[CR] [CR] ฉายเดี่ยว 28 ชม. ในปารีส

สวัสดีค่ะ หลังจากที่เข้ามาสูบข้อมูลออกไปตลอดๆ วันนี้ถึงเวลาเป็นผู้ให้บ้างแล้วค่ะ ก่อนอื่นต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าเลย หากรีวิวนี้มีข้อมูลไม่ละเอียด ข้อมูลผิดพลาด รูปไม่สวย ภาษาไม่ดี เขียนไม่รู้เรื่อง ไม่เว้นวรรค ไม่เว้นบรรทัด พิมพ์ผิด สะกดผิด บลาๆๆๆ .. เค้าจะพยายามทำให้ดีที่สุดน๊า

ทริปนี้เกิดขึ้นมาจากโปรเอทิฮัด 27,xxx แถมได้หยุดยาวอีก เลยรีบตะครุบไว้ก่อน เราจอง กทม – ปารีส ขากลับเป็น อัมสเตอร์ดัม – กทม ทั้งสองขาต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่อาบูดาบี UAE ค่ะ เราไปวันที่ 6 – 18 เมษา ที่ผ่านมานี้เอง

ทริปนี้เรารีวิวแค่ปารีสนะคะ เรามีเวลาที่นี่น้อยมากเพราะมาถึง 7 โมงเช้า นอนคืนนึง วันรุ่งขึ้นก็จับรถไฟตอนเที่ยงเข้าลอนดอนเลย ที่อยู่ปารีสน้อยเพราะคิดว่าคงไม่น่าจะมีอะไรมากมาย ไม่ชอบคนเยอะด้วย .. แต่พอได้เห็น ก็พบว่า คิดผิดค่ะ เลยต้องมีคราวหน้าแน่ๆ เราจะมาใหม่ จะมาเที่ยวนานๆเลยเพราะครั้งนี้ค่อนข้างประทับใจ อาจเป็นเพราะอ่านเจอแต่ในแง่ลบเกี่ยวกับปารีสมาเยอะ เลยคิดไว้ว่ามันต้องไม่ดีแน่ๆ แต่พอมาเจอเอง .. เอ้ย มันโอเคนี่นา ไม่ได้แย่อะไรมากมายเลย

เกริ่นมายาวละ เราไปปารีสกันเลยดีกว่าค่ะ
บินกับ Etihad ครั้งแรกก็เจอดีเลย ตามเวลาปกติเครื่องออกเวลา 8.35 ของวันที่ 6 เมษา แต่ก่อนนอนก็ได้ sms มาว่าจะดีเลย์ไปเป็นเที่ยงวัน .. ดีนะที่ส่งเมสเสจมาบอกก่อน ไม่งั้นได้มีไปรอเงกที่สนามบินแน่ๆ ซึ่งฝรั่งหลายคนบ่นว่ามารอตั้งแต่ 6 โมงเช้า ทางสายการบินมีแจกคูปองอาหารให้คนละ 300 บาท ซึ่งไม่คุ้มแน่นอน แต่สำหรับเราก็ถือว่าโอเค เพราะไม่อยากเก็บมาเป็นอารมณ์เดี๋ยวจะเที่ยวไม่สนุกเปล่าๆ


เครื่องใหม่นะคะ ส่วนใครที่กลัวว่าจะเหม็นแขก ไม่ต้องกลัวเลย แขกอาหรับตัวไม่เหม็นเพราะทุกคนประโคมน้ำหอมคนละประมาณ 3 ลิตรได้ กลิ่น(หอม)คลุ้งไปหมด หอมจนเริ่มจะเวียนหัว .. leg room สำหรับเราถือว่ากว้างใช้ได้นะ (เพราะเราเตี้ยไง 555 สูง 165 ไม่รู้สึกว่าอึดอัด) ผ้าห่มเป็นลายทางน่ารักจัง


