ลับ-ลวง-พราง ! เปิดโปงแผนการณ์ชั่วร้ายของชายที่ชื่อ "เดวิด มอยส์" ภาคสอง

http://pantip.com/topic/31950598

ความเดิมจากตอนที่แล้ว ที่ผมได้พูดถึงแผนการณ์ลับๆของ เดวิด มอยส์ ในการพาทีมเอฟเวอร์ตัน ไปสู่เป้าหมายที่สูงที่สุดในฤดูกาลนี้ นั่นก็คือ อันดับที่สี่ พื้นที่สุดท้ายของโควต้าฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก แต่แผนการณ์ของเขาไม่ได้จบลงเพียงแค่การร่วมทีมของผู้จัดการทีมดังกล่าวเท่านั้น วันนี้ผมจะมาเปิดโปงแผนการณ์ของ เดวิด มอยส์ ให้รับทราบกันต่อครับ



หลังจากผ่านพ้นช่วงเปิดตลาดนักเตะในรอบซัมเมอร์ไปแล้ว มอยส์ทำตามสัญญาที่ได้ตกลงเอาไว้กับ โชเซ่ มูรินโญ่ และ มานูเอล เปเยกรินี่ นั่นก็คือ การแบ่งแต้มให้กับเชลซี 1 แต้ม ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด และ การแจกสามแต้มเต็ม พร้อมประตูได้เสียอีก +3 ลูก ที่ เอติฮัตต์ สเตเดี้ยม ต่อไปจะมาพูดถึงเกมในพรีเมียร์ลีกถัดจากเกมที่ เอติฮัตต์ สเตเดี้ยม นั่นก็คือ เกมเปิดบ้านพบกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

ดูเหมือนจะเป็นเกมที่ไม่มีอะไร สามคะแนนเต็มน่าจะอยู่ในมือยูไนเต็ดได้ไม่ยาก แต่ถ้าคุณดูชื่อนักเตะตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าของเวสต์บรอมวิช ชื่อนี้หลายๆคนอาจจะเคยได้รู้จักกันบ้าง เขาคือ "วิคเตอร์ อนิเชเบ้" กองหน้าระดับตำนานของเอฟเวอร์ตัน

กองหน้าเด็กปั้นของสโมสรเอฟเวอร์ตันรายนี้ เป็นนักเตะที่ชื่นชอบของ เดวิด มอยส์ เป็นอย่างมาก เขาเป็นกองหน้าซุปเปอร์ซับของมอยส์มาตั้งแต่ฤดูกาล 2006-07 อยู่ยาวจนถึงฤดูกาลที่แล้ว สถิติในการทำประตูของอนิเชเบ้ก็ไม่ใช่น้อยๆ ตลอดการลงสนาม 168 นัด รวมทุกรายการ เขาทำประตูได้ถึง 26 ประตู และนั่นจึงเป็นเหตุผลให้อนิเชเบ้ถูกขายออกจากทีมทันทีที่เจ้านายเก่าอำลาตำแหน่งจากทีมไป

ความผูกพันของมอยส์กับกองหน้าผิวสีคนนี้ เป็นเรื่องที่ชาววเอฟเวอร์โตเนี่ยนทุกคนทราบกันดี และทางเดียวที่จะช่วยให้อดีตลูกทีมคนโปรดคนนี้มีอนาคตสดใสกับทีมใหม่ ก็คือ ให้เขาประตูใส่ยอดทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ได้ มอยส์จึงวางแผนส่งเซนเตอร์ฮาล์ฟที่ช้าที่สุดในทีมคือ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กับแบ็คซ้ายที่รั่วที่สุดในทีมอย่าง อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์ ลงเป็นตัวจริง เพื่อหวังให้อนิเชเบ้ทำประตูแจ้งเกิดกับทีมได้

แต่โชคชะตาไม่เป็นใจ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้คาบ้าน โดยที่ไม่มีชื่อของ วิคเตอร์ อนิเชเบ้ ทำประตู !!



