[CR] แบกเป้ ไปโรแมนติกแบบชิว ๆ ที่เกาะเต่า





          เกาะเต่า   ใครยังไม่เคยไปอาจไม่รู้ว่า  เป็นสถานที่ มีมนต์ขลัง  ด้วยทะเลที่สวย  ธรรมชาติยังคงไม่ถูกทำลายเทียบกับเกาะหลายแห่งทางฟากฝั่งอันดามัน  ผู้คนที่นั่นอัธยาศัยดีมีไมตรีจิต  ค่าครองชีพอาจสูงบ้างถ้าเทียบกับบนฝั่ง  แต่ถ้าเทียบเคียงกับเกาะหรือสถานที่หลายแห่งทางฝั่งอันดามันแล้วที่นี่สมราคามากกว่า  เราเริ่มการเดินทางของเราด้วยเป้ใบประจำ  พร้อมทั้งหน้ากากดำน้ำส่วนตัว  ในตอนแรกตั้งใจจะไปหาที่พักดาบหน้าแถวท่าเรือ  แต่มาคิดดูอีกที  เที่ยวนี้ลองหาที่พักแบบ  ชิววววว  ที่สุด   ไม่ต้องไปแย่ง ไปเบียดกะใคร  ไปแบบพักผ่อนจริง ๆ  ไม่มีสัญญาณมือถือ  ไม่มี  ไวไฟ  ออกจากประตูห้อง  ในมุม    360  องศา  เราจะมีแต่ทะเล   และ  ทะเล เท่านั้น  พร้อมทั้งหนังสือเล่มโปรดที่อยากหาเวลาอ่านให้จบในรวดเดียว  ด้วยความหนาของมันมากกว่า  500 หน้า  



      เราเริ่มการเดินทางในช่วงก่อนสงกรานต์  ในวันที่   31  มีนาคม  ก่อนจะออกเดินทางก้อทำการบ้านเล็กน้อย   เราจองรถและเรือก่อน  เที่ยวไปและกลับ  จากทาง ลมพระยา  โดยรถออกจาก  กทม  ตอนสามทุ่ม  ที่หน้าวัดบวรนิเวศ  บางลำภู  โดยก่อนขึ้นรถ  อย่าลืมไปกเช็คอินที่เค้าเตอร์ ของบริษัท  ที่ถนนข้าวสาร ไกล้ ๆ กับจุดขึ้นรถ  เมื่อเช็คอินเรียบร้อย  ก้อแบกเปิใบเดิม เดินไปขึ้นรถ  ก้อเป็นไปตามคาด  ทั้งเรารถ  มีเพียงเรา  ที่เป็นกระเหรี่ยงไทย  นอกนั้น  เป็นพวกหัวแดงหมด   มีเกาหลีกะยี่ปุ่นแทรกบ้างเล็กน้อย  ได้เวลาขึ้นรถ  จับจองที่นั่งตามสะดวก  จากนั้นก้อหลับไปสักตื่นสองตื่น  เพื่อพักผ่อนอริยะบท เข้าห้องน้ำและกินข้าว  มื้อไหนก้อม่ายรุ  แถว  ปราณบุรี   จากนั้น  ขึ้นรถ งีบต่อ  จนกระทั่ง ....   เช้า  มาถึงแล้ว  ท่าเรือของลมพระยา  ลงจากรถจัดแจง  ล้างหน้าล้างตา  แบกเป้ไปเช็กอิน  เพื่อขึ้นเรื่อ  พร้อมทั้งคอนเฟริม  เรื่อง  ทริปดำน้ำรอบเกาะ  ที่จองไว้  ทางเค้าเตอร์  จะให้บัตรมาให้เราไปแสดงต่อทัวร์ที่มารับถึงที่พักในที่จะไปดำน้ำ  ( เราจองทริปดำน้ำจากทาง กทม  ผ่านทางลมพระยา คนละ 750  บาท พร้อมอาหารกลางวัน โดยจะมีรถมารับและส่งถึงที่พัก หากไปซื้อแพกเกจเองบนเกาะ ราคาจะราว ๆ  800 – 850 )   




