เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศค่ะ อยากแชร์ความรู้สึก (ระบาย?)

จขกท เพิ่งกลับมาจากอเมริกาได้สองวันค่ะ ไปอยู่ไม่นานค่ะแค่สองปีกว่า ตื่นเต้นนะคะที่ได้กลับมา แต่พอมาถึง นอยแตกกันทีเดียว

- สนามบินสุวรรณภูมิไม่มีฟรีwifi  พอดีไม่มีมือถือค่ะ นัดที่บ้านให้มารับ บอกว่าจะใช้สไกป์โทรหา แต่ไม่มีเน็ต ^^! หรือว่าเราโง่เอง ...ถามจนท. แล้วนะคะ เขาก็บอกว่าไม่มี รู้สึกแปลกมากค่ะ ไปสนามบินไหนก็เคยมีตลอด

- เมืองไทยร้อนมากกกกกกกกกก รู้สึกเครียด หงุดหงิดและกระวนกระวายมากค่ะ อันนี้โทษอะไรไม่ได้ คิดว่าสักพักคงปรับตัวได้

- ตอนนี้เรามี4G รึยังคะ ซื้อซิมใส่ไอแพด เน็ตช้าโฮกกกกก แล้วบ้านเราดูทันสมัยและเจริญมากนะคะ แต่หลังจากไปติดต่ออะไรหลายที่ ถามเขาถึงเรื่องบริการออนไลน์ (แบงค์ ..บริการเครื่อข่ายโทรศัพท์) ต่างก็ไม่มีค่ะ ชีวิตต้องเคลื่อนตัวออกมาทำธุระจุกจิกด้วยตัวเองกันตลอดเวลาเลยเหรอคะ

- ข้าวของที่เมืองไทยแพงมากกกกกกกก อยู่กันได้ยังไงคะเนี่ย ซื้อของทีจะเป็นลม ยังไม่ได้เข้าร้านเหลาเลยนะคะ ที่กินก็ส้มตำรถเข็น ชาเย็น หมูปิ้ง ผลไม้ ... เมื่อวานไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือ มีเส้นกองนึง หมูสองชิ้น ลูกชิ้นหนึ่งลูก ผักบุ้งนาหั่นๆ ... ไอ้เราก็นึกว่ายี่สิบบาท กินซ้อนจาน เหมือนแถวอนุสาวรีย์ เลยสั่งมาเพิ่มอีกจาน ปรากฏว่าจานละสามสิบห้า บวกน้ำ ปาไปแปดสิบ ^^! ...ปาท่องโก๋ตัวละสามบาท ตัวกระจี๊ดดดนึง ... อันนี้ไม่ใช่ย่านไฮโซนะคะ แถวๆ รามสองโน่นน่ะค่ะ รถไฟฟ้าก็52บาท....คือราคาเกือบเท่าที่ดีซีกับนิวยอร์ก คนทำงานเงินเดือน2-3หมื่นอยู่กันได้ยังไงคะ ที่บ่นนี่ไม่ใช่เป็นคนงกนะคะ ตอนอยู่โน่นกินสตาบัคร์ทุกวัน อยู่ที่นี่เห็นลูกค้าเยอะแยะ แต่ไม่กล้าเข้า

ใครเคยอยู่ดีซี คงรู้ถึงร้านอาหารแถว14st street กับย่านเพน ควอเตอร์ เรากินข้าวร้านดัง รอคิวสามชม.  บ่อยๆ มื้อละ 50-60$ ยังไม่ช้อกเท่าซื้อส้มตำรถเข็นที่นี่เลย ..


