ฉากจบสุดท้าย หนีไม่พ้นเลือกตั้ง ข่าวสด การเมือง

กระทู้สนทนา
วิกฤตขัดแย้งทางการเมืองยืดเยื้อมานานครึ่งปี

ทวีความเข้มข้นไปตามจังหวะเข้าสู่โหมดชี้เป็นชี้ตายช่วงเดือนพฤษภาคม

ทั้งในส่วนคดีความต่างๆ ของน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ภายใต้คมดาบขององค์กรอิสระ

รวมถึงการเคลื่อนไหวเกมวัดพลังมวลชนสองฝ่าย นปช.คนเสื้อแดง และ กปปส.

แต่ที่นับว่าเป็นพัฒนาการในทางบวก ส่งผลให้บรรยากาศที่เขม็งเกลียวคลายตัวลง

กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์นำทีมเข้าหารือ กำหนดวันเลือกตั้งใหม่กับ 5 เสือ กกต.ที่เสนอมาให้
เลือก 3 วันด้วยกัน คือ วันที่ 20 ก.ค., 17 ส.ค. และ 14 ก.ย.

ก่อนสองฝ่ายจะได้ข้อสรุปตรงกัน

เดินหน้าจัดการเลือกตั้งใหม่วันที่ 20 ก.ค. โดยใช้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. เป็นบทเรียนป้องกัน
ไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

ขั้นตอนต่อจากนี้ กกต.จะดำเนินการยกร่างพระราชกฤษฎีกาแก้ไขกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ เสนอต่อ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ วันที่ 6 พ.ค. จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะนำร่างขึ้นกราบบังคมทูล

ส่วนรายละเอียดตามปฏิทินที่ กกต.กางให้ดูคร่าวๆ

เริ่มจากเปิดรับสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 25-30 พ.ค. รับสมัครส.ส.แบบแบ่งเขต 30 พ.ค.-3 มิ.ย. ลง
คะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในประเทศ 6 ก.ค. ลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร 28 มิ.ย.- 11 ก.ค.

ดูเหมือนทุกอย่างเริ่มมีแนวโน้มในทางที่ดี

ถึงจะช้าไปบ้าง และยังมีข้อน่าสงสัยต่อเรื่องที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงาน
เลือกตั้ง ย้ำให้รัฐบาลต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ กกต.ขอสงวนสิทธิ์ในการจัดเลือกตั้งไว้ 5 ข้อ

โดยเฉพาะข้อที่ว่า กกต.สามารถเลื่อนเลือกตั้งได้ถ้าเห็นว่าสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่สงบเรียบร้อย
หรือการที่รัฐบาลต้องยินยอมรับสภาพว่า แม้จะหย่อนบัตรสำเร็จแต่อาจเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ไม่ได้ใน 30 วัน

เหมือนตั้งโจทย์ปลายเปิดเอาไว้ เพื่อรอคำตอบอะไรบางอย่าง

เพราะกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง 20 ก.ค. ก็ยังต้องรออีก 2 เดือนครึ่ง

นานพอที่การเมืองอาจพลิกผันได้อีกหลายตลบ

ภายใต้สถานการณ์ของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ที่ชะตากรรมกลิ้งไปตกอยู่ในมือองค์กรอิสระ

สิ่งที่หลายคนเป็นห่วงก็คือถึง กกต.จะยอมใส่เกียร์เดินหน้าจัดการเลือกตั้งและกำหนดวัน
ชัดเจนแล้วก็ตาม

แต่ยังไม่เพียงพอเป็นหลักประกันให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้อุ่นใจว่า

ประเทศจะไม่เดินเข้าสู่ภาวะสุญญากาศทางการเมือง ตามเกมที่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลต้องการ
และพยายามสร้างเงื่อนไขวางกับดักให้เกิดสิ่งนี้มาตลอด

มุ่งไปยังปมสองดาบสังหาร ที่ยังไม่รู้ว่าดาบไหนจะฟันลงมาก่อนหรือฟันลงมาพร้อมกัน

ระหว่างดาบในมือศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีผลให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องพ้นสภาพนายกฯ จากสาเหตุใช้
อำนาจสั่งย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี

กับดาบในมือป.ป.ช.กรณีโครงการรับจำนำข้าวที่มีผลให้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

รายงานข่าวระบุ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ แกนนำพรรคเพื่อไทย แจ้งกลางวงหารือ
แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล

คาดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยสถานภาพความเป็นนายกฯ ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าต้อง
สิ้นสุดลงหรือไม่ ในวันที่ 8 พ.ค.นี้

ซึ่งเป็นช่วงจังหวะสอดคล้องใกล้เคียงกับคิวลงดาบ คดีโครงการรับจำนำข้าวในมือของป.ป.ช.
ที่ล็อกวันไว้แล้วว่าถ้าไม่ใช่ 8 พ.ค. ก็เป็น 15 พ.ค.

