*** ก่อนอื่นต้องขอแจ้งทุกท่านได้กรุณาเข้าใจตรงกันก่อนว่ากระทู้นี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองนะครับ ***
เข้าเรื่องครับ เรื่องมีอยู่ว่าช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา(วันที่ 14 และ 15 เมษายน 2557) ผมได้เข้าไปขอย้ายค่ายมือถือจาก TrueMove จำนวน 2 เบอร์ และ Dtac จำนวน 1 เบอร์ รวมเป็น 3 เบอร์ เข้าสู่ระบบของ AIS ด้วยเหตุผลด้านความครอบคลุมของสัญญาณ เพราะผมต้องเดินทางไปหลายพื้นที่ ซึ่งในบางพื้นที่นั้นไม่ได้มีสัญญาณครบทุกเครือข่าย แต่สัญญาณ AIS นั้นครอบคลุมพื้นที่ที่ผมเดินทางไปประจำทั้งหมด ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้บริการของ AIS แทน
แรกเริ่มเดิมทีนั้นผมคิดแค่ว่าจะย้ายค่ายธรรมดา แต่พอเข้าไปในศูนย์บริการของ AIS ก็ไปเห็นป้ายติดอยู่ว่ามีโปรโมชั่นซื้อเครื่องในราคาถูก
เมื่อเห็นโปรโมชั่นนั้น ผมสนใจที่จะซื้อ Samsung Galaxy Grand 2 ซึ่งลดราคาเครื่องมาขายในราคา 5,950 บาท ผมก็เลยศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับโปรโมชั่นนี้ สรุปคือ
- ผมสามารถซื้อเครื่องได้ในราคา 5,950 บาท
- ผมต้องชำระค่าบริการล่วงหน้าเป็นเวลา 6 เดือน เดือนละ 599 บาท เป็นเงิน 3,594 บาท (+VAT 7% = 251.58 บาท) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,845.58 บาท
- รวมแล้วผมจะต้องจ่ายเงินรวมทั้งสิ้น 9795.58 บาท ตีเป็นเลขกลมๆก็คือ 9800 บาท
- สัญญานี้มีระยะเวลา 1 ปี
- โปรโมชั่นนี้สิ้นสุด 30 เมษายน 2557
เพราะ Samsung Galaxy Grand 2 สามารถใส่ได้ 2 ซิม และด้วยความที่ขี้เกียจที่จะพกโทรศัพท์และที่ชาร์ตหลายเครื่อง และด้วยโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ผมเลยขอรับสิทธิ์นี้กับทางช็อป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ช็อปแจ้งว่าตามระเบียบแล้วให้เปลี่ยนย้ายเครือข่ายให้สมบูรณ์ก่อน แล้วจึงค่อยมาขอรับสิทธิ์ ผมเลยตกลงตามข้อตกลงนั้น
ขณะที่รอให้มีการโอนย้ายเครือข่ายสำเร็จผมจึงได้มาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และได้ติดต่อไปยังคุณ Jason ซึ่งเป็น CC AIS ในเวป pantip.com เพื่อสอบถามถึงการรับสิทธิ์อย่างละเอียดอีกครั้ง คุณ Jason แจ้งผมมาว่าทันทีที่ผมได้รับอนุมัติเปลี่ยนย้ายเครือข่าย และ สามารถใช้ซิมการ์ด AIS ได้แล้ว ผมสามารไปขอรับสิทธิ์ที่ช็อป AIS ได้ในวันนั้นทันที ซึ่งผมเน้นย้ำวันรับสิทธิ์อย่างชัดเจน
วันนี้ตอนเช้า ผมตื่นมาพบข้อความแจ้งการย้ายเครือข่ายสำเร็จแล้วจากทาง AIS และ Dtac ผมจึงโทรไปถาม Call Center ของ AIS ว่าสามารถรับสิทธิ์ได้ในวันนี้เลยหรือไม่อีกครั้งเพื่อความชัวร์ จะได้ไม่เสียเวลาในการเดินทางไปรับสิทธิ์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าสามารถรับสิทธิ์ได้ในวันนี้เลย