เราสั่ง seafood meal ออนไลน์ไว้ค่ะ ไม่ได้อะไรหรอก แค่อยากกินก่อนคนอื่นแค่นั้นเอง แล้วก็มีคนมาอิจฉาจริงๆด้วย ขาไปจากอาบูดาบีมีมาดามปารีเซียงนั่งข้างๆ เรียกแอร์มาถามว่า ทำไมชั้นยังไม่ได้กิน ทำไมยัยนี่ได้กินก่อนใคร ดูซินางกินจะหมดแล้วเนี่ย ชั้นก็หิวนะ .. ทีหลังป้าก็เข้าไปสั่งในเวปก่อนสิคะ จะได้ไม่ต้องทนหิว อิอิ


ก่อนจะแลนด์ที่อาบูดาบีก็มี light meal เป็นแซนด์วิชทูน่า .. อาหารอร่อยค่ะสายการบินนี้


ไม่ต้องบอกเลยว่าใกล้จะถึงแล้ว แห้งแล้งมากๆตะวันออกกลาง


เนื่องจากเวลาเปลี่ยนเครื่องเรานานมาก (ตั๋วถูกก็งี้ T_T) ก็เลยจ่ายตังค์เข้าไปนั่งใน lounge ดีกว่า ราคาประมาณ 2000 บาท อยู่ได้ 4 ชั่วโมง เราอยู่จนครบเลยเพราะมีทั้งของกิน น้ำดื่มไม่อั้น โซฟานุ่มๆ ปลั๊กชาร์จมือถือ ชาร์จแลปทอป สบายจริงๆ ..  แต่ที่เกินความคาดหมายคือห้องอาบน้ำค่ะ มันเริ่ดมากกกกก! เห็นไม่มีคนใช้เราเลยเข้าไปขัดสีฉวีวรรณอยู่เป็นชั่วโมงเลย บอกเลยว่า คุ้ม


อาบน้ำสระผมเสร็จ ตัวหอมฉุย ก็ได้เวลาขึ้นเครื่องรอบดึกไปปารีสกันแล้วค่ะ ไฟลท์นี้จะถึงปารีส 7 โมงเช้า พอเริ่มสว่างก็เริ่มเข้าเขตหลังคายุโรป เทือกเขาแอลป์นั่นเองงงง


เริ่มลดระดับสู่ท่าอากาศยาน ชาร์ลส์ เดอ โกล ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส .. ของแท้ต้องมีหอไอเฟลโผล่ทะลุเมฆมาต้อนรับด้วยนะ
เริ่มตื่นเต้นแล้วค่ะ ปกติเดินทางคนเดียวก็บ่อย แต่ครั้งนี้มาไกลสุดแล้ว แถมยังไม่รู้ว่าจะคุยรู้เรื่องไม๊ เพราะภาษาฝรั่งเศสเราคืนครูไปพร้อมกับตอนจบ ม. 6 นู่นเลย ก็ไม่นานมากหรอก 15 ปีเอ๊งงง


เครื่องลงตรงเวลามาก จะเสียเวลาก็ตอนรอกระเป๋าแป๊บนึงค่ะ อยากจะบอกว่า ตม ที่นี่ หล่อมากกกกก แถมใจดีอีกตะหาก แค่ถามเราว่าจะไปอังกฤษเหรอ ไปไหนอีก ไปอัมสเตอร์ดัมด้วยเหรอ เราก็ตอบไปว่า ใช่ค่ะ จะนั่งยูโรสตาร์ไปอังกฤษพรุ่งนี้ ดูตั๋วไม๊คะ พี่แกบอก ไม่เป็นไรๆๆ ถามเฉยๆ Enjoy Paris นะ แล้วก็ปั๊มฉึก .. ่านแรกไม่โหดอย่างที่คิด หลังจากนั้นเราก็ไปซื้อตั๋ว RER เข้า Gare du Nord ที่เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ คือกลัวว่าจะพูดกะเค้าไม่รู้เรื่องเลยไปจิ้มๆเอาดีกว่า ตั๋วรถไฟราคา 9.5 ยูโร ถ้าจำไม่ผิด .. ไม่ได้ถ่ายรูปเครื่องมานะคะเพราะตอนนั้นพะรุงพะรังมาก ไหนจะลากกระเป๋าไหนจะอ่านป้าย ในที่สุดก็ขึ้นรถไฟได้แล้วววว