     ระหว่างนั่งรถมาจาก  กทม  ก้อได้เจอเพื่อนร่วมทาง  เป็นสาวพม่าเดินทางมาจากร่างกุ้ง ตามลำพังคนเดียว เราก้อนั่งคุยกันมาตลอดทาง เธอว่า คนไทยใจดีโดยเฉพาะนายจ้างชาวไทย เธอมาเกาะเต่าเพื่อดำน้ำ เห็นบอกมีเพื่อนอยู่ที่นั่น  เมื่อเช็คอินเสร็จ เราสองก้อขึ้นเรือ เป็นเรือสปีดโบทขนาดใหญ่ที่ใช้เวลาวิ่งราวชั่วโมงครึ่งเท่านั้น หากเทียบกับเรือนอนที่ต้องใช้เวลา 6 ชั่วโมง ก้อถือว่าเร็วกว่ากันเยอะ รถบัสที่ออกจากถนนข้าวสารเที่ยวนี้ มีทั้งหมด 4 คัน และเช่นเคย  มีกระเหรี่ยงไทยอยู่ไม่ถึงสิบคน



เรือถึงท่าเรือเกาะเต่า  เราและสาวพม่าคนนั้นก้อได้เวลาแยกทางไปยังจุดหมายที่ต้องการ เราเดินเข้า ร้านเซเว่นเป็นอับดับแรก เพื่อจัดหาของที่จำเป็น
เบียร์ ไงล่ะ ในร้านเซเว่นบนเกาะเต่า  ขวดละ 67 บาท  แต่ในที่พักขวดละ  100  ขึ้นไป ( ลีโอ นะ )  งวดนี้เราไม่คิดจะเช่าแมงกะไซค์ขับหรอกนะ
( ชั่วโมงละ 200 ) เพราะเส้นทางบนเกาะค่อนข้างต้องใช้ทักษะเยอะ และที่สำคัญ คือ  แต่ละชิ้นส่วนของรถที่เช่า หากเป็นรอยหรือ
เสียหายจากการ ล้ม  ขูดขีด  ราคาเค้าตั้งไว้เป็นทีละจุดเลย  ค่อนข้างแพง  หากคิดจะท่องรอบเกาะ ซื้อแพตเกจดำน้ำรอบเกาะแบบเราดีกว่า เห็นวิวทุกหาดเลย  นั่งชิวว  ๆ  ไม่ต้องกังวล   







        ตื่นเช้ามาด้วยความสดชื่น รถของทัวร์มารับเราถึงบนนี้ พาไปส่งที่ท่าเรือเพื่อเดินทางไปดำน้ำกัน  ตามกำหนดการเค้าพาดำน้ำ  4 จุด  หลังจากนั้นกินอาหารกลางวันบนเรือ ก่อนจะพาไปส่งให้เล่นน้ำที่เกาะนางยวน  ราว  2  ชั่วโมง  




        จุดที่พาไปดำน้ำก้อประกอบด้วย  อ่าวม่วง  อ่าวหินวง  และยังมีอีกหลายที่แต่เราจำชื่อไม่ได้ แต่ช่วงเช้าคลื่นลมค่อนข้างแรง  ไปถึงอ่าวม่วงและอ่าวหินวง   ก้อสายแล้ว คลื่นลมเริ่มสงบ  สภาพใต้น้ำถือว่าสวย ปลาเยอะดี แต่ละตัวมีขนาดยาวเกือบฟุต ดำน้ำเสร็จขึ้นเรือมาก่อนไปเกาะนางยวน ทุกคนจะได้รับข้าวกล่องคนละชุด และผลไม้ซึ่งจะบริการให้ตลอดทั้งทริป หากใครอยากชิวให้รางวัลแก่ชีวิต ด้วยเบียร์สักกระป๋อง ก้อ 70 บาท พออิ่มและชิวได้ที่ เรือก้อพาเราไปพักผ่อนที่เกาะนางยวน มีเวลาอยู่ที่นั่นราว 3 ชั่วโมง








