เมื่อวานผมได้นำเครื่องใช้ส่วนตัว เช่น สบู่ ยาสีฟัน ยาทากันยุง ไปถวายพระเพื่อนที่เพิ่งบวชเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว รวมทั้งขนมขบเคี้ยวอีกจำนวนหนึ่ง ตามความต้องการของพระซึ่งได้ไลน์มาหาผมก่อนที่ผมจะนำไปถวาย
แต่เมื่อไปพบพระเพื่อนแล้วนำสิ่งของไปถวาย แทนที่จะรู้สึกอิ่มใจที่ได้ทำบุญ แต่ผมกลับรู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกบาปที่รู้สึกไม่ดีต่อพระเพื่อนรูปนี้ เนื่องจากเมื่อได้สนทนาถามไถ่กันพบว่า พระเพื่อนแสดงอาการที่ทำให้ผมรู้สึกขาดศรัทธาและผิดหวัง เช่น พูดตำหนิถึงบุคคลอื่น (พูดถึงคนที่พระเคยมีปัญหาด้วยในขณะที่ยังไม่บวช) พูดวิจารณ์พระรูปอื่นในทางลบ (พูดว่าพระ..ยังไม่เข้าใจหลักธรรมของพระพุทธเจ้าอย่างถ่องแท้ หรือกล่าวถึงพระที่ชอบดูดวงให้หวยล้วนทำผิดวินัยสงฆ์ทั้งนั้น) หรือการฉีกถุงขนม (สาหร่ายเถ้าแก่น้อย) ฉันในขณะที่ช่วงเวลานั้นเกือบ 5 โมงเย็นแล้ว
อันที่จริง ผมก็พยายามคิดว่าพระรูปนี้คือเพื่อน จะได้ไม่รู้สึกผิดที่คิดไม่ดีกับพระ แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ ทำให้ผมรู้สึกบาปที่คิดไม่ดีกับพระครับ
ไปทำบุญ (กับพระ) แต่กลับมาด้วยบาป
แต่เมื่อไปพบพระเพื่อนแล้วนำสิ่งของไปถวาย แทนที่จะรู้สึกอิ่มใจที่ได้ทำบุญ แต่ผมกลับรู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกบาปที่รู้สึกไม่ดีต่อพระเพื่อนรูปนี้ เนื่องจากเมื่อได้สนทนาถามไถ่กันพบว่า พระเพื่อนแสดงอาการที่ทำให้ผมรู้สึกขาดศรัทธาและผิดหวัง เช่น พูดตำหนิถึงบุคคลอื่น (พูดถึงคนที่พระเคยมีปัญหาด้วยในขณะที่ยังไม่บวช) พูดวิจารณ์พระรูปอื่นในทางลบ (พูดว่าพระ..ยังไม่เข้าใจหลักธรรมของพระพุทธเจ้าอย่างถ่องแท้ หรือกล่าวถึงพระที่ชอบดูดวงให้หวยล้วนทำผิดวินัยสงฆ์ทั้งนั้น) หรือการฉีกถุงขนม (สาหร่ายเถ้าแก่น้อย) ฉันในขณะที่ช่วงเวลานั้นเกือบ 5 โมงเย็นแล้ว
อันที่จริง ผมก็พยายามคิดว่าพระรูปนี้คือเพื่อน จะได้ไม่รู้สึกผิดที่คิดไม่ดีกับพระ แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ ทำให้ผมรู้สึกบาปที่คิดไม่ดีกับพระครับ