....ด้วยว่าประเทศเรามีข้อขัดเเย้งกันมามากพอสมควร.. จึงมีความเห็นประชาชน น่าจะมานำเสนอรูปเเบบ การจัดการที่อำนาจที่เเท้จริงเป็นของประชาชน ผมขออณุญาต นำเสนอในเเนวคิดของผม ส่วนท่านใดมีความคิดเห็นหรือมีความเห็นต่างกันอย่างไร ได้โปรดช่วยกันนำเสนอ โดยภาษาสุภาพ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดี ในส่วนที่จะนำเสนอนั้น จะเป็นส่วนของการเข้าสู่ตำเเหน่งเเละปฎิบัติหน้าที่ ของนักการเมือง เเละองค์กรอิสระ เพื่อหาความชัดเจน ว่าอำนาจประชาชนคืออะไร เเละจะทำให้มันเป็นรูปธรรมจับต้องได้ ใช้อำนาจได้อย่างเเท้จริง....ผมจึงมีความคิดเห็นดังนี้...
เรื่องเเรก..ผมเสนอให้การจัดการลงคะเเนนเป็นไปโดยง่าย เเละเป็นภาระให้ประชาชน้อยที่สุด ยกตัวอย่างการกดเอทีเอ็ม ปัจจุบันบัตรประชาชนส่วนใหญ่ได้ฝังชิบลงไปเพื่อระบุตัวตน รวมไปถึงเทคโนโลยี่สเเกนลายนิ้วมือ จึงเพียงพอที่จะระบุตัวตนได้อย่างชัดเจน โดยการสร้างเครือค่ายหรือเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลธนาคาร หรืออาจจัดสร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งฐานข้อมูลทุกวันนี้ก็อยู่ในระบบของราชการอยู่เเล้ว เเต่ที่เลือกตู้เอทีเอ็ม เนื่องจากธุระกรรมต่างๆ ไม่ว่าค่าน้ำไฟโทรศัพท์ ทางด่วน ก็สามารถทำทางตู้ได้
หากเพิ่มกิจกรรมการเลือกตั้งต่างๆลงไป ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ อย่างง่ายดาย ไม่เสียเวลา เเละเชื่อว่า จำนวนผู้ออกไปใช้สิทธิ์ น่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเดินทาง อีกทั้ง จะช่วยลดค่าใช้จ่าย ทั้งในส่วนของ กกต ที่จัดการเลือกตั้ง ที่ต้องจ้างคนจำนวนมาก ทั้งบัตรทั้งกล่อง ซึ่งใช้เงินหลายพันล้านบาท อีกทั้งค่าเดินทางของประชาชน รวมไปถึงสูญเสียเวลา ซึ่งเงินจำนวนนี้ สามารถลดลงได้ หากมีการลงทุนเชื่อมต่อ ระบบอาจมีค่าใช้จ่ายสูงในช่วงเเรก เเต่สามารถ ต่อยอดไปสู่การลงคะเเนน ลงประชามติ เพื่อขอความคิดเห็นประชาชนทั้งประเทศ เป็นมติที่จับต้องได้ จะได้ลดความขัดเเเย้งของสังคม
เรื่องที่สอง...การลงคะเเนนผ่านระบบอินเทอร์เน็ตนอกจากมีข้อดีสะดวกสบายเเละเป็นเเรงจูงใจเเล้ว ยังสามารถนำไปใช้กับองค์กรต่างๆ เพื่อยึดโยงองค์กนเหล่านั้นกับประชาชน ไม่ต้องไปให้ อำนาจใครไม่กี่คนมาตัดสินใจเเทนประชาชน ผมขออธิบายอย่างนี้ สส สว กกต ตลก กสม ผู้ตรวจการ ทั้งหมดเหล่านี้จะต้องมาจากการเลือกตั้งจากประชาชน โดยอาจเเบ่งออกเป็นส่วนๆตามภูมิภาค ยกตัวอย่างเช่น ประเทศไทยมี77 จังหวัด อาจเเบ่งออกเป็น7ส่วน ให้คนในเเต่ละส่วนสามารถเลือกในกลุ่มที่ลงรับสมัครในเขตของตัวเอง ยกเว้น สส สว ที่อาจเเบ่งตามฐานเดิม