เราเปลี่ยนไปเยอะนะคะ ถึงไปอยู่แค่ไม่นาน ทำอะไรมีระเบียบและวางแผนมากขึ้น เราใช้เงินเยอะกว่าสมัยอยู่เมืองไทย แต่ประหยัดกว่า ทำอาหารกินเอง ทำแม้กระทั่งคั่วพริก ป่นพริก ทำน้ำส้มพริกดอง ทำเส้นใหญ่ ทำลูกชิ้น ผักผลไม้ เนื้อสัตว์ส่วนใหญ่ออร์แกนิกส์ กินอาหารเหลือก็ห่อกลับบ้าน ขนาดแกงเขียวหวานเหลือไม่มากยังเอามาคลุกกะเส้นพาสต้ากิน ... เราต้องใช้ชีวิตแบบนั้นอีกครั้ง เพราะถ้ากิน ใช้สบายใจ คงไม่มีทางมีเงินเก็บหรือลืมตาอ้าปากได้ เพราะเงินเดือนหมดไปกับค่ากิน ค่าเดินทางหมด

สองปีกว่าเราสามารถทำเงินได้ร่วมล้าน แต่เราก็ไม่ได้ทำ ตอนนี้รู้สึกกลัวกับชีวิตที่นี่มาก คงต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ ประหยัด หาให้มาก ออมเงิน ลงทุน ... จุดประสงค์กระทู้นี้คือระบายและอยากเตือนสติค่ะ คนรอบตัวเราไม่ได้คิดเรื่องพวกนี้เลย ใช้ชีวิตอย่างไม่วางแผน ของแพง เงินไม่พอใช้ก็ด่ารัฐบาล แต่ไม่ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ชีวิตที่ต่างประเทศเขาประหยัดและวางแผนกันมากนะคะ ขนาดไปช้อปปิ้งก็ต้องเอาถุงไปเอง บางที่เขาคิดเงินค่าถุง แค่ห้าเซ็นต์เขาก็ไม่ยอมเสีย

ทำธุระในกทม เสร็จเราจะลงตจว. ละ มือถือก็คงไม่ซื้อ แค่ซิมไอแพดเสียเดือนละ599เราก็พอละ ปกติก็ทำงานหน้าคอมตลอด...จะไปใช้ชีวิตให้คลีน ตั้งสติให้ดีๆ เราได้เงินไม่มาก 4-5หมื่นต่อเดือน ไม่มีภาระ เรายังเครียด เราไม่รู้ว่าคนได้น้อยกว่าเรา แต่ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถเขาอยู่ยังไง เครียดแทน


เรื่องสุดท้าย สาวๆในกทม โดยเฉพาะแถวสยามพาราก้อน แถวเส้นรถไฟฟ้า ทำไมตัวเล็ก น่ารัก แต่งตัวดีหน้าเป๊ะ ไม่มีเหงื่อ หัวไม่ฟู เราว่าอยู่เมกาก็มีคนมองโดยประมาณ พอไปเดินพารากอนรู้สึกตัวเองดูทุเรศทีเดียว ห้างที่นี่ดีที่สุดละเมื่อเทียบกับห้างในเมืองใหญ่ฝั่งตะวันออกของเมกา (ยกเว้นช่วงเซลล์ อันนั้นสวรรค์ชัดๆ) เราชอบที่สะอาด หรูหรา  หลากหลาย มีของกินเยอะ เราคิดถึงพาราก้อนมากกกกกก แต่พอมาเดิน เรารู้สึกแปลกๆ แล้วก็คิดถึงพนักงงานห้างที่เมกา ไม่นอบน้อมเว่อร์ แต่บริการดี ลูกค้าทุกคนเท่าเทียมกัน

จบแล้วค่ะ ใครจะว่าเราหัวสูง ดัดจริตอะไรก็ไม่ว่าค่ะ ยังไงเราก็ดีใจที่ได้กลับมาเมืองไทย อาจจะเป็นเพราะตอนนี้เราเจ็ทแลคก็ได้ นอนไม่หลับมาสองวันละ. เอาแต่กินกับท้องเสีย พอดีเพิ่งเห็นเพื่อนบนเฟซแชร์เรื่องภาวะการปรับตัวไม่ได้ของคนที่กลับประเทศหลังจากไปอยู่ที่อื่นนานๆ จนต้องดิ้นรนกลับไปอีก เลยกลัวว่าตัวเองจะเป็นแบบนั้น เศร้า
-
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่