เรื่องเต็มเล่ห์นางฟ้า (ตอนที่7/2) วันจันทร์ที่ 28/04/2557




ภาวินีกลับถึงบ้าน เปลี่ยนเป็นชุดอยู่กับบ้านแล้ว เดินไปมาอยู่ในโถง รอธีภพด้วยความร้อนใจ
       สักครู่หนึ่งธีภพเข้ามาในบ้านถือผ้าพันคอของบิวตี้ที่ตกอยู่ในรถ มีนกบิวตี้นกเกาะบ่า ชะงักเมื่อเห็นพ่อกับแม่
       ภาวินีแปลกใจ “ผ้าพันคอของผู้หญิงที่ไหนน่ะธี”
       “ยัยบิวตี้ทำตกไว้ในรถครับ” ชายหนุ่มส่งของและผ้าพันคอให้สาวใช้
       “อ้าว ไปส่งบิวตี้มาเหรอ” ธนาถาม
       “ครับ แต่อยู่ๆ ก็ขอเข้าห้องน้ำที่ปั๊ม ถอดชุดโรงงานทิ้งไว้ แล้วก็หายตัวไปไม่บอกไม่กล่าว”
       ภาวินีร้อง “อ๋อ...คงใส่ชุดไว้ข้างใน แล้วไปปาร์ตี้ต่อ”
       “พวก Generation Me ทำอะไรนึกถึงแต่ตัวเอง แกก็ใช่ย่อย”
       “ไม่เอาค่ะ ไม่พูด เดี๋ยวเถียงกัน กินข้าวดีกว่าจ้ะธี” ภาวินีเห็นนกบิวตี้ “อ้าวเจ้าตัวเล็ก วันนี้มารออยู่หน้าบ้านหรือจ๊ะ”
       ธีภพบอก “เปล่าครับ ไปเจอที่หน้าบ้านบิวตี้”
       “ทำไมถึงแสนรู้อย่างงี้หือ เจ้าตัวเล็ก” ภาวินีลูบนกบิวตี้อย่างเอ็นดู
       ธีภพนั่งลง บิวตี้คน นั่งข้างๆ
       ภาวินีเลื่อนอาหารให้ธีภพ “วันนี้น้องอรเขาผิดหวังมากรู้ไหม ที่ลูกไม่ไปงาน”
       ธนาประชด “คงไม่ค่อยเท่าไหร่หรอก เขามีคุณเจตน์ชาญคอยดูแล”
       บิวตี้คนบ่นกับธนา “คุณอากำลังแหย่ให้นายธีหึงใช่ไหมคะ”
       “แม่ว่าธีต้องจริงจังกว่านี้แล้วล่ะ ไม่งั้นโดนตัดหน้าแน่ แม่เสียดายคนน่ารัก ดีพร้อมอย่างหนูอร”
       “ครับแม่”
       บิวตี้คนประชด “คุณอา! ยัยแบ๊วนั่นน่ะหรือคะ น่ารัก ดีพร้อม”
       ธีภพมองนกบิวตี้แล้วหัวเราะ “ทำท่าหงุดหงิดขี้อิจฉาเหมือนยัยบิวตี้ไม่มีผิด”
       บิวตี้คนร้องโวยวาย เป็นเสียงนกร้องผสมกับเสียงคน “ฉันไม่ได้ขี้อิจฉา”
       “พ่อว่า ลูกต้องให้ความมั่นใจกับผู้หญิงเขามากกว่านี้ นี่ต้องให้พ่อสอนวิธีจีบหญิงมั้ยเนี่ย” ภาวินีค้อนควัก “ก็จีบคุณไง” สองผัวเมียแซวกันเองอย่างครื้นเครง
       “ได้ครับ ได้ครับ ผมจะใส่ใจน้องเค้าให้มากขึ้น”
       บิวตี้คนหงุดหงิด “ลูกแหง่ ไม่เป็นตัวของตัวเองเลย น่าเบื่อ”
       
