คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
เห็นว่าสายอาชีพอยู่ในแวดวงเดียวกัน ขอมาแชร์ข้อมูลเผื่อจะเป็นประโยชน์นะคะ ยาวหน่อย
สิ่งที่จะทำให้ได้เปรียบในการสมัครงานต่างประเทศ ขอลิสต์ตามนี้นะคะ ไม่ได้เรียงลำดับความสำคัญแต่เรียงลำดับตามที่นึกออก
1. ใบอนุญาตทำงานหรือ work permit
ที่จริง work permit ของแต่ละประเทศคือนายจ้างต้องเป็น sponsor ขอให้นะคะ ดังนั้นคนที่ไม่ได้ถือวีซ่าทำงานในประเทศนั้นก็ไม่มี work permit ค่ะ ส่วนคนที่มี work permit อยู่แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะเอาไปใช้สมัครงานกับบริษัทไหนก็ได้ ขอให้เข้าใจตรงนี้ก่อน
ทีนี้ ส่วนใหญ่ที่เค้าถามว่ามีใบอนุญาตทำงานในประเทศนั้นๆ หรือไม่ ถึงแม้คำถามมันฟังดูแปลกเพราะถึงมี work permit พอย้ายที่ทำงานก็ต้องเดินเรื่องขอใหม่อยู่ดี ที่จริงคำถามนี้คือรู้กันว่าถามว่าคุณมีสิทธิ์ทำงานในประเทศนั้นอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ คนที่ถือ work permit กับนายจ้างปัจจุบันหรือนายจ้างเก่าก็จะได้เปรียบในการสมัครงานเพราะนั่นแสดงว่ารู้ขั้นตอนการขอ work permit มาก่อน มีคุณสมบัติครบที่จะขอ work permit กับนายจ้างใหม่ได้ ไม่น่าจะมีปัญหาขอไม่ผ่าน
2. skill ของคุณอยู่ในสาขาขาดแคลนของประเทศนั้นหรือไม่
ทุกประเทศ ถ้าจะจ้างคนต่างชาติมาทำงาน นายจ้างต้องพิสูจน์ว่าไม่สามารถหาคนในประเทศมาทำหน้าที่ที่ต้องการได้ หรือตำแหน่งดังกล่าวอยู่ในสาขาที่ขาดแคลนของประเทศนั้นค่ะ (อันนี้จะอยู่ในข้อบังคับของการยื่นขอ work permit ด้วย)
3. ประสบการณ์การทำงานในโปรเจคใหญ่ๆ หรือร่วมงานกับบริษัทข้ามชาติที่มีชื่อเสียง
ข้อนี้คงไม่ต้องพูดมาก รู้กันว่ามันมีผลต่อการเรียกสัมภาษณ์ เอาไว้เบ่งได้
4. ความสามารถในการสื่อสารภาษาต่างประเทศ
จะไปทำงานต่างประเทศ ถ้า skill คุณไม่ได้เลิศมากมากแซงหน้าผู้สมัครคนอื่น ภาษาอังกฤษคุณต้องดีค่ะ ไม่ใช่แค่พอได้เพราะมันไม่พอ (คิดว่าคุณพิมพ์ว่าภาษาอังกฤษพอได้ตามสไตล์คนไทยที่ติดนิสัยถ่อมตัวมากกว่า เพราะในสังคมไทยถ้าคุณบอกว่าตัวเองเก่งเดี๋ยวมีคนหมั่นไส้) หรือถ้าภาษาอังกฤษคุณแค่พอได้จริงๆ คุณต้องรู้ภาษาถิ่นประเทศนั้นเพียงพอที่จะสื่อสารในการทำงานร่วมกับคนท้องถิ่นได้ค่ะ
5. บอกให้โลกรู้ว่าคุณมีอะไรดีกว่าคนอื่น บริษัทนั้นถึงต้องจ้างคุณ
อันนี้ว่ากันด้วยเรื่อง CV และ profile ที่คุณเขียนในใบสมัคร หรือ online community ทั้งหลาย ห้ามถ่อมตัวค่ะ จำไว้ว่าไม่ใช่เมืองไทย อะไรที่ทำได้ดีหรือเก่ง บอกชาวโลกไปให้หมด จะเรียกว่าขี้อวดก็ได้แต่นั่นคือคุณมีดีให้อวด อันนี้จะโม้ไปนิดๆก็ได้แต่อย่าโม้เกินจริงเพราะถ้าไปเจอของจริงตอนสัมภาษณ์คนสัมภาษณ์เค้าก็จับได้อยู่ดี ตัวอย่างการโม้ในระดับที่พอดี เช่น คุณกำลังศึกษาการใช้โปรแกรมอะไรซักอย่างอยู่ ให้บอกไปว่าใช้โปรแกรมนี้เป็นในขั้น beginner ค่ะ อย่าไปบอกว่าใช้ไม่เป็น เพราะบางทีกว่าคุณจะส่งใบสมัครไปจนเค้าจะเรียกสัมภาษณ์คุณก็เริ่มใช้งานพอเป็นแล้ว