ทั้งยังสอดรับกับการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้นำม็อบ กปปส. ประกาศเป่านกหวีดรอบใหม่
เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.เป็นต้นไป

โดยมีจุดหมายปลายทางชุมนุมใหญ่เผด็จศึกขับไล่รัฐบาลครั้งสุดท้าย 14 พ.ค. ยาวต่อเนื่องไป
จนกว่าจะรู้ผลแพ้ชนะ

นักวิเคราะห์อ่านเกมเดิมพันครั้งนี้ นายสุเทพเทความหวังทั้งหมดฝากไว้กับดาบหนึ่ง ดาบสอง
ในมือป.ป.ช.กับศาลรัฐธรรมนูญ

ตรงนี้เองที่นางสดศรี สัตยธรรม อดีตกกต. ต้องออกมาส่งสัญญาณเตือน เสนอแนะให้รัฐบาล
เร่งดำเนินการออกพ.ร.ฎ. กำหนดวันเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว

เป็นเกราะป้องกันการก่อเหตุแทรกซ้อน

ขณะเดียวกันมีการวิเคราะห์ไว้เช่นกันว่า

ถึงอย่างไรนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่มีทางเดินไปได้สุดซอยของการเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ทูลเกล้าฯ
นายกรัฐมนตรี มาตรา 7

เกมยืมดาบองค์กรอิสระมาไล่ฟาดฟัน อย่างมากที่สุดก็ทำได้แค่ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องพ้นจาก
อำนาจไปเฉพาะตัว ไม่ส่งผล กระทบถึงคณะรัฐมนตรี

อีกทั้งรัฐธรรมนูญปัจจุบันได้รับการออกแบบมา ป้องกันการเกิดสุญญากาศทางการเมืองไว้ทุกจุด

ต่อให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องหลุดจากเก้าอี้ไป ก็มีบทบัญญัติไว้ชัดเจนว่า บุคคลใดในรัฐบาลต้องขึ้นมาทำ
หน้าที่รักษาการแทน ไล่ตั้งแต่รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ไปจนถึงข้าราชการระดับปลัดกระทรวง

จึงไม่มีทางเกิดหลุมดำใดๆ ได้

ยกเว้นเสียแต่ว่าจะมีการทำปฏิวัติรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทิ้ง

แต่จากการสำรวจปฏิกิริยากองทัพ

พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. กล่าวกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ที่เดินสายเข้าพบว่า ปัญหาการเมืองควรแก้ไขด้วยแนวทางการเมือง

พร้อมแสดงจุดยืนกองทัพในการปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบ ยึดมั่นในรัฐธรรมนูญ

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ก็ให้สัมภาษณ์ชัด กองทัพโดยเฉพาะกองทัพอากาศพร้อม
สนับสนุน การเลือกตั้งที่กำหนดขึ้นใหม่วันที่ 20 ก.ค.

ไม่ต้องพูดถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ซึ่งกล่าวยืนยันไว้หลายครั้งหลายหน
ให้เลิกคิดเรื่องทหารทำปฏิวัติได้เลย

ส่วนประเด็นที่หลายคนเกรงจะเกิดการเผชิญหน้ารุนแรงระหว่างคนเสื้อแดง กับ กปปส.
ที่เรียกระดมพลใหญ่ในห้วงเวลาเดียวกัน

ข่าววงในแจ้งว่า ถ้าสถานการณ์บานปลายไปถึงขั้นนั้นจริงๆ อย่างมากกองทัพก็ประกาศใช้
กฎอัยการศึกเข้าควบคุมสถานการณ์ ว่ากันไปตามเนื้อผ้า ไม่เลือกฝักเลือกฝ่าย

ไม่ฉวยโอกาสทำอะไรเกินเลยไป กว่านั้น

ยังไม่นับรวมท่าทีพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ปฏิเสธแนวทาง
ข้อเสนอของพล.อ. สายหยุด เกิดผล ประธานคณะรัฐบุคคล จนหน้าแตกหงายเงิบ

ไม่เว้นแม้แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เคยถลำลึกไปกับ ?กำนันสุเทพ? ก็ยังกลับลำ
หนุนแนวทางปฏิรูปพร้อมเลือกตั้ง หาทางลงให้ตัวเอง

ตามแบบฉบับที่ต้องเอาหล่อ เอาเท่ไว้ก่อน

สะท้อนทุกฝ่ายเริ่มตื่นตัวในการหาหนทางกลับสู่ประชาธิปไตย หลังก้าวพลาดออกนอกลู่นอกทาง
เสียผู้เสียคนไปตามๆ กัน

ต้องจับตาดูกันต่อไป รถไฟสายประชาธิปไตยที่เริ่มเคลื่อนตัวออกจากสถานี จุดหมายปลายทาง
วันเลือกตั้ง 20 ก.ค.จะรับใครหรือทิ้งใครไว้เบื้อง หลังบ้าง

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU9URXpOemd4TlE9PQ==&sectionid=







สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่