       เกาะนางยวนในปัจจุบันเทียบกับปี  2534 ที่เรามาหนแรก เปลี่ยนแปลงไปพอควร โดยเฉพาะแนวประการังหน้าเกาะที่อุดมสมบูรณ์ แต่ก้อยังคงเหลือความงดงามอยู่ แม้จะเทียบไม่ได้กับตอนหนแรกที่เรามา  ถือว่าเค้ารักษาไว้ดีมากแล้ว หากเทียบกับเกาะพีพี ที่โดนรุมทึ้งจนยับเยิน ทุกคนที่มาที่นี่จะต้องขึ้นไปถ่ายภาพที่จุดชมวิว เพื่อเก็บภาพของแนวหาดที่เชื่อเกาะเข้าด้วยกันมุมเดียวกันหมด เราเลือกที่จะเล่นน้ำแบบสบาย ๆ ที่ด้านล่างมากกว่าที่จะขึ้นไปถ่ายภาพบนนั้น หาดที่นี่ยังคงความสวยงามเหมือนเดิม ที่ต่างไปคือจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น  เรานั่งเล่นเดินเล่นจนเย็น ก้อได้เวลากลับขึ้นเรือ เราออกจากเกาะนางยวนก้อเย็นแล้ว  ที่พักบนนี้เปลี่ยนจากไม้ไผ่มุงหลังคาด้วยใบไม้ เป็นโครงสร้างที่แข็งแรง มีผนังหลังคาประเบื้อง  แต่ยังคงอิงความเป็นธรรมชาติ ราคาที่พักไม่แพงนัก ถ้าหากสามารถจองได้ เพราะเต็มตลอด






      ออกจากเกาะนางยวน เรือมาส่งที่หน้าหาดเกาะเต่า จากนั้น รถก้อมารับเรากลับที่พัก  วันนี้เราจัดมือใหญ่ที่ระเบียงอาหารของโรงแรม  ให้รางวัลแก่ชีวิตอุดหนุนสักสองขวด  ( สิงห์  120 บาท )  ก่อนจะสั่งน้ำแข็งไปต่อบนระเบียงห้องอีกสองขวด  ชีวิตยังชิวววว  ได้อีก พรุ่งนี้เรามีกำหนดการจะไปหาดที่เราชอบที่สุด และสวยที่สุดหาดหนึ่งของเกาะเต่า
      จุดหมายหลักของการมาเกาะเต่าของเราหนนี้คือการไปซ้ำรอยหาดที่สวยงามเหมือนภาพเขียน  น้ำทะเลไล่ระดับสามเฉดสี  หาดที่เงียบสงบ  อ่าวลึก ไงล่ะที่เราพูดถึง เราชอบนะที่นี่  เคยมาหนแล้ว เที่ยวนี้ที่นี่ก้อยังคงเหมือนเดิม  ถนนทางเข้าจากแต่ก่อนที่เป็นลูกรังเดี๋ยวนี้เป็นถนนลาดยางแล้ว  แต่หาดยังคงสงบ เงียบ และสวยเหมือนเดิม  กฎเหล็กของที่นี่คือ  ห้ามนำขนม  อาหาร และขวดพลาสติกเข้ามาเด็ดขาด วันนี้เราให้รถของโรงแรมมาส่ง และนัดเวลาเค้ามารับกลับในตอนเย็น  เรามาถึงได้สักพัก  ก้อได้เห็นฝาหรั่งหัวแดงสองคนโดนคนเฝ้าหาดตะเพิดให้ออกไปจากหาดทันที เพราะจับได้ว่าสองคนนี้เอาขวดน้ำเข้ามาและโยนทิ้งตอนลงจากแมงกะไซค์ แม้จะพยายามขอโทษ แต่คนเฝ้าหาดยังคงไล่ให้ออกไป  ด้วยการตะโกนว่า Go Go  This Land not for you get out  เรารุสึกว่า ภาพแบบนี้คงไม่ค่อยได้เห็นนะ ในสถานที่ซึ่งมีฝาหรั่งเป็นลูกค้าหลักของธุรกิจ แต่คนไทยคนนี้กลับไล่ให้ออกไป โดยไม่สนใจ  นึกแล้ว  รุสึกดีนะ  ที่มีคนรักษากฎ ที่เด็ดขาดแบบนี้  