เรื่องที่สาม...ในการเลือกตั้งนั้น ยังคงยึดอายุการดำรงค์ตำเเหน่งเช่นเดิมคือ4ปี เเต่ในช่วงสี่ปี ผมขอนำเสนอว่า ประชาชนมีสิทธิ์ในการถอดถอนบรรดาเหล่า สส สว กกต ตลก กสม ผู้ตรวจการได้ โดยยึดหลักคะเเนน ทุกๆปีจะมีการเปิดโอกาสให้ประชาชน สามารถมาลงคะเเนน(หรือไม่ลงก็ได้) เพื่อประเมินผลงานในทุกๆปี ว่าประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไร หากประชาชน มีความไม่พอใจ ไม่อยากให้ นักการเมือง หรือองค์กรอิสระท่านใด ทำหน้าที่อีกต่อไป สามารถลงคะเเนนหรือยกเลิกคะเเนนที่ตนได้เคยลงไปให้
โดยนับจากฐานคะเเนนที่ประชาชนในเขตนั้นผู้มีสิทธิ์ลงคะเเนนให้ ยกตัวอย่างเช่น หากประชาชนลงคะเเนนให้หนึ่งเเสนคะเเนน คู่เเข่งได้เเปดหมื่ เเต่เมื่อปรากฎทำความผิด ปฎิบัติหน้าทีไม่เที่ยงตรง ประชาชนสามารถ ย้ายคะเเนน ไปให้อีกฝ่ายหนึ่งได้ หรือประชาชนถอนคะเเนนออกมากว่าครึ่งหนึ่ง จะทำให้คนที่ดำรงค์ตำเเหน่งพ้นจากหน้าที่ทันที อาจให้คนที่ได้คะเเนนน้อยหากมีประชาชนไปเพิ่มคะเเนนให้ สามารถเข้าทำหน้าที่เเทนได้
ทั้งสามข้อที่นำเสนอ ขอเป็นจุดเริ่มต้นในการหาจุดลงตัวที่ประชาชนจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขเเละยุติธรรม สามารถเอาไปปปรับใช้กับองค์กรอื่นๆได้ เเม้เเต่ศาล เพื่อให้ยึดโยงกับประชาชน ลดการเล่นพรรคพวก เส้นสาย อำนาจเเฝงในสังคม อำนาจที่เเท้จริงจึงควรมาอยู่ในมือประชาชน เชื่อว่า ประชาชนในสมัยนี้ มีความรู้ความสามารถไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน จึงมีสิทธิ์ที่จะเลือกคนเข้าไปทำหน้าที่ สำคัญๆ ...โปรดพิจารณาหากมีข้อโต้เเย้งหรือมีความคิดเห็น ได้โปรดช่วยกันเเสดง เพื่อหาข้อยุติจากประชาชนอย่างเเท้จริง.....ขอบคุณ
---------------------------อำนาจที่เเท้จริงของประชาชน--------------------------(เถียงกันให้รู้เรื่อง)
เรื่องเเรก..ผมเสนอให้การจัดการลงคะเเนนเป็นไปโดยง่าย เเละเป็นภาระให้ประชาชน้อยที่สุด ยกตัวอย่างการกดเอทีเอ็ม ปัจจุบันบัตรประชาชนส่วนใหญ่ได้ฝังชิบลงไปเพื่อระบุตัวตน รวมไปถึงเทคโนโลยี่สเเกนลายนิ้วมือ จึงเพียงพอที่จะระบุตัวตนได้อย่างชัดเจน โดยการสร้างเครือค่ายหรือเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลธนาคาร หรืออาจจัดสร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งฐานข้อมูลทุกวันนี้ก็อยู่ในระบบของราชการอยู่เเล้ว เเต่ที่เลือกตู้เอทีเอ็ม เนื่องจากธุระกรรมต่างๆ ไม่ว่าค่าน้ำไฟโทรศัพท์ ทางด่วน ก็สามารถทำทางตู้ได้