หลังจากนั้นสถานการณ์ของมอยส์กับยูไนเต็ดก็ดูดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่ามอยส์รู้ดีว่า ยังมีเกมที่เขาจะต้องแจกแต้มให้กับทีมอื่นๆอีกมากมาย ถ้าทำผลงานสะดุดบ่อยๆในช่วงนี้คงไม่ดีแน่ๆ จนมาถึงเกมที่พวกเขาจะต้องเปิดบ้านพบกับเอฟเวอร์ตัน

แน่นอนว่าเกมนี้ กองกลางคนโปรดของมอยส์นั่นก็คือ มาร์วาน เฟลไลนี่ จะต้องลงสนามเป็นสิบเอ็ดตัวจริงด้วย เกมนี้ไม่ขอพูดถึงละกันครับ เพราะมอยส์รู้จุดอ่อนจุดแข็งของเอฟเวอร์ตันทุกอย่าง การพาทีมแพ้ทีมเก่าแบบตั้งใจ จึงไม่ใช่ปัญหาอะไร ถัดมาเป็นเกมกับนิวคาสเซิล เกมนี้เป็นเกมแรกที่มอยส์คุมทีมแพ้คาบ้านแบบไม่ได้ตั้งใจ เพราะประมาทนิวคาสเซิลเกินไป จนสถานการณ์บีบคั้น ให้มอยส์พาทีมปิศาจแดงชนะสี่เกมรวดในช่วงบ็อกซิ่งเดย์

แต่แล้วความวุ่นวายก็เกิดขึ้นในแคมป์ของยูไนเต็ดอีกครั้ง เมื่อ ไรอัน กิ๊กส์ ต้องการเขี่ยมอยส์ให้พ้นออกจากตำแหน่ง เพื่อหวังให้ตัวเองขึ้นเป็นผู้จัดการทีมของยูไนเต็ดในอนาคต โดยเริ่มจากวางแผนในนัดแรกของช่วงต้นปี 2014 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบกับ สเปอร์ส เป็นไปไม่ได้เลยที่มอยส์จะยอมแพ้คาบ้านต่อสเปอร์ส เพราะว่าทีมนี้เป็นคู่แข่งที่สำคัญในการแย่งอันดับสี่กับเอฟเวอร์ตัน แต่ว่านี่คือจุดเริ่มต้นของแผนการล้มบอลของ ไรอัน กิ๊กส์

กิ๊กส์มองเห็นว่าจุดแข็งของสเปอร์ส ก็คือ เพลย์เมกเกอร์ที่สร้างสรรค์เกมได้ดีอย่าง คริสเตียน อิริคเซ่น ถ้าหากว่าปล่อยให้อิริคเซ่นเล่นเกมได้อย่างอิสระ ก็มีโอกาสไม่น้อย ที่เกมนี้ปิศาจแดงจะแพ้คาบ้านอีกครั้ง ตามตำแหน่งแล้ว นักเตะที่มีหน้าประกบกองกลางตัวรุก ก็ต้องกองกลางตัวรับ นั่นก็คือ ไมเคิล คาร์ริค และด้วยความที่คาร์ริคเป็นเด็กเก่าของสเปอร์สด้วยแล้ว ทุกอย่างอาจจะเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิด

กิ๊กส์ได้วางแผนกับคาร์ริคที่จะโค่นมอยส์ออกจากตำแหน่งให้ได้ และทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนของกิ๊กส์ คาร์ริคปล่อยให้อิริคเซ่นเล่นอย่างอิสระ จนอิริคเซ่นทำแอสซิสต์ให้กับอเดบายอร์ 1 ประตู แต่โคตรกุนซืออัจฉริยะอ่านเกมออก มอยส์ถอดคาร์ริคออกในช่วงกลางครึ่งหลัง แต่ก็ช้าเกิน จนเกมปิศาจแดงแพ้คาบ้านอีกครั้ง