        มื้อกลางวันของเราที่นี่  อ่าวลึก  ร้านอาหารที่นี่ทำกอาหารได้อร่อยและสมราคา  การดำน้ำตื้นที่นี่ ยังคงตื่นตาตื่นใจกับบรรดาฝูงปลาและน้ำที่ใสเหลือเกิน เหมือนกับการเล่นน้ำในสระเลยทีเดียว  ปลาที่พบที่นี่จะมีขนาดใหญ่กว่าที่อื่น ๆ เราดื่มด่ำและใช้เวลาที่นี่ไปจนหมดวัน  ก่อนที่รถของทางที่พักซึ่งได้นัดเวลาไว้จะมารับกลับ ถึงที่พักมีเวลาเหลือ เราไปดำน้ำตรงโขดหินด้านล่าง  เห็นปลาฉลามขนาดเล็ก ว่ายกันมาสองคู่ พวกพนักงานของที่นี่บอกว่า บางวันก้อเห็นฉลามตัราวเมตรกว่า ๆ เข้ามาแถบนี้ แต่จะเป็นฉลามสายพันธ์ไหน ก้อยังไม่อาจแยกแยะได้  





วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วกับการมาพักผ่อนแบบชิว ๆ ที่เกาะเต่า  พรุ่งนี้ก้อได้เวลาเดินทางกลับแล้ว  คิดไว้ว่าปีหน้ามาอีกจะมาพักที่อ่าวลึก  เปลี่ยนบรรยากาศดู  กลับถึงที่พักยังชิวได้อีกหลายขวด ที่ Moondance ที่เราไปพักนี้ อยากบอกว่าบริการเป็นกันเองมาก ที่อื่นบางแห่งไม่ค่อยต้อนรับคนไทยนัก เพราะเหคุใช้น้ำเปลือง เนื่องจากอาบน้ำบ่อย แต่ที่นี่อัธยาศัยดีมาก ทั้งเจ้าของและพนักงานชาวพม่าสองสามคน ทำให้การมาหนนี้ค่อนข้างประทับใจมาก  กับค่าห้อง 1300 บาท  ต่อคืนในช่วงสงกรานต์ด้วย









           เกาะเต่าในวันนี้ยังคงมีความงามให้อยากกลับไปอีก ด้วยความงามยังคงพิสุทธิ์อัธยาศัยของผู้คนดี ใครที่ร้อนนี้อยากหาที่พักใจพักกายแบบชิว ๆๆ   ก้อควรหาทางไปสักหน รายละเอียดค่าใช้จ่าย ถ้าจะให้ไม่เหนื่อยควรนั่งรถทัวร์ไป หรือจะใช้ของลมพระยา ก้อสะดวกดี รวมค่าเรือทั้งไปกลับ  คนละไม่เกิน 2000  บาท  ค่าที่พัก Moondance คืนละ  1500  บาท หรือที่อ่าวลึกรีสอร์ท คืนละ 1500 บาท  ค่าอาหารโดยเฉลี่ยหากกินปรกติ  ต่อมื้อคนละ 120 บาท ( อาหารจานเดียว )  หากเป็นมื้อชิว ๆ  สั่งเต็มโต้ะ ต่อคนประมาณ  300  บาท ส่วนเบียร์ซื้อตุนจากเซเว่น ราคาไม่แพงจ้ะ
      
ชื่อสินค้า:   เกาะเต่า - เกาะนางยวน 4 วัน 3 คืน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่