[ผมไม่รู้ว่าการโพสแบบนี้จะทำให้คนอ่านสับสนหรือเปล่า ขออธิบายนิดนึงว่า ผมเขียนกระทู้นี้ไว้ก่อนที่ผมจะคุยเรื่องควาสัมพันธ์กับเค้า ดังนั้นมันจึงมีส่วนที่เพิ่มเติมคือ หลังจากได้คุยกัน เอาเป็นว่าจะพยายามเขียนให้ไม่งงนะครับ]
ที่ผมจั่วหัวกระทู้ว่าไม่มโน อันนี้คือผมไม่ได้บอกว่ากระทู้อื่นในลักษณะนี้มโนขึ้นมาเองนะครับ ผมแค่ใส่ไว้เพื่อให้รู้ว่าผมต้องการแบ่งปันสิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นปัญหากับผมจริงๆ
สวัสดีพี่ๆเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนเลยนะครับ ผมเขียนเรื่องไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่นะ แต่จะพยายามถ่ายทอดให้ดีที่สุด พยายามอ่านหน่อยนะครับ
เรื่องที่ผมจะปรึกษาก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักนี่แหละครับ เป็นความรักแบบ ช-ช จริงๆแล้วปัญหาของผมมันก็เบสิคๆทั่วไปนั่นแหละ เพียงแต่ผมเองก็ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง เลยคิดว่าถ้าได้ปรึกษาพี่ๆเพื่อนๆ คงได้คำแนะนำ ได้เห็นมุมมองแบบที่ผมอาจจะมองข้ามไปก็เป็นได้ มาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ
ย้อนกลับไปสมัยที่ผมยังเล่น Hi5 อยู่ (5 ปีที่แล้ว)ผมได้รู้จักกับผู้ชายคนนึง เค้าเป็นเกย์ครับ ผมชอบเค้ามากๆ พยายามเข้าหาเค้าทุกทางที่ทำได้ แต่ผมมันเป็นพวกคนหน้าตาไม่ดี ไม่มีอะไรดีเลยก็ว่าได้ ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย ผมเลยได้แต่ชอบเค้าข้างเดียว ผมเริ่มต้นชอบเค้าจากไดอารี่ที่เค้าลงไว้ในHi5 เค้าเป็นคนที่หน้าตาดีมากๆ วางตัวดี นับได้ว่าเป็นวัยรุ่นที่เพอร์เฟกต์เลย มันเป็นการตกหลุมรักแบบจริงๆจังๆ คือเค้าใช่มากๆสำหรับผม ทุกคืนผมจะออน MSN คอยถามเค้า รอเค้าตอบ เค้าก็ตอบบ้างนานๆครั้ง ตามประสาหนุ่มฮ็อต ในไดอารี่บอกว่าเค้าเพิ่งเลิกกับแฟน ถึงแม้จะทำให้ผมดีใจ แต่ความจริงที่ว่ามีคนที่หน้าตาดี ต่อแถวให้เค้าเลือกมากมาย ก็ทำให้ผมเศร้าได้เหมือนกัน และเมื่อหมดยุคของ MSN และ Hi5 ผมก็ไม่เคยได้ข่าวคราวเค้าอีกเลย ผมพยายาเอาชื่อจริงของเค้าไปเสิร์ชเอาทาง Google หวังว่าจะได้ข้อมูลอะไรบ้าง เอาอีเมล์ไปเสิร์ชบ้าง แต่ก็ไม่เจออะไรเลย เวลาผ่านไปก็ค่อยๆลืมไป เหลือไว้แต่รูปที่ผมเก็บเอาไว้ในคอมกับโทรศัพท์ เอาไว้ดูเล่น
