จันทร์ ลั้ลลา .... กราบสวัสดี มวลมหาประชาชวนชิมคนช่างทำช่างกินทุกท่านคะ
เป็นอย่งไรบ้างคะ น้ำมันขึ้นราคาอีกแล้ว ค่าไฟเตรียมปรับ ส่วนแก๊สหุงต้มไม่ต้องพูดถึง
ปล่อยลอยตัวมาระยะหนึ่งแล้ว ก็คงจะปล่อยให้ล่องลอยกันต่อไป .... สัจธรรมชีวิต!!
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง ร้อนสาหัสมาหลายวัน แต่วันนี้ฝนตกมาพอให้ชื่นใจบ้าง
แม้นอากาศในช่วงนี้จะร้อนอบอ้าว แต่เชื่อว่าชาวก้นครัวใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข
สุขกับการได้เสาะแสวงหาของกินอร่อย มีความสุขกับการเป็นแม่ศรีเรือนปรุงอาหาร
สุขกับการได้ทำขนมต่าง ๆ ตามที่หัวใจเรียกร้อง แต่บางคนโดนบังคับให้ต้องทำ อิอิ
ทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวมาล้วนทำให้ท่านเป็นสุขใจกับการได้ทำในสิ่งที่รัก ใช่หรือไม่คะ
วันนี้บ่งบ๊งศรีมีเมนูโบราณมาฝากพี่น้องก้นครัวอีกแล้ว เป็นเมนูเดิม ๆ ที่เคยทำไปก่อนหน้า
ยังคงได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย รอบสองสามเดือนนี้ผัดแจกจ่ายไปหลายรอบแล้วคะ
เมื่อมีผู้เรียกร้องก็ต้องตอบสนอง ใครที่ลองทำแล้วถือเสียว่ากลับมาทบทวนกันลืมเลือน
หมี่กะทิโบราณที่จะทำให้ชมวันนี้ ไม่ใช่ผัดหมี่ใส่สีแดงแจ๋แบบที่ขายกันเกลื่อนตลาด
เมนูของเราต้องเป็นแบบครบเครื่องเรื่องมาก แม้นเครื่องทรงจะเยอะไปสักหน่อยนะ
แต่เมื่อปรุงเสร็จเรียบร้อย มันก็อร่อยสมกับการรอคอยที่จะได้ชิมของอร่อยคะพี่น้อง
ผัดหมี่กะทิตำรับโบราณชาววัง[เวง]
สีมือของเชฟกระทะหลุดสุดโต่ง-ควันโขมง
หมี่ของเราต้องสีชมพูหวานแหวว ถ้าสีแดงแจ๋แหว ไม่ใช่สีมือเราแน่นอน
ผัดหมี่กะทิสูตรโบราณ
ส่วนผสม
* เส้นหมี่แห้ง 200 กรัม
* หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
* หางกะทิ 1 ถ้วยตวง
* น้ำมันพืช 1 ช้อนชา
* กุ้งสดสับหยาบ 100 กรัม
* เนื้ออกไก่หั่นเต๋า 100 กรัม
* เต้าหู้ขาว 150 กรัม
* เต้าเจี้ยวขาว 1/4 ถ้วยตวง
* หอมแดงสับ 1/4 ถ้วยตวง
* น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาลปีบ 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลา 1/4 ถ้วยตวง
* ซ๊อสแดง หรือ ซอสมะเขือเทศ 1/4 ถ้วยตวง
* พริกแห้งป่น 1 ช้อนโต๊ะ
* ไข่ไก่ 1 ฟอง
อื่น ๆ
* ถั่วงอกเด็ดหาง 300 กรัม
* ใบกุ้ยช่ายหั่น 100 กรัม
* ผักสดสำหรับทานกับหมี่กะทิ หัวปลี, กุ้ยช่าย, ใบบัวบก, ผักอื่น ๆ
* พริกชีฟ้าแดงหั่นฝอย ผักชีสำหรับแต่งหน้า
* พริกแห้งป่น, มะนาวหั่นชิ้น
สิ่งที่ต้องเตรียม
เส้นหมี่แห้ง - แช่ในน้ำประมาณ 5 นาที เส้นหมี่นิ่มดีแล้วซาวขึ้นใส่กระชอน พักให้สะเด็ดน้ำ
ไข่ไก่ - ตีพอเข้ากัน เทใส่กระทะแล้วกรอกให้บาง ๆ พักให้เย็นแล้วหั่นเป็นเส้นฝอย ๆ
มะพร้าวขูด – คั้นด้วยน้ำร้อน แยกหัวและหางกะทิ
เต้าเจี้ยวขาว - ล้างทำความสะอาด โดยแช่ให้ความเค็มออกไป นำมาโขลกละเอียด
หัวหอมแดง – ล้างทำความสะอาด แบ่งหอมบางส่วนมาโขลกละเอียด