เมื่อเสร็จงานผมจึงเดินทางเข้าไปที่ ช็อป AIS เซ็นทรัล พลาซ่า สุราษฎร์ธานี เพื่อขอรับสิทธิ์ แต่เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่กลับแจ้งว่าผมต้องรอสามวันหลังการโอนย้าย และต้องตอบกลับ SMS เพื่อยืนยันสิทธิ์
ผมจึงแจ้งว่าผมโทรปรึกษา Call Center แล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งว่าสามารถรับสิทธิ์ได้เลย แต่เจ้าหน้าที่ของช็อปก็ยังยืนยันคำเดิม ยืนถกกันอยู่นาน เจ้าหน้าที่ช็อปเข้าไปตรวจสอบข้อมูลสองครั้ง แต่ก็ยังยืนยันคำเดิม พร้อมแจ้งว่าเครื่อง Samsung Galaxy Grand 2 สีขาวที่ผมต้องการนั้นหมดสต๊อก
ผมถามว่าสีดำมีมั๊ย แต่เค้ายืนยันว่าเครื่อง Samsung Galaxy Grand 2 รุ่นนี้ไม่มีเหลือในสต๊อกเลย และผมต้องรออีก 3 วัน ถึงจะได้รับสิทธิ์ ผมเลยโทรไปสอบถาม Call Center อีกครั้ง เจ้าหน้าที่ Call Center ก็ยืนยันว่ารับสิทธิ์ได้
จึงกลายเป็นการโต้เถียงกันระหว่างผมกับเจ้าหน้าที่ช็อป ซึ่งเค้ายังยืนยันว่าผมยังไม่ได้รับสิทธิ์ และอีก 3 วัน ให้ผมเดินทางไปอีกครั้งเพื่อรับสิทธิ์ ผมจึงโทรหา Call Center และให้คุยกับเจ้าหน้าที่ช็อป แต่ถึงแม้ Call Center จะอธิบายว่าผมได้รับสิทธิ์แล้ว เจ้าหน้าที่ช็อปก็ยังแย้ง และขอเข้าไปดูรายละเอียดอีกครั้ง(เป็นครั้งที่ 3)
เมื่ออกมาเจ้าหน้าที่แจ้งผมว่าได้ไปคุยกับผู้จัดการแล้ว และตอนนี้ผมได้รับสิทธิ์นั้นแล้ว ผมเลยถามว่าสิทธิ์ที่ได้นั้นเป็นสิทธิ์ที่ผมพึงมี หรือเป็นการขอสิทธิ์เป็นรายกรณี เจ้าหน้าที่แจ้งว่าผมได้รับสิทธิ์นั้นอยู่แล้ว ตนเองจำผิด แต่ตอนนี้เครื่องสีขาวหมด เหลือแต่สีดำ
ถึงตอนนี้ผมอารมณ์เสียมาก และยอมรับผิดว่าพูดจาด้วยอารมณ์ เสียอารมณ์เพราะเจ้าหน้าที่จำผิด ไม่มีข้อมูล ผมอุตส่าห์แจ้งข้อมูลไปแล้ว และเจ้าหน้าที่เองได้เข้าไปดูข้อมูลแล้วตั้งหลายรอบ แต่ก็ยังดึงดันเถียง จะให้ผมรออีก 3 วัน ซึ่งทำให้ผมเสียเวลามากๆ และอีกอย่างคือในตอนแรกเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเครื่องรุ่นนี้หมดสต๊อก แต่ตอนหลังบอกว่ายังมีสีดำเหลือ ผมเลยขอพบผู้จัดการ
เจ้าหน้าที่จึงไปตามผู้จัดการออกมาพบ คนที่ออกมาพบผมคือคุณเพ็ญนภา ซึ่งตอนแรกผมคิดว่าเป็นผู้จัดการ เพิ่งมาทราบตอนหลังว่าคุณเพ็ญนภา เป็น Supervisor ยอมรับว่าตอนที่พบคุณเพ็ญนภาตอนนั้นผมเสียความรู้สึกมาก แต่ก็พยามคุมอารมณ์ แจ้งปัญหากับคุณเพ็ญนภาด้วยเหตุผล และแจ้งไปตามตรงถึงสาเหตุที่เสียอารมณ์และขอพบคุณเพ็ญนภา
คุณเพ็ญนภาพยามขอโทษในความผิดพลาด ผมก็รับฟัง และพูดระบายความรู้สึกให้คุณเพ็ญนภารับทราบ ซึ่งคุณเพ็ญนภาก็พยามรับฟังและอาสาที่จะหาเครื่องสีขาวจากช็อปอื่นให้ ซึ่งผมแจ้งคุณเพ็ญนภาว่าผมเข้าใจกรณีสินค้าหมด แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจคือสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำ ผมรับไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่คนนั้นรู้ไม่จริงแล้วพยามโต้เถียงโดยไม่ฟังเหตุผล ผมคุยกับคุณเพ็ญนภาตามตรงว่าลูกค้านั้นไม่ใช่พระเจ้า ลูกค้าก็แค่คนธรรมดาสามัญทั่วไป การที่เครื่องหมดสต๊อกนั้นผมเข้าใจ แต่ธรรมชาติสร้างคนเรามาให้มี 2 หู 1 ปาก เพื่อให้เราฟังให้มากกว่าพูด ทำไมเจ้าหน้าที่คนนั้นไม่พยามรับฟังเลย ทำไมไม่หาข้อมูลเลย ผมยืนคุยกับคุณเพ็ญนภาพักใหญ่ คุณเพ็ญนภาก็เลยบอกว่าจะลองติดต่อช็อปอื่นดูว่ามีสีขาวมั๊ย ผมก็บอกว่าขอบคุณมากและรบกวนคุณเพ็ญนภาช่วยดูให้หน่อย ถ้ามีก็ดี ไม่มีก็ไม่เป็นไร ผมรอได้