จนเข้ามาถึงยุคของเฟสบุค ผมก็ลองเอาชื่อ อีเมล์ของเค้าไปเสิร์ช ก็ไม่ปรากฏข้อมูล ตอนนั้นผมรู้สึกคงไม่มีโอกาสที่จะได้พูดคุย ได้ติดต่อกับเค้าแล้วล่ะ ผมเองก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ เจอคนนู้นคนนี้ แต่ก็ไม่เคยลืมเค้าได้เลย จนวันนึง ไม่รู้อะไรดลใจผม ให้ผมลองเอาอีเมล์เค้าไปเสิร์ชในเฟสบุค ปรากฏว่าผมเจอเฟสบุคของเค้า ผมไม่รีรอที่จะเพิ่มเป็นเพื่อนเลยครับ น่าจะประมาณเดือนกันยา-ตุลา ของปี 53 แต่เค้าก็ไม่รับแอดผมซักที ผมก็พยายามส่งข้อความบ้างละ พยายามกดยกเลิกคำขอ แล้วก็เพิ่มเพื่อนใหม่บ้างล่ะ จนเค้ามารับเพื่อนประมาณมกรา ปี 54 ครับ ตอนนั้นดีใจมากๆ เมื่อได้พูดคุยกันทางข้อความ ปรากฏว่าเค้าจำเราได้ เรายิ่งดีใจใหญ่เลย อย่างน้อยเค้าก็จำเราได้
เวลาคุยกันทางเฟสบุค ผมจะเป็นคนชวนเค้าคุยทุกครั้ง ด้วยความที่กลัวว่าเค้าจะหายไปอีก ผมพยายามบอกว่าผมนี่ปลื้มชอบเค้ามากแค่ไหน จนกระทั่งวาเลนไทน์ก็มาถึง ผมเองก็อยากจะทำให้เค้ารู้สึกดี ก็พยายามทำเซอร์ไพรสแต่ก็ล่มไม่เป็นท่า สุดท้ายได้แต่ส่งช็อคโกแลตไปให้ เค้าก็ขอบคุณผม บอกว่าไม่มีคนทำแบบนี้ให้นานแล้ว เค้ารู้สึกดี เค้าก็บอกผมว่าเค้าเห็นผมเป็นเพื่อนที่ดีคนนึง เป็นเพื่อนกันก็ไม่เสียหาย ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไร คิดเพียงแค่ว่า ช่างมันเถอะ ได้แค่เพื่อนก็ดีแค่ไหนแล้ว ตอนนั้นผมคิดว่าเค้าก็คงมีแฟนแล้วล่ะ แต่ผมก็ไม่ได้เลิกยุ่งแต่อย่างใด ผมพยายามที่จะจีบเค้า (ถือเป็นการกระทำที่ไม่ดีนะครับ) ถึงแม้จะรู้ว่าผมคงไม่มีความหวังหรอก เค้าคงเห็นผมเป็นแค่เพื่อน แต่ผมก็ไม่เคยท้อเลย อาจจะมีคิดๆบ้าง คือเค้าเป็นคนที่ค่อนข้างเฟรนด์ลี่มากๆๆๆ บางครั้งผมหยอกอะไรไป เค้าก็เล่นด้วย มันทำให้ผมรู้สึกดีไปด้วยเหมือนกัน
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมก็คุยกับเค้าเรื่อยๆ สิ่งที่ผมทำเป็นประจำทุกคืนถ้ามีโอกาสก็คือ การส่งข้อความก่อนนอน (ตอนนั้นได้เบอร์โทรศัพท์กับไลน์ของเค้ามาแล้วนะครับ) เค้าก็ส่งกลับมาบ้างครับ ถ้ามีอะไรพิเศษ เค้าเป็นคนที่จะชอบส่งรูปภาพมาว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่ เพื่อบอกว่าเค้ากำลังทำสิ่งนั้นจริงๆ มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมเหมือนคนพิเศษยังไงอย่างนั้น ยิ่งนับวันผมก็ยิ่งรู้สึกดีมากขึ้นไปอีก ผมจำช่วงเวลาที่แน่ชัดไม่ได้ แต่เค้าเลิกกับแฟนแล้ว เค้าบอกผมผ่านทางโทรศัพท์ตอนที่โทรคุยกัน ผมกับเค้าคุยกันนานๆครั้ง ระยะเวลาก็ค่อนข้างนานพอสมควร เคยนับเวลาก็เกือบๆสองชั่วโมง ตอนนั้นความรู้สึกของผมมันเกินคำว่าชอบไปแล้วละครับ เกินไปมากๆแล้วด้วย ผมก็บอกให้เค้ารู้นะครับ เช่นบอกรักเค้าทางสเตตัส บ่อยครั้งที่ผมจะโพสอะไรที่เจาะจงเป็นชื่อเค้า ผมจะขออนุญาตเค้า เค้าก็โอเค ผมคิดเสมอว่าผมสามารถทำให้เค้าได้ทุกอย่าง ยกเว้นไปเจอกับเค้า
