สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ขออนุญาตแชร์มุมนึงนะครับ เนื่องจากเป็นวิศวกรเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าจะตรงใจมั้ย
ตอนผมเรียนจบใหม่ๆประมาณ 12 ปีที่แล้ว ได้เงินเดือนครั้งแรก 15,000 บาท แบ่ง 3 ส่วน ใช้ 5,000 เก็บ 5,000 ให้พ่อแม่ 5,000 ซึ่งตอนนั้นมันก็ไม่เลวสำหรับการเริ่มต้นชีวิต เก็บเงินได้ปีละ 60,000-100,000 บาท แต่ด้วยความคิดมากว่าอยากให้พ่อแม่สบายเร็วๆ แถมตัวเองก็ดันไม่ชอบทำงานในโรงงานซะอีก ก็เลยหางานจำพวก Consultant หรือ Sale ที่มันไม่ต้องเข้าโรงงานอะไรเทือกๆนั้นทำ และบอกกับตัวเองว่า "ฉันไม่อยากเป็นผู้จัดการในโรงงาน" แต่ด้วยความรักสบายและอยากรวย เลยตั้งใจว่า "ฉันอยากเป็นเจ้าของบริษัทต่างหาก"
ผมเลยจัดการย้ายงานมันซะบ่อยเลย 2 ปีแรกย้ายงานไป 5 บริษัท ส่วนสาเหตุที่ลาออกบ่อยก็เพราะว่าเข้าไปลองศึกษางานแล้วพบว่า ไม่สามารถเอาไปทำธุรกิจเองได้ เพราะบางธุรกิจมันเริ่มยากมาก ที่สำคัญทุนไม่มี มีแค่เงินเก็บรายเดือนนิดหน่อย จนสุดท้ายได้ทำงานกับบริษัทต่างชาติแห่งหนึ่ง รู้สึกว่าอันนี้น่าจะเหมาะกับเราและสามารถเอาความรู้ที่มีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในอนาคตได้ ผมเลยทำงานกับที่นี่ประมาณ 10 ปีครับ
ปัจจุบันผมลาออกจากบริษัทนี้แล้วครับ ใช้เงินเก็บระมาณ 500,000 บาท มาลงทุนเปิดบริษัท เอาความรู้ความสามารถที่เรียนรู้มาลองทำดูเองบ้างจนปัจจุบันเป็นเถ้าแก่บริษัทเล็กๆแห่งหนึ่ง สามารถเลี้ยงดูตัวเองและพ่อแม่ได้อย่างสบายๆ มีรายได้มากกว่าตอนเป็นลูกจ้างหลายเท่า
ที่เล่ามาทั้งหมด ไม่ใช่เพราะผมเก่งอะไรนะครับ แต่เพราะผมรู้สึกว่าผมลงทุนด้านการเงินไม่เก่งเท่าไหร่ ประสบการณ์น้อย แถมต้นทุนต่ำ ไม่พร้อมเสียทุนที่มีในมือ เลยเลือกใช้วิธีออกแรงแทน ใช้ความสามารถซึ่งเป็นจุดแข็งของเราหาทุนก่อน พอดีเห็นจขกท.พิมพ์เลยนึกถึงตัวเองสมัยก่อนขึ้นมาว่า สมัยนั้นเราก็มีฝันอะไรแบบนี้เหมือนกัน
เขียนมาซะยาว ถ้าอ่านแล้วไม่ตอบโจทย์ก็ขออภัยด้วยนะครับ ถือว่าเป็นแนวทางอย่างนึงละกัน ผมเองสมัคร ID มาหลายปีแล้ว แทบไม่เคยคอมเมนท์ใครเลย เข้ามาหาข้อมูลเฉยๆ ไม่รู้วันนี้นึกอะไรขึ้นมา พิมพ์ซะเยอะเชียว
สู้ๆครับ