ระหว่างนี้ ถ้าไม่มีที่ไหนเรียกสัมภาษณ์ซักที ขอเสนอทางเลือกตามนี้ค่ะ
1. ตามความเห็นข้างบนค่ะ สมัครเข้าบริษัทลูกหรือบริษัทสาขาในไทยของบริษัทต่างชาติที่มีชื่อเสียงก่อน ประสบการณ์การทำงานกับบริษัทเหล่านี้ จะช่วยยกระดับ profile คุณได้ จากนั้น ขยัน Update ประวัติของคุณในเว็บหางานหรือ expert community ทั้งหลาย คอยติดตามข่าวสารการรับสมัครงาน
2. แทนที่จะเล็งสมัครงานกับบริษัทข้ามชาติอย่างเดียว ลองสมัครงานบริษัทเล็กๆ บริษัท local หรือบริษัทที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากในประเทศนั้นก่อน พอได้ไปทำงานแล้วจะเริ่มรู้ระบบและมีประสบการณ์การทำงานในประเทศนั้น ความได้เปรียบในการก้าวสู่ตำแหน่งใหญ่ขึ้นหรือบริษัทที่มีชื่อเสียงก็จะมีมากขึ้นค่ะ
3. ลองหางานในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงก่อน การมี international experience ไม่ว่าในประเทศไหนก็ได้เปรียบคนที่มีแต่ local experience ค่ะ เพราะมันบอกใบ้ว่าคุณมีความสามารถในการปรับตัวให้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างออกไปได้ นายจ้างไม่ต้องปวดหัวกับปัญหารับมาทำงานไม่กี่เดือนแล้วทนไม่ไหวขอลาออกหนีกลับบ้าน ประมาณนั้นค่ะ
หมายเหตุ: เราทำงานสาย built environment เช่นกัน จะแนะว่าให้คุณลองสมัครงานในจีนหรือฮ่องกงดูสิคะ เพราะสายนี้กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด
สิ่งที่จะทำให้ได้เปรียบในการสมัครงานต่างประเทศ ขอลิสต์ตามนี้นะคะ ไม่ได้เรียงลำดับความสำคัญแต่เรียงลำดับตามที่นึกออก
1. ใบอนุญาตทำงานหรือ work permit
ที่จริง work permit ของแต่ละประเทศคือนายจ้างต้องเป็น sponsor ขอให้นะคะ ดังนั้นคนที่ไม่ได้ถือวีซ่าทำงานในประเทศนั้นก็ไม่มี work permit ค่ะ ส่วนคนที่มี work permit อยู่แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะเอาไปใช้สมัครงานกับบริษัทไหนก็ได้ ขอให้เข้าใจตรงนี้ก่อน
ทีนี้ ส่วนใหญ่ที่เค้าถามว่ามีใบอนุญาตทำงานในประเทศนั้นๆ หรือไม่ ถึงแม้คำถามมันฟังดูแปลกเพราะถึงมี work permit พอย้ายที่ทำงานก็ต้องเดินเรื่องขอใหม่อยู่ดี ที่จริงคำถามนี้คือรู้กันว่าถามว่าคุณมีสิทธิ์ทำงานในประเทศนั้นอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ คนที่ถือ work permit กับนายจ้างปัจจุบันหรือนายจ้างเก่าก็จะได้เปรียบในการสมัครงานเพราะนั่นแสดงว่ารู้ขั้นตอนการขอ work permit มาก่อน มีคุณสมบัติครบที่จะขอ work permit กับนายจ้างใหม่ได้ ไม่น่าจะมีปัญหาขอไม่ผ่าน
2. skill ของคุณอยู่ในสาขาขาดแคลนของประเทศนั้นหรือไม่
ทุกประเทศ ถ้าจะจ้างคนต่างชาติมาทำงาน นายจ้างต้องพิสูจน์ว่าไม่สามารถหาคนในประเทศมาทำหน้าที่ที่ต้องการได้ หรือตำแหน่งดังกล่าวอยู่ในสาขาที่ขาดแคลนของประเทศนั้นค่ะ (อันนี้จะอยู่ในข้อบังคับของการยื่นขอ work permit ด้วย)
3. ประสบการณ์การทำงานในโปรเจคใหญ่ๆ หรือร่วมงานกับบริษัทข้ามชาติที่มีชื่อเสียง
ข้อนี้คงไม่ต้องพูดมาก รู้กันว่ามันมีผลต่อการเรียกสัมภาษณ์ เอาไว้เบ่งได้