เต้าหู้ขาว – ล้างทำความสะอาดแล้วหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
ผักสด - ล้างทำความสะอาดทั้งหมด สรงขึ้นใส่ตะแกรง พักให้สะเด็ดน้ำ
วิธีทำส่วนทรงเครื่อง
นำหัวกะทิ 1 ถ้วยตวงใส่ในกระทะแล้วนำไปตั้งบนไฟปานกลาง
คนเรื่อย ๆ รอจนกะทิแตกมันแล้วใส่หอมแดงสับ ผัดจนหอม
ใส่เนื้อกุ้งสับ, เนื้อไก่สับลงไป ใส่หอมแดงส่วนที่ซอยไว้
ผัดต่อจนเกือบสุก ใส่เต้าเจี้ยวโขลก, เต้าหู้หั่นเต๋า, พริกป่น
ปรุงรสด้วยน้ำตาลปลา, น้ำตาลปีบ, น้ำมะขามเปียก ผัดจนส่วนผสมเข้ากันดี
ผัดจนน้ำตาลปีบละลาย เคี่ยวสักพักให้น้ำงวด แล้วปิดไฟเตา
ตักหน้ากะทิทรงเครื่องขึ้นมาดูหน้าตากันชัด ๆ กลิ่นหอมมาก
เสร็จแล้วตักส่วนหน้ากะทิใส่ภาชนะ พักส่วนนี้ไว้ก่อน
ขั้นตอนผัดเส้น
นำกระทะตั้งไฟกลาง ใส่หางกะทิ 1 ถ้วยลงไป ตามด้วยซอสแดง
คนผสมกะทิกับซอสแดงเข้ากันดีแล้ว ใส่เส้นหมี่ที่เตรียมไว้ลงไป
ผัดส่วนผสมให้เข้ากันสักพัก เส้นหมี่จะดูดน้ำกะทิเข้าไปจนน้ำแห้ง
ดับไฟ ใส่ถั่วงอกเด็ดหาง ใส่กุ้ยช่ายหั่นท่อน ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
ตักเส้นที่ผัดใส่ภาชนะ โรยหน้าด้วยไข่เจียวฝอย พร้อมรับประทาน
เพิ่มสีสันด้วยพริกชี้ฟ้าซอย
วิธีเสริฟ
ตักเส้นที่ผัดแล้วใส่จาน ตักหน้ากะทิที่ผัดไว้ราดลงไปบนเส้น
โรยพริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย โรยไข่เจียวฝอย นำเสริฟพร้อมผักสดต่าง ๆ
หรือจะเสริฟแยกส่วนก็ได้ โดยแยกเส้นที่ผัดและส่วนหน้ากะทิต่างหาก
เมื่อรับประทาน ตักหน้ากะทิราดไปบนเส้น
บีบน้ำมะนาว เพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยพริกป่นคั่ว
ผัดหมี่กะทิแบบนี้ทำเป็นแบบมังสวิรัติโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ ใส่แค่เต้าหู้
คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะไม่คุ้นกับการทำแบบครบเครื่อง ทรงเครื่องแบบนี้
เพราะที่ขายส่วนใหญ่เป็นหมี่ผัดสีแดง ไม่มีหน้ากะทิราด แต่มีไข่ฝอยโรย
บางร้านไม่ใส่ผักใด ๆ ลงไปผัดด้วย ไม่ใส่ถั่วงอกคงกลัวจะบูดเร็วนั่นเอง
เป็นอย่างไรบ้างคะ เห็นเมนูนี้ชาววังแล้วแอบถอนใจถอดใจกันเลยใช่ไหมคะ
หลายคนเห็นแล้วบอกว่า "ไปซื้อเขากินเถอะ เครื่องเยอะ เรื่องเยอะ ขี้เกียจทำ"
จริงแล้วบรรดาเมนูชาววังทั้งหลายนั้นทำไม่ยาก แต่เสียเวลาในการตระเตรียม
ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมกระทู้ ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ
พบกับเมนูต่อไปของบ่งบ๊งในโอกาสหน้า วันนี้กราบลากันไปแล้วนะคะ

[CR] +*""*+ บ่งบ๊งชวนทำ > หมี่กะทิ-สูตรโบราณชาววัง < เมนูยอดนิยม +*""*+
จันทร์ ลั้ลลา .... กราบสวัสดี มวลมหาประชาชวนชิมคนช่างทำช่างกินทุกท่านคะ
เป็นอย่งไรบ้างคะ น้ำมันขึ้นราคาอีกแล้ว ค่าไฟเตรียมปรับ ส่วนแก๊สหุงต้มไม่ต้องพูดถึง
ปล่อยลอยตัวมาระยะหนึ่งแล้ว ก็คงจะปล่อยให้ล่องลอยกันต่อไป .... สัจธรรมชีวิต!!