       นกบิวตี้บินออกไปจากห้อง ธีภพไม่ทันได้สนใจ


   ด้านอรวิภาเข้าบ้านมา จะเดินขึ้นห้องนอนท่าทีโกรธๆ อดิศักดิ์ตามมาต่อว่าหน้าตึงด้วยความโมโห
       
       “ทำไมอรเสียมารยาทแบบนี้”
       “ไม่เอาค่ะปะป๊า อย่าดุลูกแบบนั้นสิคะ”
       “ทำไมปะป๊าต้องบังคับน้องอรด้วย”
       “ปะป๊าไม่ได้บังคับ แต่น้องอรควรจะมีโอกาสได้คบคนอื่นบ้าง”
       “แต่น้องอรคบกับพี่ธีอยู่”
       “แล้วเค้าสนใจอรมั้ย งานของลูกเค้ายังไม่มาเลย”
       “ปะป๊า” อรวิภาเสียใจร้องไห้
       “ลูกร้องไห้แล้ว ปะป๊าอย่าทำให้ลูกสะเทือนใจสิคะ” เครือวรรณติงสามี
       อดิศักดิ์ไม่เลิก “ผู้ชายน่ะ ถ้ารู้สึกว่าผู้หญิงเป็นลูกไก่ในกำมือ เขาจะไม่สนใจรู้ไหม ต้องทำให้รู้สึกเสียบ้างว่า ลูกเรามีทางเลือกอีกเยอะ ไม่ใช่ไม่มีคู่แข่ง”
       “ป๊าพูดถูกแล้วลูก”
       “ให้ห่างๆกันสักพักก็ดี ต่อไปนี้ห้ามไปพบกับนายธีภพโดยไม่บอกปะป๊านะ”
       “ทำไมต้องห้ามน้องอรด้วยคะ”
       “เอาน่า ป๊าห้ามก็ต้องฟัง” อดิศักดิ์บอกกับภรรยา “คุณคอยดูไว้ด้วยนะ เขาต้องเป็นฝ่ายแอ็คชั่นบ้าง ถ้ายังเฉยอยู่ จะได้รู้กัน”
       “ค่ะคุณ”
       “ปะป๊า หม่ะมี๊ใจร้าย”
       “ไม่ร้ายหรอกลูก ปะป๊าหม่ะมี๊ทำเพื่อลูกนะจ๊ะ”
       อรวิภาหันหลังเดินขึ้นห้องร้องไห้ แม่ตามไปลูบหลังปลอบ
       
