สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 206
ตามอ่านจนจบ ไม่รู้สินะว่าคนอื่นรู้สึกเหมือนกันไหม
แต่ผมอ่านไปรู้สึกว่า จขกท คุณจะจิ้น คุณจะฟินไปไหน
คือเรื่องที่เล่าไม่เห็นมีตรงไหนน่าหัวเราะ ไม่เห็นตรงไหนที่มันน่าฟิน สำหรับคนมีครอบครัวเลย
เล่าไปหัวเราะไป ขอโทษเถอะ ผมรู้สึกสมเพชมากกว่าเสียอีก
ถึงคุณจะบอกว่า ตั้งกำแพงไว้สูง มันก็แค่คำน้ำเน่าที่พ่นออกมากแค่นั้นแหละ
ทั้งที่จริงจากที่เล่ามา ไปหมด ไม่เหลือแล้วใจน่ะ ยังขาดแต่ต่ัวนี่แหละที่ยังไม่ไปอยู่กะชู้
สามีพึ่งไม่ได้ ไม่ช่วยเหลือ ทำไมไม่เลิกตั้งแต่แรกละครับ ปล่อยใจตัวเองให้มีถึงตรงนี้ทำไม
เข้าใจนะว่าชีวิตมันต้องกินต้องใช้ ชีวิตก็เหมือนก๋วยเตี๋ยวแหละ ถึงมันจะไม่อร่อยยังไง เมื่อปรุงมันแล้ว
ก็เททิ้งให้มันเสร็จแล้วค่อยไปเอาเตี่ยวมาปรุงใหม่
และก็ขอเถอะ แมนๆ หน่อย ไปบอกสามีน่ะ อย่าไปอ้างว่า เค้าไม่ดียังงั้นยังงี้ พึ่งไม่ได้
บอกไปตรงๆ ว่าตอนนี้ ฉันมีชู้ และรู้สึกว่า่รักชู้มากกว่าคุณ คงไม่อาจอยู่ด้วยกันได้ (ขอหยาบหน่อยนะตรงนี้)
เมื่อมีครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 เชื่อเหรอะว่าครั้งต่อๆไปจะไม่มี อย่าโยนบาปให้ผู้ชายฝ่ายเดียว
ที่ทำครอบครัวล้มเหลว เพราะถึงสามีจะไม่ได้เรื่องแค่ไหน เขาไม่ควรได้รับการตอบแทนด้วยการมีชู้
จบนะ
แต่ผมอ่านไปรู้สึกว่า จขกท คุณจะจิ้น คุณจะฟินไปไหน
คือเรื่องที่เล่าไม่เห็นมีตรงไหนน่าหัวเราะ ไม่เห็นตรงไหนที่มันน่าฟิน สำหรับคนมีครอบครัวเลย
เล่าไปหัวเราะไป ขอโทษเถอะ ผมรู้สึกสมเพชมากกว่าเสียอีก
ถึงคุณจะบอกว่า ตั้งกำแพงไว้สูง มันก็แค่คำน้ำเน่าที่พ่นออกมากแค่นั้นแหละ
ทั้งที่จริงจากที่เล่ามา ไปหมด ไม่เหลือแล้วใจน่ะ ยังขาดแต่ต่ัวนี่แหละที่ยังไม่ไปอยู่กะชู้
สามีพึ่งไม่ได้ ไม่ช่วยเหลือ ทำไมไม่เลิกตั้งแต่แรกละครับ ปล่อยใจตัวเองให้มีถึงตรงนี้ทำไม
เข้าใจนะว่าชีวิตมันต้องกินต้องใช้ ชีวิตก็เหมือนก๋วยเตี๋ยวแหละ ถึงมันจะไม่อร่อยยังไง เมื่อปรุงมันแล้ว