มีหลายครั้งที่เค้าชวนผมไปกินข้าว ไปนู่นนี่ แต่ผมก็พยายามปฏิเสธ เพราะผมรู้สึกไม่พร้อม ผมกลัวว่าเค้าเจอผมแล้วเค้าจะเปลี่ยนไป อย่างที่ผมบอกคือเพราะผมเป็นคนที่หน้าตาไม่ดี ฐานะก็ไม่ดี ไม่เหมือนเค้าที่ตรงข้ามผมทุกอย่าง ผมเห็นคนที่คอมเม้นจีบเค้าตามรูป ตามเสตตัสในเฟสบุคแล้ว ผมแทบจะไม่มีอะไรไปสู้กับคนพวกนั้นได้เลย ทำให้บางครั้งผมต้องโกหกเค้าว่าผมไม่ว่างเวลาเค้านัดเจอบ้างละ แต่บางครั้งก็ไม่ว่างจริงๆ จนกระทั่งถึงวันเกิดของเค้า ผมไม่สามารถปฏิเสธเค้าได้เลย
ในวันเกิดเค้านั้น ด้วยความที่ตัวผมเองก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร ก็เลยเลือกซื้อนาฬิกาถูกๆ สลักตัวอักษรเป็นชื่อย่อของผมกับเค้าด้านหลังเป็นของขวัญ แล้วนัดเจอกันที่ร้านอาหาร ตอนที่นัดกันนั้น ค่อนข้างมีความชุลมุนคือเราตกลงวันเวลาที่แน่นอนไม่ได้ ผมบอกให้เค้าแคนเซิ่ลของผม เค้าก็ไม่ยอม บอกจะเจอกันให้ได้ ก็เลยตกลงไปวันที่ 5 (สมมุติ) แต่อยู่ๆเค้าก็ขอเลื่อนเป็นวันที่ 6 เพราะเค้าบอกว่าเพื่อนเค้าประสบอุบัติเหตุ ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจเค้านะครับ แต่เซ้นส์ผมบอกว่าอย่าเชื่อ แต่ผมก็เชื่อเค้า เพราะเค้าทั้งอัพสเตตัสในเฟสบุคให้กำลังใจเพื่อน แล้วก็คอยโทรบอกผมเรื่อยๆว่าเป็นยังไงบ้างแล้ว ผ่านคืนนั้นเค้าก็
อัพรูปไปสถานที่แห่งนึง ผมถามเค้าก็บอกว่าเป็นรูปเก่า ผมก็โอเคไม่ซีเรียสอะไร เพราะกำลังตื่นเต้นกับที่จะได้เจอเค้าวันพรุ่งนี้
ในวันเกิดเค้า ตอนเจอกันผมแทบจะหยุดหายใจเลย เค้าเป็นคนที่มีเสน่ห์มาก ผมตกหลุมรักเค้าอีกแล้ว สำหรับคนอื่นอาจจะมองว่าเค้าเป็นคนที่หน้าตาดี หาได้ทั่วไปตามสยาม แต่สำหรับผมแล้ว ผู้ชายคนนี้มีอะไรมากกว่านั้น คืนนั้นเป็นคืนที่ผมประทับใจมากๆ เค้าขับรถมาส่งผมที่ห้องแล้วกลับห้องไป เค้าบอกว่าเค้าชอบของขวัญที่ผมให้นะ และวันรุ่งขึ้นเค้าก็ใส่นาฬิกาของผมแล้วถ่ายรูปให้ผมดู ทำให้ผมรู้สึกดีเข้าไปใหญ่อีก
ผ่านช่วงวันเกิดเค้า (ปลายปี) ไป ผมก็ยังคุยกับเค้าเรื่อยๆ เราคุยกันเกือบทุกวัน ผมไม่เคยเบื่อเค้าเลยครับ ผมมีความสุขทุกครั้งเวลาที่ได้มโนถึงเค้า บางครั้งก็มโนจนเก็บไปฝันก็มี จนกระทั่งถึงช่วงปีใหม่ เราก็โทรคุย สวัสดีปีใหม่กันตามปกติ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ผมก็ยังคงบอกความรู้สึกกับเค้าอยู่ ผมนั่งเล่นเฟสไปเรื่อยๆจนเห็น
รูปที่เค้าอัพ คือรูปสถานที่ที่เค้าเคยอัพลงตอนวันเกิดเค้า ผมก็ถามเค้าว่าอยู่ที่นี่หรอ ไหนว่าอยู่บ้าน เค้าบอกว่าเปล่า เค้าอยู่บ้าน รูปนั้นเป็นรูปตั้งแต่วันเกิดเค้า ผมจับได้ทันที่พอเค้าพูดจบ ผมตามไปแคปข้อความย้อนหลังที่เค้าบอกตอนวันเกิดว่า รูปนั้นถ่ายไว้นานแล้ว พอผมส่งรูปที่ผมแคปไว้ เค้าก็ตอบผมกลับว่า ผมคิดมากไปรึเปล่า
