ไม่นานมานี้ผมได้ไปงานเลี้ยงรุ่นสมัยมัธยม เป็นโรงเรียนชื่อเสียงกลางๆในกรุงเทพ
มีเพื่อนรุ่นเดียวกันไม่มางาน มากกว่าครึ่ง ส่วนมากอาจจะไม่รู้ว่ารวมตัว บางคนตามตัวไม่ได้ บางคนติดงาน
แต่ผมได้เล่นเฟสคุยกันกับเพื่อนคนนึงที่ไม่มาในวันนั้น
เหตุผลที่เพื่ิอนคนนั้นไม่มา เพราะอายที่เป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ
ผมว่า เฮ้ย ไม่มีเพื่อนๆคนไหนเขาคิดอะไรกับแกอย่างนั้นหรอกว่ะ
เพื่อนยังไงก็ยังเป็นเพื่อน
มันบอกอายเพื่อน คนอื่นทำงานดีๆ ส่วนมันยังกิ๊กก๊อกอยู่
มันอายเพื่อน โดยเฉพาะเพื่อนคนนึงที่เป็นลูกเจ้าของโรงงาน
ผมก็คิดนะ ตัวผมมีแค่บ้านให้คนเช่า4ห้องห้องละ2500 แล้วทำร้านกาแฟเล็กๆ หน้าร้าน ก๊อกๆแก๊ก วันละ2-3ร้อย
เออ คิดแปลก เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ไอ้นี่กับเพื่อนที่ลูกเจ้าของโรงงานก็เล่น ก็เที่ยว กินเหล้า จีบหญิงด้วยกันมา
มันเกิดมามีโชค มันก็ต้องได้รับช่วงต่อกิจการน่ะถูกแล้ว อิจฉา หรือ น้อยเนื้อต่ำใจเพื่ออะไร
หรือ บางคนที่เขาทำงานดีๆ เพราะเขาขยัน เขาสอบได้ มันก็เป็นผลจากการที่เขามานะไม่ใช่เหรอ
อันนี้ยังว่าไม่แปลกเพราะมีหลายคนที่ไม่อยากเจอเพื่อนเก่าเพราะมีไม่เท่าเพื่อน
แต่ผมเคยได้ยินเรื่องนึง จากพ่อผม เลี้ยงรุ่น รุ่นของพ่อผม
มีเพื่อนพ่อผมคนนึง เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แต่ไม่มางานเลี้ยงรุ่น เพราะมีเพื่อนรุ่นเดียวกันเป็นเจ้าของกิจการคนนึง
รวยกว่าหลายเท่า ประมาณว่าตัวเองขับแคมรี่ บ้านหลัก4-5ล้าน แต่เพื่อน ขับปอร์เช่ บ้านหลัก10ล้าน
เลยไม่มาเพราะมีไม่เท่า
อันนี้ยิ่งตลก
ผมว่า เพื่อนเก่า เพื่อนก็ยังเป็นเพื่อน
ในองค์กรคุณ เพื่อนออฟฟิศ เพื่อนทำงานที่รู้จักการตอนโต
อาจต้องใส่หน้ากากเข้าหากัน ต้องเอาอีโก้มาบังหน้า
แต่กับเพื่อนที่โตกันมา
เคยล้อชื่อพ่อชื่อแม่กันมา เคยแข่งแฟบๆว่าใครอึดกว่ากัน
เคยแอบดูดบุหรี่ตอนเข้าค่ายลูกเสือตอนม.2 เคยอกหักแล้วร้องไห้กับเพื่อน แล้ว ชวนกันไปเมาเละ
คือ เพื่อนมันรู้ มันเห็น ทุกอย่างกันมา
ไม่เห็นต้องมีอีโก้ หรือ อัตตา ใดๆมากั้นเมื่อโตกันแล้วเลย
ผมเลยรู้สึกว่า คนที่เอาอีโก้มาวัดกับเพื่อนแบบนี้มันตลกดี
