เจอบทสัมภาษณ์ผู้กำกับคมพยาบาทอันนี้มาค่ะ เห็นว่าน่าสนใจดี แต่ถ้าซ้ำขออภัยนะคะ
วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8543 ข่าวสดรายวัน
"คมพยาบาท"2014 หวังน้ำเน่าน้อยที่สุด
จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล
ทํามากี่ครั้งกี่ครั้งก็ฮอตฮิต สำหรับละครเรื่อง "คมพยาบาท" บทประพันธ์ของสุข หฤทัย ที่เคยทำเป็นละครมาแล้ว 5 ครั้ง ล่าสุดช่อง 7 โดยค่ายดาราวิดีโอ นำมาปัดฝุ่นทำใหม่ มอบให้ 2 นางเอกสาว "เปรี้ยว" ทัศนียา การสมนุช และ "นาว"ทิสานาฏ ศรศึก รับบทเอก "เปีย" และ "น้อย"
ร่วมด้วยพระเอก "ไมค์"ภัทรเดช สงวนความดี กับบท "เลอสรร" และตัวต้นเรื่อง "เย็น" แสดงโดย "หยก"ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์
พร้อมนักแสดง อาทิ "บิ๊ก"ศรุต วิจิตรานนท์(อุทัย), "นุ่น"ดารัณ บุญยศักดิ์(วณี), ดวงดาว จารุจินดา(คุณหญิงอนุรักษ์), "อั๋น"ชยพล เลิศพุฒิพงศ์พร(ประวิทย์) ฯลฯ
ทั้งนี้ผู้กำกับฯ หญิงเหล็ก "ติ๋ม"เพ็ญลักษณ์ อุดมสิน เผยถึงการทำละคร "คมพยาบาท" ในเวอร์ชั่นนี้ว่า "เรื่องตีความคงไม่ต้องตี เพราะมันจะบิดเบี้ยวเฉไฉไปจากโครงเรื่องเดิมไม่ได้ เพียงแต่นวนิยายเรื่องนี้เขียนมาตั้งแต่ 40-50 ปีที่แล้ว ฉะนั้นเหตุการณ์บ้านเมือง รายละเอียดต่างๆ หรือการดำเนินชีวิตของผู้คนสมัยนั้นมันไม่เหมือนกัน เวอร์ชั่นนี้จึงต้องเล่าเรื่องให้ทันสมัยเป็นปัจจุบัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเปียและน้อย สองสาวที่ถูกเปลี่ยนตัวในตอนเด็ก เหตุเพราะความอิจฉาริษยาของผู้ใหญ่ ลูกคนจนกลายไปเป็นคนรวย ส่วนลูกคนรวยกลายกลับต้องมาเป็นลูกคนจน"
โดยแนวละครผู้กำกับฯ แง้มว่า จะเป็นดราม่า 80% โรแมนติกและคอมเมดี้อีก 20% เพื่อให้เป็นสีสันของเรื่อง ถ้าเปิดมาเจอแต่ร้องไห้หน้าหงิกทะเลาะกันเกรงว่าคนดูจะเบื่อ
สำหรับเวอร์ชั่นก่อนหน้า ที่ "อั้ม" พัชราภา ไชยเชื้อ เล่นกับ "ยุ้ย" จีรนันท์ มะโนแจ่ม ประสบความสำเร็จสูงมาก พอมาทำเวอร์ชั่นนี้ถามว่ามีความกดดันบ้างไหม ได้รับคำตอบว่า "ไม่กดดันเลย ส่วนตัวคิดว่าเวอร์ชั่นนั้นก็เวอร์ชั่นนั้น เวอร์ชั่นนี้ก็เวอร์ชั่นนี้ คนเล่น คนเขียนบท และคนกำกับฯ คนละคนกัน ฉะนั้นจึงไม่มีความกดดัน แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และต้องบอกตามตรงว่าไม่ได้ดูเวอร์ชั่นที่แล้ว ไม่ได้ตั้งใจว่าจะไม่ดู แต่เพราะไม่คิดว่าจะมีโอกาสมากำกับฯ"
