สวัสดีครับ ขออนุญาติรีวิว การไปเที่ยวกระบี่ครั้งนี้ของผมนะครับ
สืบเนื่องว่า ผมเองก็เป็นผู้เสียหายคนนึงที่โดน ภูพระนางรีสอร์ทแอนสปา เรื่องการจองห้องพักและการพักทั้งหมด
แต่ ชีวิตต้องเดินต่อครับ ผมตัดสินใจจองที่พักใหม่และไปตามกำหนดการณ์เดิม อาจจะมีข้อมูลบางอย่างที่มีประโยชน์
สำหรับคนที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวกระบี่ อันไหนที่ไร้สาระไม่ถูกใจก็ขออภัยด้วยนะครับผม เริ่มเลยนะครับ
กำหนดการณ์เดินทางคือ 21 22 23 กลับ 23 โดยเครื่องบินครับ ผมออกเดินทางโดยรถทัวร์ VIP กับ ลิกซ์ไนท์ทัวร์ ออกเดินทางวันที่ 20 ถึงเช้าวันที่ 21 ครับ
หลังจากที่ผมโดนภูพระนางโกงผมตัดสินใจจองที่พักกับ อโกด้า เพียงคืนเดียวในวันที่ 21 เมษายน 57 ส่วนอีกคืนผมพเนจรเดินหาเอาครับผม
เมื่อขึนรถ
เมื่อมาถึงสถานีขนส่งโดยสารครับ
จากสถานีจะมีรถรับส่งถึงอ่าวนางคนละ 60 บาท ไม่แนะนำให้จองกับโรงแรมซึ่งราคา 600 ไม่ว่าจะคนละ 600 หรือ 2 คน 600 ก็แพงไปอยู่ดีครับ
เว้นแต่ว่ารีบก็ไม่ว่ากันครับ
บรรยากาศในรถ
เมื่อไปถึงที่พักผมก็ฝากกระเป๋ากับ Check In ที่บุรีธารา
ด้วยความเร็วเพราะจองทัวร์ไป PP มาหยา กับ ทัวร์ท้องถิ่น บาราคูดัส คนละ 1300 มีอาหารกลางวัน Speed Boat ผมจองตรงครับผม
ด้วยความรีบ เลยไม่ทันได้ถ่ายภาพที่พักครับ ซึ่งเดี๋ยวขากลับมาจะมีให้ดูครับ บาราคูดัสจะมีรถมารับที่โรงแรมและส่งกลับที่โรงแรมเลย
บาราคูดัส จะมีสติ๊กเกอร์แปะเสื้อไว้แบบนี้
แล้วเราก็รอกันที่ตรงนี้
เมื่อคนครบไกด์ก็จะบอกคร่าวๆว่าไปที่ไหนกินข้าวตรงไหนว่าแล้วก็ออกเดินทางเลยครับ
ไกด์สุดหล่อผมจำชื่อไม่ได้ถนัดนักครับ พูดไทยชัดมากครับ
ที่แรกที่ไปถึงคือเกาะไม้ไผ่ ซึ่งไม้ไผ่มีน้อยมาก ไกด์บอกเราว่าหลังจากซินามึ ไม้ไผ่ตายไปจำนวนมาก แต่ก่อนซินามิจะมีไม้ไผ่เป็นจำนวนมากครับ
เรือเราเป็นแบบนี้ครับ
สีของเม็ดทราย
ซึ่งโดยรวมเกาะนี้ไม่ค่อยมีอะไร มีแต่ป่าไม้ไผ่ต้นเล็กๆครับ
หลังจากนั้นก็พาไปดำน้ำสองที่ ซึ่งขออภัยด้วยครับ ผมไม่ได้ถ่ายมาเพราะกล้องไม่ได้กันน้ำที่แรกจะมองไม่ค่อยเห็นครับ
ส่วนที่สองเห็นปลาเสือค่อนข้างเยอะเพราะน้ำใส แสงอาทิตย์ส่องลงมาในตำแหน่งที่เห็นชัดครับ(ถ้าไประวังด้วยนะครับ สกูบ้ารักษายิ่งชีพถ้าหล่นหาย เสีย 1500 แต่ตัวผมเองก็ทำที่หายใจหายครับ เขาก็ไม่ได้ปรับแต่อย่างใดครับ กระโดดตูมลงน้ำ พอหาที่หายใจลอยหายไปแล้วครับT_T)
มาต่อกันที่เกาะผมเด็ดที่สุดในการมาครั้งนี้ครับ เกาะมาหยา ที่เป็นสถานที่ถ่ายหนังเรื่อง The Beach ครับ
