เทโรมาเงียบๆเลย !! จะได้แชมป์ครั้งแรกในรอบ 10 ปีรึเปล่า?

ตอนนี้เป็นทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ใคร และเจอทีมใหญ่มาหมดแล้ว แถมขึ้นนำจ่าฝูงแบบเงียบๆ
เลก 2 ได้คลีตันกลับมาอีกน่ากลัวสุดๆ

แต่ที่ชอบเลยคือ "จอร์จี้ ยินดีต้อนรับ"ทีมชาติฮอนดูรัส ที่มีสิทธิ์ได้ไป world cup บราซิลทั้งเร็ว ถึก แข็งแกร่ง

กับอีกคนคือ ไดกิ อิวามาสะ ทำให้เทโรตอนนี้เสียประตูน้อยสุด เซนส์บอลคนที่ผ่านบอลโลกกับเจลีกมาแล้วมันต่างกับนักเตะไทยเห็นได้ชัดเลยครับ วันนี้ก็โหม่งได้ด้วย แต่ที่ประทับใจสุดคือลูกที่ยิงบุรีรัมย์ คนอื่นไม่วิ่งกันแล้วมีแกวิ่งเข้าหาบอลคนเดียวจนยิงได้

จริงๆคนอื่นก็เล่นดีหมด เช่น อ้น รังสรรค์เอย ฯลฯ

--------------------------------------

เสริม -> แม้ทีมเล่นดีอิวามาสะแกก็ยังจัดหนักความไม่เป็นมืออาชีพของนักเตะบ้านเรา
แปลโดยคุณ NTT แห่ง ไทยแลนด์สู้ๆ

ต่อคำถามที่ว่า "ฟุตบอลไทยเป็นอย่างไร? ต่างจากญี่ปุ่นอย่างไร
1)ทีมไม่มีสนามซ้อมของตัวเอง : ทีม BEC ต้องซ้อมสนามมหาวิทยาลัยบ้าง หรือสนามธนาคารบ้าง และแต่ละวันก็เปลี่ยนสนามซ้อม

2)การทำประตู: ในไทยลีก การทำประตูส่วนใหญ่มาจากลูกตั้งเตะหรือการฉวยโอกาสจากความผิดพลาดในการส่งหรือผ่านบอลยาว ส่วนในญี่ปุ่นเป็นเรื่องของแผนการเล่นและการเคลื่อนตัวเสียมากกว่า

3)ทัศนคติในการซ้อม: ในไทยนั้นนัดซ้อม 16:00 น. แต่เริ่มจริงๆก็ 17:00 น.แล้ว และในการซ้อมก็สปีดบอลต่ำ ไม่กดดัน เหมือนซ้อมแบบจ็อกกิ้ง อิวามาสะบอกว่าตัวเขาเองต้องแนะให้เพื่อนๆเอาจริงในการซ้อมขึ้น

เขาบอกว่าดูเหมือนว่าปีที่แล้ว BEC อยู่อันดับ 7 ส่วนปีนี้ลุ้นแชมป์และยังไม่แพ้ใครเลย เขาบอกว่าจะลุ้นแชมป์ได้ ต้องซ้อมให้จริงจัง และแข่งขันในทีมสูง  เรื่องความเอาจริงเอาจังในการซ้อมและแข่งขันดูจะเป็นเรื่องที่อิวามาสะพูดไว้พอควร เขาบอกว่ามีคนพูดว่า "เปลี่ยนทัศนคติคนไทยไม่ได้หรอก" ซึ่งอาจจะจริงก็ได้ แต่เขาเอาก็ไม่ยอมแพ้ที่จะกระตุ้นเพื่อนๆ

อิวามาสะพูดต่อไปจากตอนแรกว่ายังมีข้อแตกต่างจากญี่ปุ่นอีกคือ

4) จำนวนนักเตะต่างชาติ: ทีมในไทยอย่าง BEC ลงทะเบียนไว้ถึง 7 คน แต่โควต้าลงสนามมี 3 ดังนั้นการแข่งขันสูงสำหรับนักเตะต่างชาติ แต่เข้าใจว่าปีหน้าเป็นต้นไปจะเหมือนญี่ปุ่นคือ โควต้าเป็น 3 + 1 (อาเซียน)

5) ความเข้าใจเกม: อิวามาสะบอกว่านักเตะญี่ปุ่นเข้าใจเกมมากกว่า ในไทยนั้นนักเตะอาจจะถูกหล่อหลอมมาอีกแบบซึ่งโตมาแล้วเปลี่ยนได้ยาก ในไทยนั้นต้องจับมือรำกันเลย ว่าในสถานการณ์นี้จะลงไปป้องกันหลัง หรือ จะส่งหรือไม่ส่งดี ซึ่งพอบอกไปแล้วก็ต้องมาบอกกันซ้ำอีก

อิวามาสะบอกว่าเคยมีคนให้ฉายาเขาในเมืองไทยว่า "Don't Stop" ซึ่งก็ขำๆ เขาคิดว่าเขาซ้อมแบบซีเรียส และเขาคิดว่าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทีละน้อย เขาหวังว่าจบฤดูกาลแล้วฝันว่านักเตะไทยจะมีเซ็นส์ของการสู้เอาจริงเอาจังเพื่อความสำเร็จมากขึ้น

บล็อกแก : http://s.ameblo.jp/daiki-iwamasa/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่