คุณเพ็ญนภาก็พยามติดต่อทุกช่องทาง แต่ไม่สามารถหาเครื่องสีขาวได้จริงๆ ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร ผมเข้าใจ แต่ขอคุยเพื่อปรับความเข้าใจหน่อย เพื่อให้คุณเพ็ญนภาจะได้นำข้อมูลจากผมไปปรับปรุงการให้บริการของทางช็อป ซึ่งคุณเพ็ญนภาก็รับฟังอย่างใจเย็น และระหว่างที่คุยกัน คุณ Jason ก็ติดต่อเข้ามาเป็นระยะ
การได้พูดคุยกับคุณเพ็ญนภา ทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความจริงใจ ผมจึงตัดสินใจซื้อเครื่องสีดำมา คุณเพ็ญนภากล่าวแสดงความเสียใจ และขอแสดงน้ำใจด้วยการมอบค่าโทรฟรีให้ แต่ผมปฏิเสธ เพราะสำหรับผมแล้ว สิ่งตอบแทนที่ทำให้มีความสุขไม่ใช่ค่าโทร แต่ผมได้รับสิ่งล้ำค่ามากที่สุดกลับมาแล้ว นั่นคือน้ำใจ และ ความจริงใจ ของคุณเพ็ญนภานั่นเอง
ผมไม่ใช่คนดื้อดึงถึงขนาดที่จะให้หาเครื่องสีขาวมาให้ เพราะเข้าใจว่าของหมด ถ้าตอนแรกเจ้าหน้าที่ยอมรับฟัง และไปตรวจสอบสิทธิ์ให้ผมอย่างจริงจัง รวมทั้งแจ้งข้อมูลที่เป็นจริงกับผมมาตามตรง ผมก็คงตัดสินใจซื้อเครื่องสีดำไปนานแล้ว ไม่ต้องมาขอพบกับคุณเพ็ญนภาแบบนี้
คิดดูง่ายๆว่าหากผมไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด และเชื่อคำที่เจ้าหน้าที่บอก กลับมา แล้วอีก 3 วัน ค่อยกลับเข้าไป ผมจะเสียเวลาขนาดไหน
คิดในแง่ร้ายหากวันที่เข้าไปเครื่องในสุราษฎร์หมดสต๊อกทั้งสีขาว และ สีดำ ผมจะทำยังไง ใครรับผิดชอบในความผิดพลาดครั้งนี้
หรือคิดในแง่ร้ายไปอีกว่าถ้าอีก 3 วัน ผมเดินทางไป แล้วเกิดอุบัติเหตุขณะเดินทาง จะทำยังไง
แต่โลกไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น คนเราผิดพลาดกันได้ อาจจะด้วยวุฒิภาวะ หรือประสบการณ์ชีวิตที่ยังน้อย หรือเพราะอะไรก็ตาม คนทำผิดก็สมควรได้รับโอกาสแก้ตัว ตลอดเวลาที่พูดคุย ผมเน้นย้ำกับคุณเพ็ญนภาว่าที่ผมร้องเรียนนี้ ไม่ใช่ต้องการให้มีการลงโทษทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ผู้นั้น ผมเพียงแค่ต้องการให้คุณเพ็ญนภาไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่คนนั้นให้เข้าใจการทำงาน การใช้ชีวิต คนเราไม่ได้รู้ไปหมดทุกเรื่อง ความจำไม่อาจจำรายละเอียดได้ทั้งหมด สิ่งไหนไม่รู้ก็ให้ไปหาข้อมูลมาก่อนแล้วค่อยตอบ ไม่ใช่ยืนยัน ดื้อรั้น ที่จะยึดเอาความคิดตนเองเป็นหลัก คนเราทุกคนมี 2 หู 1 ปาก เพราะธรรมชาติอยากให้เราฟังให้มากกว่าพูด อย่าได้แบ่งแยกลูกค้าด้วยฐานะจน รวย ในมุมของผมเองก็มีมุมที่เป็นผู้ให้บริการ ผมอาจจบแค่ ป.4 ผมเป็นแค่เด็กเลี้ยงควาย แต่ไม่ว่าลูกค้าจะมาซื้อหญ้าหรือซื้อควายยกคอก ผมก็ให้บริการเหมือนกันหมด หน้าที่ของผู้ขายไม่ใช่การเอาชนะลูกค้า แต่คือทำให้ลูกค้าเอาเงินในกระเป๋าออกมาด้วยความเต็มใจ ทั้งในขณะการขาย-หลังการขาย และทำให้ลูกค้าเดินเอาเงินในกระเป๋ามาให้เราได้อีกครั้งด้วยความเต็มใจ และได้รับรอยยิ้มกลับไปในทุกๆครั้ง นั่นต่างหากคือชัยชนะของผู้ขายหรือผู้ให้บริการ รอยยิ้ม ความสุข ของผู้ให้บริการ และ ผู้รับบริการ คือสิ่งสำคัญที่สุด
ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อขอบคุณ คุณเพ็ญนภา และ คุณ Jason ด้วยความจริงใจ
ขอบคุณ คุณ Jason และเจ้าหน้าที่ Call Center คนอื่นๆ ที่ช่วยติดตามดูแลสิทธิ์ให้ผมอย่างดี
ขอบคุณ คุณเพ็ญนภา Supervisor ประจำ AIS ช็อป สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า สุราษฎร์ธานี ที่รับฟังถึงปัญหา และพยามแก้ไขปัญหาด้วยความจริงใจ เพราะตอนนั้นความรู้สึกของผมซึ่งเป็นลูกค้านั้นเสียไปมาก แทบจะขอย้ายค่ายคืน ยอมใช้เครือข่ายอื่นทั้งๆที่สัญญาณไม่ครอบคลุมพื้นที่ที่ผมต้องการใช้งาน และแทบจะไม่รับสิทธิ์ซื้อเครื่อง ยอมซื้อเครื่องแพงดีกว่าที่จะมาเสียความรู้สึกแบบนี้ แต่ผมเปลี่ยนความคิดนั้น เพราะไมตรีจิตรที่คุณเพ็ญนภา ขอชื่นชมในน้ำใจ และ ความจริงใจ ของคุณเพ็ญนภาด้วยใจจริง ผมมั่นใจว่าอย่างน้อยๆ วันนี้ AIS ก็มีบุคลากรที่มีคุณภาพที่สุดคนนึงอยู่ในมือแล้ว รักษาบุคคลากรที่มีคุณภาพแบบคุณเพ็ญนภาไว้ให้ดี บุคลากรแบบนี้จะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และพยายามพัฒนาคุณภาพของบุคลากรอื่นให้ ให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพแบบคุณเพ็ญนภา เพราะสำหรับผมแล้วคุณเพ็ญนภาคือผู้ให้บริการศักยภาพสูงที่ควรค่าแก่การยกย่อง ขอบขอบคุณ คุณเพ็ญนภา ด้วยใจจริงครับ
สุดท้ายผมขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า ในฐานะลูกค้า ผมขอ AIS อย่าได้ลงโทษทางวินัยกับพนักงานคนนั้น คนเราทุกคนผิดพลาดกันได้ ให้เค้าเก็บเรื่องราวในวันนี้เป็นประสบการณ์ชีวิต ขอให้พูดคุยกันด้วยเหตุผล อย่าได้มีการตำหนิ ผมเชื่อว่าหากเค้าคิดได้ ต่อไปข้างหน้าเค้าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง และเชื่อว่าหากให้เค้าทำงานที่ช็อป AIS สาขาเซ็นทรัล พลาซ่า สุราษฎร์ธานีต่อไป คุณเพ็ญนภาจะพัฒนาให้เค้าเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของ AIS ได้แน่นอน
ท้ายที่สุด ผมขอยอมรับในความผิดพลาดของตัวเอง ยอมรับว่าวันนี้ผมอารมณ์เสีย พูดเสียงดัง และมีคำพูดบางคำที่ไม่สมควรใช้ออกไป สิ่งที่ผิดพลาดในวันนี้ก็จะเป็นบทเรียนสอนตัวผมเองให้ระงับอารมณ์ให้ดีกว่านี้ แม้ว่าการมาพิมพ์ข้อความในนี้จะไปสามารถสื่อสารถึงทุกๆท่านได้ แต่ผมขอโทษเจ้าหน้าที่ช็อป AIS สาขาเซ็นทรัล พลาซ่า สุราษฎร์ธานี , เจ้าหน้าที่ Call Center ของ AIS และลูกค้าผู้เข้าใช้บริการทุกท่าน หากคำพูด หรือ กิริยาใดๆของผม ทำให้ท่านรู้สึกไม่ดี ผมต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย ขอบคุณครับ