เพราะบท "เปีย" กับ "น้อย" เด่นด้วยกันทั้งคู่ ทำยังไงให้บทดูไม่หนักไปคนใดคนหนึ่ง ผู้กำกับฯ ตอบ "ตรงนี้ได้คุยกับคนเขียนบทว่าต้องเฉลี่ยบทให้เท่าๆ กัน จริงๆ โดยเนื้อของบทประพันธ์เรื่องนี้จุดเด่นอยู่ที่เปียอยู่แล้ว จะมาให้น้อยไม่ยอมและลุกขึ้นสู้เปียก็ไม่ใช่ จะว่าไปเรื่องมันก็น้ำเน่า แต่คราวนี้จะทำยังไงให้เน่าน้อยที่สุด"
"น้อยในเวอร์ชั่นนี้จะไม่เหมือนน้อยเวอร์ชั่นที่ยุ้ย (จีรนันท์) เล่น ตอนนั้นจะนิ่มไปหมด คนดูเห็นแล้วสงสาร แต่คนดูสมัยนี้ถ้านางเอกมานิ่มมากไปจะพานหมั่นไส้นางเอกแทน ฉะนั้นพอมาเป็นนาวเล่นก็จะมีสู้เปรี้ยวบ้าง แต่ไม่ทุกฉากเพราะโดยธรรมชาติน้อยเป็นคนที่ยอมคน ไม่ชอบมีเรื่อง อะไรยอมได้ยอม แต่พอฉากไหนที่เกินเหตุก็มีต้องสู้บ้าง"
ถามถึงสิ่งที่ยากที่สุดในการกำกับฯ ละครเรื่องนี้ "ติ๋ม-เพ็ญลักษณ์" เผยว่า "น่าจะเป็นการดึงความสามารถของนักแสดงที่ไม่เคยเล่นร้ายมาก่อนเลย อย่าง "เปรี้ยว" ที่มารับบท "เปีย" ต้องดูว่าจะดึงเขาออกจากภาพนางเอกได้มากน้อยแค่ไหน เท่าที่ถ่ายไปก็ได้ในระดับหนึ่ง ถึงจะไม่ค่อยพอใจ 100% แต่ก็คิดว่าโอเค ของแบบนี้ต้องให้เวลา"
สำหรับความดราม่าเข้มข้น ผู้กำกับฯ บอกยังจัดเต็มเหมือนเดิม ส่วนเสน่ห์และแง่คิดละคร ผู้กำกับฯ หญิงเหล็กกล่าวว่า "อยู่ที่การแสดงของผู้หญิง 3 คนในเรื่อง คือ เย็น น้อย และเปีย ที่ต้องเอาให้อยู่ อย่างเปียในเรื่องถึงจะร้ายแต่ก็มีเสน่ห์ มีความน่ารัก ถ้าเปรี้ยวกล้าที่จะเล่นร้ายมากๆ แทนที่คนดูจะเกลียดก็จะกลายเป็นเห็นใจ"
"ส่วนแง่คิดที่จะได้คือเรื่องการปล่อยวาง อย่างในละคร ถ้าปล่อยวางซะตั้งแต่แรก เหตุการณ์ต่างๆ ในเรื่องจะไม่เกิดขึ้น ละครเรื่องนี้ดูได้ทั้งครอบครัว เพราะแฝงการเลี้ยงดูเด็กไว้ด้วย เด็กที่ถูกเลี้ยงมาจากคนๆ เดียวกัน ทำไมนิสัยใจคอถึงต่างกัน ละครเรื่องนี้อาจจะสะท้อนอะไรบางอย่างให้กับสังคมได้"
