เถรสูตร
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔
อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
-------------
[๘๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุผู้เถระประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อสิ่งมิใช่ประโยชน์ เพื่อมิใช่สุข เพื่อความ

แก่ชนมาก
เพื่อมิใช่เกื้อกูล เพื่อทุกข์ แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน
คือ ภิกษุผู้เถระเป็นรัตตัญญู บวชนาน ๑
เป็นผู้มีชื่อเสียง มียศ มีชนหมู่มากเป็นบริวารปรากฏแก่พวกคฤหัสถ์และบรรพชิต ๑
เป็นผู้ได้จีวร บิณฑบาตเสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ๑
เป็นพหูสูต ทรงไว้ซึ่งสุตะ สั่งสมสุตะ เป็นผู้ได้สดับมาก ทรงจำไว้คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ ซึ่งธรรมทั้งหลาย
อันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุดประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถพร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ๑
เป็นมิจฉาทิฐิ มีความเห็นวิปริต
เธอย่อมยังชนหมู่มากให้ห่างเหินจากสัทธรรม ให้ตั้งอยู่ในอสัทธรรม ชนหมู่มากย่อมยึดถือทิฏฐานุคติของเธอว่า
เธอเป็นภิกษุผู้เถระรัตตัญญู บวชนาน ดังนี้บ้าง
เธอเป็นภิกษุผู้เถระ มีชื่อเสียง มียศ มีชนหมู่มากเป็นบริวารปรากฏแก่พวกคฤหัสถ์และบรรพชิต ดังนี้บ้าง
เธอเป็นภิกษุผู้เถระได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ดังนี้บ้าง
เธอเป็นภิกษุผู้เถระ ผู้เป็นพหูสูต ทรงไว้ซึ่งสุตะ สั่งสมสุตะ ดังนี้บ้าง ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุผู้เถระประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล
ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อสิ่งที่มิใช่ประโยชน์ เพื่อมิใช่สุข
เพื่อความ
แก่ชนมาก เพื่อมิใช่เกื้อกูล เพื่อทุกข์ แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ
********
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุผู้เถระประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข เพื่อความเจริญ แก่ชนมาก
เพื่อเกื้อกูลเพื่อสุข แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน
คือภิกษุผู้เถระย่อมเป็นพระเถระ รัตตัญญู บวชนาน ๑
เป็นผู้มีชื่อเสียง มียศ มีชนหมู่มากเป็นบริวารปรากฏแก่พวกคฤหัสถ์ และบรรพชิต ๑
เป็นผู้ได้จีวร บิณฑบาตเสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ๑
เป็นพหูสูต ทรงไว้ซึ่งสุตะ สั่งสมสุตะเป็นผู้ได้สดับมากทรงจำไว้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ
ซึ่งธรรมทั้งหลายอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุดประกาศพรหมจรรย์
พร้อมทั้งอรรถพร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ๑
เป็นสัมมาทิฐิ มีความเห็นไม่วิปริต
เธอย่อมยังชนหมู่มาก
ให้ห่างเหินจากอสัทธรรม ให้ตั้งอยู่ในสัทธรรม ชนหมู่มากย่อมยึดถือทิฏฐานุคติของเธอว่า
เธอเป็นภิกษุผู้เถระ รัตตัญญู บวชนานดังนี้บ้าง
เธอเป็นภิกษุผู้เถระ มีชื่อเสียง มียศ มีชนหมู่มากเป็นบริวารปรากฏแก่พวกคฤหัสถ์และบรรพชิต ดังนี้บ้าง
เธอเป็นภิกษุผู้เถระ ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ดังนี้บ้าง
เธอเป็นภิกษุผู้เถระ ผู้เป็นพหูสูต ทรงไว้ซึ่งสุตะ สั่งสมสุตะ ดังนี้บ้าง ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุผู้เถระประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
เพื่อความเจริญ แก่ชนมาก เพื่อเกื้อกูลเพื่อสุข แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ
จบสูตรที่ ๘
-----------------------------------
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ บรรทัดที่ ๒๖๑๘ - ๒๖๕๕. หน้าที่ ๑๑๓ - ๑๑๕.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=22&A=2618&Z=2655&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=22&i=88