เมื่อคนเราโตขึ้น Ego เอย อัตตา เอย มันมาจากไหน แล้วอีโก้พวกนี้มันจำเป็นด้วยเหรอกับเพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน
มีเพื่อนรุ่นเดียวกันไม่มางาน มากกว่าครึ่ง ส่วนมากอาจจะไม่รู้ว่ารวมตัว บางคนตามตัวไม่ได้ บางคนติดงาน
แต่ผมได้เล่นเฟสคุยกันกับเพื่อนคนนึงที่ไม่มาในวันนั้น
เหตุผลที่เพื่ิอนคนนั้นไม่มา เพราะอายที่เป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ
ผมว่า เฮ้ย ไม่มีเพื่อนๆคนไหนเขาคิดอะไรกับแกอย่างนั้นหรอกว่ะ
เพื่อนยังไงก็ยังเป็นเพื่อน
มันบอกอายเพื่อน คนอื่นทำงานดีๆ ส่วนมันยังกิ๊กก๊อกอยู่
มันอายเพื่อน โดยเฉพาะเพื่อนคนนึงที่เป็นลูกเจ้าของโรงงาน
ผมก็คิดนะ ตัวผมมีแค่บ้านให้คนเช่า4ห้องห้องละ2500 แล้วทำร้านกาแฟเล็กๆ หน้าร้าน ก๊อกๆแก๊ก วันละ2-3ร้อย
เออ คิดแปลก เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ไอ้นี่กับเพื่อนที่ลูกเจ้าของโรงงานก็เล่น ก็เที่ยว กินเหล้า จีบหญิงด้วยกันมา
มันเกิดมามีโชค มันก็ต้องได้รับช่วงต่อกิจการน่ะถูกแล้ว อิจฉา หรือ น้อยเนื้อต่ำใจเพื่ออะไร
หรือ บางคนที่เขาทำงานดีๆ เพราะเขาขยัน เขาสอบได้ มันก็เป็นผลจากการที่เขามานะไม่ใช่เหรอ
อันนี้ยังว่าไม่แปลกเพราะมีหลายคนที่ไม่อยากเจอเพื่อนเก่าเพราะมีไม่เท่าเพื่อน
แต่ผมเคยได้ยินเรื่องนึง จากพ่อผม เลี้ยงรุ่น รุ่นของพ่อผม
มีเพื่อนพ่อผมคนนึง เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แต่ไม่มางานเลี้ยงรุ่น เพราะมีเพื่อนรุ่นเดียวกันเป็นเจ้าของกิจการคนนึง
รวยกว่าหลายเท่า ประมาณว่าตัวเองขับแคมรี่ บ้านหลัก4-5ล้าน แต่เพื่อน ขับปอร์เช่ บ้านหลัก10ล้าน
เลยไม่มาเพราะมีไม่เท่า
อันนี้ยิ่งตลก
ผมว่า เพื่อนเก่า เพื่อนก็ยังเป็นเพื่อน
ในองค์กรคุณ เพื่อนออฟฟิศ เพื่อนทำงานที่รู้จักการตอนโต
อาจต้องใส่หน้ากากเข้าหากัน ต้องเอาอีโก้มาบังหน้า
แต่กับเพื่อนที่โตกันมา
เคยล้อชื่อพ่อชื่อแม่กันมา เคยแข่งแฟบๆว่าใครอึดกว่ากัน
เคยแอบดูดบุหรี่ตอนเข้าค่ายลูกเสือตอนม.2 เคยอกหักแล้วร้องไห้กับเพื่อน แล้ว ชวนกันไปเมาเละ
คือ เพื่อนมันรู้ มันเห็น ทุกอย่างกันมา
ไม่เห็นต้องมีอีโก้ หรือ อัตตา ใดๆมากั้นเมื่อโตกันแล้วเลย
ผมเลยรู้สึกว่า คนที่เอาอีโก้มาวัดกับเพื่อนแบบนี้มันตลกดี