นับตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมามีการระเบิดบนชั้นบรรยากาศในระดับระเบิดนิวเคลียร์มา 26 ครั้ง

กระทู้ข่าว

ซึ่งเป็นการเปิดเผยข้อมูลจาก มูลนิธิ B612 ซึ่งเป็นมูลนิธิที่เก็บข้อมูลของอุกกาบาตหรือดาวเคราะห์น้อยและทำหน้าที่คอยเตือนภัยเหตุที่เกิดจากอุกกาบาต (ดูข้อมูลมูลนิธีที่นี่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ) จากการประชุมวิชาการที่ ซีแอตเติ้ล อเมริกาในวันอังคารที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา
โดยการระเบิดส่วนใหญ่จะระเบิดที่ ละติจูดสูงมากบนชั่นบรรยากาศซึ่งทำให้ไม่มีผลกระทบต่อผู้คน โดยผลข้อมูลนั้นได้จากเครือข่ายเซ็นเซอร์การตรวจจับเสียงระเบิดนิวเคลียร์บนชั้นบรรยากาศซึ่งเป็นผลพลอยได้จากสนธิสัญญาห้ามการทดลองอาวุธนิวเคลียร์
ทั้ง 26 ครั้งสามารถวัดขนาดของเเรงระเบิดได้ตั้งเเต่ 1-600 กิโลตันtnt (ระเบิดนิวเคลียร์ที่ทิ้งที่ฮิโรชิม่ามีขนาดแรงระเบิด 15 กิโลตันtnt) โดยข้อมูลที่มูลนิธินำเสนอชี้ให้เห็นว่าการโดนพุ่งชนโดยอุกกาบาตนั้นไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และพยายามชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการให้ความสำคัญต่อการป้องกันเพราะดาวเคราะห์น้อยหรืออุกกาบาตเหล่านี้นับเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติอย่างร้ายเเรง
ทางมูลนิธิกล่าวว่าทั้ง 26 เคสนี้ไม่มีกลุ่มเครือข่ายนักดูดาวใดๆได้เตือนการพุ่งชนโลกของมันเลย
"มีดาวเคราะห์น้อยกว่า 10,000 ดวงที่เราตรวจพบมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำลายเมืองทั้งเมืองหรือทั้งทวีปได้ซึ่งมีโอกาสชนโลก" นาย เอ็ด ลูซึ่งเป็นอดีตนักบินอวกาศกล่าว
"เมื่อเราไม่สามารถติดตามหรือไม่สามารถตรวจจับพวกมันได้ สิ่งเดียวที่เราจะหวังพึ่งได้จากการรอดพ้นจากเหตุหายนะคือก็ได้แต่หวังว่าพวกเราจะไม่โชคร้าย"
ความเสียหายจากอุกกาบาตเท่าที่เราเคยบันทึกกันไว้ครั้งเเรกนั้นเกิดที่ทุ่งทังกัตก้า ในไซบีเรีย รัสเซีย ในปี 1908 ซึ่งมีเเรงระเบิดเทียบเท่านิวเคลียร์ 15,000 ตันtnt ทำความเสียหายกับพื้นที่กว่า 770 ตารางไมล์

และอุกกาบาตที่ตกถึงพื้นโลกและมีแรงระเบิด 20 กิโลตันtnt ขึ้นไป ซึ่งตกใน ซุราเวสี ใต้, อินโดนีเซีย ในปี 2009 ,ตกในทะเลใต้ในปี 2004,ตกในทะเลเมดิเตอเรเนียนในปี 2002
ซึ่งครั้งล่าสุดที่มีรายงานผลกระทบจากอุกกาบาตคือใน Chelyabinsk รัสเซีย ซึ่งมีแรงระเบิดเท่ากับระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิม่าถึง 40 เท่าในปี 2013