เมื่อวันที่ 14 เมษา ที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสไปทำบุญ ซื้อข้าวสารกับโครงไก่เข้าไปให้น้องหมาน้องแมวกินครั้งแรก
ก็เลยเก็บภาพมาฝากแล้วก็ถ่ายทอดคำพูดของป้านิดามาให้ทุกคนฟังกัน
สภาพของบ้านแสงตะวันตอนนี้กำลังย่ำแย่ลง เนื่องจากสภาพของกรงแล้วก็บ้านของป้านิดาโทรมมาก
พอลงจากรถกลิ่นก็ตีจมูกอย่างจัง แต่น่าจะเป็นเรื่องธรรมดาเพราะว่าน้องหมาตอนนี้มีประมาณ 400 ตัว ส่วนน้องแมวประมาณ 100 ตัว
น้องหมาส่วนใหญ่ผอม และขี้เรื้อน เรื่องเห็บไม่ต้องพูดถึง เปล่งมาก(หมายถึงเห็บนะ) น้องหมาบางตัวป่วย ชักกระตุก เบื่ออาหาร
ส่วนน้องแมวจะอยู่ในกรงรวมกันหลายสิบตัว เพราะว่าปล่อยนอกกรงไม่ได้ จะหาย
ตอนที่ไปถึงเป็นช่วงเที่ยง คนงาน2 คนกำลังแกะปลากระป๋อง เพื่อคลุกข้าวให้กับเด็กๆ มีคนที่ขับแวะมาดูอยู่2คัน (ไม่แน่ใจว่าได้เอาอาหารมาบริจาคมั้ย)
ป้านิดาเข้ามาพูดกับเราว่า
ทุกครั้งที่มีรถมาจอดหน้าบ้าน ป้าจะต้องลุ้นว่า ขอให้ไม่ใช่รถที่เอาหมามาทิ้งเลย...
ปัจจุบันเกือบทุกวันยังมีคนที่บรรทุกน้องหมาน้องแมวมาที่นี่
ป้านิดาบอกว่าป้าต้องรับไว้ จะทิ้งเค้าได้ยังไง (คนที่เอามาทิ้งสิ ทำได้ไง!)
ป้ายังบอกอีกว่า ...
วันที่19นี้ (19เมษาที่ผ่านมา) ป้าก็ต้องไม่อยู่บ้าน เพราะว่าเจ้าหนี้นอกระบบจะมาทวงเงิน ป้าต้องหลบไปก่อน
เนื่องจาก
ทุกๆเดือนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับน้องหมาทั้งหมดจะตกอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท (ค่าจ้างคนงานอีก5คน วันละ300)
ทำให้เงินที่ได้รับบริจาคไม่พอ ป้าต้องไปกู้เงินนอกระบบมาจนเป็นหนี้ที่ไม่เคยปลดหมด
ในช่วงก่อนหน้านี้มีบริษัทอสังหาฯรายหนึ่งมาช่วยป้าสร้างกรงทำหลังคาอย่างดี และซื้อที่บางส่วนในบ้านให้ป้า (ไม่รู้ว่ากี่ปีมาแล้ว)
ปัจจุบันพื้นที่ระบายน้ำข้างกรงมีน้ำสกปรกขัง สุขอนามัยของน้องหมาจึงไม่ดีนัก ดูแล้วเหมือนพร้อมจะทำให้น้องหมาป่วยตลอดเวลา
ป้าเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนนักศึกษามหาลัยต่างๆจะมีโครงการหาเงินมาช่วยป้าอยู่หลายมหาวิทยาลัย
แต่ปัจจุบันนักศึกษากลุ่มนั้นก็เป็นศิษย์เก่าไปแล้ว โครงการพวกนี้เลยไม่มี (ป้าคงอยากให้เราช่วยทำเพราะว่าเห็นว่าเรายังเรียนไม่จบ)
เราก็ยังตอบอะไรไม่ได้เพราะยังมองไม่เห็นทางช่วย