ก่อนมาปารีส เราอ่านทั้งในพันทิปทั้ง tripadvisor แล้วก็จะมีคนบ่นตลอดว่า ปารีสสกปรกนะ เหม็นด้วย ยิ่งรถไฟนี่ยิ่งแย่เลย เราก็เตรียมตัวมาอย่างดีเลย พกยาดมใส่กระเป๋ากางเกงเลยสองข้าง แต่พอขึ้นไปนั่ง เอ้ย มันก็ดีนี่นา ไม่เห็นสกปรกเลย ไม่เหม็นด้วย กทม เหม็นกว่าเยอะ .. ไม่มีรูปในรถเดี่ยวๆนะคะ มีหน้าเราติดมาด้วย แหะๆ


ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงหัวลำโพงปารีส สถานี Gare du Nord เราจองที่พักแถวนี้ไว้เพราะพรุ่งนี้ก็ต้องไปลอนดอนแล้ว นอนแถวนี้มันซะเลย


มาถึงก็รีบเอากระเป๋าไปฝากที่ hostel เพราะเค้าให้เช็คอินตอนสี่โมงเย็น แล้วเราก็รีบไป Notre Dame เพราะเราจองทัวร์ไว้ เป็น We go walking ที่ไม่เสียเงิน เค้าจะพาเดินเที่ยว เดินดู tourist attractions หลายจุดมากๆ เราจะจ่ายแค่ทิปไกด์ตอนจบเท่านั้นเอง .. แต่ก็เป็นกรรมของเรา อุตส่าห์รีบไปขึ้น RER สาย B (สายเดียวกับเมื่อกี๊ที่มาจากสนามบินค่ะ) จาก Gare du Nord เพื่อจะไปลงที่สถานี St-Michel Notre Dame ซึ่งปกติจะใช้เวลาแค่ 5 นาที แต่พอเราลงไปถึงตัวรถไฟ ดันมีประกาศอะไรไม่รู้ ฟังไม่ออกแล้วคนก็เริ่มทะยอยเดินออกจากรถ เราเลยวิ่งลงไปอ่านที่บอร์ด (ภาษาฝรั่งเศสเราง่อยมาก ฟังไม่ออก พูดไม่ได้ แต่พออ่านรู้เรื่อง) สรุปว่ารถไฟเสียที่สถานีอื่น ทำให้คันนี้ต้องจอดรอประมาณ 20 นาที โอ๊ยตายยย ทัวร์นัดไว้ 10.20 เราไปไม่ทันแน่ๆแล้ว แต่โชคดีที่ก่อนมา เราลองพล็อตจุดที่ทัวร์จะพาเดินลง google map แล้วก็ปริ้นท์ติดตัวมาด้วย เลยเอาวะ เดินเองก็ได้ ตามแผนที่นี้เลยค่ะ ระยะทางก็ไม่กี่กิโล อากาศดี เดินชมเมืองเล่นๆ น่าจะชิลๆดี


หลังจากโผล่จากใต้ดิน ก็เจอแบบในรูปเลยค่ะ อารมณ์ตอนนั้นมันฟินมาก แบบว่า อ่านมาเยอะว่ามันจะสกปรก อย่างงั้นอย่างงี้ แต่พอเจอเองมันแบบ โหยยยยย ทำไมสวยอย่างงี้ .. แล้วยิ่งไปคนเดียวด้วยนะ ยิ่งไม่รู้จะเม้ากับใคร ได้แต่ตะโกนในใจว่า สวยจังเลยยยยแล้วยิ้มหน้าบานอยู่คนเดียว


หันหลังมาก็จะเจอโบสถ์ Notre Dame ที่ซึ่งเด็กสายศิลป์ฝรั่งเศสทุกคนคุ้นเคย สมัยเรียนเราอยากไปมาก อยากเห็นกับตาว่าสวยแค่ไหน แล้ววันนี้ก็ได้มาเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว แม้ว่าจะผ่านไปสิบกว่าปีก็เถอะ