กระทู้ชื่นชม คุณเพ็ญนภา Supervisor AIS สาขา เซ็นทรัลพลาซ่า สุราษฎร์ธานี และคุณ Jason CC AIS @ Pantip
เข้าเรื่องครับ เรื่องมีอยู่ว่าช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา(วันที่ 14 และ 15 เมษายน 2557) ผมได้เข้าไปขอย้ายค่ายมือถือจาก TrueMove จำนวน 2 เบอร์ และ Dtac จำนวน 1 เบอร์ รวมเป็น 3 เบอร์ เข้าสู่ระบบของ AIS ด้วยเหตุผลด้านความครอบคลุมของสัญญาณ เพราะผมต้องเดินทางไปหลายพื้นที่ ซึ่งในบางพื้นที่นั้นไม่ได้มีสัญญาณครบทุกเครือข่าย แต่สัญญาณ AIS นั้นครอบคลุมพื้นที่ที่ผมเดินทางไปประจำทั้งหมด ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้บริการของ AIS แทน
แรกเริ่มเดิมทีนั้นผมคิดแค่ว่าจะย้ายค่ายธรรมดา แต่พอเข้าไปในศูนย์บริการของ AIS ก็ไปเห็นป้ายติดอยู่ว่ามีโปรโมชั่นซื้อเครื่องในราคาถูก
เมื่อเห็นโปรโมชั่นนั้น ผมสนใจที่จะซื้อ Samsung Galaxy Grand 2 ซึ่งลดราคาเครื่องมาขายในราคา 5,950 บาท ผมก็เลยศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับโปรโมชั่นนี้ สรุปคือ
- ผมสามารถซื้อเครื่องได้ในราคา 5,950 บาท
- ผมต้องชำระค่าบริการล่วงหน้าเป็นเวลา 6 เดือน เดือนละ 599 บาท เป็นเงิน 3,594 บาท (+VAT 7% = 251.58 บาท) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,845.58 บาท
- รวมแล้วผมจะต้องจ่ายเงินรวมทั้งสิ้น 9795.58 บาท ตีเป็นเลขกลมๆก็คือ 9800 บาท
- สัญญานี้มีระยะเวลา 1 ปี
- โปรโมชั่นนี้สิ้นสุด 30 เมษายน 2557
เพราะ Samsung Galaxy Grand 2 สามารถใส่ได้ 2 ซิม และด้วยความที่ขี้เกียจที่จะพกโทรศัพท์และที่ชาร์ตหลายเครื่อง และด้วยโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ผมเลยขอรับสิทธิ์นี้กับทางช็อป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ช็อปแจ้งว่าตามระเบียบแล้วให้เปลี่ยนย้ายเครือข่ายให้สมบูรณ์ก่อน แล้วจึงค่อยมาขอรับสิทธิ์ ผมเลยตกลงตามข้อตกลงนั้น
ขณะที่รอให้มีการโอนย้ายเครือข่ายสำเร็จผมจึงได้มาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และได้ติดต่อไปยังคุณ Jason ซึ่งเป็น CC AIS ในเวป pantip.com เพื่อสอบถามถึงการรับสิทธิ์อย่างละเอียดอีกครั้ง คุณ Jason แจ้งผมมาว่าทันทีที่ผมได้รับอนุมัติเปลี่ยนย้ายเครือข่าย และ สามารถใช้ซิมการ์ด AIS ได้แล้ว ผมสามารไปขอรับสิทธิ์ที่ช็อป AIS ได้ในวันนั้นทันที ซึ่งผมเน้นย้ำวันรับสิทธิ์อย่างชัดเจน
วันนี้ตอนเช้า ผมตื่นมาพบข้อความแจ้งการย้ายเครือข่ายสำเร็จแล้วจากทาง AIS และ Dtac ผมจึงโทรไปถาม Call Center ของ AIS ว่าสามารถรับสิทธิ์ได้ในวันนี้เลยหรือไม่อีกครั้งเพื่อความชัวร์ จะได้ไม่เสียเวลาในการเดินทางไปรับสิทธิ์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าสามารถรับสิทธิ์ได้ในวันนี้เลย
เมื่อเสร็จงานผมจึงเดินทางเข้าไปที่ ช็อป AIS เซ็นทรัล พลาซ่า สุราษฎร์ธานี เพื่อขอรับสิทธิ์ แต่เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่กลับแจ้งว่าผมต้องรอสามวันหลังการโอนย้าย และต้องตอบกลับ SMS เพื่อยืนยันสิทธิ์
