รีวิวหนังเรื่อง Brick Mansions แย่กว่า B13 ต้นฉบับทุกอย่างจนไม่รู้ว่าจะ remake ทำไม!!

Brick Mansions (2014)



เป็นที่รู้กันอย่างหนึ่งว่าคนอเมริกันไม่นิยมดูหนังมีซับไตเติ้ล (หรืออาจจะไม่ชอบดูหนังภาษาอื่นนอกจากภาษาอังกฤษ) ดังนั้นเราจึงได้เห็นการพาเหรด remake หนังยอดนิยมจากยุโรปและเอเชียหลายต่อหลายเรื่องให้ออกมาเป็นสไตล์ hollywood เช่น The Girl with the Dragon Tattoo, Let Me In, Insomnia, Oldboy, My Sassy Girl, Hachi เป็นต้น ซึ่งหลายเรื่องก็ remake ออกมาดีแต่บางเรื่องก็ออกมาแย่

และ Brick Mansions มันคือการหยิบ B13 ที่มีแอ็คชั่น+กลิ่นอายฝรั่งเศสพอใช้ได้อยู่แล้วเอามาทำใหม่เดิม ๆ ทั้งดุ้นแต่ไม่ได้เรื่องอย่างแรง



จุดเด่นของ B13 อยู่ที่ฉาก parkour ไล่ล่ากันตามตึก ซึ่งช่วงปี 2003-2004 กระแสพี่จา พนม parkour และองค์บากกำลังมา ช่วงนั้นหนัง martial art เริ่มบูม รวมถึงเริ่มมีกระแส free running + parkour ขึ้นมาพอดี และมันก็เป็นกระแสอยู่พักใหญ่ทีเดียวเพราะอย่างปี 2006 พี่เจมส์ บอนด์ก็ขอเกาะกระแสเช่นกันด้วยฉากเปิด Casino Royale ในแบบ parkour ชวนตื่นเต้นเหมือนกับฉากเปิด B13 [parkour จะเน้นการใช้งานจริง ความคล่องแคล่วไม่เน้นลีลาท่าทาง ซึ่งจะต่างจาก free running ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วคือ free ทำทุกอย่าง ลีลาเยอะ ตีลังกาหมุนเกลียว ม้วนหน้าท่าเยอะประมาณนั้น]



และอีกจุดที่ทำให้องค์บาก + B13 ต่างจากหนัง martial art เรื่องอื่นก็คือการใช้จุดขายไม่ใช้สลิง ไม่ใช้สตั๊นท์ ไม่ใช้ CGI เข้าช่วย ซึ่งสองนักแสดงหลักใน B13 ทั้ง David Belle และ Cyril Raffaelli ก็มาจากสายสตั๊นท์แมนเหมือนจา พนมอยู่แล้ว มันก็เลยเป็นจุดแข็งที่ทำให้หนังน่าสนใจ

ด้วยเหตุนี้ฉากแอ็คชั่นน่าตื่นตากับสไตล์เท่ ๆ ของ B13 เลยทำให้คนมองข้ามความไม่สมเหตุสมผลหลาย ๆ จุดของหนังไปได้ แต่ไม่ใช่ในการ remake เป็น Brick Mansions



พล็อตและบทหนังของ Brick Mansions ยังคงยึดถือเรื่องราวดั้งเดิมใน B13 เมื่อ 'เดเมี่ยน' (Paul Walker) ตำรวจลับต้องเป็นคู่หูกับ 'ลีโน่' (David Belle) บุกเข้าไปทำภารกิจถอดชนวนระเบิดในเขตโซนอันตราย

พูดถึงบทหนังสักนิดพอเป็นพิธี ในเมื่อเป็น remake ทั้งดุ้นจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบได้
• พล็อตหรือโครงเรื่องของเดิมไม่ได้แย่นะ เพียงแต่การเล่าเรื่องมันไม่ได้ไปเน้นตรงจุดนี้ทำให้ภาพรวมออกมาไปอยู่ที่ฉากแอ็คชั่นมากกว่า
• หากพูดกันจริง ๆ แล้วบทหนัง B13 ก็อยู่ในขั้นแย่
• และปกติเวลา hollywood หยิบหนังยุโรปไป remake ก็มักจะดัดแปลงบทหนังให้สมเหตุสมผลน่าเชื่อถือมากขึ้น อย่างเช่น Let Me In แต่ทำไม Brick Mansions ไม่สามารถดัดแปลงบทหนังจากพล็อตเดิมที่น่าสนใจอยู่แล้วให้ออกมาดีกว่าเดิม
• ซึ่งพอเห็นคนเขียนบทก็ไม่แปลกใจเพราะเป็นคนเดิมจาก B13 ทั้งคู่ แค่เปลี่ยนผู้กำกับเท่านั้นเอง



• ฉากแอ็คชั่นโคตรโอเว่อร์เกินจริงใน B13 ก็ยังคงปรากฎให้เห็นใน Brick Mansions อยู่เช่นเคย ประเภทเกาะสปอยเลอร์รถหรือไล่ยิงตามหลังตัวเอก ซึ่งมันน่าเบื่อมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
• การเฉลยตอนท้ายของเดิมทำออกมาได้ดีกว่าแฮะ



• มีความรู้สึกว่า B13 ต้นฉบับมันมีกลิ่นความเป็นหนังเสียดสีสังคมอยู่บ้าง คล้าย ๆ อารมณ์เดียวกับ The Girl with the Dragon Tattoo เวอชั่นสวีเดนที่ได้ความดิบและลักษณะหนังสะท้อนปัญหาการคุกคามทางเพศ
• แต่พอมาเป็น Brick Mansions มันทำลายตรงจุดนี้ไป ไม่มีความดิบและไม่ได้เล่นประเด็นทางสังคม นอกจากการได้เห็นผู้กำกับพยายามจะแตะประเด็นทางสังคมในแบบที่ไม่รู้จะไปแตะทำไม



ส่วนฉากแอ็คชั่นขอพูดถึงแค่ว่าของเดิมดีกว่าเยอะมากครับ เอาแค่ฉาก parkour เปิดหนังของเก่าก็กินนิ่มแล้วครับ แล้วยิ่งฉากอื่น ๆ ในหนังนี่ของเก่าดีกว่าเยอะครับ จนถึงตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่าของใหม่มีอะไรดีกว่าของเดิม

สรุปให้สั้น ๆ ประโยคเดียวเลยว่า "ใครอยากดูหนังเรื่องนี้ให้ไปหา B13 มาดูแทนเถอะ"



ป.ล. ไว้อาลัยแด่พอล วอล์กเกอร์ด้วยครับ



Director: Camille Delamarre
Screenplay: Luc Besson, Bibi Naceri

Genre: Action, Crime, Drama
3/10

ติดตามรีวิวหนังได้ที่: https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms
Twitter: @myfavfilms
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่