ที่นี่ก็มีซากุระด้วยนะ มีฝรั่งมานั่งฮานามิประปราย


โชคดีมากที่วันนี้ฟ้าใส อากาศไม่หนาวมาก ลมโชยเย็นๆ เหมาะแก่การเดินเล่นมากๆ


เดินไปเดินมา อ้าว ถึงเกาหลีเลยเหรอเนี่ย! แน่นอนว่าเกาหลีก้อปคอนเซปของสะพานนี้ไปแน่ๆ คนมาเป็นคู่เค้าก็เตรียมกุญแจมาคล้องกัน คนเป็นคี่อย่างเราก็ได้แต่แอบดูอยู่ไกลๆ ชิส์


แม่น้ำแซนน์ .. เราชอบยุโรปอย่างนึงตรงที่ ท้องฟ้าจะมี contrails ให้ดูเยอะมาก เราเก็บรูป contrails ไว้เยอะเพราะชอบมาก เห็นทีไรก็ต้องแหงนหน้าขึ้นไปมองทุกที มายุโรปแล้วจะฟินมากตรงจุดนี้


มีถ่ายแฟชั่นริมน้ำด้วย เลยได้โอกาสนั่งพักซะเลย นางแบบขายาวมากๆ ถ้าไปยืนเทียบเอวเค้าคงประมาณคอเราได้มั้ง  -_-“


ปารีส สมเป็นเมืองท่องเที่ยวจริงๆ มีทั้งเรือท่องเที่ยว ทั้งรถ hoho .. แต่ชั้นไม่สนอะไรพวกนั้นหรอกนะ เดินเอาดีกว่า ฟรีด้วย!






เดินมาเรื่อยๆก็มาถึง Pont Neuf สะพานที่เก่าแก่ที่สุดในปารีส (ถ้าข้อมูลผิดช่วยแย้งด้วยค่ะ) ส่วนนี่เป็นรูปปั้นของพระเจ้าหลุยส์ วิตตอง ที่ 1 ที่คนไทยบูชา เอ้ย! มั่ววววว!!!!
แหะๆ อันนี้ไม่รู้จริงๆค่ะ ว่ารูปปั้นใคร


สะพานที่เห็นก็เป็นอีกสะพานนึงที่มีกุญแจคล้องไว้เยอะเลยค่ะ ไม่รู้ว่าอันไหนมาก่อนนะ สะพานแถวๆ Notre Dam กับอันนี้




พักเหนื่อยมันที่สะพาน Pont Neuf นี่แหละ ขนมนี่เอาลงมาจากเครื่องบินเพราะ อย่างที่บอกค่ะ กลัวพูดไม่รู้เรื่องแล้วจะสั่งของกินไม่เป็น 5555


ข้ามสะพาน Pont Neuf ไปก็จะเข้าเขต Louvre แล้วค่ะ ความรู้สึกแรกคือ ทำไมมันใหญ่โตมโหฬารแบบนี้ กว่าจะเดินพ้นตึกนี่นานมาก








ออกมาข้างหน้าพิพธภัณฑ์ค่ะ ตอนนั้นอยากเข้ามากๆ แต่คิวยาวแล้วเราก็มีเวลาน้อยด้วย เลยเดินเล่นอยู่แต่ข้างนอก
นั่งมองคน มองนักท่องเที่ยว .. ก็สนุกไปอีกแบบ




แล้วรูปนี้ เค้าอยากจะ selfie คนเดียวก็ไม่ได้! พอถ่ายเสร็จเห็นรูปแล้วขำเลย ไอ่คู่นี้มันโผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ฟะ


นั่งเล่นซักพัก พักเหนื่อยไปในตัว ก็ได้เวลาเดินต่อแล้วค่ะ .. แปะไว้ก่อนนะ Louvre เดี๋ยวจะกลับมาใหม่แน่ๆ


ข้ามถนนมา ก็จะเห็น Arc de Triomphe du Carrousel ตั้งเด่นเป็นสง่า แต่ตรงนี้ฝุ่นเยอะมากค่ะเพราะถนนเป็นกรวดๆฝุ่นๆ ลมพัดมาที ฝุ่นกระจายเลย ใครแพ้ฝุ่นอย่าลืมเอา mask มาด้วย เรานี่ทั้งจามทั้งตาแดงเลยค่ะ


วันนี้แดดดี ฝรั่งออกมาตากแดดกันเต็มเลย
ชื่อสินค้า:   Paris
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่