4. ความสามารถในการสื่อสารภาษาต่างประเทศ
จะไปทำงานต่างประเทศ ถ้า skill คุณไม่ได้เลิศมากมากแซงหน้าผู้สมัครคนอื่น ภาษาอังกฤษคุณต้องดีค่ะ ไม่ใช่แค่พอได้เพราะมันไม่พอ (คิดว่าคุณพิมพ์ว่าภาษาอังกฤษพอได้ตามสไตล์คนไทยที่ติดนิสัยถ่อมตัวมากกว่า เพราะในสังคมไทยถ้าคุณบอกว่าตัวเองเก่งเดี๋ยวมีคนหมั่นไส้) หรือถ้าภาษาอังกฤษคุณแค่พอได้จริงๆ คุณต้องรู้ภาษาถิ่นประเทศนั้นเพียงพอที่จะสื่อสารในการทำงานร่วมกับคนท้องถิ่นได้ค่ะ
5. บอกให้โลกรู้ว่าคุณมีอะไรดีกว่าคนอื่น บริษัทนั้นถึงต้องจ้างคุณ
อันนี้ว่ากันด้วยเรื่อง CV และ profile ที่คุณเขียนในใบสมัคร หรือ online community ทั้งหลาย ห้ามถ่อมตัวค่ะ จำไว้ว่าไม่ใช่เมืองไทย อะไรที่ทำได้ดีหรือเก่ง บอกชาวโลกไปให้หมด จะเรียกว่าขี้อวดก็ได้แต่นั่นคือคุณมีดีให้อวด อันนี้จะโม้ไปนิดๆก็ได้แต่อย่าโม้เกินจริงเพราะถ้าไปเจอของจริงตอนสัมภาษณ์คนสัมภาษณ์เค้าก็จับได้อยู่ดี ตัวอย่างการโม้ในระดับที่พอดี เช่น คุณกำลังศึกษาการใช้โปรแกรมอะไรซักอย่างอยู่ ให้บอกไปว่าใช้โปรแกรมนี้เป็นในขั้น beginner ค่ะ อย่าไปบอกว่าใช้ไม่เป็น เพราะบางทีกว่าคุณจะส่งใบสมัครไปจนเค้าจะเรียกสัมภาษณ์คุณก็เริ่มใช้งานพอเป็นแล้ว
ระหว่างนี้ ถ้าไม่มีที่ไหนเรียกสัมภาษณ์ซักที ขอเสนอทางเลือกตามนี้ค่ะ
1. ตามความเห็นข้างบนค่ะ สมัครเข้าบริษัทลูกหรือบริษัทสาขาในไทยของบริษัทต่างชาติที่มีชื่อเสียงก่อน ประสบการณ์การทำงานกับบริษัทเหล่านี้ จะช่วยยกระดับ profile คุณได้ จากนั้น ขยัน Update ประวัติของคุณในเว็บหางานหรือ expert community ทั้งหลาย คอยติดตามข่าวสารการรับสมัครงาน
2. แทนที่จะเล็งสมัครงานกับบริษัทข้ามชาติอย่างเดียว ลองสมัครงานบริษัทเล็กๆ บริษัท local หรือบริษัทที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากในประเทศนั้นก่อน พอได้ไปทำงานแล้วจะเริ่มรู้ระบบและมีประสบการณ์การทำงานในประเทศนั้น ความได้เปรียบในการก้าวสู่ตำแหน่งใหญ่ขึ้นหรือบริษัทที่มีชื่อเสียงก็จะมีมากขึ้นค่ะ
3. ลองหางานในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงก่อน การมี international experience ไม่ว่าในประเทศไหนก็ได้เปรียบคนที่มีแต่ local experience ค่ะ เพราะมันบอกใบ้ว่าคุณมีความสามารถในการปรับตัวให้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างออกไปได้ นายจ้างไม่ต้องปวดหัวกับปัญหารับมาทำงานไม่กี่เดือนแล้วทนไม่ไหวขอลาออกหนีกลับบ้าน ประมาณนั้นค่ะ
หมายเหตุ: เราทำงานสาย built environment เช่นกัน จะแนะว่าให้คุณลองสมัครงานในจีนหรือฮ่องกงดูสิคะ เพราะสายนี้กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด
แสดงความคิดเห็น
ถ้าคิดจะไปทำงานต่างประเทศ ควรเริ่มจากจุดไหนดีครับ
ผมเคยเริ่มจากสมัครผ่านเว็บไซต์ต่างๆ แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับมาแต่อย่างใด
ความหวังสุดท้ายของผมจึงอยู่ที่เว็บไซต์ Pantip แห่งนี้ครับ
รบกวนผู้รู้ช่วยให้การชี้แนะด้วยครับ