       ธีภพเปิดห้องนอนเข้ามา เห็นนกบิวตี้อยู่ในห้อง
       ธีภพทักนกบิวตี้ “อ้าว มาหลบอยู่นี่เอง” เขาลูบตัวนก นั่งโต๊ะทำงานหยิบผ้าพันคอของบิวตี้มาดู แล้วนึกเคือง “บอกว่าไม่ให้แต่งตัวผิดระเบียบ ยังแอบใช้ผ้าพันคอแบรนด์เนมอีก”
       “ผ้าเนี่ย ฉันออกแบบลายเองย่ะ ชุดโรงงานของนายใส่แล้วมันคันจนต้องเอาผ้ามากัน รู้ไว้ซะด้วย”
       ธีภพกดโทรศัพท์ถึงกรเทพ “อาครับ บิวตี้ติดต่อมาบ้างไหมครับ” ฟังแล้วถอนใจ “ผมก็คิดว่าเขาคงมีเซฟเฮ้าส์ที่ไหนสักแห่ง แต่หนีไปดื้อๆแบบนี้มันไม่ถูก”
       บิวตี้เถียง “ก็มันจำเป็นนี่ บ่นอยู่ได้ ห่วงฉันใช่มั้ยล่ะ”
       กรเทพคุยสายอยู่ในบ้าน “อาก็คิดว่าอย่างงั้นเหมือนกัน แต่บิวตี้คงไม่ได้หลบไปอยู่คนเดียวแน่ เพราะเขาเป็นคนขี้เหงา อาสอบถามไปตามเพื่อนๆ เขาก็บอกว่าบิวตี้ไม่ติดต่อมาเป็นเดือนแล้ว”
       “ครับอา ถ้าพรุ่งนี้ไม่ได้ข่าวผมจะแจ้งความเอง มีอะไรคืบหน้าช่วยโทร.บอกผมด้วยนะครับ”
       “ครับ” กรเทพถอนใจ “แบบนี้มันอันตรายเหมือนกันนะ ถ้าหายไปจริงจะว่ายังไง”
       ธีกดวางสาย บ่น “เหลวไหล เดือดร้อนกันไปหมด”
       ธีภพ จ้องมองผ้าพันคอของบิวตี้ แล้วหยิบขึ้นมาดม
       บิวตี้คนร้องแว้ด “ทำอะไรของนายน่ะ”
       ธีภพเบือนหน้าหนีกลิ่นหอม “ยัยบ๊องเอ๊ย ใส่น้ำหอมแพงแบบนี้คนงานก็สงสัยสิ อวดรวยจนเคยตัว มิน่าถึงได้โดนหมั่นไส้”
       “ฉันไม่ได้อวดรวย ก็ฉันมีอย่างงี้เอง ช่วยไม่ได้” บิวตี้เถียง
       ธีภพแหย่นก “เถียงเหรอ พูดถึงยัยบิวตี้ไม่ได้เลยใช่มั้ย”
       “ก็นายไม่เคยพูดถึงฉันดีๆ เหมือนพูดถึงยัยน้องอร”
       “โวยวายเดี๋ยวจับอาบน้ำซะเลยนี่ ปะ อาบน้ำด้วยกัน” ธีภพจับตัวนกบิวตี้ขึ้นมา
       บิวตี้คนดิ้น จิกกัดมือธีภพไปมา “ไม่นะ บ้า โรคจิต”
       ธีภพหัวเราะ “เขินเป็นด้วยเหรอ” แล้วชสยหนุ่มก็เข้าห้องน้ำไป
       นกบิวตี้บินปร๋อออกจากห้องธีภพ
       
       นกบิวตี้บินมาหยุดในสวนบ้านธีภพ
       บิวตี้คนหงุดหงิด “นายควรจะไปห้ามคนงานสิว่าอย่ามายุ่งกับฉัน ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย ก็แค่ใส่น้ำหอม แต่งหน้า แล้วก็ดัดแปลงเครื่องแบบ...” บิวตี้ชักเริ่มได้คิด “นิดเดียวเอง”
       เจ้าเสือแมวของธีภพ เข้ามาเมียงมอง
       บิวตี้คนตวาดแมว “แกก็เหมือนกัน จ้องตะปบฉันทำไม ฉันทำผิดอะไร”
       เจ้าเสือจ้องขู่เตรียมจะกระโจนใส่
       “ฉันสวย ฉันรวย ฉันเริด มันผิดตรงไหน อิจฉาฉันเหรอ ลองมาเป็นฉันดูบ้างมั้ยล่ะ”
       แมวร้องขู่
       บิวตี้คนทั้งเศร้าและเหงา “ฉันไม่มีใครเลยนะ รอบตัวฉันมีแต่คนไม่จริงใจ เหงาก็เหงา แล้วยังมาโดนสาปอีก” แล้วนึกได้ “ต้องมีใครจ้างยัยแม่มดนั่นมาสาปฉันแน่ๆ” ยิ่งคิดยิ่งแค้น “ฉันต้องหาให้ได้ว่ามันเป็นใคร”
       