และหลังจากนั้นผมก็ไม่เคยทัก ไม่เคยโทรหา ไม่เคยส่งข้อความไปหาเค้าอีกเลย มันเป็นความรู้สึกที่ทรมานมากๆ ผมไม่ได้โกรธที่เค้าโกหก แต่ผมอยากให้เค้าอธิบายให้ผมฟัง ผมอยากรู้ว่าเรื่องจริงเป็นยังไง ผมเองก็เคยโกหกเค้าว่าไม่ว่าง แต่ถ้าเค้าถาม ผมก็พร้อมและยินดีที่จะอธิบาย ไม่ใช่โบ้ยความผิดมาหาว่าผมคิดมากแบบนี้
ตอนนั้นผมคิดถึงเค้ามากๆครับ ได้แต่ระบายผ่านทางสเตตัสเฟสบุค โดยใช้อักษรหัวใจ ซึ่งเป็นตัวอักษรที่ผมใส่ลงไปในข้อความทุกครั้งที่ผมส่งหาเค้า หรือขึ้นสเตตัส อัพรูปเกี่ยวกับเค้า เค้าก็มากดไลค์ให้ผมบ้าง ผมก็รู้สึกดีนะครับที่เค้ายังเห็นผมอยู่บ้าง แต่ด้วยฑิฐิ ทำให้ผมไม่ยอมทักเค้าเลย จนกระทั่งผ่านไปสองเดือน เป็นวันเกิดผมเค้าก็โทรมาอวยพร แต่ผมไม่ได้รับสาย ผมก็แค่ขอบคุณไป วันวาเลนไทน์เค้าก็โทรมาอีก ผมก็ไม่รับสาย แต่ก็โทรกลับ คุยกันแปบเดียว ผมก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเองว่าเค้าโทรมาทำไม แต่ผมดีใจมากๆ โคตรๆเลยก็ว่าได้ ฑิฐิที่ผ่านมาหายไปหมดเลย ผมคิดว่าที่ผ่านมาช่างเถอะ ผมไม่อยากอยู่แบบไม่มีความสุข
และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ผมกับเค้าก็คุยกันเรื่อยๆ ผมพยายามถามเค้าว่ามีคนคุยบ้างไหม มีใครจีบรึเปล่า เค้าก็บอกว่าเปล่า บางครั้งผมก็เหมือนเค้าไม่ได้อยากคุยกับผม บางครั้งก็คุย ผมเคยขึ้นสเตตัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ เค้าก็อธิบายให้ผมเข้าใจ จนตอนนี้ผมก็ยังเป็นโรคกลัวการเจอหน้ากับเค้าอยู่ดี ล่าสุดเจอกันเมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมบอกตรงๆว่าผมประหม่ามากๆ ผมทำอะไรไม่ถูกเลย มันไม่เป็นตัวของตัวเองยังไงก็ไม่รู้ เค้าก็เทคแคร์ผมดีนะครับ มารับมาส่ง พาขับรถเล่นแม้จะเป็นระยะทางใกล้ๆก็ตาม ร้องเพลงให้ฟังทั้งๆที่ผมเคยพยายามขอให้ร้องให้ฟัง แต่ปกติเค้าก็ไม่ยอม เอาเป็นว่าผมมีความสุขกับผู้ชายคนนี้ละกันครับ เค้าทำให้ผมเขินได้ทุกครั้ง ผมเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่คิดว่าคนที่มีความรักก็เข้าใจผมละมั้ง และแล้วก็มาถึงคำถามซึ่งเป็นปัญหาของผมครับ
ถึงผมจะมีความสุข แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเลย เพราะตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมอยู่ในฐานะอะไร ผมเป็นอะไรสำหรับเค้า สำหรับผมแล้ว เค้าเหมือนคนรักของผม จริงๆนะ...ผมวางเค้าไว้อยู่ในฐานะที่เรียกว่าคนรัก แต่สำหรับเค้าแล้ว ผมอาจจะเป็นแค่ 1 ในคนที่คอยตามชอบเค้าก็เป็นไปได้ ผมเลยอยากลองแชร์เรื่องราว แล้วให้เพื่อนๆพี่ๆช่วยตีความให้ผมหน่อยครับ ว่าสำหรับเค้าแล้ว ผมเป็นอะไรกันแน่ ?
