ขอถามนะครับคิดว่า คงไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับการเมืองซักเท่าไหร่ แต่คิดว่ามันน่าจะสัมพันธ์ กับพฤติการคิดวิเคราะห์ของคนไทย ที่ถูกปลุกฝังจากอดีตในเรื่องความเชื่อหรือเรื่องเหนือธรรมชาติมามากกว่าการใช้เหตุผล
เช่นนะครับ อย่างเวลา หมาเห่า เวลา กลางคืน ทำไมจึงคิดว่ามันต้องมีผี หรืออาจจะมีก็ได้นะ(แต่ผมไม่เคยเจอ)
ถ้าเรามาลองวิเคราะห์กัน หรือทดลองกันแค่บางส่วน
อย่างเช่น การที่วัตถุทุกชนิดในโลกสั่น ใน 1 วินาที เราเรียกว่า ความถี่(frequency) มีหน่วยเป็น รอบต่อวินาที หรือ(Hz) มนุษย์เราจะได้ยินเสียงที่มีความถี่หรือการสั่นของวัตถุ อยู่ที่ระหว่าง 20-20,000 เฮิรตซ์
สุนัขได้ยินเสียงที่ความถี่ ระหว่าง 15-50,000 เฮิรตซ์
แมวได้ยินเสียงที่ความถี่ ระหว่าง 60-65,000 เฮิรตซ์
ค้างคาวได้ยินเสียงที่ความถี่ 10,000-120,000 เฮิรตซ์
เป็นต้น
เป็นไปได้ไหมว่า ตอนช่วงดึก ความถี่ที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยินเสียงที่นอกเหนือจาก 20-20,000 Hz
นั้นเกิดขึ้นในเวลายามดึกที่เงียบสงัด สุนัข หรือ แมวจึงพากันส่งเสียงร้องตอบกลับเสียงที่ได้ยินนั้น
ถ้าใครคิดว่าเป็นช่วงความถี่ของวิญญาณอย่างรายการคนอวดผีนั้น นั้นก็ดูจะไม่สมเหตุสมผลซักหน่อยนะครับ
เพราะมันยังไม่สามารถอธิบายได้จริง ถึงแม้ความเป็นไปได้จะมีอยู่ก็ตาม
สัญญาณข้อมูลข่าวสารที่ใช้ในระบบการสื่อสารของมนุษย์
แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. คลื่นเสียง ( Audio Wave )
2. คลื่นวิทยุ ( Radio Wave )
คลื่นเสียง ( Audio Wave )
เป็นคลื่นที่มีความถี่ต่ำ ความถี่อยู่ในช่วงประมาณ 20 – 20,000 Hz
คลื่นเสียง เป็นคลื่นที่มนุษย์สามารถรับฟังได้
คลื่นเสียง เกิดจากการเปล่งเสียงของมนุษย์ สัตว์ และสิ่งมีชีวิตต่างๆ รวมถึงเครื่องกำเนิดเสียงสัญญาณต่างๆ
เสียงที่คนเราสามารถได้ยินแต่ละเสียงอาจเหมือนกันหรือแตกต่างกัน
ขึ้นอยู่กับคุณลักษณะของเสียงซึ่งมีอยู่ 3 ข้อ คือ
1. ความดัง (Loundness) หมายถึง ความรู้สึกได้ยินของมวลมนุษย์ว่าดังมากดังน้อย ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่อาจวัดด้วยเครื่องมือใด ๆ ได้โดยตรง ความดังเพิ่มขึ้นตามความเข้มเสียง ความรู้สึกเกี่ยวกับความดังจะเป็นสัดส่วนโดยตรงกับระดับความเข้มเสียง โดยถ้า I แทนความเข้มเสียง ความดังของเสียงจะแปรผันโดยตรงกับ log I หรืออาจกล่าวได้ว่า ความดังก็คือระดับความเข้มเสียงนั่นเอง หูของคนสามารถรับเสียงที่มีความดังน้อยที่สุดคือ 0 dB และมากที่สุดคือ 120 dB
2. คุณภาพของเสียง (quality) หมายถึง คุณลักษณ์ของเสียงที่เราได้ยิน เมื่อเราฟังเพลงจากวงดนตรีวงหนึ่งนั้น เครื่องดนตรี ทุกชนิดจะเล่นเพลงเดียวกัน แต่เราสามารถแยกได้ว่า เสียงที่ได้ยินนั้นมาจากดนตรีประเภทใด เช่น มาจากไวโอลิน หรือเปียโน เป็นต้นการที่เราสามารถแยกลักษณะของเสียงได้นั้นเพราะว่าคลื่นเสียงทั้งสองมีคุณภาพของเสียงต่างกัน คุณภาพของเสียงนี้ขึ้นอยู่กับ จำนวนโอเวอร์โทนที่เกิดจากแหล่งกำเนิดเสียงนั้น ๆ และแสดงออกมาเด่น จึงไพเราะต่างกัน นอกจากนี้คุณภาพของเสียงยังขึ้นกับ ความเข้มของเสียงอีกด้วย