       ณ แดนสรวง นางฟ้าทั้งสองจ้องมองจอฉายภาพ
       “ลัลน์ลลิต เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว” นางฟ้าลลิตาครวญ
       ปรมะเทวีฉุน “ใช่ เมื่อไหร่นางจะเข้าใจเสียทีว่าข้าพเจ้าไม่ใช่แม่มด”
       “แทนที่จะพยายามทำตามเงื่อนไข ลูกกลับนำความความโกรธแค้นไปลงกับผู้อื่น เช่นนี้ แบบเรียนของเราดูจะเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี”
       “ยังตัดสินไม่ได้หรอก ท่านไม่กำหนดรู้เลยหรือว่า ลัลน์ลลิตเริ่มเห็นสภาพตัวของนางเองอย่างแท้จริง ไม่มีความหลงตนเหมือนแต่ก่อนว่าตัวเองดีพร้อมอีกแล้ว”
       นางฟ้าลลิตานึกได้ ดีใจ “ท่านพูดถูก”
       “ดูนั่น”
       ในจอฉายภาพ เห็นมาตรวัดความสัมฤทธิ์มีประกายทองเส้นบางนิดเดียว แทรกขึ้นมาบนสีดำ
       “แม้จะน้อยแต่ก็ยังมีความหวัง แต่สะสมได้เชื่องช้าเช่นนี้จะทันการณ์หรือคะ”
       ปรมะเทวีหนักใจอยู่ “คงต้องสุดแท้แต่กรรมดีที่นางเคยกระทำมา”
       
       6 โมงเช้าวันนี้ บิวตี้นอนหลับอุตุด้วยความอ่อนเพลีย มาตรวัดความสัมฤทธิ์มีแสงทองนิดหนึ่ง วางอยู่หลังตู้ไม่มีใครใส่ใจ
       พรค่อยๆ ย่องเข้ามา ด้วยความกลัว แต่จำใจ ตกใจที่เห็นบิวตี้นอนเปลือย วางมือถือและข้าวของบิวตี้ลงที่ข้างหมอนแล้วรีบออกไป
       สักพักเสียงโทรศัพท์ดัง
       บิวตี้เอาหมอนปิดหู “โอ๊ย...ใครโทรมาตอนนี้” หล่อนคว้าโทรศัพท์มาจะปิดเสียง นึกได้ “อ๊ะทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้” พอมองดูเห็นชื่อ Fatty จึงกดรับ
       “ขอคุยด้วยหน่อย”
       บิวตี้ดูนาฬิกา “ตอนหกโมงเนี่ยนะ”
       “คุณหายไปไหนเมื่อคืน ตื่น ไปทำงานได้แล้วผมรออยู่ข้างล่าง” เสียงโทรศัพท์ตัดไปเลย
       บิวตี้พูดกับโทรศัพท์ “ฉันไม่ทำตามคำสั่งของนายหรอก”
       
       ธีภพหงุดหงิด คอยบิวตี้อยู่ในห้องรับแขก ร่วมชั่วโมง นาฬิกา บอกเวลา 7 โมงเช้ากว่าๆ
       ป้าจันถือถาดมาเก็บถ้วยกาแฟ “คุณธีจะรับอาหารเช้าไหมคะ”
       “ไม่ละ” ธีภพดูนาฬิกา “ป้าให้เด็กขึ้นไปบอกบิวตี้ว่าถ้าไม่ลงมาเดี๋ยวนี้ ก็ไม่ต้องไปฝึกงานอีก”
       ป้าจันมองหน้าหลาน พรดูอึดอัดใจหวาดหวั่นกลัวโดนบิวตี้วีนใส่
       