ผมจึงแจ้งว่าผมโทรปรึกษา Call Center แล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งว่าสามารถรับสิทธิ์ได้เลย แต่เจ้าหน้าที่ของช็อปก็ยังยืนยันคำเดิม ยืนถกกันอยู่นาน เจ้าหน้าที่ช็อปเข้าไปตรวจสอบข้อมูลสองครั้ง แต่ก็ยังยืนยันคำเดิม พร้อมแจ้งว่าเครื่อง Samsung Galaxy Grand 2 สีขาวที่ผมต้องการนั้นหมดสต๊อก
ผมถามว่าสีดำมีมั๊ย แต่เค้ายืนยันว่าเครื่อง Samsung Galaxy Grand 2 รุ่นนี้ไม่มีเหลือในสต๊อกเลย และผมต้องรออีก 3 วัน ถึงจะได้รับสิทธิ์ ผมเลยโทรไปสอบถาม Call Center อีกครั้ง เจ้าหน้าที่ Call Center ก็ยืนยันว่ารับสิทธิ์ได้
จึงกลายเป็นการโต้เถียงกันระหว่างผมกับเจ้าหน้าที่ช็อป ซึ่งเค้ายังยืนยันว่าผมยังไม่ได้รับสิทธิ์ และอีก 3 วัน ให้ผมเดินทางไปอีกครั้งเพื่อรับสิทธิ์ ผมจึงโทรหา Call Center และให้คุยกับเจ้าหน้าที่ช็อป แต่ถึงแม้ Call Center จะอธิบายว่าผมได้รับสิทธิ์แล้ว เจ้าหน้าที่ช็อปก็ยังแย้ง และขอเข้าไปดูรายละเอียดอีกครั้ง(เป็นครั้งที่ 3)
เมื่ออกมาเจ้าหน้าที่แจ้งผมว่าได้ไปคุยกับผู้จัดการแล้ว และตอนนี้ผมได้รับสิทธิ์นั้นแล้ว ผมเลยถามว่าสิทธิ์ที่ได้นั้นเป็นสิทธิ์ที่ผมพึงมี หรือเป็นการขอสิทธิ์เป็นรายกรณี เจ้าหน้าที่แจ้งว่าผมได้รับสิทธิ์นั้นอยู่แล้ว ตนเองจำผิด แต่ตอนนี้เครื่องสีขาวหมด เหลือแต่สีดำ
ถึงตอนนี้ผมอารมณ์เสียมาก และยอมรับผิดว่าพูดจาด้วยอารมณ์ เสียอารมณ์เพราะเจ้าหน้าที่จำผิด ไม่มีข้อมูล ผมอุตส่าห์แจ้งข้อมูลไปแล้ว และเจ้าหน้าที่เองได้เข้าไปดูข้อมูลแล้วตั้งหลายรอบ แต่ก็ยังดึงดันเถียง จะให้ผมรออีก 3 วัน ซึ่งทำให้ผมเสียเวลามากๆ และอีกอย่างคือในตอนแรกเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเครื่องรุ่นนี้หมดสต๊อก แต่ตอนหลังบอกว่ายังมีสีดำเหลือ ผมเลยขอพบผู้จัดการ
เจ้าหน้าที่จึงไปตามผู้จัดการออกมาพบ คนที่ออกมาพบผมคือคุณเพ็ญนภา ซึ่งตอนแรกผมคิดว่าเป็นผู้จัดการ เพิ่งมาทราบตอนหลังว่าคุณเพ็ญนภา เป็น Supervisor ยอมรับว่าตอนที่พบคุณเพ็ญนภาตอนนั้นผมเสียความรู้สึกมาก แต่ก็พยามคุมอารมณ์ แจ้งปัญหากับคุณเพ็ญนภาด้วยเหตุผล และแจ้งไปตามตรงถึงสาเหตุที่เสียอารมณ์และขอพบคุณเพ็ญนภา
คุณเพ็ญนภาพยามขอโทษในความผิดพลาด ผมก็รับฟัง และพูดระบายความรู้สึกให้คุณเพ็ญนภารับทราบ ซึ่งคุณเพ็ญนภาก็พยามรับฟังและอาสาที่จะหาเครื่องสีขาวจากช็อปอื่นให้ ซึ่งผมแจ้งคุณเพ็ญนภาว่าผมเข้าใจกรณีสินค้าหมด แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจคือสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำ ผมรับไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่คนนั้นรู้ไม่จริงแล้วพยามโต้เถียงโดยไม่ฟังเหตุผล ผมคุยกับคุณเพ็ญนภาตามตรงว่าลูกค้านั้นไม่ใช่พระเจ้า ลูกค้าก็แค่คนธรรมดาสามัญทั่วไป การที่เครื่องหมดสต๊อกนั้นผมเข้าใจ แต่ธรรมชาติสร้างคนเรามาให้มี 2 หู 1 ปาก เพื่อให้เราฟังให้มากกว่าพูด ทำไมเจ้าหน้าที่คนนั้นไม่พยามรับฟังเลย ทำไมไม่หาข้อมูลเลย ผมยืนคุยกับคุณเพ็ญนภาพักใหญ่ คุณเพ็ญนภาก็เลยบอกว่าจะลองติดต่อช็อปอื่นดูว่ามีสีขาวมั๊ย ผมก็บอกว่าขอบคุณมากและรบกวนคุณเพ็ญนภาช่วยดูให้หน่อย ถ้ามีก็ดี ไม่มีก็ไม่เป็นไร ผมรอได้