ติดตามชมละคร "คมพยาบาท" ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ หลังข่าวภาคค่ำ ช่อง 7
นักแสดงหลัก
การทำละครเรื่องหนึ่ง นอกจากเรื่องที่หยิบมาทำแล้ว ตัวนักแสดงที่เล่นก็สำคัญ ทั้งนี้ผู้กำกับฯ "ติ๋ม-เพ็ญลักษณ์" เผยถึงนักแสดงที่เล่น โดยเริ่มจาก 3 ตัวละครรุ่นใหญ่อย่าง หยก- ธัญยกันต์, นุ่น-ดารัณ และ บิ๊ก-วิศรุต ที่รับบท เย็น วณี และ อุทัย ก่อนว่า
"หยก" ที่เล่นเป็น "เย็น" ทีแรกมาต้องปรับเยอะ แต่หยกมีความพยายามสูงมาก ส่วนตัวพอใจการแสดงของหยก 90% อีก 10% ที่เหลืออาจมีพลาดบ้าง เพราะหยกพูดเร็วจนบางทีพูดไม่รู้เรื่อง"
"นุ่น" รับบท "วณี" คนนี้ไม่ต้องอะไรมาก เขารู้ดีว่าควรเล่นยังไง แล้วเขาเล่นออกมาเป็นวณีได้โอเค นุ่มๆ นิ่มๆ ขี้หึงบ้างตามประสา ผู้หญิง เพียงแต่ไม่โวยวาย แค่เหน็บนุ่มๆ แต่คนฟังรู้ว่ากำลังหึงอยู่ ส่วน "บิ๊ก" รับบท "อุทัย" คนนี้มืออาชีพ"
มาถึง 3 นักแสดงเอก เปรี้ยว-ทัศนียา, นาว-ทิสานาฏ และ ไมค์-ภัทรเดช ที่รับบท เปีย, น้อย และ เลอสรร ผู้กำกับฯ แง้มว่า
"สำหรับ "เปรี้ยว" บทหนักเลยเพราะต้องเล่นเป็น "เปีย" ตัวหลักของเรื่อง จะทำอย่างไรให้เปรี้ยวออกมาจากภาพนางเอกแล้วเป็นตัวร้ายได้ คิดว่าเปรี้ยวคงปรับตัวอยู่ เพราะเปียไม่ใช่ร้ายเพราะอิจฉาริษยาหรือหึงนางเอกเพราะอยากได้พระเอก แต่มีเหตุหลายๆ อย่างที่ทำให้เป็นคนจิตใจโหดร้าย ร้ายมาตั้งแต่เด็กส่วนหนึ่งเพราะพ่อแม่เป็นโจรที่โหดเหี้ยม ผสมการเลี้ยงดูของเย็นทำให้เปียมีปมในใจสะสมเยอะ"
"ส่วน "นาว" ที่รับบท "น้อย" ถือเป็นมืออาชีพ เขาเล่นได้ ระหว่างที่น้าเย็นปฏิบัติต่อเปียกับปฏิบัติต่อน้อยต่างกัน เย็นยอมให้เปียทำอะไรน้อยก็ได้ บางทีจะห้ามก็พอเป็นพิธี สะใจลึกๆ ว่าได้ทำร้ายลูกศัตรู แต่จริงๆ ก็แอบเจ็บปวดเพราะถึงไม่ใช่เลือดเนื้อแต่ความผูกพันมี เวอร์ชั่นนี้จะเห็นความเป็นมนุษย์ของเย็นมากขึ้น"
"ไมค์" เล่นเป็น "เลอสรร" คนนี้มือใหม่จริงๆ ต้องปรับการพูด พูดแล้วเสียงหายไปในลำคอทำให้ไม่ได้ยินปลายประโยค ต้องบอกให้เปิดปากกว้าง ให้เสียงออกจากท้องเพื่อฟีลลิ่งจะได้ออก"
เรียกว่าต้องขับเคี่ยวพอสมควร กว่าจะได้ละครรสชาติแซ่บ