ผู้ปฏิบัติเพื่อสิ่งมิใช่ประโยชน์ เพื่อมิใช่สุข เพื่อความ:)แก่ชนมาก
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔
อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
-------------
[๘๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุผู้เถระประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อสิ่งมิใช่ประโยชน์ เพื่อมิใช่สุข เพื่อความ
เพื่อมิใช่เกื้อกูล เพื่อทุกข์ แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน
คือ ภิกษุผู้เถระเป็นรัตตัญญู บวชนาน ๑
เป็นผู้มีชื่อเสียง มียศ มีชนหมู่มากเป็นบริวารปรากฏแก่พวกคฤหัสถ์และบรรพชิต ๑
เป็นผู้ได้จีวร บิณฑบาตเสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ๑
เป็นพหูสูต ทรงไว้ซึ่งสุตะ สั่งสมสุตะ เป็นผู้ได้สดับมาก ทรงจำไว้คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ ซึ่งธรรมทั้งหลาย
อันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุดประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถพร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ๑
เป็นมิจฉาทิฐิ มีความเห็นวิปริต
เธอย่อมยังชนหมู่มากให้ห่างเหินจากสัทธรรม ให้ตั้งอยู่ในอสัทธรรม ชนหมู่มากย่อมยึดถือทิฏฐานุคติของเธอว่า
เธอเป็นภิกษุผู้เถระรัตตัญญู บวชนาน ดังนี้บ้าง
เธอเป็นภิกษุผู้เถระ มีชื่อเสียง มียศ มีชนหมู่มากเป็นบริวารปรากฏแก่พวกคฤหัสถ์และบรรพชิต ดังนี้บ้าง
เธอเป็นภิกษุผู้เถระได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ดังนี้บ้าง
เธอเป็นภิกษุผู้เถระ ผู้เป็นพหูสูต ทรงไว้ซึ่งสุตะ สั่งสมสุตะ ดังนี้บ้าง ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุผู้เถระประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อสิ่งที่มิใช่ประโยชน์ เพื่อมิใช่สุข
เพื่อความ
********
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุผู้เถระประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข เพื่อความเจริญ แก่ชนมาก
เพื่อเกื้อกูลเพื่อสุข แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน
คือภิกษุผู้เถระย่อมเป็นพระเถระ รัตตัญญู บวชนาน ๑
เป็นผู้มีชื่อเสียง มียศ มีชนหมู่มากเป็นบริวารปรากฏแก่พวกคฤหัสถ์ และบรรพชิต ๑
เป็นผู้ได้จีวร บิณฑบาตเสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ๑
เป็นพหูสูต ทรงไว้ซึ่งสุตะ สั่งสมสุตะเป็นผู้ได้สดับมากทรงจำไว้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ
ซึ่งธรรมทั้งหลายอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุดประกาศพรหมจรรย์
พร้อมทั้งอรรถพร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ๑
เป็นสัมมาทิฐิ มีความเห็นไม่วิปริต
เธอย่อมยังชนหมู่มากให้ห่างเหินจากอสัทธรรม ให้ตั้งอยู่ในสัทธรรม ชนหมู่มากย่อมยึดถือทิฏฐานุคติของเธอว่า
เธอเป็นภิกษุผู้เถระ รัตตัญญู บวชนานดังนี้บ้าง
เธอเป็นภิกษุผู้เถระ มีชื่อเสียง มียศ มีชนหมู่มากเป็นบริวารปรากฏแก่พวกคฤหัสถ์และบรรพชิต ดังนี้บ้าง
เธอเป็นภิกษุผู้เถระ ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ดังนี้บ้าง
เธอเป็นภิกษุผู้เถระ ผู้เป็นพหูสูต ทรงไว้ซึ่งสุตะ สั่งสมสุตะ ดังนี้บ้าง ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุผู้เถระประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
เพื่อความเจริญ แก่ชนมาก เพื่อเกื้อกูลเพื่อสุข แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ
จบสูตรที่ ๘
-----------------------------------
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ บรรทัดที่ ๒๖๑๘ - ๒๖๕๕. หน้าที่ ๑๑๓ - ๑๑๕.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=22&A=2618&Z=2655&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=22&i=88