ตอนผมเรียนจบใหม่ๆประมาณ 12 ปีที่แล้ว ได้เงินเดือนครั้งแรก 15,000 บาท แบ่ง 3 ส่วน ใช้ 5,000 เก็บ 5,000 ให้พ่อแม่ 5,000 ซึ่งตอนนั้นมันก็ไม่เลวสำหรับการเริ่มต้นชีวิต เก็บเงินได้ปีละ 60,000-100,000 บาท แต่ด้วยความคิดมากว่าอยากให้พ่อแม่สบายเร็วๆ แถมตัวเองก็ดันไม่ชอบทำงานในโรงงานซะอีก ก็เลยหางานจำพวก Consultant หรือ Sale ที่มันไม่ต้องเข้าโรงงานอะไรเทือกๆนั้นทำ และบอกกับตัวเองว่า "ฉันไม่อยากเป็นผู้จัดการในโรงงาน" แต่ด้วยความรักสบายและอยากรวย เลยตั้งใจว่า "ฉันอยากเป็นเจ้าของบริษัทต่างหาก"
ผมเลยจัดการย้ายงานมันซะบ่อยเลย 2 ปีแรกย้ายงานไป 5 บริษัท ส่วนสาเหตุที่ลาออกบ่อยก็เพราะว่าเข้าไปลองศึกษางานแล้วพบว่า ไม่สามารถเอาไปทำธุรกิจเองได้ เพราะบางธุรกิจมันเริ่มยากมาก ที่สำคัญทุนไม่มี มีแค่เงินเก็บรายเดือนนิดหน่อย จนสุดท้ายได้ทำงานกับบริษัทต่างชาติแห่งหนึ่ง รู้สึกว่าอันนี้น่าจะเหมาะกับเราและสามารถเอาความรู้ที่มีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในอนาคตได้ ผมเลยทำงานกับที่นี่ประมาณ 10 ปีครับ
ปัจจุบันผมลาออกจากบริษัทนี้แล้วครับ ใช้เงินเก็บระมาณ 500,000 บาท มาลงทุนเปิดบริษัท เอาความรู้ความสามารถที่เรียนรู้มาลองทำดูเองบ้างจนปัจจุบันเป็นเถ้าแก่บริษัทเล็กๆแห่งหนึ่ง สามารถเลี้ยงดูตัวเองและพ่อแม่ได้อย่างสบายๆ มีรายได้มากกว่าตอนเป็นลูกจ้างหลายเท่า
ที่เล่ามาทั้งหมด ไม่ใช่เพราะผมเก่งอะไรนะครับ แต่เพราะผมรู้สึกว่าผมลงทุนด้านการเงินไม่เก่งเท่าไหร่ ประสบการณ์น้อย แถมต้นทุนต่ำ ไม่พร้อมเสียทุนที่มีในมือ เลยเลือกใช้วิธีออกแรงแทน ใช้ความสามารถซึ่งเป็นจุดแข็งของเราหาทุนก่อน พอดีเห็นจขกท.พิมพ์เลยนึกถึงตัวเองสมัยก่อนขึ้นมาว่า สมัยนั้นเราก็มีฝันอะไรแบบนี้เหมือนกัน
เขียนมาซะยาว ถ้าอ่านแล้วไม่ตอบโจทย์ก็ขออภัยด้วยนะครับ ถือว่าเป็นแนวทางอย่างนึงละกัน ผมเองสมัคร ID มาหลายปีแล้ว แทบไม่เคยคอมเมนท์ใครเลย เข้ามาหาข้อมูลเฉยๆ ไม่รู้วันนี้นึกอะไรขึ้นมา พิมพ์ซะเยอะเชียว

สู้ๆครับ
แสดงความคิดเห็น
อยากให้พ่อแม่สบาย ท่านเหนื่อยมามากแล้วเพื่อผม!
ส่วนตัวผมคิดว่าวิศวมีการแข่งขันที่สูง แล้วผมยังเรียนไม่เก่ง กลัวจบมาทำงานแล้วเอาตัวไม่รอด
แต่อยากเลี้ยงดูพ่อแม่ให้ท่านสบาย จบมาทำงานเงินเดือนอาจไม่พอเลี้ยงดูพ่อแม่
แต่ผมสนจนใจด้านการเงินการลงทุนมาก แต่ยังขาดประสบการณ์ วานผู้รู้ ชี้ทาง วางแผนชีวิต การลงทุน การเงิน การออม ผมอยากเริ่มตอนนี้เลย(ไม่รู้จะทันไหม)
ตอนนี้ทุกอย่างผมเปน0ครับ
-เงินออมไม่มี
-มีจักรยาน1คันขายทำทุนได้ราวๆ(60,000-70,000)
-ความรู้ด้านการเงิน การลงทุน แทบจะ0เลยคับ แต่พออ่านมาบ้าง3-4เล่ม
ขอบคุนทุกคนล่วงหน้าเลยนะคับ
ท่านคือผู้มีพระคุณของผม