ก่อนที่จะพูดถึงเกมถัดไปของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาพักเบรคกันด้วยเรื่องของ ชินจิ คากาวะ กันก่อนดีกว่าครับ หลายคนอาจสงสัยว่ามอยส์ไม่ชอบนักเตะเอเชียหรือเปล่า นั่นคือความคิดที่ถูกต้องครับ



ย้อนกลับไปดูผลงานของทีมในช่วงปรีซีซั่น

Singha All Star 1-0 Man Utd
A League All Star 1-5 Man Utd
Yokohama F·Marinos 3-2 Man Utd
Cerezo Osaka 2-2 Man Utd
Kitchee FC 2-5 Man Utd

ถ้าหากไม่รวมเกมที่เจอกับทีมจากออสเตรเลีย ( ซึ่งผมไม่ขอนับว่าเป็นทีมจากเอเชีย ) ลูกทีมของ เดวิด มอยส์ พลาดท่าแพ้ไปถึงสามนัดจากทั้งหมดสี่เกม บางทีนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่มอยส์ไม่ค่อยปลื้มนักเตะจากเอเชียซักเท่าก็ได้ครับ

กลับมาที่เรื่องราวของ ไรอัน กิ๊กส์ กันต่อครับ เกมถัดไปของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คือเกมเอฟเอคัพรอบที่สาม โดยมีคู่แข่งคือ สวอนซี ซิตี้ และกิ๊กส์ก็มองไปที่กองหน้าของสวอนซีคือ วิลเฟร็ด โบนี่ เป็นตัวอันตรายที่สุดในทีม โบนี่เป็นกองหน้าที่มีจุดเด่นที่ความเร็ว ลูกกลางอากาศพอใช้ได้ และการมีจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม งานนี้คงต้องพึ่งพากองหลังที่ช้าที่สุดในทีมก็คือ ริโอ เฟอร์ดินานด์

แต่ว่าแผนการณ์ทั้งหมดที่วางมาก็เกือบล่ม เมื่อโคตรกุนซืออัจฉริยะจับได้อีกครั้ง เฟอร์ดินานด์ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงกลางครึ่งหลัง ในขณะที่เกมยังเสมอกัน 1-1 แต่ว่าโชคก็ยังเข้าข้างกิ๊กส์ เมื่อราฟาเอลที่ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามลงไปแทนกัปตันริโอ โดนไล่ออกจากสนามอย่างรวดเร็ว จนเป็นเหตุให้ วิลเฟร็ด โบนี่ ทำประตูชัยได้ในนาทีสุดท้ายของเกมการแข่งขัน

มาต่อกันที่เกมกับซันเดอร์แลนด์ในแคปิตอลวันคัพ ไรอัน กิ๊กส์ เริ่มหมดมุกที่จะล้มบอล เพราะกองหลังที่ไว้ใจได้อย่างเฟอร์ดินานด์ถูกดร็อป ในขณะที่คาร์ริคก็ดูจะช่วยอะไรไม่ได้ เพราะกองกลางของซันเดอร์แลนด์ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น ไม้ตายสุดท้ายที่ตัวเขาจะทำได้ นั่นก็คือ "ลงมือสังหารทีมด้วยตัวเอง"



ไรอัน กิ๊กส์ โทรไปปรึกษากับกองหลังระดับตำนาน ที่เชื่ยวชาญในเรื่องนี้ก็คือ เวส บราวน์ โดยบราวน์ให้คำแนะนำที่ดีกับเขาว่า ให้ทำประตูในจังหวะลูกเซตพีซซะ เพราะว่าจังหวะมันค่อนข้างจะชุลมุน นี่เป็นคำแนะนำที่ดี และกิ๊กส์ก็ทำตามคำแนะนำของบราวน์สำเร็จ โดยที่มอยส์ไม่ทันรู้ตัวว่าโดนลูกทีมเล่นงานลับหลังอีกครั้ง กิ๊กส์ได้อยู่ลงสนามจนจบเกม และแพ้ไปด้วยสกอร์เดิมกับสองนัดที่แล้ว 1-2