3. ระดับเสียง (pitch) หมายถึง เสียงที่มีความยาวคลื่นและความถี่ต่างกัน โดยเสียงที่มีความถี่สูงจะมีระดับเสียงสูงส่วนเสียงที่มีความถี่ต่ำจะมีระดับเสียงต่ำ
อ้างอิง
http://www.rmutphysics.com/physics/oldfront/95/sound1/sound_4.htm
http://th.wikipedia.org/wiki/เดซิเบล
คลื่นวิทยุ ( Radio Wave )
เป็นคลื่นที่มีความถี่ ประมาณ 10kHz – 300GHz
ความเร็วในการเดินทางของคลื่นวิทยุ คือ 3x10
8 เมตร/วินาที
การเดินทางของคลื่นวิทยุจะเคลื่อนที่อยู่ในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ถ้าใครอยากทดลอง
บ้านใครมีเครื่องเสียงอย่างดีหน่อย จะมีตัวปรับ EQUALIZER
ลองอุ้มสุนัขหรือแมว มากอดแล้วลองปรับEQUALIZER ไต่ระดับความถี่เสียงที่เราได้ยินไปจนถึงระดับที่เราไม่ได้ยิน แล้วลองสังเกตุ พวกหมาแมวที่เราอุ้มว่าพวกนี้ยังหอนอยู่ไหม
อ้างอิง
http://www.tpesound.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539339764
ที่ผมกล่าวยกขึ้นมาอ้างทั้งหมดนี้ เพียงอยากจะบอกว่า
ผมเป็นคนที่คิดถึงต้นเหตุด้วยหลักเหตุผลที่เห็นภาพหรือจับต้องได้ มากกว่า ต้นเหตุหลักเลื่อนลอยที่เชื่อถือไม่ได้ เช่นเรื่องผี
ผมไม่รู้ว่ามีใครคิดเหมือนผมบ้างรึเปล่า ว่า เราควร จะหาเหตุผลที่มันจับต้องได้ มากกว่า เหตุผลทางจิตวิญญาณ เพราะไม่งั้นก็จะมี คนอย่างเนรคำ เนรแอร์ ยันดะ หรือ ตุ๊ดอิสระวิทย์ เกิดขึ้นทุกวันแน่
อ้างอิง บทความนี้
http://th.wikipedia.org/wiki/เฮิรตซ์
http://file.snru.ac.th/download.aspx?NFILE=TEACHER_146_03062012132047828.ppt
http://dc430.4shared.com/doc/PABvINjN/preview.html
http://hq.prd.go.th/engineer/menu_log.php?m_id=0061&mp_id=0061_0001
http://www.247friend.net/blog/stookak/2013/10/03/entry-1
พฤติกรรมการคิด วิเคราะห์ ของคนไทย
เช่นนะครับ อย่างเวลา หมาเห่า เวลา กลางคืน ทำไมจึงคิดว่ามันต้องมีผี หรืออาจจะมีก็ได้นะ(แต่ผมไม่เคยเจอ)
ถ้าเรามาลองวิเคราะห์กัน หรือทดลองกันแค่บางส่วน
อย่างเช่น การที่วัตถุทุกชนิดในโลกสั่น ใน 1 วินาที เราเรียกว่า ความถี่(frequency) มีหน่วยเป็น รอบต่อวินาที หรือ(Hz) มนุษย์เราจะได้ยินเสียงที่มีความถี่หรือการสั่นของวัตถุ อยู่ที่ระหว่าง 20-20,000 เฮิรตซ์
สุนัขได้ยินเสียงที่ความถี่ ระหว่าง 15-50,000 เฮิรตซ์
แมวได้ยินเสียงที่ความถี่ ระหว่าง 60-65,000 เฮิรตซ์
ค้างคาวได้ยินเสียงที่ความถี่ 10,000-120,000 เฮิรตซ์
เป็นต้น
เป็นไปได้ไหมว่า ตอนช่วงดึก ความถี่ที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยินเสียงที่นอกเหนือจาก 20-20,000 Hz
นั้นเกิดขึ้นในเวลายามดึกที่เงียบสงัด สุนัข หรือ แมวจึงพากันส่งเสียงร้องตอบกลับเสียงที่ได้ยินนั้น
ถ้าใครคิดว่าเป็นช่วงความถี่ของวิญญาณอย่างรายการคนอวดผีนั้น นั้นก็ดูจะไม่สมเหตุสมผลซักหน่อยนะครับ
เพราะมันยังไม่สามารถอธิบายได้จริง ถึงแม้ความเป็นไปได้จะมีอยู่ก็ตาม
สัญญาณข้อมูลข่าวสารที่ใช้ในระบบการสื่อสารของมนุษย์
แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. คลื่นเสียง ( Audio Wave )
2. คลื่นวิทยุ ( Radio Wave )
คลื่นเสียง ( Audio Wave )
เป็นคลื่นที่มีความถี่ต่ำ ความถี่อยู่ในช่วงประมาณ 20 – 20,000 Hz
คลื่นเสียง เป็นคลื่นที่มนุษย์สามารถรับฟังได้