ป้าหยิบหนังสือพิมพ์ M2F มา หนังสือพิมพ์เขียนเกี่ยวกับบ้านน้องหมาจรจัดที่อยู่ที่หาดใหญ่ได้รับพระราชทานเงินจากในหลวง(กี่ล้านไม่แน่ใจ)
เพราะว่ามีคนเขียนฎีกาไป
ป้าบอกว่าป้าอยากหาคนช่วยป้าเขียนฎีกาขอความช่วยเหลือจากในหลวงบ้าง
ทั้งหมดที่เราได้คุยก็มีเท่านี้
สำหรับคนที่ต้องการบริจาค (
ข้าวสาร,ปลากระป๋อง,โครงไก่บด,ถุงมือทำความะอาด,ผ้าขนหนู,หนังสือพิมพ์,อาหารสุนัข ฯลฯ)
อยากขับรถเอาข้าวสาร ปลากระป๋องไปบริจาค พร้อมกับเยี่ยมน้อง :
เปิดแผนที่ google เสริชว่า "วัดบางพระะ ศาลายา" เข้าไปลึกมาก
บริจาคเงินผ่านบัญชี :
ธนาคารกสิกรไทย สาขาศาลายา
578-2-110-18-9 ชื่อ บ้านแสงตะวัน
รูปภาพ
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.10201284158899529.1073741832.1639001121&type=1&l=aeb231b764
วีดีโอ
https://www.facebook.com/photo.php?v=10201284861917104&l=8670421238768110510
https://www.facebook.com/photo.php?v=10201284882597621&l=4224357495603020137
https://www.facebook.com/photo.php?v=10201284935838952&l=1823971530190363318
เด็กๆกินนม :
https://www.facebook.com/photo.php?v=10201284941159085&l=2578455277049506050
[ขอความช่วยเหลือ] บ้านแสงตะวันของป้านิดา กับ น้องๆอีกกว่า 400 ตัว
เมื่อวันที่ 14 เมษา ที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสไปทำบุญ ซื้อข้าวสารกับโครงไก่เข้าไปให้น้องหมาน้องแมวกินครั้งแรก
ก็เลยเก็บภาพมาฝากแล้วก็ถ่ายทอดคำพูดของป้านิดามาให้ทุกคนฟังกัน
สภาพของบ้านแสงตะวันตอนนี้กำลังย่ำแย่ลง เนื่องจากสภาพของกรงแล้วก็บ้านของป้านิดาโทรมมาก
พอลงจากรถกลิ่นก็ตีจมูกอย่างจัง แต่น่าจะเป็นเรื่องธรรมดาเพราะว่าน้องหมาตอนนี้มีประมาณ 400 ตัว ส่วนน้องแมวประมาณ 100 ตัว
น้องหมาส่วนใหญ่ผอม และขี้เรื้อน เรื่องเห็บไม่ต้องพูดถึง เปล่งมาก(หมายถึงเห็บนะ) น้องหมาบางตัวป่วย ชักกระตุก เบื่ออาหาร
ส่วนน้องแมวจะอยู่ในกรงรวมกันหลายสิบตัว เพราะว่าปล่อยนอกกรงไม่ได้ จะหาย
ตอนที่ไปถึงเป็นช่วงเที่ยง คนงาน2 คนกำลังแกะปลากระป๋อง เพื่อคลุกข้าวให้กับเด็กๆ มีคนที่ขับแวะมาดูอยู่2คัน (ไม่แน่ใจว่าได้เอาอาหารมาบริจาคมั้ย)
ป้านิดาเข้ามาพูดกับเราว่า
ทุกครั้งที่มีรถมาจอดหน้าบ้าน ป้าจะต้องลุ้นว่า ขอให้ไม่ใช่รถที่เอาหมามาทิ้งเลย...