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง ร้อนสาหัสมาหลายวัน แต่วันนี้ฝนตกมาพอให้ชื่นใจบ้าง
แม้นอากาศในช่วงนี้จะร้อนอบอ้าว แต่เชื่อว่าชาวก้นครัวใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข
สุขกับการได้เสาะแสวงหาของกินอร่อย มีความสุขกับการเป็นแม่ศรีเรือนปรุงอาหาร
สุขกับการได้ทำขนมต่าง ๆ ตามที่หัวใจเรียกร้อง แต่บางคนโดนบังคับให้ต้องทำ อิอิ
ทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวมาล้วนทำให้ท่านเป็นสุขใจกับการได้ทำในสิ่งที่รัก ใช่หรือไม่คะ
วันนี้บ่งบ๊งศรีมีเมนูโบราณมาฝากพี่น้องก้นครัวอีกแล้ว เป็นเมนูเดิม ๆ ที่เคยทำไปก่อนหน้า
ยังคงได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย รอบสองสามเดือนนี้ผัดแจกจ่ายไปหลายรอบแล้วคะ
เมื่อมีผู้เรียกร้องก็ต้องตอบสนอง ใครที่ลองทำแล้วถือเสียว่ากลับมาทบทวนกันลืมเลือน
หมี่กะทิโบราณที่จะทำให้ชมวันนี้ ไม่ใช่ผัดหมี่ใส่สีแดงแจ๋แบบที่ขายกันเกลื่อนตลาด
เมนูของเราต้องเป็นแบบครบเครื่องเรื่องมาก แม้นเครื่องทรงจะเยอะไปสักหน่อยนะ
แต่เมื่อปรุงเสร็จเรียบร้อย มันก็อร่อยสมกับการรอคอยที่จะได้ชิมของอร่อยคะพี่น้อง
ผัดหมี่กะทิตำรับโบราณชาววัง[เวง]
สีมือของเชฟกระทะหลุดสุดโต่ง-ควันโขมง
หมี่ของเราต้องสีชมพูหวานแหวว ถ้าสีแดงแจ๋แหว ไม่ใช่สีมือเราแน่นอน
ผัดหมี่กะทิสูตรโบราณ
ส่วนผสม
* เส้นหมี่แห้ง 200 กรัม
* หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
* หางกะทิ 1 ถ้วยตวง
* น้ำมันพืช 1 ช้อนชา
* กุ้งสดสับหยาบ 100 กรัม
* เนื้ออกไก่หั่นเต๋า 100 กรัม
* เต้าหู้ขาว 150 กรัม
* เต้าเจี้ยวขาว 1/4 ถ้วยตวง
* หอมแดงสับ 1/4 ถ้วยตวง
* น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาลปีบ 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลา 1/4 ถ้วยตวง
* ซ๊อสแดง หรือ ซอสมะเขือเทศ 1/4 ถ้วยตวง
* พริกแห้งป่น 1 ช้อนโต๊ะ
* ไข่ไก่ 1 ฟอง
อื่น ๆ
* ถั่วงอกเด็ดหาง 300 กรัม
* ใบกุ้ยช่ายหั่น 100 กรัม
* ผักสดสำหรับทานกับหมี่กะทิ หัวปลี, กุ้ยช่าย, ใบบัวบก, ผักอื่น ๆ
* พริกชีฟ้าแดงหั่นฝอย ผักชีสำหรับแต่งหน้า
* พริกแห้งป่น, มะนาวหั่นชิ้น
สิ่งที่ต้องเตรียม
เส้นหมี่แห้ง - แช่ในน้ำประมาณ 5 นาที เส้นหมี่นิ่มดีแล้วซาวขึ้นใส่กระชอน พักให้สะเด็ดน้ำ
ไข่ไก่ - ตีพอเข้ากัน เทใส่กระทะแล้วกรอกให้บาง ๆ พักให้เย็นแล้วหั่นเป็นเส้นฝอย ๆ
มะพร้าวขูด – คั้นด้วยน้ำร้อน แยกหัวและหางกะทิ
เต้าเจี้ยวขาว - ล้างทำความสะอาด โดยแช่ให้ความเค็มออกไป นำมาโขลกละเอียด