คุณเพ็ญนภาก็พยามติดต่อทุกช่องทาง แต่ไม่สามารถหาเครื่องสีขาวได้จริงๆ ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร ผมเข้าใจ แต่ขอคุยเพื่อปรับความเข้าใจหน่อย เพื่อให้คุณเพ็ญนภาจะได้นำข้อมูลจากผมไปปรับปรุงการให้บริการของทางช็อป ซึ่งคุณเพ็ญนภาก็รับฟังอย่างใจเย็น และระหว่างที่คุยกัน คุณ Jason ก็ติดต่อเข้ามาเป็นระยะ
การได้พูดคุยกับคุณเพ็ญนภา ทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความจริงใจ ผมจึงตัดสินใจซื้อเครื่องสีดำมา คุณเพ็ญนภากล่าวแสดงความเสียใจ และขอแสดงน้ำใจด้วยการมอบค่าโทรฟรีให้ แต่ผมปฏิเสธ เพราะสำหรับผมแล้ว สิ่งตอบแทนที่ทำให้มีความสุขไม่ใช่ค่าโทร แต่ผมได้รับสิ่งล้ำค่ามากที่สุดกลับมาแล้ว นั่นคือน้ำใจ และ ความจริงใจ ของคุณเพ็ญนภานั่นเอง
ผมไม่ใช่คนดื้อดึงถึงขนาดที่จะให้หาเครื่องสีขาวมาให้ เพราะเข้าใจว่าของหมด ถ้าตอนแรกเจ้าหน้าที่ยอมรับฟัง และไปตรวจสอบสิทธิ์ให้ผมอย่างจริงจัง รวมทั้งแจ้งข้อมูลที่เป็นจริงกับผมมาตามตรง ผมก็คงตัดสินใจซื้อเครื่องสีดำไปนานแล้ว ไม่ต้องมาขอพบกับคุณเพ็ญนภาแบบนี้
คิดดูง่ายๆว่าหากผมไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด และเชื่อคำที่เจ้าหน้าที่บอก กลับมา แล้วอีก 3 วัน ค่อยกลับเข้าไป ผมจะเสียเวลาขนาดไหน
คิดในแง่ร้ายหากวันที่เข้าไปเครื่องในสุราษฎร์หมดสต๊อกทั้งสีขาว และ สีดำ ผมจะทำยังไง ใครรับผิดชอบในความผิดพลาดครั้งนี้
หรือคิดในแง่ร้ายไปอีกว่าถ้าอีก 3 วัน ผมเดินทางไป แล้วเกิดอุบัติเหตุขณะเดินทาง จะทำยังไง
แต่โลกไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น คนเราผิดพลาดกันได้ อาจจะด้วยวุฒิภาวะ หรือประสบการณ์ชีวิตที่ยังน้อย หรือเพราะอะไรก็ตาม คนทำผิดก็สมควรได้รับโอกาสแก้ตัว ตลอดเวลาที่พูดคุย ผมเน้นย้ำกับคุณเพ็ญนภาว่าที่ผมร้องเรียนนี้ ไม่ใช่ต้องการให้มีการลงโทษทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ผู้นั้น ผมเพียงแค่ต้องการให้คุณเพ็ญนภาไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่คนนั้นให้เข้าใจการทำงาน การใช้ชีวิต คนเราไม่ได้รู้ไปหมดทุกเรื่อง ความจำไม่อาจจำรายละเอียดได้ทั้งหมด สิ่งไหนไม่รู้ก็ให้ไปหาข้อมูลมาก่อนแล้วค่อยตอบ ไม่ใช่ยืนยัน ดื้อรั้น ที่จะยึดเอาความคิดตนเองเป็นหลัก คนเราทุกคนมี 2 หู 1 ปาก เพราะธรรมชาติอยากให้เราฟังให้มากกว่าพูด อย่าได้แบ่งแยกลูกค้าด้วยฐานะจน รวย ในมุมของผมเองก็มีมุมที่เป็นผู้ให้บริการ ผมอาจจบแค่ ป.4 ผมเป็นแค่เด็กเลี้ยงควาย แต่ไม่ว่าลูกค้าจะมาซื้อหญ้าหรือซื้อควายยกคอก ผมก็ให้บริการเหมือนกันหมด หน้าที่ของผู้ขายไม่ใช่การเอาชนะลูกค้า แต่คือทำให้ลูกค้าเอาเงินในกระเป๋าออกมาด้วยความเต็มใจ ทั้งในขณะการขาย-หลังการขาย และทำให้ลูกค้าเดินเอาเงินในกระเป๋ามาให้เราได้อีกครั้งด้วยความเต็มใจ และได้รับรอยยิ้มกลับไปในทุกๆครั้ง นั่นต่างหากคือชัยชนะของผู้ขายหรือผู้ให้บริการ รอยยิ้ม ความสุข ของผู้ให้บริการ และ ผู้รับบริการ คือสิ่งสำคัญที่สุด
ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อขอบคุณ คุณเพ็ญนภา และ คุณ Jason ด้วยความจริงใจ
ขอบคุณ คุณ Jason และเจ้าหน้าที่ Call Center คนอื่นๆ ที่ช่วยติดตามดูแลสิทธิ์ให้ผมอย่างดี
ขอบคุณ คุณเพ็ญนภา Supervisor ประจำ AIS ช็อป สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า สุราษฎร์ธานี ที่รับฟังถึงปัญหา และพยามแก้ไขปัญหาด้วยความจริงใจ เพราะตอนนั้นความรู้สึกของผมซึ่งเป็นลูกค้านั้นเสียไปมาก แทบจะขอย้ายค่ายคืน ยอมใช้เครือข่ายอื่นทั้งๆที่สัญญาณไม่ครอบคลุมพื้นที่ที่ผมต้องการใช้งาน และแทบจะไม่รับสิทธิ์ซื้อเครื่อง ยอมซื้อเครื่องแพงดีกว่าที่จะมาเสียความรู้สึกแบบนี้ แต่ผมเปลี่ยนความคิดนั้น เพราะไมตรีจิตรที่คุณเพ็ญนภา ขอชื่นชมในน้ำใจ และ ความจริงใจ ของคุณเพ็ญนภาด้วยใจจริง ผมมั่นใจว่าอย่างน้อยๆ วันนี้ AIS ก็มีบุคลากรที่มีคุณภาพที่สุดคนนึงอยู่ในมือแล้ว รักษาบุคคลากรที่มีคุณภาพแบบคุณเพ็ญนภาไว้ให้ดี บุคลากรแบบนี้จะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และพยายามพัฒนาคุณภาพของบุคลากรอื่นให้ ให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพแบบคุณเพ็ญนภา เพราะสำหรับผมแล้วคุณเพ็ญนภาคือผู้ให้บริการศักยภาพสูงที่ควรค่าแก่การยกย่อง ขอบขอบคุณ คุณเพ็ญนภา ด้วยใจจริงครับ
สุดท้ายผมขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า ในฐานะลูกค้า ผมขอ AIS อย่าได้ลงโทษทางวินัยกับพนักงานคนนั้น คนเราทุกคนผิดพลาดกันได้ ให้เค้าเก็บเรื่องราวในวันนี้เป็นประสบการณ์ชีวิต ขอให้พูดคุยกันด้วยเหตุผล อย่าได้มีการตำหนิ ผมเชื่อว่าหากเค้าคิดได้ ต่อไปข้างหน้าเค้าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง และเชื่อว่าหากให้เค้าทำงานที่ช็อป AIS สาขาเซ็นทรัล พลาซ่า สุราษฎร์ธานีต่อไป คุณเพ็ญนภาจะพัฒนาให้เค้าเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของ AIS ได้แน่นอน
ท้ายที่สุด ผมขอยอมรับในความผิดพลาดของตัวเอง ยอมรับว่าวันนี้ผมอารมณ์เสีย พูดเสียงดัง และมีคำพูดบางคำที่ไม่สมควรใช้ออกไป สิ่งที่ผิดพลาดในวันนี้ก็จะเป็นบทเรียนสอนตัวผมเองให้ระงับอารมณ์ให้ดีกว่านี้ แม้ว่าการมาพิมพ์ข้อความในนี้จะไปสามารถสื่อสารถึงทุกๆท่านได้ แต่ผมขอโทษเจ้าหน้าที่ช็อป AIS สาขาเซ็นทรัล พลาซ่า สุราษฎร์ธานี , เจ้าหน้าที่ Call Center ของ AIS และลูกค้าผู้เข้าใช้บริการทุกท่าน หากคำพูด หรือ กิริยาใดๆของผม ทำให้ท่านรู้สึกไม่ดี ผมต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย ขอบคุณครับ