ก็เททิ้งให้มันเสร็จแล้วค่อยไปเอาเตี่ยวมาปรุงใหม่
และก็ขอเถอะ แมนๆ หน่อย ไปบอกสามีน่ะ อย่าไปอ้างว่า เค้าไม่ดียังงั้นยังงี้ พึ่งไม่ได้
บอกไปตรงๆ ว่าตอนนี้ ฉันมีชู้ และรู้สึกว่า่รักชู้มากกว่าคุณ คงไม่อาจอยู่ด้วยกันได้ (ขอหยาบหน่อยนะตรงนี้)
เมื่อมีครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 เชื่อเหรอะว่าครั้งต่อๆไปจะไม่มี อย่าโยนบาปให้ผู้ชายฝ่ายเดียว
ที่ทำครอบครัวล้มเหลว เพราะถึงสามีจะไม่ได้เรื่องแค่ไหน เขาไม่ควรได้รับการตอบแทนด้วยการมีชู้
จบนะ
ความคิดเห็นที่ 156
หลังจากจบไป3ครั้งนั้น ดิฉันตัดสินใจเด็ดขาดว่า หากจะคบกับพี่ทีจริงๆต้องเลิกกันให้เด็ดขาดก่อนกับสามี ดิฉันต้องเครียตัวเองก่อน เลยโทรคุยกับพ่อแม่เรื่องสามี แต่พ่อแม่ขอให้อดทนประคับประคองกันไป ส่วนเราพอไปขอเลิกกับสามีเค้าไม่ยอมเลิกค่ะ เราบอกเค้าไปทั้งหมดว่าเรารู้สึกยังไง ที่เค้าทำกับเราแบบนี้ ความอดทนเราหมดแล้ว คือเค้าคิดว่าพ่อแม่เราอยู่ข้างเค้า ยังไงๆเค้าก้อไม่ยอมเลิก เราไม่ได้จดทะเบียนกันค่ะ ณ ตอนนี้คือเรายังรักสามีน่ะคะ เพียงแต่ว่ามันแย่มากๆในสิ่งที่เราเจอมาตลอด และคิดว่าคงอยู่ร่วมกันต่อไปไม่ได้
ในเมื่อเค้าไม่ยอมเลิก เราตัดสินใจดูแลธุรกิจของเราโดยไม่ให้เค้าเข้ามาช่วยอีก เราตัดเค้าออกไปจากชีวิต เค้าโทรมาเราไม่รับสาย บ้าน รถ เค้าอยากอยู่ อยากขับไปก้อตามสบายเราผ่อนให้ เพียงแต่วันหนึงเราคงไปทวงทุกอย่างของเราคืน ตอนนี้เราแยกกันอยู่กับสามีสักพักใหญ่แล้ว มีคิดถึงไหม มีบ่อยค่ะ ยังรักไหมแน่นอนต้องผูกพันธุ์ ยังตัดไม่ขาด
เราออกมาเช่าอพาร์ทเม้นท์ใกล้ที่ทำงาน ออกมาอยู่คนเดียว สำหรับพี่ที เราได้คุยกับพี่ทีว่า
ตอนนี้เราแค่แยกกันอยู่กับสามีและอนาคตก้อคงต้องเลิกกันแน่นอน เราบอกว่า เราไม่ได้ขอให้พี่รอว่าวันหนึงเราจะเป็นอิสระแล้วเราจะได้คบกัน เราบอกว่า เรายังเข็ดหลาบกับชีวิตคู่
ยังไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่กับใคร อีกอย่างสถานะเราคือ คนที่เต่งงานแล้วชีวิตคู่ล้มเหลว