หากเพิ่มกิจกรรมการเลือกตั้งต่างๆลงไป ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ อย่างง่ายดาย ไม่เสียเวลา เเละเชื่อว่า จำนวนผู้ออกไปใช้สิทธิ์ น่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเดินทาง อีกทั้ง จะช่วยลดค่าใช้จ่าย ทั้งในส่วนของ กกต ที่จัดการเลือกตั้ง ที่ต้องจ้างคนจำนวนมาก ทั้งบัตรทั้งกล่อง ซึ่งใช้เงินหลายพันล้านบาท อีกทั้งค่าเดินทางของประชาชน รวมไปถึงสูญเสียเวลา ซึ่งเงินจำนวนนี้ สามารถลดลงได้ หากมีการลงทุนเชื่อมต่อ ระบบอาจมีค่าใช้จ่ายสูงในช่วงเเรก เเต่สามารถ ต่อยอดไปสู่การลงคะเเนน ลงประชามติ เพื่อขอความคิดเห็นประชาชนทั้งประเทศ เป็นมติที่จับต้องได้ จะได้ลดความขัดเเเย้งของสังคม
เรื่องที่สอง...การลงคะเเนนผ่านระบบอินเทอร์เน็ตนอกจากมีข้อดีสะดวกสบายเเละเป็นเเรงจูงใจเเล้ว ยังสามารถนำไปใช้กับองค์กรต่างๆ เพื่อยึดโยงองค์กนเหล่านั้นกับประชาชน ไม่ต้องไปให้ อำนาจใครไม่กี่คนมาตัดสินใจเเทนประชาชน ผมขออธิบายอย่างนี้ สส สว กกต ตลก กสม ผู้ตรวจการ ทั้งหมดเหล่านี้จะต้องมาจากการเลือกตั้งจากประชาชน โดยอาจเเบ่งออกเป็นส่วนๆตามภูมิภาค ยกตัวอย่างเช่น ประเทศไทยมี77 จังหวัด อาจเเบ่งออกเป็น7ส่วน ให้คนในเเต่ละส่วนสามารถเลือกในกลุ่มที่ลงรับสมัครในเขตของตัวเอง ยกเว้น สส สว ที่อาจเเบ่งตามฐานเดิม
เรื่องที่สาม...ในการเลือกตั้งนั้น ยังคงยึดอายุการดำรงค์ตำเเหน่งเช่นเดิมคือ4ปี เเต่ในช่วงสี่ปี ผมขอนำเสนอว่า ประชาชนมีสิทธิ์ในการถอดถอนบรรดาเหล่า สส สว กกต ตลก กสม ผู้ตรวจการได้ โดยยึดหลักคะเเนน ทุกๆปีจะมีการเปิดโอกาสให้ประชาชน สามารถมาลงคะเเนน(หรือไม่ลงก็ได้) เพื่อประเมินผลงานในทุกๆปี ว่าประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไร หากประชาชน มีความไม่พอใจ ไม่อยากให้ นักการเมือง หรือองค์กรอิสระท่านใด ทำหน้าที่อีกต่อไป สามารถลงคะเเนนหรือยกเลิกคะเเนนที่ตนได้เคยลงไปให้
โดยนับจากฐานคะเเนนที่ประชาชนในเขตนั้นผู้มีสิทธิ์ลงคะเเนนให้ ยกตัวอย่างเช่น หากประชาชนลงคะเเนนให้หนึ่งเเสนคะเเนน คู่เเข่งได้เเปดหมื่ เเต่เมื่อปรากฎทำความผิด ปฎิบัติหน้าทีไม่เที่ยงตรง ประชาชนสามารถ ย้ายคะเเนน ไปให้อีกฝ่ายหนึ่งได้ หรือประชาชนถอนคะเเนนออกมากว่าครึ่งหนึ่ง จะทำให้คนที่ดำรงค์ตำเเหน่งพ้นจากหน้าที่ทันที อาจให้คนที่ได้คะเเนนน้อยหากมีประชาชนไปเพิ่มคะเเนนให้ สามารถเข้าทำหน้าที่เเทนได้
ทั้งสามข้อที่นำเสนอ ขอเป็นจุดเริ่มต้นในการหาจุดลงตัวที่ประชาชนจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขเเละยุติธรรม สามารถเอาไปปปรับใช้กับองค์กรอื่นๆได้ เเม้เเต่ศาล เพื่อให้ยึดโยงกับประชาชน ลดการเล่นพรรคพวก เส้นสาย อำนาจเเฝงในสังคม อำนาจที่เเท้จริงจึงควรมาอยู่ในมือประชาชน เชื่อว่า ประชาชนในสมัยนี้ มีความรู้ความสามารถไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน จึงมีสิทธิ์ที่จะเลือกคนเข้าไปทำหน้าที่ สำคัญๆ ...โปรดพิจารณาหากมีข้อโต้เเย้งหรือมีความคิดเห็น ได้โปรดช่วยกันเเสดง เพื่อหาข้อยุติจากประชาชนอย่างเเท้จริง.....ขอบคุณ