[เรื่องจริง 100% ไม่มโน] อยากแบ่งปันเรื่องราว ปัญหา รวมถึงอยากทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับความรักของผม
ที่ผมจั่วหัวกระทู้ว่าไม่มโน อันนี้คือผมไม่ได้บอกว่ากระทู้อื่นในลักษณะนี้มโนขึ้นมาเองนะครับ ผมแค่ใส่ไว้เพื่อให้รู้ว่าผมต้องการแบ่งปันสิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นปัญหากับผมจริงๆ
สวัสดีพี่ๆเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนเลยนะครับ ผมเขียนเรื่องไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่นะ แต่จะพยายามถ่ายทอดให้ดีที่สุด พยายามอ่านหน่อยนะครับ
เรื่องที่ผมจะปรึกษาก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักนี่แหละครับ เป็นความรักแบบ ช-ช จริงๆแล้วปัญหาของผมมันก็เบสิคๆทั่วไปนั่นแหละ เพียงแต่ผมเองก็ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง เลยคิดว่าถ้าได้ปรึกษาพี่ๆเพื่อนๆ คงได้คำแนะนำ ได้เห็นมุมมองแบบที่ผมอาจจะมองข้ามไปก็เป็นได้ มาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ
ย้อนกลับไปสมัยที่ผมยังเล่น Hi5 อยู่ (5 ปีที่แล้ว)ผมได้รู้จักกับผู้ชายคนนึง เค้าเป็นเกย์ครับ ผมชอบเค้ามากๆ พยายามเข้าหาเค้าทุกทางที่ทำได้ แต่ผมมันเป็นพวกคนหน้าตาไม่ดี ไม่มีอะไรดีเลยก็ว่าได้ ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย ผมเลยได้แต่ชอบเค้าข้างเดียว ผมเริ่มต้นชอบเค้าจากไดอารี่ที่เค้าลงไว้ในHi5 เค้าเป็นคนที่หน้าตาดีมากๆ วางตัวดี นับได้ว่าเป็นวัยรุ่นที่เพอร์เฟกต์เลย มันเป็นการตกหลุมรักแบบจริงๆจังๆ คือเค้าใช่มากๆสำหรับผม ทุกคืนผมจะออน MSN คอยถามเค้า รอเค้าตอบ เค้าก็ตอบบ้างนานๆครั้ง ตามประสาหนุ่มฮ็อต ในไดอารี่บอกว่าเค้าเพิ่งเลิกกับแฟน ถึงแม้จะทำให้ผมดีใจ แต่ความจริงที่ว่ามีคนที่หน้าตาดี ต่อแถวให้เค้าเลือกมากมาย ก็ทำให้ผมเศร้าได้เหมือนกัน และเมื่อหมดยุคของ MSN และ Hi5 ผมก็ไม่เคยได้ข่าวคราวเค้าอีกเลย ผมพยายาเอาชื่อจริงของเค้าไปเสิร์ชเอาทาง Google หวังว่าจะได้ข้อมูลอะไรบ้าง เอาอีเมล์ไปเสิร์ชบ้าง แต่ก็ไม่เจออะไรเลย เวลาผ่านไปก็ค่อยๆลืมไป เหลือไว้แต่รูปที่ผมเก็บเอาไว้ในคอมกับโทรศัพท์ เอาไว้ดูเล่น
จนเข้ามาถึงยุคของเฟสบุค ผมก็ลองเอาชื่อ อีเมล์ของเค้าไปเสิร์ช ก็ไม่ปรากฏข้อมูล ตอนนั้นผมรู้สึกคงไม่มีโอกาสที่จะได้พูดคุย ได้ติดต่อกับเค้าแล้วล่ะ ผมเองก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ เจอคนนู้นคนนี้ แต่ก็ไม่เคยลืมเค้าได้เลย จนวันนึง ไม่รู้อะไรดลใจผม ให้ผมลองเอาอีเมล์เค้าไปเสิร์ชในเฟสบุค ปรากฏว่าผมเจอเฟสบุคของเค้า ผมไม่รีรอที่จะเพิ่มเป็นเพื่อนเลยครับ น่าจะประมาณเดือนกันยา-ตุลา ของปี 53 แต่เค้าก็ไม่รับแอดผมซักที ผมก็พยายามส่งข้อความบ้างละ พยายามกดยกเลิกคำขอ แล้วก็เพิ่มเพื่อนใหม่บ้างล่ะ จนเค้ามารับเพื่อนประมาณมกรา ปี 54 ครับ ตอนนั้นดีใจมากๆ เมื่อได้พูดคุยกันทางข้อความ ปรากฏว่าเค้าจำเราได้ เรายิ่งดีใจใหญ่เลย อย่างน้อยเค้าก็จำเราได้