ตรงกลาง
ทางซ้าย
ทางขวา
พาโนราม่า
เรือที่มาด้านหลังเป็นแบบนี้ครับ
บรรยากาศ
ผู้ช่วยไกด์เป็นคนไทย ชื่อเฟย์ หรือ เฟียร์ นี่แหละครับ
หลังจากนั้นก็ผ่านเกาะไวกิ้ง เกาะอะไรลิง เกาะอะไรสักอย่างอีกที่สองที่ผมจำชื่อไม่ได้ แต่เขาไม่ยอมให้ลงเล่นน้ำครับ เดี๋ยวผมจะเอา
ไฟล์วิดีโอลงยูทูปมาแปะให้นะครับผม
จากนั้นก็มาถึงเกาะสุดท้ายของทริบคือ PP ครับมาทานอาหารกลางวันเป็นบุฟเฟ่ห์ตักได้ตามใจ
แต่ผมตักน้อยเนื่องจากกลัวทานไม่หมดครับ อาหารรสชาติกลางไปทางจืดเพราะต้องเผื่อชาวต่างชาติครับ
ภาพสุดท้ายที่เกาะ PP ครับ
หลังจากนั้นก็สลบสไลกลับมาถึงอ่าวนางมีรถมาส่งที่พักครับ รถของบาราคูดัส
ภายในที่พักของบุรีธาราเป็นแบบนี้ครับ
เที่ยวไปตามตะวัน อิอิ
หลังจากนั้นฝากท้องมือเย็นไว้ที่วังทรายซีฟู้ดครับ สั่งสามอย่างข้าวหนึ่งโถน้ำเปล้าน้ำแข็ง 790
ราคาถือว่าพอรับได้ครับ แต่เขาว่ากันว่ามาที่กระบี่ต้องกินหอยชักตีนครับ ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงผมก็จัดเลยครับ
หลังจากนั้นก็กลับที่พักครับ สลบตามเรื่อง แต่ก่อนที่ผมจะมาทานอาหารเย็น ผมแวะเดินหา City ทัวร์ที่วางขายกันเกลื่อนกลาดริมทางครับ
ผมได้ที่เที่ยวคือ น้ำตกร้อน สระมรกต และวัดถ้ำเสือ ผมได้มาราคา 750 ต่อคนรวมอาหารกลางวันครับ
ที่แรกเลยนะครับ น้ำตกร้อน
จากภาพนี้สามารถเดินเข้าไปได้อีกครับ
ด้านในก็จะเป็นแอ่งน้ำเล็กๆครับ ไม่กว้างเท่าไหร่พอเล่นได้ครับ
แถมรูป ผบทบ. สักใบ
หลังจากนั้นก็เดินทางมาที่ สระมรกต สถานที่เป็นน้ำตกที่กว้างใหญ่เหมือนสระว่ายน้ำเลยครับ
จุดแรกที่เห็น
ผบทบ. ขอมุมนี้ครับ อิอิ
สระมรกตรวมๆครับ
หลังจากนั้นก็แวะรับประทานอาหารที่นี่ครับ คือที่ไหนไม่รู้เขาพามาครับ รู้แต่ว่ามีช้างด้วย
หลังจากนั้นก็มาที่วัดถ้ำเสือ ครับมีบันไดขึ้นไปสักการะพระดานบน 1,237 ขั้น ซึ่งผมเองหมดแรงครับเลยไม่ได้ขึ้นไป
บรรยากาศภายในก็เป็นแบบนี้ครับ
หลังจากนั้นผมก็เดินทางกลับมาที่พักครับ แล้วก็แบกกระเป๋าเดินหาที่พักสุดท้ายมาได้ที่น้องอี๊ด คืนละ 800 มีฟรี Wifi
และผมก็สังเกตุระหว่างเดินหาเลยได้เบอร์โทร Shutter Bus รถรับส่งจากที่พักไปสนามบินเป็นรถเมย์นะครับราคาคนละ 150 โทรนัดเวลากันได้เลยครับ
เนื่องจากออกไฟท์เช้า ผมเดินทางกลับด้วยนกแอร์ครับ
ก็เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ดูจนจบนะครับ สงสัยเรื่องอะไรถามได้นะครับผมเดี๋ยวถ้าว่างๆจะมาตอบให้นะครับผม
