วันนี้ได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนรุ่นพี่เรื่องลูก...
พี่เล่าให้ฟังว่าลูกสาวเค้าไปทำจมูกมา(ตัดปีกและเสริมดั้งให้โด่ง)
ฉันถามว่า ทำไมให้น้องไปทำตอนนี้เพราะน้องเพิ่งจะขึ้นชั้นม.หกเอง
ร่างกายยังไม่โตเต็มที่
น่าจะรอให้โตกว่านี้อีกหน่อย รูปหน้าจะได้ไม่เปลี่ยน พี่บอกว่า ลูกอยากทำ...
ฉันนิ่งฟัง
พี่เล่าต่อ... พี่บอกลูกบ่นว่าเจ็บมาก ถ้าตายตอนนั้น(ตอนทำ)แล้วฟื้นได้จะตายเลย
ฉันไม่รู้นะว่าเจ็บแค่ไหนแต่คิดว่าคงเจ็บมากๆ
แล้วพี่ก็พูดถึงลูกเค้าต่อเหมือนหาที่ระบาย พี่บอกว่าตอนนี้ต้องไปดัดฟัน
ตอนไปหาหมอฟันหมอก็บ่นว่าไม่รู้แม่เลี้ยงลูกยังไงฟันผุหมดปากเลย
แล้วที่แก้ไขไม่ได้คือปากที่เจ่อๆบานๆเพราะตอนที่น้องยังเล็กๆน้องติดจุกนมปลอม
ฉันบอกก็เพราะตามใจกันเมื่อตอนเล็กไง เห้นว่าลูกไม่อ้อน
ไม่งอแงเพราะเพลินกับจุกนมปลอมเลยปล่อยให้น้องคาบจุกนมตลอดเวลา
แล้วพี่ก็พล่านด่าไปถึงพ่อน้องที่เลิกลากันไปแล้วว่าเป็นเพราะพ่อของน้องตามใจ ลูกร้องไม่ได้
จุกนมปลอมต้องมีทุกมุมของบ้านมีเป็นสิบๆอัน...
ฉันเลยบอกพี่ว่า ให้นำ ปสก ตรงนี้ไปสอนลูก ว่า ที่ฟันผุและรูปปากเป็นแบบนั้นเพราะหนูดื้อไงเวลาบอกอะไรไม่เชื่อฟัง
ถึงตอนนี้แม่บอก แม่สอนอะไรให้ฟังแม่บ้าง เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่บอกที่สอนเพราะแม่หวังดี
ฉันแนะนำได้แค่นี้...
แล้วพี่ก็วกเข้ามาหาฉันบอกว่า ฉันเลี้ยงลูกอย่างโหด...แต่ความโหดทำให้เป็นข้อดีในตอนนี้
รูปหน้าของลูกไม่ต้องแก้ไขอะไรเลย
เมื่อลูกรู้ความฉันป้อนข้าว ลูกอมข้าว ฉันใช้หนังยางยิงแก้ม แล้วถามลูกว่า หนังยางหนึ่งเส้น เจ็บมั้ย...
ลูกตอบว่าเจ็บ(มือจับแก้มน้ำตาคลอ)คราวหน้าถ้าป้อนข้าวแล้วยังอมแม่จะเพิ่มเป็นสองเส้น
ฉันเลี้ยงลูกสองคนใช้วิธีนี้ทั้งสองคน ไม่มีใครอมข้าวและฟันไม่ผุ
ฉันบอกพี่ว่า ลูกหนูสองคนไม่เห็นมันติดอะไรเลย(หมอน.ผ้าห่ม)
อ้อมีลูกสาวคนเล็กติดแหย่สะดือเวลากินนม (วันไหนใส่ชุดหมีให้ชีร้องบ้านแทบแตกเพราะแหย่สะดือไม่ได้)
เดี๋ยวไว้มันกลับมา(ตอนนี้ไปทำงานอยู่ ตปท)ต้องขอดูสะดือหน่อยว่าบานหรือเปล่า...ฉันพูดทิ้งท้ายแบบติดตลก
ฉันก็รู้นะว่าสิ่งที่ทำไปหน่ะมันโหด แต่ที่โหดก็เพราะรัก มันเป็นผลดีกับลูกในตอนโต
ขอบคุณค่ะที่อ่านจนจบ...