คลื่นเสียง เกิดจากการเปล่งเสียงของมนุษย์ สัตว์ และสิ่งมีชีวิตต่างๆ รวมถึงเครื่องกำเนิดเสียงสัญญาณต่างๆ
เสียงที่คนเราสามารถได้ยินแต่ละเสียงอาจเหมือนกันหรือแตกต่างกัน
ขึ้นอยู่กับคุณลักษณะของเสียงซึ่งมีอยู่ 3 ข้อ คือ
1. ความดัง (Loundness) หมายถึง ความรู้สึกได้ยินของมวลมนุษย์ว่าดังมากดังน้อย ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่อาจวัดด้วยเครื่องมือใด ๆ ได้โดยตรง ความดังเพิ่มขึ้นตามความเข้มเสียง ความรู้สึกเกี่ยวกับความดังจะเป็นสัดส่วนโดยตรงกับระดับความเข้มเสียง โดยถ้า I แทนความเข้มเสียง ความดังของเสียงจะแปรผันโดยตรงกับ log I หรืออาจกล่าวได้ว่า ความดังก็คือระดับความเข้มเสียงนั่นเอง หูของคนสามารถรับเสียงที่มีความดังน้อยที่สุดคือ 0 dB และมากที่สุดคือ 120 dB
2. คุณภาพของเสียง (quality) หมายถึง คุณลักษณ์ของเสียงที่เราได้ยิน เมื่อเราฟังเพลงจากวงดนตรีวงหนึ่งนั้น เครื่องดนตรี ทุกชนิดจะเล่นเพลงเดียวกัน แต่เราสามารถแยกได้ว่า เสียงที่ได้ยินนั้นมาจากดนตรีประเภทใด เช่น มาจากไวโอลิน หรือเปียโน เป็นต้นการที่เราสามารถแยกลักษณะของเสียงได้นั้นเพราะว่าคลื่นเสียงทั้งสองมีคุณภาพของเสียงต่างกัน คุณภาพของเสียงนี้ขึ้นอยู่กับ จำนวนโอเวอร์โทนที่เกิดจากแหล่งกำเนิดเสียงนั้น ๆ และแสดงออกมาเด่น จึงไพเราะต่างกัน นอกจากนี้คุณภาพของเสียงยังขึ้นกับ ความเข้มของเสียงอีกด้วย
3. ระดับเสียง (pitch) หมายถึง เสียงที่มีความยาวคลื่นและความถี่ต่างกัน โดยเสียงที่มีความถี่สูงจะมีระดับเสียงสูงส่วนเสียงที่มีความถี่ต่ำจะมีระดับเสียงต่ำ
อ้างอิง
http://www.rmutphysics.com/physics/oldfront/95/sound1/sound_4.htm
http://th.wikipedia.org/wiki/เดซิเบล
คลื่นวิทยุ ( Radio Wave )
เป็นคลื่นที่มีความถี่ ประมาณ 10kHz – 300GHz
ความเร็วในการเดินทางของคลื่นวิทยุ คือ 3x108 เมตร/วินาที
การเดินทางของคลื่นวิทยุจะเคลื่อนที่อยู่ในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ถ้าใครอยากทดลอง
บ้านใครมีเครื่องเสียงอย่างดีหน่อย จะมีตัวปรับ EQUALIZER
ลองอุ้มสุนัขหรือแมว มากอดแล้วลองปรับEQUALIZER ไต่ระดับความถี่เสียงที่เราได้ยินไปจนถึงระดับที่เราไม่ได้ยิน แล้วลองสังเกตุ พวกหมาแมวที่เราอุ้มว่าพวกนี้ยังหอนอยู่ไหม
อ้างอิง
http://www.tpesound.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539339764
ที่ผมกล่าวยกขึ้นมาอ้างทั้งหมดนี้ เพียงอยากจะบอกว่า
ผมเป็นคนที่คิดถึงต้นเหตุด้วยหลักเหตุผลที่เห็นภาพหรือจับต้องได้ มากกว่า ต้นเหตุหลักเลื่อนลอยที่เชื่อถือไม่ได้ เช่นเรื่องผี
ผมไม่รู้ว่ามีใครคิดเหมือนผมบ้างรึเปล่า ว่า เราควร จะหาเหตุผลที่มันจับต้องได้ มากกว่า เหตุผลทางจิตวิญญาณ เพราะไม่งั้นก็จะมี คนอย่างเนรคำ เนรแอร์ ยันดะ หรือ ตุ๊ดอิสระวิทย์ เกิดขึ้นทุกวันแน่
อ้างอิง บทความนี้
http://th.wikipedia.org/wiki/เฮิรตซ์
http://file.snru.ac.th/download.aspx?NFILE=TEACHER_146_03062012132047828.ppt
http://dc430.4shared.com/doc/PABvINjN/preview.html
http://hq.prd.go.th/engineer/menu_log.php?m_id=0061&mp_id=0061_0001
http://www.247friend.net/blog/stookak/2013/10/03/entry-1