หัวหอมแดง – ล้างทำความสะอาด แบ่งหอมบางส่วนมาโขลกละเอียด
เต้าหู้ขาว – ล้างทำความสะอาดแล้วหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
ผักสด - ล้างทำความสะอาดทั้งหมด สรงขึ้นใส่ตะแกรง พักให้สะเด็ดน้ำ
วิธีทำส่วนทรงเครื่อง
นำหัวกะทิ 1 ถ้วยตวงใส่ในกระทะแล้วนำไปตั้งบนไฟปานกลาง
คนเรื่อย ๆ รอจนกะทิแตกมันแล้วใส่หอมแดงสับ ผัดจนหอม
ใส่เนื้อกุ้งสับ, เนื้อไก่สับลงไป ใส่หอมแดงส่วนที่ซอยไว้
ผัดต่อจนเกือบสุก ใส่เต้าเจี้ยวโขลก, เต้าหู้หั่นเต๋า, พริกป่น
ปรุงรสด้วยน้ำตาลปลา, น้ำตาลปีบ, น้ำมะขามเปียก ผัดจนส่วนผสมเข้ากันดี
ผัดจนน้ำตาลปีบละลาย เคี่ยวสักพักให้น้ำงวด แล้วปิดไฟเตา
ตักหน้ากะทิทรงเครื่องขึ้นมาดูหน้าตากันชัด ๆ กลิ่นหอมมาก
เสร็จแล้วตักส่วนหน้ากะทิใส่ภาชนะ พักส่วนนี้ไว้ก่อน
ขั้นตอนผัดเส้น
นำกระทะตั้งไฟกลาง ใส่หางกะทิ 1 ถ้วยลงไป ตามด้วยซอสแดง
คนผสมกะทิกับซอสแดงเข้ากันดีแล้ว ใส่เส้นหมี่ที่เตรียมไว้ลงไป
ผัดส่วนผสมให้เข้ากันสักพัก เส้นหมี่จะดูดน้ำกะทิเข้าไปจนน้ำแห้ง
ดับไฟ ใส่ถั่วงอกเด็ดหาง ใส่กุ้ยช่ายหั่นท่อน ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
ตักเส้นที่ผัดใส่ภาชนะ โรยหน้าด้วยไข่เจียวฝอย พร้อมรับประทาน
เพิ่มสีสันด้วยพริกชี้ฟ้าซอย
วิธีเสริฟ
ตักเส้นที่ผัดแล้วใส่จาน ตักหน้ากะทิที่ผัดไว้ราดลงไปบนเส้น
โรยพริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย โรยไข่เจียวฝอย นำเสริฟพร้อมผักสดต่าง ๆ
หรือจะเสริฟแยกส่วนก็ได้ โดยแยกเส้นที่ผัดและส่วนหน้ากะทิต่างหาก
เมื่อรับประทาน ตักหน้ากะทิราดไปบนเส้น
บีบน้ำมะนาว เพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยพริกป่นคั่ว
ผัดหมี่กะทิแบบนี้ทำเป็นแบบมังสวิรัติโดยไม่ใส่เนื้อสัตว์ ใส่แค่เต้าหู้
คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะไม่คุ้นกับการทำแบบครบเครื่อง ทรงเครื่องแบบนี้
เพราะที่ขายส่วนใหญ่เป็นหมี่ผัดสีแดง ไม่มีหน้ากะทิราด แต่มีไข่ฝอยโรย
บางร้านไม่ใส่ผักใด ๆ ลงไปผัดด้วย ไม่ใส่ถั่วงอกคงกลัวจะบูดเร็วนั่นเอง
เป็นอย่างไรบ้างคะ เห็นเมนูนี้ชาววังแล้วแอบถอนใจถอดใจกันเลยใช่ไหมคะ
หลายคนเห็นแล้วบอกว่า "ไปซื้อเขากินเถอะ เครื่องเยอะ เรื่องเยอะ ขี้เกียจทำ"
จริงแล้วบรรดาเมนูชาววังทั้งหลายนั้นทำไม่ยาก แต่เสียเวลาในการตระเตรียม
ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมกระทู้ ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ
พบกับเมนูต่อไปของบ่งบ๊งในโอกาสหน้า วันนี้กราบลากันไปแล้วนะคะ