เปิดใจผู้กำกับ : "คมพยาบาท" 2014 ละครรีเมคที่ตีความโดยไม่ต้องตีความ แฝงแง่คิดเลี้ยงดูเด็ก
วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8543 ข่าวสดรายวัน
"คมพยาบาท"2014 หวังน้ำเน่าน้อยที่สุด
จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล
ทํามากี่ครั้งกี่ครั้งก็ฮอตฮิต สำหรับละครเรื่อง "คมพยาบาท" บทประพันธ์ของสุข หฤทัย ที่เคยทำเป็นละครมาแล้ว 5 ครั้ง ล่าสุดช่อง 7 โดยค่ายดาราวิดีโอ นำมาปัดฝุ่นทำใหม่ มอบให้ 2 นางเอกสาว "เปรี้ยว" ทัศนียา การสมนุช และ "นาว"ทิสานาฏ ศรศึก รับบทเอก "เปีย" และ "น้อย"
ร่วมด้วยพระเอก "ไมค์"ภัทรเดช สงวนความดี กับบท "เลอสรร" และตัวต้นเรื่อง "เย็น" แสดงโดย "หยก"ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์
พร้อมนักแสดง อาทิ "บิ๊ก"ศรุต วิจิตรานนท์(อุทัย), "นุ่น"ดารัณ บุญยศักดิ์(วณี), ดวงดาว จารุจินดา(คุณหญิงอนุรักษ์), "อั๋น"ชยพล เลิศพุฒิพงศ์พร(ประวิทย์) ฯลฯ
ทั้งนี้ผู้กำกับฯ หญิงเหล็ก "ติ๋ม"เพ็ญลักษณ์ อุดมสิน เผยถึงการทำละคร "คมพยาบาท" ในเวอร์ชั่นนี้ว่า "เรื่องตีความคงไม่ต้องตี เพราะมันจะบิดเบี้ยวเฉไฉไปจากโครงเรื่องเดิมไม่ได้ เพียงแต่นวนิยายเรื่องนี้เขียนมาตั้งแต่ 40-50 ปีที่แล้ว ฉะนั้นเหตุการณ์บ้านเมือง รายละเอียดต่างๆ หรือการดำเนินชีวิตของผู้คนสมัยนั้นมันไม่เหมือนกัน เวอร์ชั่นนี้จึงต้องเล่าเรื่องให้ทันสมัยเป็นปัจจุบัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเปียและน้อย สองสาวที่ถูกเปลี่ยนตัวในตอนเด็ก เหตุเพราะความอิจฉาริษยาของผู้ใหญ่ ลูกคนจนกลายไปเป็นคนรวย ส่วนลูกคนรวยกลายกลับต้องมาเป็นลูกคนจน"
โดยแนวละครผู้กำกับฯ แง้มว่า จะเป็นดราม่า 80% โรแมนติกและคอมเมดี้อีก 20% เพื่อให้เป็นสีสันของเรื่อง ถ้าเปิดมาเจอแต่ร้องไห้หน้าหงิกทะเลาะกันเกรงว่าคนดูจะเบื่อ
สำหรับเวอร์ชั่นก่อนหน้า ที่ "อั้ม" พัชราภา ไชยเชื้อ เล่นกับ "ยุ้ย" จีรนันท์ มะโนแจ่ม ประสบความสำเร็จสูงมาก พอมาทำเวอร์ชั่นนี้ถามว่ามีความกดดันบ้างไหม ได้รับคำตอบว่า "ไม่กดดันเลย ส่วนตัวคิดว่าเวอร์ชั่นนั้นก็เวอร์ชั่นนั้น เวอร์ชั่นนี้ก็เวอร์ชั่นนี้ คนเล่น คนเขียนบท และคนกำกับฯ คนละคนกัน ฉะนั้นจึงไม่มีความกดดัน แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และต้องบอกตามตรงว่าไม่ได้ดูเวอร์ชั่นที่แล้ว ไม่ได้ตั้งใจว่าจะไม่ดู แต่เพราะไม่คิดว่าจะมีโอกาสมากำกับฯ"