หลังจากการพ่ายแพ้สามนัดรวด ทางบอร์ดบริหารของแมนยู ก็ได้ออกมายินยันว่า จะยังคงไว้วางใจให้มอยส์อยู่คุมทีมต่อไปจนจบฤดูกาล ทำให้แผนการณ์ของกิ๊กส์ต้องหยุดชะงักลง กลับไปดูที่ตารางคะแนนในขณะนี้ ลิเวอร์พูลกลับขึ้นไปอยู่อันดับสี่ ส่วนเอฟเวอร์ตันตกลงมาอยู่อันดับห้า และก็ถึงเวลาของมอยส์ที่จะต้องอะไรบางอย่างอีกครั้ง

ขุมกำลังสำรองของลิเวอร์พูลดูเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของทีมในฤดูกาลนี้ หงส์แดงเสียแต้มไปมากมายในช่วงบ็อกซิ่งเดย์ ฉะนั้นแน่นอนว่า พวกเขาจะต้องเสริมทัพในช่วงเปิดตลาดรอบสองแน่นอน ซึ่งการจะขัดขวางการเสริมทัพของลิเวอร์พูลนั้นมีอยู่วิธีเดียว คือหาคู่แข่งปาดหน้าคว้านักเตะที่พวกเขาต้องการซะ

จะให้แมนยูยื่นข้อเสนอซื้อนักเตะกับหงส์แดงในตอนนี้ ดูจะเป็นงานที่ยากกว่าเดิม เพราะสถานการณ์ของหงส์แดงในตอนนี้ ดูมีอนาคตกว่าช่วงต้นฤดูกาลมาก ฉะนั้นทีมที่เหมาะสมที่จะเป็นคู่ของแย่งซื้อตัวของหงส์แดง ก็คือทีมที่รวยกว่า และมีผลงานที่ดีกว่านั่นก็คือ "เชลซี" และก็เป็นอีกครั้ง ที่มอยส์ยื่นข้อเสนอให้กับมูรินโญ่ ได้แก่
- ขัดขวางการซื้อตัวของลิเวอร์พูล ในช่วงเดือนมกราคมให้ได้
ถ้าทำตามข้อเสนอนี้ได้ ทางเรายืนดีรับซื้อนักเตะที่ไม่ใช้แล้ว ในราคาสูง



ทุกอย่างเข้าทางเฮียมูทันที โมฮัมเหม็ด ซาล่า เป็นหนึ่งในนักเตะที่เป็นหมากเกมนี้ของมอยส์ มูรินโญ่พยายามทุกวิถีทางที่จะดึงเวลาการซื้อตัวของหงส์แดงต่อไปอีกเรื่อยๆ และแล้วการซื้อก็ถูกยืดเยื้อไปจนถึงนาทีสุดท้ายของเดือนมกราคม ดีลของโคโนปลีอันก้าล่มในท้ายที่สุด และนี่ก็จะเป็นฝีมือของใครไปไม่ได้นอกจากเสี่ยหมี โรมัน อบราโมวิช ซึ่งรู้จักกับ อิกอร์ โคโลมอยสกี เศรษฐีจากยูเครน ประธานสโมสรของทีมดนิโปรท

เชลซีทำตามข้อเสนอทั้งหมดแล้ว และนักเตะที่เชลซีได้ขายให้แมนยูตามข้อตกลง ก็คือ "ฮวน มาต้า" ในราคาสูงถึง 37 ล้านปอนด์ และการได้นักเตะบิ๊กเนมมาเสริมทีมในช่วงนี้ ทำให้กระแสการปลด เดวิด มอยส์ ออกจากตำแหน่งดูซาลง

จบครับ ไม่ฝีนเล่าต่อละ ยิ้ม









รอติดตามในตอนต่อไปครับ จะมีคนอ่านอยู่รึป่าวฟระ กระแสหงส์แดงแพ้คาบ้านกลบหมดเลย ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่