คือ เราเลิกกับแฟนแล้ว แล้วเขาก็มีคนใหม่ไปแล้ว แต่เค้าไม่ค่อยอยู่บ้านหรอก เค้าไปอยู่กับแฟนใหม่ แต่เรายังเข้าไปคุยเล่น ถามสาระทุกข์สุกดิบกับครอบครัวอยู่ คือต้องบอกไว้ก่อนว่าครอบครัวเค้ารักเราเหมือนลูกคนนึง เค้าดีกับเรามากๆ และเราก็รักครอบครัวนี้ด้วย ตอนที่เราคบกับแฟน พ่อแม่เค้าดูแลเราดีมาก เราไม่มีเงินก็ให้เราใช้ เราอยู่หอค่ะแฟนจะชอบพาไปกินข้าวที่บ้านพร้อมครอบครัวทุกวัน เวลาเราป่วยพ่อแม่เค้าก็ดูแลเฝ้าไข้เรา หาซื้อยาอันไหนว่าดีมาให้เรา หาซื้อกับข้าวมาให้เรากินพอรู้ว่าเราไม่มีเงินก็เรียกเราเข้ามากินข้าวตลอด ถึงแม้ว่าลูกชายเค้าไม่อยู่ก็ตาม เอาง่ายๆ คือ เค้ามีบุญคุณกับเรามากจริงๆ อีกเหตุผลนึงที่เรายังเข้าไปหาไปเล่นด้วยเพราะบ้านเค้าไม่ค่อยมีคนอยู่ค่ะ ตอนกลางวันจะมีแต่แม่อายุก็ 50 กว่าๆ ไม่ค่อยสบายเป็นลมบ่อย แล้วยังต้องเลี้ยงหลานอีก อยู่บ้าน เราชอบเข้าไปนั่งคุยกับแม่เค้าเวลาคุยแล้วสบายใจและไปช่วยดูหลานด้วย คือเค้าจะไม่พูดอะไรเข้าข้างลูกชายเค้าเลยแต่เค้าก็รักลูกชายเค้ามากเหมือนกันค่ะ บอกเลยครอบครัวนี้ยุติธรรมสุดๆ ผิดก็ว่าไปตามผิดค่ะ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกๆ ไม่ค่อยอยู่บ้าน บ้านหลังนี้จะมีคนอยู่ 4 คนลูกชาย ลูกสาว แล้วก็พ่อกับแม่ค่ะ ลุกชายก็ไม่ค่อยกลับบ้าน ลูกสาวก็ไปทำงานกลับบ้างไม่กลับบ้าง ตอนเย็นจะมีแต่พ่อกับแม่อยู่กันสองคน มันน่าเกลียดไหมคะที่เรายังเข้าไปนั่งเล่น นั่งคุยกับครอบครัวเค้าเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่เราก็เลิกกับลูกชายเค้าไปแล้ว จะบอกว่าผูกพันธ์กับครอบครัวนี้มั๊ยก็ผูกพันธ์นะ เพราะกินอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปี แล้วอีกอย่างพ่อกับแม่เค้าก็บอกให้เราทำตัวเหมือนเดิมนั่นแหละ ถึงจะเลิกกันแล้วพ่อกับแม่ก็รักเหมือนลูกเหมือนหลานคนนึง อยากรู้ว่ามันน่าเกลียดไหมคะ??
ขอบคุณที่อ่านค่ะ
ปล.ลูกชายเค้าไม่เคยพาผู้หญิงคนใหม่เข้าบ้านเลย พอเราถามว่าเรายังเข้าบ้านได้ไหมเค้าก็บอกให้เราเข้าไปได้เหมือนเดิม ทำเหมือนเดิมนั่นแหละ
ถ้าเราเลิกกับผู้ชายคนนึง แต่เรายังเข้าไปหาครอบครัวเขาอยู่มันน่าเกลียดไหมคะ??
ขอบคุณที่อ่านค่ะ
ปล.ลูกชายเค้าไม่เคยพาผู้หญิงคนใหม่เข้าบ้านเลย พอเราถามว่าเรายังเข้าบ้านได้ไหมเค้าก็บอกให้เราเข้าไปได้เหมือนเดิม ทำเหมือนเดิมนั่นแหละ