       บิวตี้เข้ามาพร้อมกระเป๋าใส่ข้าวของเตรียมการแปลงร่างที่โรงงาน พรเดินมารับ บิวตี้ใส่ชุดสาวโรงงานแต่มีผ้าคาดเอวเก๋ๆ
       “นายมีสิทธิ์อะไรมาใช้คนของฉัน แล้วมาทำอะไรที่บ้านฉันแต่เช้า”
       “มาพาไปทำงาน”
       “ฉันไปเองเป็น”
       “ไม่รักษาเวลา ปล่อยให้ไปเองก็เลทตลอด”
       “ก็เลยมาคุม? บ้าอำนาจ!”
       “งั้นอยู่บ้านไปแล้วกัน ไม่ต้องไปทำงาน” ธีภพจะเดินออกไป
       บิวตี้ขวางธีภพไว้ “อย่าคิดว่ามากดดันฉันแบบนี้แล้วฉันจะยอมแพ้ง่ายๆ ไม่มีทาง”
       “ได้ แต่ถ้าวันนี้ผมต้องไปทำงานสายเพราะคุณ ผมจะปรับคุณนาทีละวัน”
       “นาทีละวัน คืออะไร”    
       “ช้าหนึ่งนาที ฝึกงานต่ออีก 1วัน”    
       บิวตี้แหวใส่ “งั้นก็รีบไปสิ จะยืนพูดอยู่ทำไม” แล้วจะออกไป
       “เดี๋ยว” ธีภพดึงผ้าคาดเอว “ถอดไอ้นี่ออกก่อน”
       “ระเบียบไม่ได้ห้ามไว้นี่ ชุดนายมันหลวมโพลกเพลก ไม่กระฉับกระเฉง”
       “ผูกแบบนั้นถ้าไปพันกับเครื่องจักร โดนใบมีดตัดตัวขาดสองท่อนบริษัทไม่รับผิดชอบนะ”
       บิวตี้คิด เห็นภาพตัวเองโดนมีดตัดขาด 2 ท่อน “ฉันไม่เชื่อหรอก”
       ธีภพยักไหล่ เดินนำออกไป
       บิวตี้ ทำไม่รู้ไม่ชี้ดึงผ้าคาดเอวให้หลวม ผ้าตกกองอยู่ที่พื้น ทำเป็นไม่รู้ตัว ออกไป
       ป้าจัน กับพร มองหน้ากันขำๆ พรหยิบผ้าคาดเอวเอาไปเก็บ


รถติดเป็นระยะ บิวตี้ปั่นการบ้าน เขียนรายงานยิกๆ
       ธีภพมองเซ็งๆ “มาปั่นกันตอนนี้ เนี่ยนะ”
       “ยังไงฉันก็มีส่งละกัน”
       “ตอนกลางคืนมัวแต่ไปเที่ยว”
       บิวตี้เขียนไปเถียงไป “เรื่องของฉัน”
       “บอกได้หรือยังว่าหายไปไหนมา”
       “เรื่องส่วนตัว”
       “แต่คุณนั่งรถมากับผม จะไปไหนก็น่าจะบอกกันบ้างไม่ใช่ปล่อยให้คอยเป็นชั่วโมง”
       “ก็...พอดี มีเรื่องด่วน นิดหน่อย”
       “ด่วนแค่ไหนก็ควรจะมีมรรยาทบ้าง”
       บิวตี้โกรธ เสียงดังใส่ “ว่าฉันไม่มีมารยาทเหรอ”
       ธีภพโกรธ เสียงดังด้วย “ก็ไม่มีจริงๆนี่ หัดนึกถึงคนอื่นบ้างสิ”
       บิวตี้เสียงดังขึ้นอีก “ก็มันจำเป็น”
       “จำเป็นยังไง บอกมาซิ”
       บิวตี้อึกอัก แก้ตัวไม่ได้เลยพาล “ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉัน” หล่อนเปิดประตูจะลงกลางถนน
       ธีภพตกใจดึงแขนบิวตี้ไว้ “จะทำอะไร มันอันตรายนะ”
       “เลิกยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของฉันซะที ต่อไปนี้ฉันจะไม่ขึ้นรถนายอีก”
       “ตามใจ แต่ตอนนี้นั่งให้ดีๆ เดี๋ยวจะจอดให้ลง”
       บิวตี้นั่งคอแข็ง มองไปทางอื่น ธีภพขับปราดไปจอดตรงจุดที่พอจอดได้
       “เชิญ”
       บิวตี้ ไม่คิดว่าธีจะเอาจริง แต่ต้องรักษาฟอร์ม “ได้ นี่รายงาน อ่านซะ” หญิงสาวส่งให้แรงๆ
       บิวตี้ลงจากรถ ธีภพกระชากออกรถไปอย่างเร็ว ทิ้งให้บิวตี้ยืนเด๋อโมโหฮึดฮัดอยู่คาที่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่