเลย โดยรวมแล้วผมไม่แฮปปี้เลยกับมือถือราคานี้กับสิ่งที่ได้มา หรือจะต้องให้ผมโทรไปยัง SONY Thai เลยไหมครับ”
พนง. “ไม่ต้องก็ได้ครับ ยังไงผมจะประสานเรื่องของลูกค้าไปยังศูนย์โซนี่ที่เชียงใหม่ให้นะครับ แล้วจะติดต่อกลับไปครับ”
ผม “ขอบคุณมากครับ ยังไงช่วยเร่งด่วนด้วยครับ เพราะผมจำเป็นต้องรีบใช้มือถือครับ”
6. ล่าสุดผมโทรไปเมื่อสักครู่นี้ พนง. บอกว่าทำเรื่องร้องเรียนไปให้ทางศูนย์เชียงใหม่แล้ว กำลังรอคำตอบครับ
***ที่ผมเขียนมาไม่ได้ตั้งใจจะโจมตีสินค้า SONY เพราะมีหลายตัวที่ผมก็ใช้อยู่ แต่เป็นเรื่องบริการหลังการขายมากกว่าที่ดูไม่มีประสิทธิภาพและไม่มีระบบระเบียบเลย ถ้าช่วงไหนอ่านไม่รู้เรื่องก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ คือเหตุการณ์ตั้งแต่เรื่องมันก็นานพอดูเลยอาจจะเก็บรายละเอียดได้ไม่หมดครับ
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกท่านที่อ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายครับ(ไม่เดือดร้อนจริง ๆ ผมคงไม่มาโพสท์แบบนี้อ่ะครับ)***