เรามีกำแพงที่กั้นสูงมาก ที่จะให้ใครสักคนนึงข้ามมาอยู่ด้วยกัน เราคิดมากว่าคนคนนั้นจะรักเราจริงไหม หรือจะแค่หลอกเรา เราบอกว่าอย่ารอเลย เราไม่รู้ว่าจะพร้อมเมื่อไหร่ ถ้าในระหว่างทางที่พี่เจอใครแล้วถูกใจ ก้อขอให้เริ่มต้นส่ะ พี่ทีตอบว่า อย่าพูดถึงวันข้างหน้า พี่ทำวันนี้ให้ดี แล้วให้....(ชื่อเรา) ตัดสินใจ
บทสรุปน่ะค่ะ
- ตอนนี้ เราแยกกันอยู่กับสามี เราอยู่อพาร์ทเม้นท์ใกล้ที่ทำงาน
- ไม่ได้ไปที่คอนโดพี่ทีอีกเลยค่ะ แต่ยังเจอกันที่ทำงานเรื่อยๆไปทานข้าวเที่ยง เย็น ด้วยกันเหมือนเดิม
- พี่ที ยังดีกับเราเสมอค่ะ แม้จะได้แอ้มเราไป3ครั้ง แต่ไม่มีอะไรแปลกไป คือยังดีกับเราเสมอต้นเสมอปลาย อนาคตไม่รู้ค่ะ
- พี่ที บอกเราว่า ณ เวลานี้กำลังตามจีบเรา เพื่อขอให้เราเปิดใจ และบอกว่ารับได้ที่เราเคยผ่านการแต่งงานมา
- ณ ตอนนี้ เรายังไม่รู้ใจตัวเองเลยค่ะ ว่าควรจะเอายังไงดี แต่ที่แน่ๆคือคงอยู่ด้วยกันกับสามีไม่ได้อีกแล้ว เพราะที่ผ่านมาอดทนและมันก้อหมดแล้วค่ะความอดทน
- ข้อสุดท้ายฟินก่อนนอน พี่ทีบอกว่ารักเราตั้งแต่ตามจีบตอนเราอยู่ตอนปี1 และรักมาตลอดจนถึงวันนี้ ไม่รู้ว่าแค่คารมรึเปล่าน่ะค่ะ แต่ก้อฟินดีค่ะ
จบแล้วค่ะ ขอบคุณุกๆคอมเม้นท์น่ะค่ะ ขอบคุณที่ติดตามอ่าน ขอบคุณทุกกำลังใจ
อยากฝากไว้นิดหนึงว่า ก่อนจะแต่งงานกับใครสักคน ขอให้พร้อมที่สุด ความพร้อมที่สำคัญที่สุด คือความพร้อมทางด้านจิตใจคะ
ในเมื่อเค้าไม่ยอมเลิก เราตัดสินใจดูแลธุรกิจของเราโดยไม่ให้เค้าเข้ามาช่วยอีก เราตัดเค้าออกไปจากชีวิต เค้าโทรมาเราไม่รับสาย บ้าน รถ เค้าอยากอยู่ อยากขับไปก้อตามสบายเราผ่อนให้ เพียงแต่วันหนึงเราคงไปทวงทุกอย่างของเราคืน ตอนนี้เราแยกกันอยู่กับสามีสักพักใหญ่แล้ว มีคิดถึงไหม มีบ่อยค่ะ ยังรักไหมแน่นอนต้องผูกพันธุ์ ยังตัดไม่ขาด
เราออกมาเช่าอพาร์ทเม้นท์ใกล้ที่ทำงาน ออกมาอยู่คนเดียว สำหรับพี่ที เราได้คุยกับพี่ทีว่า