เพราะบท "เปีย" กับ "น้อย" เด่นด้วยกันทั้งคู่ ทำยังไงให้บทดูไม่หนักไปคนใดคนหนึ่ง ผู้กำกับฯ ตอบ "ตรงนี้ได้คุยกับคนเขียนบทว่าต้องเฉลี่ยบทให้เท่าๆ กัน จริงๆ โดยเนื้อของบทประพันธ์เรื่องนี้จุดเด่นอยู่ที่เปียอยู่แล้ว จะมาให้น้อยไม่ยอมและลุกขึ้นสู้เปียก็ไม่ใช่ จะว่าไปเรื่องมันก็น้ำเน่า แต่คราวนี้จะทำยังไงให้เน่าน้อยที่สุด"
"น้อยในเวอร์ชั่นนี้จะไม่เหมือนน้อยเวอร์ชั่นที่ยุ้ย (จีรนันท์) เล่น ตอนนั้นจะนิ่มไปหมด คนดูเห็นแล้วสงสาร แต่คนดูสมัยนี้ถ้านางเอกมานิ่มมากไปจะพานหมั่นไส้นางเอกแทน ฉะนั้นพอมาเป็นนาวเล่นก็จะมีสู้เปรี้ยวบ้าง แต่ไม่ทุกฉากเพราะโดยธรรมชาติน้อยเป็นคนที่ยอมคน ไม่ชอบมีเรื่อง อะไรยอมได้ยอม แต่พอฉากไหนที่เกินเหตุก็มีต้องสู้บ้าง"
ถามถึงสิ่งที่ยากที่สุดในการกำกับฯ ละครเรื่องนี้ "ติ๋ม-เพ็ญลักษณ์" เผยว่า "น่าจะเป็นการดึงความสามารถของนักแสดงที่ไม่เคยเล่นร้ายมาก่อนเลย อย่าง "เปรี้ยว" ที่มารับบท "เปีย" ต้องดูว่าจะดึงเขาออกจากภาพนางเอกได้มากน้อยแค่ไหน เท่าที่ถ่ายไปก็ได้ในระดับหนึ่ง ถึงจะไม่ค่อยพอใจ 100% แต่ก็คิดว่าโอเค ของแบบนี้ต้องให้เวลา"
สำหรับความดราม่าเข้มข้น ผู้กำกับฯ บอกยังจัดเต็มเหมือนเดิม ส่วนเสน่ห์และแง่คิดละคร ผู้กำกับฯ หญิงเหล็กกล่าวว่า "อยู่ที่การแสดงของผู้หญิง 3 คนในเรื่อง คือ เย็น น้อย และเปีย ที่ต้องเอาให้อยู่ อย่างเปียในเรื่องถึงจะร้ายแต่ก็มีเสน่ห์ มีความน่ารัก ถ้าเปรี้ยวกล้าที่จะเล่นร้ายมากๆ แทนที่คนดูจะเกลียดก็จะกลายเป็นเห็นใจ"
"ส่วนแง่คิดที่จะได้คือเรื่องการปล่อยวาง อย่างในละคร ถ้าปล่อยวางซะตั้งแต่แรก เหตุการณ์ต่างๆ ในเรื่องจะไม่เกิดขึ้น ละครเรื่องนี้ดูได้ทั้งครอบครัว เพราะแฝงการเลี้ยงดูเด็กไว้ด้วย เด็กที่ถูกเลี้ยงมาจากคนๆ เดียวกัน ทำไมนิสัยใจคอถึงต่างกัน ละครเรื่องนี้อาจจะสะท้อนอะไรบางอย่างให้กับสังคมได้"