เวลาคุยกันทางเฟสบุค ผมจะเป็นคนชวนเค้าคุยทุกครั้ง ด้วยความที่กลัวว่าเค้าจะหายไปอีก ผมพยายามบอกว่าผมนี่ปลื้มชอบเค้ามากแค่ไหน จนกระทั่งวาเลนไทน์ก็มาถึง ผมเองก็อยากจะทำให้เค้ารู้สึกดี ก็พยายามทำเซอร์ไพรสแต่ก็ล่มไม่เป็นท่า สุดท้ายได้แต่ส่งช็อคโกแลตไปให้ เค้าก็ขอบคุณผม บอกว่าไม่มีคนทำแบบนี้ให้นานแล้ว เค้ารู้สึกดี เค้าก็บอกผมว่าเค้าเห็นผมเป็นเพื่อนที่ดีคนนึง เป็นเพื่อนกันก็ไม่เสียหาย ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไร คิดเพียงแค่ว่า ช่างมันเถอะ ได้แค่เพื่อนก็ดีแค่ไหนแล้ว ตอนนั้นผมคิดว่าเค้าก็คงมีแฟนแล้วล่ะ แต่ผมก็ไม่ได้เลิกยุ่งแต่อย่างใด ผมพยายามที่จะจีบเค้า (ถือเป็นการกระทำที่ไม่ดีนะครับ) ถึงแม้จะรู้ว่าผมคงไม่มีความหวังหรอก เค้าคงเห็นผมเป็นแค่เพื่อน แต่ผมก็ไม่เคยท้อเลย อาจจะมีคิดๆบ้าง คือเค้าเป็นคนที่ค่อนข้างเฟรนด์ลี่มากๆๆๆ บางครั้งผมหยอกอะไรไป เค้าก็เล่นด้วย มันทำให้ผมรู้สึกดีไปด้วยเหมือนกัน
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมก็คุยกับเค้าเรื่อยๆ สิ่งที่ผมทำเป็นประจำทุกคืนถ้ามีโอกาสก็คือ การส่งข้อความก่อนนอน (ตอนนั้นได้เบอร์โทรศัพท์กับไลน์ของเค้ามาแล้วนะครับ) เค้าก็ส่งกลับมาบ้างครับ ถ้ามีอะไรพิเศษ เค้าเป็นคนที่จะชอบส่งรูปภาพมาว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่ เพื่อบอกว่าเค้ากำลังทำสิ่งนั้นจริงๆ มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมเหมือนคนพิเศษยังไงอย่างนั้น ยิ่งนับวันผมก็ยิ่งรู้สึกดีมากขึ้นไปอีก ผมจำช่วงเวลาที่แน่ชัดไม่ได้ แต่เค้าเลิกกับแฟนแล้ว เค้าบอกผมผ่านทางโทรศัพท์ตอนที่โทรคุยกัน ผมกับเค้าคุยกันนานๆครั้ง ระยะเวลาก็ค่อนข้างนานพอสมควร เคยนับเวลาก็เกือบๆสองชั่วโมง ตอนนั้นความรู้สึกของผมมันเกินคำว่าชอบไปแล้วละครับ เกินไปมากๆแล้วด้วย ผมก็บอกให้เค้ารู้นะครับ เช่นบอกรักเค้าทางสเตตัส บ่อยครั้งที่ผมจะโพสอะไรที่เจาะจงเป็นชื่อเค้า ผมจะขออนุญาตเค้า เค้าก็โอเค ผมคิดเสมอว่าผมสามารถทำให้เค้าได้ทุกอย่าง ยกเว้นไปเจอกับเค้า