ตอนนี้เราแค่แยกกันอยู่กับสามีและอนาคตก้อคงต้องเลิกกันแน่นอน เราบอกว่า เราไม่ได้ขอให้พี่รอว่าวันหนึงเราจะเป็นอิสระแล้วเราจะได้คบกัน เราบอกว่า เรายังเข็ดหลาบกับชีวิตคู่
ยังไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่กับใคร อีกอย่างสถานะเราคือ คนที่เต่งงานแล้วชีวิตคู่ล้มเหลว
เรามีกำแพงที่กั้นสูงมาก ที่จะให้ใครสักคนนึงข้ามมาอยู่ด้วยกัน เราคิดมากว่าคนคนนั้นจะรักเราจริงไหม หรือจะแค่หลอกเรา เราบอกว่าอย่ารอเลย เราไม่รู้ว่าจะพร้อมเมื่อไหร่ ถ้าในระหว่างทางที่พี่เจอใครแล้วถูกใจ ก้อขอให้เริ่มต้นส่ะ พี่ทีตอบว่า อย่าพูดถึงวันข้างหน้า พี่ทำวันนี้ให้ดี แล้วให้....(ชื่อเรา) ตัดสินใจ
บทสรุปน่ะค่ะ
- ตอนนี้ เราแยกกันอยู่กับสามี เราอยู่อพาร์ทเม้นท์ใกล้ที่ทำงาน
- ไม่ได้ไปที่คอนโดพี่ทีอีกเลยค่ะ แต่ยังเจอกันที่ทำงานเรื่อยๆไปทานข้าวเที่ยง เย็น ด้วยกันเหมือนเดิม
- พี่ที ยังดีกับเราเสมอค่ะ แม้จะได้แอ้มเราไป3ครั้ง แต่ไม่มีอะไรแปลกไป คือยังดีกับเราเสมอต้นเสมอปลาย อนาคตไม่รู้ค่ะ
- พี่ที บอกเราว่า ณ เวลานี้กำลังตามจีบเรา เพื่อขอให้เราเปิดใจ และบอกว่ารับได้ที่เราเคยผ่านการแต่งงานมา
- ณ ตอนนี้ เรายังไม่รู้ใจตัวเองเลยค่ะ ว่าควรจะเอายังไงดี แต่ที่แน่ๆคือคงอยู่ด้วยกันกับสามีไม่ได้อีกแล้ว เพราะที่ผ่านมาอดทนและมันก้อหมดแล้วค่ะความอดทน
- ข้อสุดท้ายฟินก่อนนอน พี่ทีบอกว่ารักเราตั้งแต่ตามจีบตอนเราอยู่ตอนปี1 และรักมาตลอดจนถึงวันนี้ ไม่รู้ว่าแค่คารมรึเปล่าน่ะค่ะ แต่ก้อฟินดีค่ะ
จบแล้วค่ะ ขอบคุณุกๆคอมเม้นท์น่ะค่ะ ขอบคุณที่ติดตามอ่าน ขอบคุณทุกกำลังใจ
อยากฝากไว้นิดหนึงว่า ก่อนจะแต่งงานกับใครสักคน ขอให้พร้อมที่สุด ความพร้อมที่สำคัญที่สุด คือความพร้อมทางด้านจิตใจคะ
ความคิดเห็นที่ 204
ข้อมูลด้านเดียว 
ส่วนตัวผมไม่โอเคอะ กับกรณีนี้ ทั้งบ้าน ทั้งรถ ถ้าบอกซื้อเอง ก็ขายเองได้นี่น่า ใจไม่แข็งพอที่จะขัดคำสั่งสามีรึไงหว่า
