เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 26 เมษายน ที่พรรคเพื่อไทย(พท.) นายคณิน บุญสุวรรณ ฝ่ายกฏหมาย พท.กล่าว
ถึงกรณีที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ที่ระบุให้ยกสถานะของศาลรัฐธรรมนูญในปัจจุบันให้อยู่เหนือองค์กรอื่น
โดยเฉพาะฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารว่า ตามรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ศาลรัฐธรรมนูญก็มีอำนาจมากกว่า
ศาลรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 อยู่แล้วรวมไปถึงศาลรัฐธรรมนูญของอีกหลายประเทศทั่วโลก
ด้วย การยกสถานะให้ศาลรัฐธรรมนูญสูงขึ้นไปก็เท่ากับเป็นองค์กรเหนือรัฐธรรมนูญ และในความเป็นจริงศาล
รัฐธรรมนูญชุดปัจจุบันยังได้ใช้อำนาจเกินกว่าที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างมากในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น
การสั่งให้รัฐสภาชละการลงมติวาระ 3 ร่างแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 291 และ การรับวินิจฉัยคำร้องว่าการแก้ไข
รัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว.ของ 312 ส.ส.และส.ว.เป็นการล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68 โดยไม่
ผ่านอัยการสูงสุด รวมถึงการสั่งให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์เป็นโมฆะ เป็นต้น ซึ่งข้อเสนอของนาย
บวรศักดิ์ เป็นการสถาปนาอำนาจตุลาการโดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นรัฎฐาธิปัตย์ ซึ่งการทำเช่นนั้นจะ
ต้องเขียนมาตรา 3 ของรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ด้วย ให้เป็นข้อความดังนี้ อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย
พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุข ทรงใช้อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการทางศาล
รัฐธรรมนูญ
“นายบวรศักดิ์ลืมไปแล้วหรือว่า ฝ่ายตุลาการของไทยเป็น 1 ใน 3 อำนาจอธิปไตยเพียงฝ่ายเดียว ในขณะนี้
ทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติมาจากการเลือกตั้งของประชาชน การที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจเหนือฝ่าย
บริหารและฝ่ายนิติบัญญัติจะถูกต้องหรือไม่ เพราะถ้าเป็นอย่างที่นายบวรศักดิ์พูดก็ไม่มีองค์กรใดสามารถตรวจ
สอบระบบควบคุมการวินิจฉัยแบบ 2 มาตรฐานของศาลรัฐธรรมนูญได้” นายคณิน กล่าวและว่า สิ่งที่นาย
บวรศักดิ์เสนอยังเป็นแนวคิดที่สอดรับกับม็อบ กปปส.ที่ต้องการให้สภาประชาชน ฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการ
มาจากการแต่งตั้งของคณะบุคคลที่แองอิงกับสถาบันกษัตริย์เพื่อที่ต้องการได้อำนาจในการควบคุมประเทศได้
อย่างเบ็ดเสร็จ หลังจากที่พลาดมาแล้วในการรัฐประหารเมื่อปี 2549 เพราะฉะนั้นเป้าหมายของนายบวรศักดิ์ก็
เป็นการสมคบคิด แล้วพรากประชาธิปไตยและความยุติธรรมไปจากประชาชนอีกครั้งหนึ่งนั่นเอง อย่างไรก็
ตาม หากเกิดขึ้นตนก็เชื่อว่าจะเกิดการลุกฮือต่อต้านของประชาชนที่ไม่ต้องการเผด็จการไม่ว่าจะรูปแบบ
ไหนอย่างแน่นอน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1398492990&grpid=&catid=01&subcatid=0100
ต้องกลับไปดู คคห.ของ อ.จ.ดร. อุกฤษณ์ ที่วิจารณ์ศาลรธน.อีกที ....
มันจะเพี้ยนกันไปหมดแล้วหรือ ????
“คณิน” จวก “บวรศักดิ์” สมคบคิด กปปส. สถาปนาศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นรัฎฐาธิปัตย์ ข่าวมติชนออนไลน์
ถึงกรณีที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ที่ระบุให้ยกสถานะของศาลรัฐธรรมนูญในปัจจุบันให้อยู่เหนือองค์กรอื่น
โดยเฉพาะฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารว่า ตามรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ศาลรัฐธรรมนูญก็มีอำนาจมากกว่า
ศาลรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 อยู่แล้วรวมไปถึงศาลรัฐธรรมนูญของอีกหลายประเทศทั่วโลก
ด้วย การยกสถานะให้ศาลรัฐธรรมนูญสูงขึ้นไปก็เท่ากับเป็นองค์กรเหนือรัฐธรรมนูญ และในความเป็นจริงศาล
รัฐธรรมนูญชุดปัจจุบันยังได้ใช้อำนาจเกินกว่าที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างมากในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น
การสั่งให้รัฐสภาชละการลงมติวาระ 3 ร่างแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 291 และ การรับวินิจฉัยคำร้องว่าการแก้ไข
รัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว.ของ 312 ส.ส.และส.ว.เป็นการล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68 โดยไม่
ผ่านอัยการสูงสุด รวมถึงการสั่งให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์เป็นโมฆะ เป็นต้น ซึ่งข้อเสนอของนาย
บวรศักดิ์ เป็นการสถาปนาอำนาจตุลาการโดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นรัฎฐาธิปัตย์ ซึ่งการทำเช่นนั้นจะ
ต้องเขียนมาตรา 3 ของรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ด้วย ให้เป็นข้อความดังนี้ อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย
พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุข ทรงใช้อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการทางศาล
รัฐธรรมนูญ
“นายบวรศักดิ์ลืมไปแล้วหรือว่า ฝ่ายตุลาการของไทยเป็น 1 ใน 3 อำนาจอธิปไตยเพียงฝ่ายเดียว ในขณะนี้
ทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติมาจากการเลือกตั้งของประชาชน การที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจเหนือฝ่าย
บริหารและฝ่ายนิติบัญญัติจะถูกต้องหรือไม่ เพราะถ้าเป็นอย่างที่นายบวรศักดิ์พูดก็ไม่มีองค์กรใดสามารถตรวจ
สอบระบบควบคุมการวินิจฉัยแบบ 2 มาตรฐานของศาลรัฐธรรมนูญได้” นายคณิน กล่าวและว่า สิ่งที่นาย
บวรศักดิ์เสนอยังเป็นแนวคิดที่สอดรับกับม็อบ กปปส.ที่ต้องการให้สภาประชาชน ฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการ
มาจากการแต่งตั้งของคณะบุคคลที่แองอิงกับสถาบันกษัตริย์เพื่อที่ต้องการได้อำนาจในการควบคุมประเทศได้
อย่างเบ็ดเสร็จ หลังจากที่พลาดมาแล้วในการรัฐประหารเมื่อปี 2549 เพราะฉะนั้นเป้าหมายของนายบวรศักดิ์ก็
เป็นการสมคบคิด แล้วพรากประชาธิปไตยและความยุติธรรมไปจากประชาชนอีกครั้งหนึ่งนั่นเอง อย่างไรก็
ตาม หากเกิดขึ้นตนก็เชื่อว่าจะเกิดการลุกฮือต่อต้านของประชาชนที่ไม่ต้องการเผด็จการไม่ว่าจะรูปแบบ
ไหนอย่างแน่นอน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1398492990&grpid=&catid=01&subcatid=0100
ต้องกลับไปดู คคห.ของ อ.จ.ดร. อุกฤษณ์ ที่วิจารณ์ศาลรธน.อีกที ....
มันจะเพี้ยนกันไปหมดแล้วหรือ ????