บ้านที่ (ไม่) มีแมว..

กระทู้สนทนา
"บ้านเราไม่เคยขาดแมวมาก่อนเลยนะ.."
.

.
.

แม่พูดมาลอยๆ ขณะที่กำลังเตรียมอาหารเย็น ในบรรยากาศเงียบเหงาของเวลาโพล้เพล้ หลังจากที่ผมพาเจ้า "เป๋าตุง" กลับมาจากโรงพยาบาลสัตว์

"..อืม.."  ผมตอบรับเบาๆในลำคอที่ตีบตัน พลางย้อนไปได้ว่า ในช่วงเวลาที่ผมจำได้บ้านเราก็มีเจ้าพวกนี้อยู่ด้วยกันมาตลอดจริงๆ 1 ตัวบ้าง 2 ตัวบ้าง..เคยมากถึง 10 ตัวก็มี

และถึงแม้บ้านเราจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน เราก็จะเห็นเหล่าสมาชิกในครอบครัวพวกนี้อยู่ด้วยกัน

..ใช่ บ้านเราไม่เคยขาดแมว..

จนทำให้เรารู้ว่า ช่วงเวลาขณะนี้ไม่ง่ายและไม่เคยง่าย แต่ละวินาทีผ่านพ้นไปอย่างยากลำบากในห้วงความคิดของเราเสมอ..แต่ช่วงเวลาของการจากกันก็เป็นอีกบทบาทของชีวิต..

ผมยังจำตอนที่แมวของตัวแรกของผมจากไปได้ดี หลังจากที่มันทำหน้าที่เพื่อนเล่น เพื่อนคุยให้เด็กไม่ค่อยคบใครมาหลายปี มันก็ทำหน้าที่สุดท้ายด้วยการสอนผมว่า

การพบและการพลัดพรากที่เรื่องที่เราต้องเจอและผ่านไป..มันสอนผมด้วยด้วยดวงตาสีเหลืองสดใสที่ค่อยๆหรี่แสงลงคู่นั้น ผมอุ้มร่างขนสีขาวที่อาบเลือดตามตัวของมันไว้กับตัวจนสุดท้ายมันก็นิ่งไปไร้เสียงคำรามในลำคอ แต่เด็ก 8 ขวบคนนั้นคงเป็นนักเรียนที่โง่เง่า หรือไม่ก็ เหตุการณ์คงมาเร็วเกินไป..ผมไม่พร้อมจะเรียนรู้หรอก ผมแค่ไม่อยากจากเพื่อนผมไปก็เท่านั้น ผมทำได้เพียงเท่านั้น ทำได้เพียงคร่ำครวญราวโลกใบเล็กขอผมจะล่มสลายไป..เท่านั้นจริงๆ

"..แม่ว่า..ครั้งนี้จะไปบริจาคให้นศ.สัตวแพทย์ ลองหาข้อมูลเป็นธุระให้แม่หน่อย.." แม้ว่า อาหารค่ำจะจัดเตรียมแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครสนใจจะทำอะไรตอนนี้

"ครั้งนี้ยังดี..คราวก่อนเป็นลม แทบแย่"

แม่หมายถึงครั้งก่อนที่แมวที่แม่รักที่สุดตัวนึงหนีหายจากบ้านไป..และไม่กลับมา หายไปโดยที่เราก็ไม่รู้ชะตากรรมของสมาชิกครอบครัวตัวนี้

แม่เป็นหญิงชราตัวเล็กที่มีโรคประจำตัว เหนื่อยง่าย แต่อดทนและจะไม่บอกใคร..เมื่อปีก่อนแม่ออกเดินตามหาแมวของแม่ ไม่หลับไม่นอนอยู่เกือบ 24 ชม. เป็นลมล้มพับไป 2-3 รอบ ให้เป็นที่เวทนาของพวกเราและคนในหมู่บ้าน จนบัดนี้แม่ก็ยังเอ่ยลอยๆ นานๆครั้งมาว่า.."ไม่รู้ว่าจะเป็นไงบ้าง ขอให้มีคนดีๆ เอาไปดูแลต่อ"

แม่ยังคงลูบร่างกายที่อิดโรย ไม่มีแรงแม้จะเดินของเป๋าตุง พร้อมพร่ำแต่ว่า "ไหวไหมลูก..ถ้าหนูไม่ไหวก็ไปเถอะนะ อย่าเจ็บปวดอยู่เลย แม่จะประคองหนูไว้นะ.."

ถึงตอนนี้เสียงแม่เริ่มสั่น ยกแขนเสื้อขึ้นมาปาดความรู้สึกที่เอ่อล้นจากดวงตาเป็นระยะ

"แม่คงเลี้ยงหนูเป็นรุ่นสุดท้ายแล้วหละ..ตอนที่ "ตงตง" หายไป แม่ก็เหลือแค่หนูตัวเดียว แม่ก็คิดว่าคงไม่เลี้ยงดูใครแล้วหละ.."

"ถ้าหนูจะไป หนูเจ็บ หนูก็ไปได้เลยนะ..แม่ไม่เหงาหรอก มีงานบ้านเยอะแยะ.." ถึงผมจะไม่คิดว่ามันจะเข้าใจที่แม่พูด แต่ผมก็คิดว่านี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะทำให้มันได้แล้ว..

.

..

...

....

.....ทุกคนผ่านเข้ามา และผ่านไป..นี่เป็นอีกครั้งที่เกิดขึ้นของ "บ้านที่(ไม่)มีแมว"

.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่