แต่ดันใจแข็งพอที่จะคบชู้ ผมว่าเป็นข้ออ้างในการ "นอกใจ" ทั้งนั้นที่พิมมา ไม่ต่างอะไรกับมีกิ๊ก แล้วบอกกิ๊กดูแลดีกว่าเลย ต่างกันแค่มีเงินมาเกี่ยวข้องด้วยเฉยๆแค่นั้นเอง
...ก็ไม่รู้สินะ

ส่วนตัวผมไม่โอเคอะ กับกรณีนี้ ทั้งบ้าน ทั้งรถ ถ้าบอกซื้อเอง ก็ขายเองได้นี่น่า ใจไม่แข็งพอที่จะขัดคำสั่งสามีรึไงหว่า
แต่ดันใจแข็งพอที่จะคบชู้ ผมว่าเป็นข้ออ้างในการ "นอกใจ" ทั้งนั้นที่พิมมา ไม่ต่างอะไรกับมีกิ๊ก แล้วบอกกิ๊กดูแลดีกว่าเลย ต่างกันแค่มีเงินมาเกี่ยวข้องด้วยเฉยๆแค่นั้นเอง
...ก็ไม่รู้สินะ

ความคิดเห็นที่ 133
22.12น. กำลังรอเจ้าของกระทู้พิมพ์ให้จบ ผมขอแสดงความเห็นจากที่อ่านมานะครับ
อายุผมก็เกือบ 30 เหมือนกัน 2x ปีละกัน ดูจากงานที่คุณเจ้าของกระทู้เล่ามา ไม่ว่าจะอาชีพอะไร แต่ถ้าทำโดยสุจริต ไม่คดโกงใคร ถือว่าน่านับถือมากครับ
แต่... สั้นๆเลยนะครับ ผมก็ผู้ชาย ผมคิดว่าคุณเลิกกับสามีเถอะครับ หากยังคิดรักอยู่ต้องเอาหนี้ที่คุณมีให้เขาบ้างครับ เข้าใจว่าจดทะเบียนนะครับ คุณอธิบายให้เขาเข้าใจด้วยว่าเขาก็มีหนี้คนละครึ่งกับคุณ และลองเตรียมเงินไว้ แต่ให้เขาจัดการเองดูซักเดือนครับ ไม่กลัวเหรอว่าเขามีคนอื่นเหมือนกัน?
หากยังไม่จดทะเบียนกัน ผมว่าคุณขายรถไปเลยครับ อยากซื้อมันเมื่อไหร่ก็ได้ คุณดูเหนื่อยและโดนเอาเปรียบไป...
ส่วนพี่ที..... ผมขอรออ่านต่อล่ะ :0
อายุผมก็เกือบ 30 เหมือนกัน 2x ปีละกัน ดูจากงานที่คุณเจ้าของกระทู้เล่ามา ไม่ว่าจะอาชีพอะไร แต่ถ้าทำโดยสุจริต ไม่คดโกงใคร ถือว่าน่านับถือมากครับ
แต่... สั้นๆเลยนะครับ ผมก็ผู้ชาย ผมคิดว่าคุณเลิกกับสามีเถอะครับ หากยังคิดรักอยู่ต้องเอาหนี้ที่คุณมีให้เขาบ้างครับ เข้าใจว่าจดทะเบียนนะครับ คุณอธิบายให้เขาเข้าใจด้วยว่าเขาก็มีหนี้คนละครึ่งกับคุณ และลองเตรียมเงินไว้ แต่ให้เขาจัดการเองดูซักเดือนครับ ไม่กลัวเหรอว่าเขามีคนอื่นเหมือนกัน?
หากยังไม่จดทะเบียนกัน ผมว่าคุณขายรถไปเลยครับ อยากซื้อมันเมื่อไหร่ก็ได้ คุณดูเหนื่อยและโดนเอาเปรียบไป...