มีหลายครั้งที่เค้าชวนผมไปกินข้าว ไปนู่นนี่ แต่ผมก็พยายามปฏิเสธ เพราะผมรู้สึกไม่พร้อม ผมกลัวว่าเค้าเจอผมแล้วเค้าจะเปลี่ยนไป อย่างที่ผมบอกคือเพราะผมเป็นคนที่หน้าตาไม่ดี ฐานะก็ไม่ดี ไม่เหมือนเค้าที่ตรงข้ามผมทุกอย่าง ผมเห็นคนที่คอมเม้นจีบเค้าตามรูป ตามเสตตัสในเฟสบุคแล้ว ผมแทบจะไม่มีอะไรไปสู้กับคนพวกนั้นได้เลย ทำให้บางครั้งผมต้องโกหกเค้าว่าผมไม่ว่างเวลาเค้านัดเจอบ้างละ แต่บางครั้งก็ไม่ว่างจริงๆ จนกระทั่งถึงวันเกิดของเค้า ผมไม่สามารถปฏิเสธเค้าได้เลย
ในวันเกิดเค้านั้น ด้วยความที่ตัวผมเองก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร ก็เลยเลือกซื้อนาฬิกาถูกๆ สลักตัวอักษรเป็นชื่อย่อของผมกับเค้าด้านหลังเป็นของขวัญ แล้วนัดเจอกันที่ร้านอาหาร ตอนที่นัดกันนั้น ค่อนข้างมีความชุลมุนคือเราตกลงวันเวลาที่แน่นอนไม่ได้ ผมบอกให้เค้าแคนเซิ่ลของผม เค้าก็ไม่ยอม บอกจะเจอกันให้ได้ ก็เลยตกลงไปวันที่ 5 (สมมุติ) แต่อยู่ๆเค้าก็ขอเลื่อนเป็นวันที่ 6 เพราะเค้าบอกว่าเพื่อนเค้าประสบอุบัติเหตุ ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจเค้านะครับ แต่เซ้นส์ผมบอกว่าอย่าเชื่อ แต่ผมก็เชื่อเค้า เพราะเค้าทั้งอัพสเตตัสในเฟสบุคให้กำลังใจเพื่อน แล้วก็คอยโทรบอกผมเรื่อยๆว่าเป็นยังไงบ้างแล้ว ผ่านคืนนั้นเค้าก็อัพรูปไปสถานที่แห่งนึง ผมถามเค้าก็บอกว่าเป็นรูปเก่า ผมก็โอเคไม่ซีเรียสอะไร เพราะกำลังตื่นเต้นกับที่จะได้เจอเค้าวันพรุ่งนี้
ในวันเกิดเค้า ตอนเจอกันผมแทบจะหยุดหายใจเลย เค้าเป็นคนที่มีเสน่ห์มาก ผมตกหลุมรักเค้าอีกแล้ว สำหรับคนอื่นอาจจะมองว่าเค้าเป็นคนที่หน้าตาดี หาได้ทั่วไปตามสยาม แต่สำหรับผมแล้ว ผู้ชายคนนี้มีอะไรมากกว่านั้น คืนนั้นเป็นคืนที่ผมประทับใจมากๆ เค้าขับรถมาส่งผมที่ห้องแล้วกลับห้องไป เค้าบอกว่าเค้าชอบของขวัญที่ผมให้นะ และวันรุ่งขึ้นเค้าก็ใส่นาฬิกาของผมแล้วถ่ายรูปให้ผมดู ทำให้ผมรู้สึกดีเข้าไปใหญ่อีก
ผ่านช่วงวันเกิดเค้า (ปลายปี) ไป ผมก็ยังคุยกับเค้าเรื่อยๆ เราคุยกันเกือบทุกวัน ผมไม่เคยเบื่อเค้าเลยครับ ผมมีความสุขทุกครั้งเวลาที่ได้มโนถึงเค้า บางครั้งก็มโนจนเก็บไปฝันก็มี จนกระทั่งถึงช่วงปีใหม่ เราก็โทรคุย สวัสดีปีใหม่กันตามปกติ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ผมก็ยังคงบอกความรู้สึกกับเค้าอยู่ ผมนั่งเล่นเฟสไปเรื่อยๆจนเห็นรูปที่เค้าอัพ คือรูปสถานที่ที่เค้าเคยอัพลงตอนวันเกิดเค้า ผมก็ถามเค้าว่าอยู่ที่นี่หรอ ไหนว่าอยู่บ้าน เค้าบอกว่าเปล่า เค้าอยู่บ้าน รูปนั้นเป็นรูปตั้งแต่วันเกิดเค้า ผมจับได้ทันที่พอเค้าพูดจบ ผมตามไปแคปข้อความย้อนหลังที่เค้าบอกตอนวันเกิดว่า รูปนั้นถ่ายไว้นานแล้ว พอผมส่งรูปที่ผมแคปไว้ เค้าก็ตอบผมกลับว่า ผมคิดมากไปรึเปล่า
