เกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวดิฉัน ?

กระทู้คำถาม
ดิฉันแต่งงานอยู่กินกับสามีมา 7 ปี มีลูก 1 คน อายุ 4 ขวบ ปัจจุบันลูกสาวอยู่กะยายที่ต่างจังหวัด ไม่ได้เลี้ยงเองเพราะต้องทำงาน  เนื่องจากดิฉันทำงานโรงงานต้องเข้ากะ 2 อาทิตย์เปลี่ยนกะ ส่วนสามีทำงานกะเช้าตลอด ทำให้ไม่มีเวลาตรงกัน ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา ไม่เคยยุ่งเรื่องส่วนตัวเขาเลย ทั้งเรื่องโทรศัพท์ ไม่เคยกดดู หรือแม้แต่กระเป๋าเงินเพราะดิฉันเป็นคนไม่เรื่องมาก อะไรก็ได้ ส่วนเรื่องเงินเดือน ดิฉันจะได้มากกว่าสามี  สามีเป็นคนไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่  เรื่องเริ่มต้นจากอะไร ดิฉันก็ไม่ทราบสาเหตุ เค้าขอแยกกับดิฉันอยู่ค่ะ โดยกลับไปอยู่บ้านแม่เค้า เก่ือบ 2 อาทิตย์แล้ว โดยไม่ติดต่อ ไม่โทรหาเลย ไลน์มาให้ดิฉันให้โอนเงินค่าผ่อนบ้านให้เท่านั้น
เราเริ่มมีปัญหา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 57  เค้าขออนุญาติไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ชัยภูมิ แวะเที่ยวที่เชียงคาน ก่อนหน้านี้เค้าเป็นคนติดเฟส ติดไลน์มาก ไปไหนก็จะ โพสตลอด แต่ตอนนั้นไม่โพสอะไรลงในเฟสเลย
หลังจากนั้น  ดิฉันไปห้างเพื่อจะใช้บัตรเครดิตรูดซื้อวิคผมให้เพื่อนค่ะ เพื่อนเป็นมะเร็ง เงินเดือนเค้ายังไม่ออก ยืมก่อน  เปิดกระเป๋า ปรากฎว่าบัตรเครดิตหายค่ะโทรถามสามี เค้าเป็นคนเอาไป เราทะเลาะกันค่ะ เค้าให้เหตุผลว่าดิฉันเห็นคนอื่นดีกว่าสามี แต่เค้าก็ไม่ควรจะถือวิสาสะ หยิบของดิฉันไปโดยไม่บอก ทั้งที่เราเป็นสามี ภรรยากัน ถามเค้าว่ารูดบัตรใช้ไหม เค้าบอกไม่ได้รูด  แต่หลังจากนั้นก็มีบิลเรียกเก็บ มีการรูดเติมน้ำมันที่เพชรบูณ์ ? เค้าโกหกเรา ค่ะ
หลังจากนั้นความระหองระแหงก็เริ่มเกิดขึ้นในครอบครัว ทุกเย็นวันศุกร์เค้าจะกลับบ้านเค้า มาเช้าวันจันทร์ ทำงาน ซึ่งดิฉันก็ไม่โทรตามนะ  ดิฉันไม่สบายความดันขึ้น หยุดงาน 2 วันเค้าก็ยังกลับบ้านเค้า ไปบ้านแม่ เค้าไม่โทร ไม่ไลน์ ไม่ถามสุขภาพสักคำ
อีกอย่าง เราไม่ได้นอนด้วยกันนะคะ แยกห้องกันนอน เริ่มจากเค้าไม่สบายเป็นหวัด เราแยกห้องกัน จากนั้นก็ไม่นอนด้วยกันเลย  ดิฉันถามเค้านะ ไม่มีอารมณ์ เลยเหรอ ? คำตอบคือ เค้าเหนื่อย ทำงาน
เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา ดิฉันให้เค้ากลับบ้านก่อน ไปอยู่กับลูก ไปวันที่ 12  ดิฉันนั่งรถตามไปวันที่ 16 เย็น เนื่องจากต้องทำโอทีสงกรานต์  เค้าโกหกดิฉันเป็นครั้งที่ 2 เค้าได้เงินพิเศษเที่ยวสงรานต์ ที่บริษัทให้ 5000 บาท เค้าไม่บอกดิฉันเลยสักคำ  มารู้ทีหลังเพราะลูกน้องดิฉัน สามีดิฉันเค้าทำงานที่เดียวกะสามี เค้าเล่าให้ฟัง เราก็ทะเลาะกัน เพราะ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างดิฉันเป็นคนดูแลหมด เค้าให้เงินดิฉันเดือนละ 10000-12000 หลังจากหักค่าบ้านในบัญชีเงินเดือนเค้าแล้ว เอาเงินมารวมกัน แล้วใช้จ่ายร่วมกัน  เราทะเลาะกัน มีปากเสียง หลังจากหลับบ้านมาวันที่  20 เค้ามาส่งดิฉันที่บ้าน และเค้าก็กลับบ้านแม่ ระหว่างทางคุยกันนะคะ เค้าขอแยกกันอยู่  อืม ดิฉันก็ถามเหตุผล เค้าว่ารับนิสัยส่วนตัวดิฉันไม่ได้ ว่าดิฉันไม่รักครอบครัวเค้า  พูดจาก ขี้บ่น ขี้ด่า ซึ่งอันนี้ยอมรับเวลาโมโห แต่ก็เป็นแบบนี้มานานละ เคยถามเค้านะ ว่ามีกิ๊ก หรือ ญ อื่นไหม  เค้าบอกไม่มี  เพราะ ดิฉันก็เหนื่อยใจนะ ที่จะเป็นแบบนี้
เราเคยคุยกันนะคะ ถึงเหตุผล แต่มันก็ไม่ชัดเจน ไม่มีเหตุผล ดิฉันก็ไม่อยากจะพูด ถ้าเค้าต้องการแบบนี้ เพราะดิฉันก็เหนื่อยค่ะ เดือนหนึ่งทำงานเข้ากะไ ม่มีเวลาไปไหน ทำแต่งาน เพื่อสร้างครอบครัว  ส่วนสามี เค้าก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าที่ควร
เราตัดสินใจใช้แยกเงินกันใช้ค่ะมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่สุดท้ายเค้าก็มาเอาเงินที่ดิฉันไปใช้อีกเพราะไม่พอใช้ค่ะ  จนถึงวันที่เค้าขอแยกกันอยู่  เราตกลงกันค่ะ สามีผ่อนรถยนต์   ดิฉันผ่อนบ้าน และส่งให้ลูก