โหดไปนะ แต่ ที่โหดน่ะเพราะรัก...
พี่เล่าให้ฟังว่าลูกสาวเค้าไปทำจมูกมา(ตัดปีกและเสริมดั้งให้โด่ง)
ฉันถามว่า ทำไมให้น้องไปทำตอนนี้เพราะน้องเพิ่งจะขึ้นชั้นม.หกเอง
ร่างกายยังไม่โตเต็มที่
น่าจะรอให้โตกว่านี้อีกหน่อย รูปหน้าจะได้ไม่เปลี่ยน พี่บอกว่า ลูกอยากทำ...
ฉันนิ่งฟัง
พี่เล่าต่อ... พี่บอกลูกบ่นว่าเจ็บมาก ถ้าตายตอนนั้น(ตอนทำ)แล้วฟื้นได้จะตายเลย
ฉันไม่รู้นะว่าเจ็บแค่ไหนแต่คิดว่าคงเจ็บมากๆ
แล้วพี่ก็พูดถึงลูกเค้าต่อเหมือนหาที่ระบาย พี่บอกว่าตอนนี้ต้องไปดัดฟัน
ตอนไปหาหมอฟันหมอก็บ่นว่าไม่รู้แม่เลี้ยงลูกยังไงฟันผุหมดปากเลย
แล้วที่แก้ไขไม่ได้คือปากที่เจ่อๆบานๆเพราะตอนที่น้องยังเล็กๆน้องติดจุกนมปลอม
ฉันบอกก็เพราะตามใจกันเมื่อตอนเล็กไง เห้นว่าลูกไม่อ้อน
ไม่งอแงเพราะเพลินกับจุกนมปลอมเลยปล่อยให้น้องคาบจุกนมตลอดเวลา
แล้วพี่ก็พล่านด่าไปถึงพ่อน้องที่เลิกลากันไปแล้วว่าเป็นเพราะพ่อของน้องตามใจ ลูกร้องไม่ได้
จุกนมปลอมต้องมีทุกมุมของบ้านมีเป็นสิบๆอัน...
ฉันเลยบอกพี่ว่า ให้นำ ปสก ตรงนี้ไปสอนลูก ว่า ที่ฟันผุและรูปปากเป็นแบบนั้นเพราะหนูดื้อไงเวลาบอกอะไรไม่เชื่อฟัง
ถึงตอนนี้แม่บอก แม่สอนอะไรให้ฟังแม่บ้าง เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่บอกที่สอนเพราะแม่หวังดี
ฉันแนะนำได้แค่นี้...
แล้วพี่ก็วกเข้ามาหาฉันบอกว่า ฉันเลี้ยงลูกอย่างโหด...แต่ความโหดทำให้เป็นข้อดีในตอนนี้
รูปหน้าของลูกไม่ต้องแก้ไขอะไรเลย
เมื่อลูกรู้ความฉันป้อนข้าว ลูกอมข้าว ฉันใช้หนังยางยิงแก้ม แล้วถามลูกว่า หนังยางหนึ่งเส้น เจ็บมั้ย...
ลูกตอบว่าเจ็บ(มือจับแก้มน้ำตาคลอ)คราวหน้าถ้าป้อนข้าวแล้วยังอมแม่จะเพิ่มเป็นสองเส้น
ฉันเลี้ยงลูกสองคนใช้วิธีนี้ทั้งสองคน ไม่มีใครอมข้าวและฟันไม่ผุ
ฉันบอกพี่ว่า ลูกหนูสองคนไม่เห็นมันติดอะไรเลย(หมอน.ผ้าห่ม)
อ้อมีลูกสาวคนเล็กติดแหย่สะดือเวลากินนม (วันไหนใส่ชุดหมีให้ชีร้องบ้านแทบแตกเพราะแหย่สะดือไม่ได้)
เดี๋ยวไว้มันกลับมา(ตอนนี้ไปทำงานอยู่ ตปท)ต้องขอดูสะดือหน่อยว่าบานหรือเปล่า...ฉันพูดทิ้งท้ายแบบติดตลก
ฉันก็รู้นะว่าสิ่งที่ทำไปหน่ะมันโหด แต่ที่โหดก็เพราะรัก มันเป็นผลดีกับลูกในตอนโต
ขอบคุณค่ะที่อ่านจนจบ...