และหลังจากนั้นผมก็ไม่เคยทัก ไม่เคยโทรหา ไม่เคยส่งข้อความไปหาเค้าอีกเลย มันเป็นความรู้สึกที่ทรมานมากๆ ผมไม่ได้โกรธที่เค้าโกหก แต่ผมอยากให้เค้าอธิบายให้ผมฟัง ผมอยากรู้ว่าเรื่องจริงเป็นยังไง ผมเองก็เคยโกหกเค้าว่าไม่ว่าง แต่ถ้าเค้าถาม ผมก็พร้อมและยินดีที่จะอธิบาย ไม่ใช่โบ้ยความผิดมาหาว่าผมคิดมากแบบนี้
ตอนนั้นผมคิดถึงเค้ามากๆครับ ได้แต่ระบายผ่านทางสเตตัสเฟสบุค โดยใช้อักษรหัวใจ ซึ่งเป็นตัวอักษรที่ผมใส่ลงไปในข้อความทุกครั้งที่ผมส่งหาเค้า หรือขึ้นสเตตัส อัพรูปเกี่ยวกับเค้า เค้าก็มากดไลค์ให้ผมบ้าง ผมก็รู้สึกดีนะครับที่เค้ายังเห็นผมอยู่บ้าง แต่ด้วยฑิฐิ ทำให้ผมไม่ยอมทักเค้าเลย จนกระทั่งผ่านไปสองเดือน เป็นวันเกิดผมเค้าก็โทรมาอวยพร แต่ผมไม่ได้รับสาย ผมก็แค่ขอบคุณไป วันวาเลนไทน์เค้าก็โทรมาอีก ผมก็ไม่รับสาย แต่ก็โทรกลับ คุยกันแปบเดียว ผมก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเองว่าเค้าโทรมาทำไม แต่ผมดีใจมากๆ โคตรๆเลยก็ว่าได้ ฑิฐิที่ผ่านมาหายไปหมดเลย ผมคิดว่าที่ผ่านมาช่างเถอะ ผมไม่อยากอยู่แบบไม่มีความสุข
และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ผมกับเค้าก็คุยกันเรื่อยๆ ผมพยายามถามเค้าว่ามีคนคุยบ้างไหม มีใครจีบรึเปล่า เค้าก็บอกว่าเปล่า บางครั้งผมก็เหมือนเค้าไม่ได้อยากคุยกับผม บางครั้งก็คุย ผมเคยขึ้นสเตตัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ เค้าก็อธิบายให้ผมเข้าใจ จนตอนนี้ผมก็ยังเป็นโรคกลัวการเจอหน้ากับเค้าอยู่ดี ล่าสุดเจอกันเมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมบอกตรงๆว่าผมประหม่ามากๆ ผมทำอะไรไม่ถูกเลย มันไม่เป็นตัวของตัวเองยังไงก็ไม่รู้ เค้าก็เทคแคร์ผมดีนะครับ มารับมาส่ง พาขับรถเล่นแม้จะเป็นระยะทางใกล้ๆก็ตาม ร้องเพลงให้ฟังทั้งๆที่ผมเคยพยายามขอให้ร้องให้ฟัง แต่ปกติเค้าก็ไม่ยอม เอาเป็นว่าผมมีความสุขกับผู้ชายคนนี้ละกันครับ เค้าทำให้ผมเขินได้ทุกครั้ง ผมเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่คิดว่าคนที่มีความรักก็เข้าใจผมละมั้ง และแล้วก็มาถึงคำถามซึ่งเป็นปัญหาของผมครับ
ถึงผมจะมีความสุข แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเลย เพราะตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมอยู่ในฐานะอะไร ผมเป็นอะไรสำหรับเค้า สำหรับผมแล้ว เค้าเหมือนคนรักของผม จริงๆนะ...ผมวางเค้าไว้อยู่ในฐานะที่เรียกว่าคนรัก แต่สำหรับเค้าแล้ว ผมอาจจะเป็นแค่ 1 ในคนที่คอยตามชอบเค้าก็เป็นไปได้ ผมเลยอยากลองแชร์เรื่องราว แล้วให้เพื่อนๆพี่ๆช่วยตีความให้ผมหน่อยครับ ว่าสำหรับเค้าแล้ว ผมเป็นอะไรกันแน่ ?