ส่วนพี่ที..... ผมขอรออ่านต่อล่ะ :0
แสดงความคิดเห็น
ฉันนอนกับผู้ชาย3ครั้งเพียงเพื่อแลกกับเงิน 300,000 บาท
ความผิดบาปในใจที่ไม่มีใครรั หวังว่าตอนจบของเรื่องนี้ คนอ่านทุกๆคนอาจได้ข้อคิดอุทาหรณ์เตือนใจตัวเอง
เริ่มล่ะค่ะ ดิฉันแต่งงานมีครอบครัวแล้วค่ะ ไม่ขอระบุจำนวนวันน่ะค่ะว่าแต่งมานานแค่ไหน
ดิฉันอายุยังไม่เยอะมาก 20+ การศึกษาปริญญาตรี หน้าที่การงานกัอจัดว่าดีในระดับหนึง (แอบอวดนิดๆ)
หน้าตากลางๆแล้วแต่คนมองว่าสวยไม่สวย เมื่อราวๆเกือบกลางปีที่แล้วดิฉันประสบปัญหาในธุรกิจที่ทำหรือเอาง่ายๆคือเจ๊ง ไปเกือบ200,000
โดยเงิน200,000ที่เจ๊งไป คือเงินเก็บหมด (ตอนนี้ก้อทำงานประจำที่เรียนจบมา) ณ ตอนนั้นที่ทำธุรกิจคือ ก้อมีงานประจำทำอยู่
แต่เห็นว่าตัวเองก้อทำธุรกิจค้าขายมาหลายอย่าง ก้อเห็นกำไรดี ประจวบกับพอดีมีไฟอยากเพิ่มธุรกิจเป็นอย่างอื่นบ้างเลยเอาเงินมาลงทุน
ทำได้ไม่นานคะ ก้อเจอพิษม๊อบ ของที่ลงทุนไปก้อเงียบขายไม่ได้เหลือเงินติดตัวอยู่แค่10,000 เอาของมาเลขายได้กลับมาแค่
20,000จาก200,000สามีไม่ได้ทำงานอะไรคือเราทำงายประจำ ส่วนสามีดูแลธุรกิจเป็นหลัก ณ ตอนนั้นเรามีเงินแค่30,000 ทั้งตัว
กับภาระหนี้สิน ผ่อนบ้าน รถ และสินเชื่อต่างๆที่เคยกู้มาก่อนหน้านั้น เงินเดือนเรา ประมาน62,000/เดือน บางเดือนก้อ 52,000/เดือน
เหมือนจะเยอะน่ะคะ แต่แลกมาด้วยเวลาเกือบ 24 ชม. ในการทำงานของเรา แทบไม่ได้พักผ่อน และอีกอย่างเราก้อเพิ่งจบใหม่
งานหนักมากๆคะ ส่วนธุรกิจเรากัอทำเรื่อยๆ ตั้งแต่สมัยอยู่มหาวิทยาลัย กำไรก้อดีค่ะ เดือนนึงราวๆ 150,000-200,000
ตรงนี้มีหุ้นส่วน3คนคะ แต่ธุรกิจที่เราเจ๊งไป200,000คือธุรกิจใหม่ที่เราอ่อนประสบการณ์ ทำได้ไม่นาน ทำคนเดียว
และสุดท้ายก้อเจ๊ง ณ ตอนนั้นคือเรามีภาระหนี้สินเยอะ บวกกับทะเลาะกับหันส่วนในธุรกิจเดิม ทำให้เราต้องใช้เงินจำนวนเกือบ500,000
เพื่อจะซื้อหุ้นคืน จากหุ้นส่วนเราคนนั้น เพื่อตัดปัญหา ตอนนั้นคือเราจนปัญญามากๆ และมีปัญหากับสามีบ่อยมาก
สามีเราค่อนข้างลูกแง่ พึ่งไม่ค่อยได้ค่ะ มีปัญหาอะไร คือวิ่งมาแอบข้างหลังเราหมด แล้วทิ้งให้เราจัดการเครียใหัเสร็จ
เค้าถึงจะกลับมา (โคตรเ..วเลยคะ) เค้าเห็นแก่ตัวมากๆ ช่วงนั้นปัญหารุมเร้าเราสุดๆ ทั้งภาระหนี้สิน ทั้งทะเลาะกับหันส่วน
จนเค้าขอขายหุ้นให้เรา และบีบใหัเราซื้อหุ้นคืนจากเค้า ตอนนั้นเราท้อมากๆ และไม่กล้าปริปากบอกใคร
แม้กระทั้งพ่อแม่ พี่น้อง เราเก็บความเครียดไว้คนเดียว....
มีต่อน่ะคะ จะพยายามให้จบวันนี้คืนนี้คะ กำลังพิมพ์ค่ะ พิมพ์ผิด พิมพ์ตกต้องขออภัยน่ะคะ เพราะพิมพ์ในมือถือ ค่อนข้างลำบากคะ