รีวิวมั่วๆจากกระบี่อ่าวนางครับ
สืบเนื่องว่า ผมเองก็เป็นผู้เสียหายคนนึงที่โดน ภูพระนางรีสอร์ทแอนสปา เรื่องการจองห้องพักและการพักทั้งหมด
แต่ ชีวิตต้องเดินต่อครับ ผมตัดสินใจจองที่พักใหม่และไปตามกำหนดการณ์เดิม อาจจะมีข้อมูลบางอย่างที่มีประโยชน์
สำหรับคนที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวกระบี่ อันไหนที่ไร้สาระไม่ถูกใจก็ขออภัยด้วยนะครับผม เริ่มเลยนะครับ
กำหนดการณ์เดินทางคือ 21 22 23 กลับ 23 โดยเครื่องบินครับ ผมออกเดินทางโดยรถทัวร์ VIP กับ ลิกซ์ไนท์ทัวร์ ออกเดินทางวันที่ 20 ถึงเช้าวันที่ 21 ครับ
หลังจากที่ผมโดนภูพระนางโกงผมตัดสินใจจองที่พักกับ อโกด้า เพียงคืนเดียวในวันที่ 21 เมษายน 57 ส่วนอีกคืนผมพเนจรเดินหาเอาครับผม
เมื่อขึนรถ
เมื่อมาถึงสถานีขนส่งโดยสารครับ
จากสถานีจะมีรถรับส่งถึงอ่าวนางคนละ 60 บาท ไม่แนะนำให้จองกับโรงแรมซึ่งราคา 600 ไม่ว่าจะคนละ 600 หรือ 2 คน 600 ก็แพงไปอยู่ดีครับ
เว้นแต่ว่ารีบก็ไม่ว่ากันครับ
บรรยากาศในรถ
เมื่อไปถึงที่พักผมก็ฝากกระเป๋ากับ Check In ที่บุรีธารา
ด้วยความเร็วเพราะจองทัวร์ไป PP มาหยา กับ ทัวร์ท้องถิ่น บาราคูดัส คนละ 1300 มีอาหารกลางวัน Speed Boat ผมจองตรงครับผม
ด้วยความรีบ เลยไม่ทันได้ถ่ายภาพที่พักครับ ซึ่งเดี๋ยวขากลับมาจะมีให้ดูครับ บาราคูดัสจะมีรถมารับที่โรงแรมและส่งกลับที่โรงแรมเลย
บาราคูดัส จะมีสติ๊กเกอร์แปะเสื้อไว้แบบนี้
แล้วเราก็รอกันที่ตรงนี้
เมื่อคนครบไกด์ก็จะบอกคร่าวๆว่าไปที่ไหนกินข้าวตรงไหนว่าแล้วก็ออกเดินทางเลยครับ
ไกด์สุดหล่อผมจำชื่อไม่ได้ถนัดนักครับ พูดไทยชัดมากครับ
ที่แรกที่ไปถึงคือเกาะไม้ไผ่ ซึ่งไม้ไผ่มีน้อยมาก ไกด์บอกเราว่าหลังจากซินามึ ไม้ไผ่ตายไปจำนวนมาก แต่ก่อนซินามิจะมีไม้ไผ่เป็นจำนวนมากครับ
เรือเราเป็นแบบนี้ครับ
สีของเม็ดทราย
ซึ่งโดยรวมเกาะนี้ไม่ค่อยมีอะไร มีแต่ป่าไม้ไผ่ต้นเล็กๆครับ
หลังจากนั้นก็พาไปดำน้ำสองที่ ซึ่งขออภัยด้วยครับ ผมไม่ได้ถ่ายมาเพราะกล้องไม่ได้กันน้ำที่แรกจะมองไม่ค่อยเห็นครับ
ส่วนที่สองเห็นปลาเสือค่อนข้างเยอะเพราะน้ำใส แสงอาทิตย์ส่องลงมาในตำแหน่งที่เห็นชัดครับ(ถ้าไประวังด้วยนะครับ สกูบ้ารักษายิ่งชีพถ้าหล่นหาย เสีย 1500 แต่ตัวผมเองก็ทำที่หายใจหายครับ เขาก็ไม่ได้ปรับแต่อย่างใดครับ กระโดดตูมลงน้ำ พอหาที่หายใจลอยหายไปแล้วครับT_T)
มาต่อกันที่เกาะผมเด็ดที่สุดในการมาครั้งนี้ครับ เกาะมาหยา ที่เป็นสถานที่ถ่ายหนังเรื่อง The Beach ครับ