ดิฉันโทรไปบอกแม่ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น  แม่เค้าบอก ช่วงสงกรานต์ที่กลับบ้าน  สามีดิฉันชอบออกจากบ้านไปแอบคุยโทรศัพท์ตลอด และ ให้เลี้ยงลูก ป้อนข้าว อาบน้ำก็ไม่ทำ แม่บอกมาครั้งนี้ผิดปกติมาก ซึงความผิดปกตินี้เกิดขึ้นมานานแล้วเค้าติดโทรศัพท์มาก เข้าห้องน้ำก็เอาเข้าไปด้วย เข้ากะตรงกัน ก็นอนห้องนอน คนละห้อง เล่นโทรศัพท์  เสาร์อาทิตย์ กลับบ่านแม่เค้าตลอด สลิปเงินเดือน ไม่เคยเอามาให้ดู พอถามก็บอกอยู่ที่ office ใหญ่ ไม่ได้ไปเอา ซึ่งดิฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะ เราเป็นพ่อ เป็นแม่คนแล้ว ทำอะไรรู่ดีแก่ใจ ดิฉันเคยคุยกะเค้านะ วันหนึ่งถ้าเกิดอะไรขึ้นอย่าเสียใจนะ

เราไม่ได้คุยกันเลย เพราะดิฉันก็ไม่โทรหาเค้า เค้าก็ไม่โทรหา  ตอนนี้ดิฉันอยู่ในระยะทำใจค่ะ ต้องเตรียมตัวเป็น single mum แล้ว  เค้าก็คุยเรื่องหย่านะ เรื่องทรัพย์สิน ซึ่งมันเป็นอะไรที่ พูดง่ายนะ กว่าเราจะรักกัน สร้างครอบครัวมาด้วยกัน ดิฉันสงสารลูก คิดถึงอนาคต แต่ในเมื่อเค้าเป็นคนเอ่ยปาก แล้วดิฉันจะทำอะไรได้  

ตอนนี้ดิฉันยู่บ้านคนเดียวค่ะ ชินกับการอยู่คนเดียวมานานแล้ว เลยไม่ได้รู้สึกอะไร
ความซื่อสัตย์ ความไว้ใจที่มีให้ มันหมดแล้วค่ะ ที่ผ่านมาดิฉันไว้ใจเค้าตลอดทุกเรื่อง ไม่อยากคิดนะ ว่ามีมือที่ 3 แต่เหตุการณ์ต่าง ต่างนำพาไป ถามเค้าก็ไม่ยอมรับ  ? ชีวิตครอบครัว เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเหลือเกิน  

แม่ถามว่า ? ดิฉันอยู่คนเดียวได้ไหม  เค้าเป็นห่วง กลัวคิดมาก ซึ่งตอนนี้ดิฉันชินกันการอยู่คนเดียวแล้วค่ะ คิดถึงลูกอย่างเดียว สามีเมื่อเลิกกันไป ก็เป็นคนอื่น ส่วนลุก ยังไงก็เป็นลูกเรา หวังว่าโตขึ้นเค้าคงเข้าใจ สามีหลังจากย้ายไปอยู่บ้านแม่เค้า เค้าไม่โทรไปหาลูกเลย เรื่องนี้ดิฉันถามแม่ค่ะ

ดิฉันอาจจะบกพร่องเรื่องหน้าที่การป็นภรรยาที่ดี  แต่ฉันจะป็นทั้งพ่อและแม่ที่ดีของลูก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่