จากที่ลองอ่านๆมา จากหลายๆความเห็นในนี้ ก็เลยสรุปได้ว่าช่อง 3 เหลือทางเลือกแค่นี้
ทางเลือกที่ 1 ทำตามแผนเดิม คือไม่นำช่อง 3 อนาล็อกมาออกอากาศคู่ขนาน จนกว่าจะหมดสัมปทาน
แต่นำบางรายการเท่านั้นมาออกอากาศคู่ขนาน ซึ่งหมายความว่า 25 พ.ค. เมื่อหมดกฎ must carry ฟรีทีวีอนาล็อกบนดาวเทียม
ช่องสามจะต้องขอใบอนุญาตทีวีดาวเทียม และตามกฎจะต้องลดโฆษณาจาก 12 นาทีต่อชั่วโมง เหลือเพียง 6 นาทีต่อชั่วโมง
ทำให้รายได้จากโฆษณาหายไปกว่าครึ่งนึง ถ้าทำแบบนี้ ก็ต้องหวังรายได้จากทีวีดิจิตอลโดยสมบูรณ์
ซึ่งคงไม่มีทางได้ทุนคืนในเร็วๆนี้ เพราะคอนเทนต์ใหม่ๆไม่ติดตลาดเท่ารายการเก่าๆที่มีคนดูแน่นอยู่แล้วแน่นอน
ทางเลือกที่ 2 ทำตามทางเลือกที่ 1 แต่ไม่สนใจใบอนุญาตทีวีดาวเทียม
ทางเลือกนี้จะทำให้โฆษณาได้เท่าเดิม แต่ทำให้ช่องไม่แพร่หลายสู่ประชาชน
เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้รับทีวีอนาล็อกผ่านเสาอากาศอีกแล้ว ทำให้เสียคนดูไปค่อนข้างมาก
ทางเลือกที่ 3 ถอยกลับมาตั้งต้นใหม่ ย้ายผังช่อง 3 อนาล็อกมาออกอากาศคู่ขนานกับทีวีดิจิตอลทั้งหมด
ทางเลือกนี้เป็นทางเลือกใหม่ที่ กสทช. เบิกทางให้มาขออนุญาต อาจจะแยกๆไปก็ได้ว่ารายการนี้ไปคู่ขนานช่อง Family
รายการนี้ไปคู่ขนาน SD หรือ HD หรือย้ายมาอยู่ HD ช่องเดียว แต่ใช้วิธีปรับผังเล็กน้อยให้เข้ากับแผนที่วางไว้
ข้อเสียก็คืออย่างที่เฮียประวิทย์บอก คือต้องจ่าย 2 ต่อ แต่ไม่ทำให้เสียลูกค้า
และไม่ทำให้เสียโฆษณา นั่นหมายความว่าช่อง 3 มีโอกาสจะทำกำไรต่อได้มากกว่า 2 ทางเลือกข้างบน
และที่สำคัญ เมื่อช่องอนาล็อกหมดสัมปทาน รายการเดิมที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นก็จะมีที่อยู่
สรุปก็คือจะเลือกเดินทางไหนก็มีแต่เสียกับเสียทั้งนั้นแหละเฮียครับ แต่เลือกดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตดีกว่าไหม?
ว่าอันไหนมีโอกาสทำกำไร และยึดแฟนคลับเดิมเอาไว้ได้มากกว่า ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นทางเลือกที่ 3
เพราะไม่เสียรายได้หลักจากโฆษณาที่อาจต้องหายไปครึ่งนึง ไม่เสียคนดู เสียเงินเพิ่ม
แต่ได้มากกว่าตั้งเยอะ ช่องอื่นเค้ายังยอมเสีย อยากบอกว่าคิดดูดีๆนะ อยากรู้จริงๆว่าช่อง 3 จะทำยังไงต่อ
ณ วันนี้ช่อง 3 เหลือทางเลือกเพียง 3 ทางสำหรับทีวีดิจิตอล
ทางเลือกที่ 1 ทำตามแผนเดิม คือไม่นำช่อง 3 อนาล็อกมาออกอากาศคู่ขนาน จนกว่าจะหมดสัมปทาน
แต่นำบางรายการเท่านั้นมาออกอากาศคู่ขนาน ซึ่งหมายความว่า 25 พ.ค. เมื่อหมดกฎ must carry ฟรีทีวีอนาล็อกบนดาวเทียม
ช่องสามจะต้องขอใบอนุญาตทีวีดาวเทียม และตามกฎจะต้องลดโฆษณาจาก 12 นาทีต่อชั่วโมง เหลือเพียง 6 นาทีต่อชั่วโมง
ทำให้รายได้จากโฆษณาหายไปกว่าครึ่งนึง ถ้าทำแบบนี้ ก็ต้องหวังรายได้จากทีวีดิจิตอลโดยสมบูรณ์
ซึ่งคงไม่มีทางได้ทุนคืนในเร็วๆนี้ เพราะคอนเทนต์ใหม่ๆไม่ติดตลาดเท่ารายการเก่าๆที่มีคนดูแน่นอยู่แล้วแน่นอน
ทางเลือกที่ 2 ทำตามทางเลือกที่ 1 แต่ไม่สนใจใบอนุญาตทีวีดาวเทียม
ทางเลือกนี้จะทำให้โฆษณาได้เท่าเดิม แต่ทำให้ช่องไม่แพร่หลายสู่ประชาชน
เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้รับทีวีอนาล็อกผ่านเสาอากาศอีกแล้ว ทำให้เสียคนดูไปค่อนข้างมาก
ทางเลือกที่ 3 ถอยกลับมาตั้งต้นใหม่ ย้ายผังช่อง 3 อนาล็อกมาออกอากาศคู่ขนานกับทีวีดิจิตอลทั้งหมด
ทางเลือกนี้เป็นทางเลือกใหม่ที่ กสทช. เบิกทางให้มาขออนุญาต อาจจะแยกๆไปก็ได้ว่ารายการนี้ไปคู่ขนานช่อง Family
รายการนี้ไปคู่ขนาน SD หรือ HD หรือย้ายมาอยู่ HD ช่องเดียว แต่ใช้วิธีปรับผังเล็กน้อยให้เข้ากับแผนที่วางไว้
ข้อเสียก็คืออย่างที่เฮียประวิทย์บอก คือต้องจ่าย 2 ต่อ แต่ไม่ทำให้เสียลูกค้า
และไม่ทำให้เสียโฆษณา นั่นหมายความว่าช่อง 3 มีโอกาสจะทำกำไรต่อได้มากกว่า 2 ทางเลือกข้างบน
และที่สำคัญ เมื่อช่องอนาล็อกหมดสัมปทาน รายการเดิมที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นก็จะมีที่อยู่
สรุปก็คือจะเลือกเดินทางไหนก็มีแต่เสียกับเสียทั้งนั้นแหละเฮียครับ แต่เลือกดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตดีกว่าไหม?
ว่าอันไหนมีโอกาสทำกำไร และยึดแฟนคลับเดิมเอาไว้ได้มากกว่า ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นทางเลือกที่ 3
เพราะไม่เสียรายได้หลักจากโฆษณาที่อาจต้องหายไปครึ่งนึง ไม่เสียคนดู เสียเงินเพิ่ม
แต่ได้มากกว่าตั้งเยอะ ช่องอื่นเค้ายังยอมเสีย อยากบอกว่าคิดดูดีๆนะ อยากรู้จริงๆว่าช่อง 3 จะทำยังไงต่อ