ติดตามชมละคร "คมพยาบาท" ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ หลังข่าวภาคค่ำ ช่อง 7
นักแสดงหลัก
การทำละครเรื่องหนึ่ง นอกจากเรื่องที่หยิบมาทำแล้ว ตัวนักแสดงที่เล่นก็สำคัญ ทั้งนี้ผู้กำกับฯ "ติ๋ม-เพ็ญลักษณ์" เผยถึงนักแสดงที่เล่น โดยเริ่มจาก 3 ตัวละครรุ่นใหญ่อย่าง หยก- ธัญยกันต์, นุ่น-ดารัณ และ บิ๊ก-วิศรุต ที่รับบท เย็น วณี และ อุทัย ก่อนว่า
"หยก" ที่เล่นเป็น "เย็น" ทีแรกมาต้องปรับเยอะ แต่หยกมีความพยายามสูงมาก ส่วนตัวพอใจการแสดงของหยก 90% อีก 10% ที่เหลืออาจมีพลาดบ้าง เพราะหยกพูดเร็วจนบางทีพูดไม่รู้เรื่อง"
"นุ่น" รับบท "วณี" คนนี้ไม่ต้องอะไรมาก เขารู้ดีว่าควรเล่นยังไง แล้วเขาเล่นออกมาเป็นวณีได้โอเค นุ่มๆ นิ่มๆ ขี้หึงบ้างตามประสา ผู้หญิง เพียงแต่ไม่โวยวาย แค่เหน็บนุ่มๆ แต่คนฟังรู้ว่ากำลังหึงอยู่ ส่วน "บิ๊ก" รับบท "อุทัย" คนนี้มืออาชีพ"
มาถึง 3 นักแสดงเอก เปรี้ยว-ทัศนียา, นาว-ทิสานาฏ และ ไมค์-ภัทรเดช ที่รับบท เปีย, น้อย และ เลอสรร ผู้กำกับฯ แง้มว่า
"สำหรับ "เปรี้ยว" บทหนักเลยเพราะต้องเล่นเป็น "เปีย" ตัวหลักของเรื่อง จะทำอย่างไรให้เปรี้ยวออกมาจากภาพนางเอกแล้วเป็นตัวร้ายได้ คิดว่าเปรี้ยวคงปรับตัวอยู่ เพราะเปียไม่ใช่ร้ายเพราะอิจฉาริษยาหรือหึงนางเอกเพราะอยากได้พระเอก แต่มีเหตุหลายๆ อย่างที่ทำให้เป็นคนจิตใจโหดร้าย ร้ายมาตั้งแต่เด็กส่วนหนึ่งเพราะพ่อแม่เป็นโจรที่โหดเหี้ยม ผสมการเลี้ยงดูของเย็นทำให้เปียมีปมในใจสะสมเยอะ"
"ส่วน "นาว" ที่รับบท "น้อย" ถือเป็นมืออาชีพ เขาเล่นได้ ระหว่างที่น้าเย็นปฏิบัติต่อเปียกับปฏิบัติต่อน้อยต่างกัน เย็นยอมให้เปียทำอะไรน้อยก็ได้ บางทีจะห้ามก็พอเป็นพิธี สะใจลึกๆ ว่าได้ทำร้ายลูกศัตรู แต่จริงๆ ก็แอบเจ็บปวดเพราะถึงไม่ใช่เลือดเนื้อแต่ความผูกพันมี เวอร์ชั่นนี้จะเห็นความเป็นมนุษย์ของเย็นมากขึ้น"
"ไมค์" เล่นเป็น "เลอสรร" คนนี้มือใหม่จริงๆ ต้องปรับการพูด พูดแล้วเสียงหายไปในลำคอทำให้ไม่ได้ยินปลายประโยค ต้องบอกให้เปิดปากกว้าง ให้เสียงออกจากท้องเพื่อฟีลลิ่งจะได้ออก"
เรียกว่าต้องขับเคี่ยวพอสมควร กว่าจะได้ละครรสชาติแซ่บ