ปัจจุบันเกือบทุกวันยังมีคนที่บรรทุกน้องหมาน้องแมวมาที่นี่
ป้านิดาบอกว่าป้าต้องรับไว้ จะทิ้งเค้าได้ยังไง (คนที่เอามาทิ้งสิ ทำได้ไง!)
ป้ายังบอกอีกว่า ...
วันที่19นี้ (19เมษาที่ผ่านมา) ป้าก็ต้องไม่อยู่บ้าน เพราะว่าเจ้าหนี้นอกระบบจะมาทวงเงิน ป้าต้องหลบไปก่อน
เนื่องจากทุกๆเดือนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับน้องหมาทั้งหมดจะตกอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท (ค่าจ้างคนงานอีก5คน วันละ300)
ทำให้เงินที่ได้รับบริจาคไม่พอ ป้าต้องไปกู้เงินนอกระบบมาจนเป็นหนี้ที่ไม่เคยปลดหมด
ในช่วงก่อนหน้านี้มีบริษัทอสังหาฯรายหนึ่งมาช่วยป้าสร้างกรงทำหลังคาอย่างดี และซื้อที่บางส่วนในบ้านให้ป้า (ไม่รู้ว่ากี่ปีมาแล้ว)
ปัจจุบันพื้นที่ระบายน้ำข้างกรงมีน้ำสกปรกขัง สุขอนามัยของน้องหมาจึงไม่ดีนัก ดูแล้วเหมือนพร้อมจะทำให้น้องหมาป่วยตลอดเวลา
ป้าเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนนักศึกษามหาลัยต่างๆจะมีโครงการหาเงินมาช่วยป้าอยู่หลายมหาวิทยาลัย
แต่ปัจจุบันนักศึกษากลุ่มนั้นก็เป็นศิษย์เก่าไปแล้ว โครงการพวกนี้เลยไม่มี (ป้าคงอยากให้เราช่วยทำเพราะว่าเห็นว่าเรายังเรียนไม่จบ)
เราก็ยังตอบอะไรไม่ได้เพราะยังมองไม่เห็นทางช่วย
ป้าหยิบหนังสือพิมพ์ M2F มา หนังสือพิมพ์เขียนเกี่ยวกับบ้านน้องหมาจรจัดที่อยู่ที่หาดใหญ่ได้รับพระราชทานเงินจากในหลวง(กี่ล้านไม่แน่ใจ)
เพราะว่ามีคนเขียนฎีกาไป ป้าบอกว่าป้าอยากหาคนช่วยป้าเขียนฎีกาขอความช่วยเหลือจากในหลวงบ้าง
ทั้งหมดที่เราได้คุยก็มีเท่านี้
สำหรับคนที่ต้องการบริจาค (ข้าวสาร,ปลากระป๋อง,โครงไก่บด,ถุงมือทำความะอาด,ผ้าขนหนู,หนังสือพิมพ์,อาหารสุนัข ฯลฯ)
อยากขับรถเอาข้าวสาร ปลากระป๋องไปบริจาค พร้อมกับเยี่ยมน้อง :
เปิดแผนที่ google เสริชว่า "วัดบางพระะ ศาลายา" เข้าไปลึกมาก
บริจาคเงินผ่านบัญชี :
ธนาคารกสิกรไทย สาขาศาลายา
578-2-110-18-9 ชื่อ บ้านแสงตะวัน
รูปภาพ
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.10201284158899529.1073741832.1639001121&type=1&l=aeb231b764
วีดีโอ
https://www.facebook.com/photo.php?v=10201284861917104&l=8670421238768110510
https://www.facebook.com/photo.php?v=10201284882597621&l=4224357495603020137
https://www.facebook.com/photo.php?v=10201284935838952&l=1823971530190363318
เด็กๆกินนม :
https://www.facebook.com/photo.php?v=10201284941159085&l=2578455277049506050