ตรงกลาง
ทางซ้าย
ทางขวา
พาโนราม่า
เรือที่มาด้านหลังเป็นแบบนี้ครับ
บรรยากาศ
ผู้ช่วยไกด์เป็นคนไทย ชื่อเฟย์ หรือ เฟียร์ นี่แหละครับ
หลังจากนั้นก็ผ่านเกาะไวกิ้ง เกาะอะไรลิง เกาะอะไรสักอย่างอีกที่สองที่ผมจำชื่อไม่ได้ แต่เขาไม่ยอมให้ลงเล่นน้ำครับ เดี๋ยวผมจะเอา
ไฟล์วิดีโอลงยูทูปมาแปะให้นะครับผม
จากนั้นก็มาถึงเกาะสุดท้ายของทริบคือ PP ครับมาทานอาหารกลางวันเป็นบุฟเฟ่ห์ตักได้ตามใจ
แต่ผมตักน้อยเนื่องจากกลัวทานไม่หมดครับ อาหารรสชาติกลางไปทางจืดเพราะต้องเผื่อชาวต่างชาติครับ
ภาพสุดท้ายที่เกาะ PP ครับ
หลังจากนั้นก็สลบสไลกลับมาถึงอ่าวนางมีรถมาส่งที่พักครับ รถของบาราคูดัส
ภายในที่พักของบุรีธาราเป็นแบบนี้ครับ
เที่ยวไปตามตะวัน อิอิ
หลังจากนั้นฝากท้องมือเย็นไว้ที่วังทรายซีฟู้ดครับ สั่งสามอย่างข้าวหนึ่งโถน้ำเปล้าน้ำแข็ง 790
ราคาถือว่าพอรับได้ครับ แต่เขาว่ากันว่ามาที่กระบี่ต้องกินหอยชักตีนครับ ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงผมก็จัดเลยครับ
หลังจากนั้นก็กลับที่พักครับ สลบตามเรื่อง แต่ก่อนที่ผมจะมาทานอาหารเย็น ผมแวะเดินหา City ทัวร์ที่วางขายกันเกลื่อนกลาดริมทางครับ
ผมได้ที่เที่ยวคือ น้ำตกร้อน สระมรกต และวัดถ้ำเสือ ผมได้มาราคา 750 ต่อคนรวมอาหารกลางวันครับ
ที่แรกเลยนะครับ น้ำตกร้อน
จากภาพนี้สามารถเดินเข้าไปได้อีกครับ
ด้านในก็จะเป็นแอ่งน้ำเล็กๆครับ ไม่กว้างเท่าไหร่พอเล่นได้ครับ
แถมรูป ผบทบ. สักใบ
หลังจากนั้นก็เดินทางมาที่ สระมรกต สถานที่เป็นน้ำตกที่กว้างใหญ่เหมือนสระว่ายน้ำเลยครับ
จุดแรกที่เห็น
ผบทบ. ขอมุมนี้ครับ อิอิ
สระมรกตรวมๆครับ
หลังจากนั้นก็แวะรับประทานอาหารที่นี่ครับ คือที่ไหนไม่รู้เขาพามาครับ รู้แต่ว่ามีช้างด้วย
หลังจากนั้นก็มาที่วัดถ้ำเสือ ครับมีบันไดขึ้นไปสักการะพระดานบน 1,237 ขั้น ซึ่งผมเองหมดแรงครับเลยไม่ได้ขึ้นไป
บรรยากาศภายในก็เป็นแบบนี้ครับ
หลังจากนั้นผมก็เดินทางกลับมาที่พักครับ แล้วก็แบกกระเป๋าเดินหาที่พักสุดท้ายมาได้ที่น้องอี๊ด คืนละ 800 มีฟรี Wifi
และผมก็สังเกตุระหว่างเดินหาเลยได้เบอร์โทร Shutter Bus รถรับส่งจากที่พักไปสนามบินเป็นรถเมย์นะครับราคาคนละ 150 โทรนัดเวลากันได้เลยครับ
เนื่องจากออกไฟท์เช้า ผมเดินทางกลับด้วยนกแอร์ครับ
ก็เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ดูจนจบนะครับ สงสัยเรื่องอะไรถามได้นะครับผมเดี๋ยวถ้าว่างๆจะมาตอบให้นะครับผม