คือเมื่อวานดิฉัน กำลังปั่นจักรยานในหมู่บ้าน ประมาณ5โมงเย็น
ฉันแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จากคนแถวบ้านดิฉันเองค่ะ
ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่สิ่งที่ฉันเห็นในตอนนั้นคือ คุณยายท่านหนึ่ง
นอนโอดครวญอยู่ข้างเตียง ฉันแท็บช็อคเพราะตัวคุณยายร้อนมาก
ฉันเลยถามไปว่า คุณยายเป็นอะไรค่ะ เขาตอบฉันว่า เขาไม่สบายเป็นไข้มาเลเลีย
ฉันเอะใจและถามเขาว่า คุณยายอยุ่คนเดียวหรอค่ะ ยายตอบฉันว่า เขาอยุ่คนเดียว
เพราะลุกหลานไปทำงานแต่ไม่เคยมาเยี่ยมหาเลย นาทีนั้นฉันเลยตัดสินใจ
พายายไปโรงพยาบาล แต่ยายแกเหมือนจะบอกอะไรกับฉัน ฉันบอกยายว่า
ยังไม่ต้องพูดอะไร เพราะฉันจะกลับบ้านไปเอารถยนต์ที่บ้าน พายายแกไปส่งโรงพยาบาล
ตอนนั้นฉันคิดแค่ว่า คุณยายคนนี้ต้องปลดภัยสิ ต้องปลอดภัยเท่านั้น ฉันสงสารแกมาก
เพราะสีหน้าแกไม่ไหวแล้วจริงๆ ฉันสงสารและน้ำตาก็ไหลคะ ด้วยความที่จิตใจอ่อนไหว
ต่อสถานณ์การแบบนี้ง่าย ฉันจึงพยุงยายขึ้นรถคะ พอถึงโรงพยาบาล ก็มีพวกแผนกรับส่งคนไข้
วิ่งมาพร้อมกับเตียง ฉันคิดว่า ยายแกถึงมือหมอล่ะ คงไม่เป็นไรแล้ว และฉันก็คิดว่า
อายุก็มากแล้วแบบนี้นะค่ะ และไม่ควรปล่อยไห้อยุ่ลำพังแบบนี้
รุ่งเช้าต่อมา
สิ่งที่ฉันไม่อยากไห้เกิดก็เกิดขึ้น ทางโรงพยาบาลแจ้งมาว่า ยายแกไม่ไหวแล้ว ร่างกายอ่อนแอมาก ช็อคหมดสติ
ยายแกเป็นโรคความดันคะ ฉันร้องไห้เลยคะ แล้วก็เสียใจมาก รู้สึกผิดที่ช่วยยายแกไม่ได้
ฉันจึงรีบขับรถมุ่งตรงไปโรงพยาบาลทันที หมอเขาบอกว่า คุณยายแกเสียชีวิตแล้วว...
ศพของคุณยายจะไม่ถูกเคลื่อนย้ายออกจาก รพ. ถ้ายังไม่มีญาติมาต่อติดขอรับศพไปบำเพ็ญกุศล
ฉันก็ไม่รู้จะติดต่อกับลุกๆ เขายังไงเพราะเบอร์โทรก็ไม่มี เลยไม่รู้จะติดต่อทางไหน
ฉันจึงขอยืมพื้นที่เล็กๆในพันทิปเป็นศูนย์กลางฝากข้อความไห้เขาได้อ่านด้วยคะ
ถ้าลุกของคุณยายเล่นพันทิป แล้วเปิดมาเจอข้อความนี้ กรุณาติดต่อกลับด้วยนะค่ะ
เบอร์ติดต่อขอหลังไมค์เลยค่ะ ก็โปรดกลับมาทำหน้าที่ลุกที่ดีด้วยคะ
กลับมาตอบแทนพระคุณที่ท่านอุตส่าเลี้ยงคุณมานะค่ะ
ด้วยความปรารถนาดีจากคนข้างบ้าน ขอบคุณค่ะ
ปล. ใครเห็นกระทู้นี้ รบกวนออกความเห็นและแชร์ด้วยนะค่ะ
เพราะยายแกบอกว่าลูกคงไม่กลับมา เลยไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อดี สงสารคุณยายแกจริงๆ
บ้านยายนะค่ะ บ้านเลขที่(ไม่ทราบ) แถวๆวัดทุ่งยั้ง ต.ตากตก อ.บ้านตาก จ.ตาก
คุณยายผู้น่าสงสาร..
ฉันแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จากคนแถวบ้านดิฉันเองค่ะ
ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่สิ่งที่ฉันเห็นในตอนนั้นคือ คุณยายท่านหนึ่ง
นอนโอดครวญอยู่ข้างเตียง ฉันแท็บช็อคเพราะตัวคุณยายร้อนมาก
ฉันเลยถามไปว่า คุณยายเป็นอะไรค่ะ เขาตอบฉันว่า เขาไม่สบายเป็นไข้มาเลเลีย
ฉันเอะใจและถามเขาว่า คุณยายอยุ่คนเดียวหรอค่ะ ยายตอบฉันว่า เขาอยุ่คนเดียว
เพราะลุกหลานไปทำงานแต่ไม่เคยมาเยี่ยมหาเลย นาทีนั้นฉันเลยตัดสินใจ
พายายไปโรงพยาบาล แต่ยายแกเหมือนจะบอกอะไรกับฉัน ฉันบอกยายว่า
ยังไม่ต้องพูดอะไร เพราะฉันจะกลับบ้านไปเอารถยนต์ที่บ้าน พายายแกไปส่งโรงพยาบาล
ตอนนั้นฉันคิดแค่ว่า คุณยายคนนี้ต้องปลดภัยสิ ต้องปลอดภัยเท่านั้น ฉันสงสารแกมาก
เพราะสีหน้าแกไม่ไหวแล้วจริงๆ ฉันสงสารและน้ำตาก็ไหลคะ ด้วยความที่จิตใจอ่อนไหว
ต่อสถานณ์การแบบนี้ง่าย ฉันจึงพยุงยายขึ้นรถคะ พอถึงโรงพยาบาล ก็มีพวกแผนกรับส่งคนไข้
วิ่งมาพร้อมกับเตียง ฉันคิดว่า ยายแกถึงมือหมอล่ะ คงไม่เป็นไรแล้ว และฉันก็คิดว่า
อายุก็มากแล้วแบบนี้นะค่ะ และไม่ควรปล่อยไห้อยุ่ลำพังแบบนี้
รุ่งเช้าต่อมา
สิ่งที่ฉันไม่อยากไห้เกิดก็เกิดขึ้น ทางโรงพยาบาลแจ้งมาว่า ยายแกไม่ไหวแล้ว ร่างกายอ่อนแอมาก ช็อคหมดสติ
ยายแกเป็นโรคความดันคะ ฉันร้องไห้เลยคะ แล้วก็เสียใจมาก รู้สึกผิดที่ช่วยยายแกไม่ได้
ฉันจึงรีบขับรถมุ่งตรงไปโรงพยาบาลทันที หมอเขาบอกว่า คุณยายแกเสียชีวิตแล้วว...
ศพของคุณยายจะไม่ถูกเคลื่อนย้ายออกจาก รพ. ถ้ายังไม่มีญาติมาต่อติดขอรับศพไปบำเพ็ญกุศล
ฉันก็ไม่รู้จะติดต่อกับลุกๆ เขายังไงเพราะเบอร์โทรก็ไม่มี เลยไม่รู้จะติดต่อทางไหน
ฉันจึงขอยืมพื้นที่เล็กๆในพันทิปเป็นศูนย์กลางฝากข้อความไห้เขาได้อ่านด้วยคะ
ถ้าลุกของคุณยายเล่นพันทิป แล้วเปิดมาเจอข้อความนี้ กรุณาติดต่อกลับด้วยนะค่ะ
เบอร์ติดต่อขอหลังไมค์เลยค่ะ ก็โปรดกลับมาทำหน้าที่ลุกที่ดีด้วยคะ
กลับมาตอบแทนพระคุณที่ท่านอุตส่าเลี้ยงคุณมานะค่ะ
ด้วยความปรารถนาดีจากคนข้างบ้าน ขอบคุณค่ะ
ปล. ใครเห็นกระทู้นี้ รบกวนออกความเห็นและแชร์ด้วยนะค่ะ
เพราะยายแกบอกว่าลูกคงไม่กลับมา เลยไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อดี สงสารคุณยายแกจริงๆ
บ้านยายนะค่ะ บ้านเลขที่(ไม่ทราบ) แถวๆวัดทุ่งยั้ง ต.ตากตก อ.บ้านตาก จ.ตาก